#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม 2565
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกเคลื่อนผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยเข้าปกคลุมบริเวณประเทศลาวแล้ว ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย สำหรับบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนปกคลุมภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย และทะเลจีนใต้ประกอบกับมีลมฝ่ายตะวันตกในระดับบนพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ภาคเหนือยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีอากาศเย็นในตอนเช้า บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 3-10 องศาเซลเซียส และบริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อน ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เมฆบางส่วน โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 23 ? 28 ม.ค. 65 ลมฝ่ายตะวันตกในระดับบนพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออกมีอากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยภาคเหนืออุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังอ่อนพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ตลอดช่วง ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 23 ? 27 ม.ค. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ
ตะลึง ค้นพบแนวปะการังสภาพสมบูรณ์ใต้ทะเลลึก ความยาวกว่า 3 กม.นอกชายฝั่งตาฮิติ นักวิทยาศาสตร์เผยการค้นพบแนวปะการังเก่าแก่รูปทรงคล้ายดอกกุหลาบขนาดยักษ์ซ้อนกันอยู่ในทะเลน้ำลึกนอกชายฝั่งตาฮิติ น่าทึ่งเพราะมีปะการังสภาพสมบูรณ์ไม่ได้รับผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ เมื่อวันที่ 21 ม.ค. นักวิทยาศาสตร์จากศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์แห่งชาติฝรั่งเศส ในเฟรนช์โปลินีเซีย เปิดเผยการค้นพบแนวปะการังเก่าแก่ ไม่เคยมีใครค้นพบมาก่อนอยู่บริเวณเขตน้ำทะเลลึก ประมาณ 30 เมตร นอกชายฝั่งของเกาะตาฮิติ ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ โดยแนวปะการังมีความยาวกว่า 3 กิโลเมตร ปะการังมีรูปทรงคล้ายกับดอกกุหลาบขนาดยักษ์ที่ซ้อนกันขึ้นมาหลายดอก นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า นับว่าเป็นหนึ่งในแนวปะการังขนาดใหญ่ที่สุดในระดับความลึกที่มากกว่าปกติ ซึ่งอยู่ในสภาพที่ยังไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศผิดธรรมชาติ และปะการังยังไม่ถูกทำลายโดยกิจกรรมของมนุษย์ นอกจากนี้เชื่อว่าแนวปะการังนี้รอดพ้นจากผลกระทบของปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวครั้งใหญ่ ที่ปะการังมีสีซีดจางลงซึ่งเกิดขึ้นเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา การค้นพบครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่ปะการังทั่วโลกกำลังร่อยหรอลงจากปัญหาความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ปัญหามลพิษต่างๆ และการทำประมงมากเกินไป โดยโครงการสอดส่องแนวปะการังทั่วโลก (Global Coral Reef Monitoring Project) เปิดเผยรายงานที่ระบุว่า ในช่วงระหว่างปี 2553-2561 มีแนวปะการังทั่วโลกประมาณ 14% ต้องล้มตายจากปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาว อันเป็นผลกระทบมาจากอุณหภูมิของน้ำในมหาสมุทรที่อุ่นขึ้น. ที่มา The Guardian https://www.thairath.co.th/news/foreign/2293722
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก อสมท.
แม่เต่าตะนุขึ้นวางไข่ อ่าวเสน ราไวย์ เมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 21 มกราคม 2565 แม่เต่าตะนุ ขึ้นวางไข่บริเวณชายหาดอ่าวเสน ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้สำเร็จ ก่อนหน้านี้ (20 ม.ค.65) ได้ขึ้นมาขุดหลุมเพื่อจะวางไข่แต่ไม่สำเร็จ ซึ่งมีการสันนิษฐานว่า อาจจะถูกรบกวนจากเสียงเห่าของสุนัขจนทำให้ต้องกลับลงไปในทะเล ก่อนจะกลับขึ้นมาใหม่ในคืนนี้และสามารถไข่จนสำเร็จ ก่อนจะกลับลงทะเลไปในเวลาประมาณ 00.28 น.โดยมีนายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลราไวย์ และเจ้าหน้าที่จากทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ประจำจังหวัดภูเก็ต ร่วมสังเกตการณ์ ตลอดจนดูแลความปลอดภัยให้กับแม่เต่าจนปฏิบัติภารกิจสำเร็จ และคลานกลับลงทะเลด้วยความปลอดภัย นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลราไวย์ เปิดเผยว่า กลังจากได้รับแจ้งจากนายวิชัย พลรบ ว่า เมื่อคืนวันที่ 20 มกราคม ที่ผ่านมา พบเต่าทะเลคลานขึ้นมาบริเวณชายหาดอ่าวเสน ลักษณะเหมือนจะขึ้นมาเพื่อวางไข่ จากนั้นได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลและชายฝั่งประจำจังหวัดภูเก็ตไปตรวจสอบ พบร่องรอยการขุดหลุมและฝังกลบ จำนวน 2 จุด คาดว่าแม่เต่าน่าจะวางไข่ไว้ แต่เมื่อลองขุดดูไม่พบไข่เต่าแต่อย่างใด สันนิษฐานว่าในระหว่างที่กำลังขุดหลุมเพื่อวางไข่อาจจะมีสิ่งรบกวน จึงคลานกลับลงทะเลหายไป ดังนั้นจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่มาคอยติดตามและตรวจสอบตามชายหาดต่างๆ รวมทั้งอ่าวเสนด้วย เพราะคาดว่า แม่เต่าตัวดังกล่าวน่าจะกลับขึ้นมาวางไข่อีกครั้ง กระทั่งเมื่อช่วงดึกของวันที่ 21 มกราคม 2565 ก็ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่า มีเต่าคลานขึ้นมาบริเวณอ่าวเสนอีกครั้ง จึงให้คอยเฝ้าระวังและห้ามรบกวน เมื่อแม่เต่าตัวดังกล่าวคลานมาจนถึงชายหาดและคิดว่าปลอดภัยก็ได้ทำการขุดหลุมและไข่จนสำเร็จ จากการประเมินเบื้องต้นคาดว่าจะมีไข่ประมาณ 100 ? 120 ฟอง และจากการวัด ลำตัวพบว่ามีความยาวประมาณ 1.20 เมตร และมีความกว้างประมาณ 75 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัมเศษ นับเป็นไข่เต่ารังแรกในปี 2565 ของราไวย์ และจังหวัดภูเก็ต https://www.mcot.net/view/9QtgqqO7
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#4
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก สำนักข่าวไทย
ผู้พบเห็นยันจระเข้จริง ไม่ใช่ภาพเก่า ภูเก็ต 22 ม.ค.- กลุ่มผู้พบเห็นยันสิ่งมีชีวิตคล้ายจระเข้ ลอยผ่าน 4 หาดกลางทะเลภูเก็ต ไม่ใช่ภาพเก่า เพิ่งถ่ายได้เมื่อวานนี้ (21 ม.ค.) โดนหางฟาดกับตัวเรือที่นั่งตกหมึก จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กใน จ.ภูเก็ต โพสต์ภาพและข้อความ มีชาวบ้านพบสิ่งมีชีวิตลักษณะคล้ายจระเข้ในทะเลบริเวณหน้าหาดบางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เป็นภาพมุมสูงที่ถ่ายด้วยโดรน เห็นสิ่งมีชีวิตซึ่งมีลักษณะเป็นแท่งยาวๆ สีดำ ลอยอยู่ในทะเล แต่ยังไม่มีการระบุชัดว่าเป็นอะไร โดยนายมาโนช พันธ์ฉลาด นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล หลังรับทราบเรื่องได้รายงานผู้ว่าฯภูเก็ตทราบ และลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมผู้เกี่ยวข้องแต่ตลอดทั้งคืนไม่พบแต่อย่างใด /เพื่อป้องกันการตื่นตระหนก และความปลอดภัยของผู้มาทำกิจกรรมบริเวณชายหาดหรือในทะเล ซึ่งระยะนี้นักท่องเที่ยวมีจำนวนมาก จึงสั่งการเจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฯ จัดกำลังทำการลาดตะเวนตลอดแนวชายหาดบางเทาและพื้นที่รอยต่อ นายวัชรินทร์ รัตนชู ประมงจังหวัดภูเก็ต พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ พูดคุยและสอบถามข้อมูลจากกลุ่มผู้ประกอบการเจ็ตสกี ซึ่งพบเห็นและแจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชายหาดนำโดรนขึ้นบินตรวจสอบ เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าภาพที่มีการเผยแพร่นั้นเป็นภาพเก่าเมื่อหลายปี กลุ่มผู้พบเห็นและแจ้งข่าวยืนยันว่าเป็นภาพใหม่เมื่อวานนี้และหนึ่งในนั้น ซึ่งเป็นผู้พบเห็นสิ่งมีชีวิตคล้ายจระเข้ใช้หางฟาดกับตัวเรือที่เขานั่งตกหมึกยืนยันว่า ภาพใหม่แน่นอน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชายหาด ยืนยันว่าภาพที่มีการเผยแพร่ เป็นภาพใหม่ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 21 ม.ค.โดยตนอยู่ในเหตุการณ์ตลอดนับจากคนตกหมึกจอดเรือลอยลำอยู่หน้าชายหาดห่างจากฝั่งไปราว 200 เมตร ได้แจ้งว่ามีสิ่งมีชีวิตซึ่งคาดว่าเป็นจระเข้ใช้หางฟาดมาถูกตัวเรือ ด้วยความตกใจก็นำเรือเข้าฝั่งและแจ้งตนให้ประสานผู้มีโดรนนำขึ้นบินตรวจสอบและใช้เวลาบิน 10-15 นาที ซึ่งจากการบินไประยะหนึ่งโดรนแบตเตอรี่ใกล้หมดจึงต้องบินกลับก่อนที่สิ่งมีชีวิตคล้ายจระเข้ว่ายน้ำหายไปด้านหาดสุรินทร์ https://tna.mcot.net/region-867372
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|