#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันจันทร์ที่ 10 มกราคม 2565
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่มีลมตะวันตกพัดปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีหมอกในตอนเช้า แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีอากาศเย็นในตอนเช้าบริเวณภาคกลางและภาคตะวันออก สำหรับยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-15 องศาเซลเซียส และยอดภูมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-16 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อน ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนบางแห่ง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เมฆบางส่วน กับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-15 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 9 ? 10 ม.ค. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางที่ปกคลุมปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีหมอกในตอนเช้า แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และมีอากาศเย็นในตอนเช้าบริเวณภาคกลางและภาคตะวันออก บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-15 องศาเซลเซียส และบริเวณยอดภูมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-16 องศา ส่วนในช่วงวันที่ 11 ? 15 ม.ค. 65 บริเวณความกดอากาศสูงอีกระลอกจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส และมีอากาศหนาวเย็นลง โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีอากาศเย็นในตอนเช้า สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนตลอดช่วง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 9 ? 10 ม.ค. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 11 ? 15 ม.ค. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ThaiPBS
เรือสินค้าปริศนาจมลงทะเลแล้ว ทัพเรือภาค 2 เร่งสกัดคราบน้ำมัน เรือสินค้าปริศนาจมลงทะเลแล้ว เนื่องจากมีรอยรั่วหลายจุด โดยจมลงห่างจากฝั่ง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ประมาณ 28 ไมล์ทะเล มีคราบน้ำมันเจือจางไหลออกมา ทัพเรือภาค 2 เร่งสกัดคราบน้ำมันให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบตามมา วันนี้ (9 ม.ค.2565) พล.ร.ต.สุรศักดิ์ ประทานวรปัญญา รองผู้อำนวยการ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 เปิดเผยว่า เรือปริศนาที่ลอยลำ เข้ามาในเขตน่านน้ำพื้นที่ทะเลอ่าวไทย เมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้จมลงใต้ทะเลแล้ว เมื่อคืนวันที่ 8 ม.ค. เนื่องจากเรือลำดังกล่าวมีรอยรั่วหลายจุด แม้ทางเจ้าหน้าที่ทัพเรือภาค 2 จะพยายามสูบน้ำออกจากตัวเรือ เพื่อทำการเคลื่นย้ายเรือเข้าฝั่ง แต่ก็ไม่สามารถดำเนินการได้อย่างสะดวก เนื่องจากสภาพคลื่นลมในทะเลที่มีกำลังแรง ทำให้เรือ ร.ล.ตาปี ไม่สามารถนำเรือเข้าเทียบเรือลลำดังกล่าว เพราะคลื่นในทะเลที่มีกำลังแรง อาจจะทำให้เรือ ร.ล.ตาปี ได้รับการกระแทกจนเกิดความเสียหายได้ แต่เนื่องจากเรือลำดังกล่าวมีรอยรั่วหลายจุด น้ำที่ไหลทะลักเข้าในตัวเรือ บวกกับสภาพคลื่นลมในทะเล ทำให้เรือลำดังกล่าวจมลงในทะเล ซึ่งจุดที่เรือจมลงอยู่ห่างจากฝั่ง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ประมาณ 28 ไมล์ทะเล โดยในจุดที่เรือจมมีคราบน้ำมัน เจือจาง ไม่มีความแน่นของคราบน้ำมันมากนัก ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นน้ำมันที่อยู่ในห้องเครื่องผสมกับน้ำมันหล่อลื่น ที่ไหลออกมาจากตัวเรือ ทางทัพเรือภาคที่ 2 ได้เร่งนำเรือทั้งในส่วนของทัพเรือภาคที่ 2 และประสานไปยังเจ้าท่านครศรีธรรมราช ร่วมทั้งเรือของภาคเอกชน เร่งสกัดครบน้ำมันที่ไหลออกมาจากตัวเรือลำดังกล่าว หลังเกิดจมลง โดยทางทัพเรือภาคที่ 2 ได้ประสานไปยังบริษัทขุดเจาะน้ำมัน นำทุ่นมาวางรอบจุดที่เรือจม เพื่อไม่ให้คราบน้ำมันไหลไปตามกระแสน้ำ จนทำให้เกิดผลกระทบต่อธรรมชาติใต้ท้องทะเล และผลกระทบในพื้นที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยในเบื้องต้นพบว่า กระแสน้ำในจุดที่เรือจมจะไหลมาทางเกาะมัดสุม และ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งอยู่ในทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจุดที่เรือจม ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน ทางเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน จึงต้องเร่งสกัดน้ำมัน แม้ว่าจะมีปริมาณที่เจือจาง เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อพื้นแหล่งท่องเที่ยวอย่างเกาะสมุย ขณะที่การตรวจสอบเรือลำดังกล่าวจนถึงขณะนี้ ยังไม่สามารถระบุชัดได้ว่า เป็นเรือสินค้าของประเทศใด แต่สภาพตัวเรือที่พบ เป็นเรือสินค้าที่คาดว่ามีการปลดระวางแล้ว เนื่องจากเรือมีสภาพเก่ามาก และไม่มีอุปกรณ์เดินเรือใด ๆ ในเรือแล้ว ร่วมถึงไม่มีสมอเรือด้วย https://news.thaipbs.or.th/content/311477
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|