เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 14-02-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นระลอกใหม่จากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศเวียดนาม ลาวตอนบน และทะเลจีนใต้แล้ว ส่งผลทำให้ยังคงมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้ และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนอง กับลมกระโชกแรงบางแห่ง ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรงไว้ด้วย สำหรับลมตะวันออกยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองในระยะนี้


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 14 ? 16 ก.พ. 65 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังอ่อนอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น สำหรับภาคใต้มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณหัวเกาะสุมาตรา ประกอบกับมีลมตะวันออกที่พัดปกคลุมบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง

ส่วนในช่วงวันที่ 17-19 ก.พ. 65 บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้ จะมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง สำหรับลมตะวันออกทีพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 14 ? 16 ก.พ. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่จะเกิดขึ้นไว้ด้วย









__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 14-02-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


ทช.เอาจริง แจ้งจับนักท่องเที่ยว โพสต์รูปนั่งบนปะการัง อ้างคิดว่าเป็นโขดหิน

ทช.เอาจริง ขึ้นโรงพัก แจ้งความเอาผิดนักท่องเที่ยว โพสต์ภาพนั่งบนปะการังใต้ทะเลสัตหีบ แจ้งโทษหนักจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท



เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี นายวุฒิพงษ์ วงศ์อินทร์ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษฉลามขาว กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.สำราญ สุขโต สารวัตร(สอบสวน) สภ.สัตหีบ ให้ดำเนินคดี บุคคลผู้ใช้ แอปพลิเคชันเฟซบุ๊กรายหนึ่ง กรณีโพสต์รูปมีบุคคลกำลังดำน้ำและขึ้นนั่งบนปะการัง บริเวณเกาะครามน้อย ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังได้รับการร้องเรียนเข้ามา ในข้อหา การล่าหรือทำอันตรายด้วยปะการอื่นใดแก่สัตว์ป่า ที่ไม่มีเจ้าของและอยู่อย่างเป็นอิสระ ตามความหมายแห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 3 ประกอบ มาตรา 12 และมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 89 จำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายวุฒิพงษ์ วงศ์อินทร์ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2 กล่าวว่า จากการตรวจสอบในรูป พบว่าเป็นปะการังชนิด ปะการังโขด Porites lutes อยู่ใน Order Scleractinia เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามบัญชีแนบท้ายกฎกระทรวง สัตว์ป่าไม่มีกระดูกสันหลังอื่นๆ ลำดับที่ 4 ปะการังแข็งทุกชนิดในอันดับ (Order Scleractinia) กำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ.2546 การกระทำในลักษะดังกล่าวทำให้หนวดของปะการังหดตัว และหลั่งเมือกออก ซึ่งต้องใช้พลังงานและออกซิเจน ส่งผลต่อการสังเคราะห์แสงและอัตราการเติบโตลดลง ปะการังอาจเกิดการฟอกขาวและทำให้ปะการังถึงแก่ความตายได้ ประกอบกับการจับสัมผัสหรือการนั่งทับปะการัง ทำให้ปะการังเกิดความเครียดและอาจเกิดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อการสัมผัสหรือถูกกดทับนาน จะทำให้ปะการังส่วนที่ถูกสัมผัส หรือกดทับ ตายได้ ซึ่งถือการว่าเป็นการล่าหรือทำอันตรายด้วยประการอื่นใด แก่สัตว์ป่าที่ไม่มีเจ้าของและอยู่อย่างเป็นอิสระ

จึงขอฝากเตือนประชาชนและนักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวดูปะการัง ให้ช่วยกันสอดส่องและรักษาสิ่งแวดล้อม ห้ามไปสัมผัส หรือโยกย้ายปะการัง โดยเด็ดขาด หากมีการพบเจอ หรือตรวจพบ ทั้งในโลกออนไลน์ หรือต่อหน้า หรือตรวจพบในทางอื่นๆ จะมีการดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด เพื่อเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรอย่างยั่งยืน

โดยในเวลาต่อมา นายวิสูตร รัตนเสถียร อายุ 45 ปี เจ้าของบัญชีเฟซบุ๊ก ได้เดินทางเข้ามารับทราบข้อกล่าวหา กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับรับสารภาพว่าเป็นบุคคลในรูปที่ไปนั่งทับบนปะการังดังกล่าว โดยไม่รู้ว่าเป็นปะการัง คิดว่าเป็นโขดหินใต้ท้องทะเล โดยรูปนี้ได้ถ่ายไว้เมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้ว ก่อนจะมีการนำมาโพสต์เมื่อวานนี้ 12 ก.พ. ก่อนจะถูกแจ้งดำเนินคดี ซึ่งต้องขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนไม่ได้มีเจตนาจะไปทำร้ายปะการังแต่อย่างใด เพียงแค่อยากจะไปถ่ายรูปกับธรรรมชาติใต้ท้องทะเลเท่านั้น


https://www.thairath.co.th/news/crime/2315147

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 14-02-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


GISTDA โชว์ภาพสิมิลัน สิมิใจ รับวาเลนไทน์ปี 65

GISTDA เผยภาพจากดาวเทียมไทยโชตโชว์เกาะรูปหัวใจแห่งอันดามัน ซึ่งภาพที่ปรากฏเป็นภาพบริเวณเหนือเกาะ 5 ภายในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ชี้เมื่อมองจากอวกาศแล้วจะเห็นว่าเกาะดังกล่าวมีลักษณะคล้ายรูปหัวใจกลางทะเลสีฟ้าใส "จิสด้า" พร้อมส่งมอบความโรแมนติกจากห้วงอวกาศสู่สายตาคนไทยรับเดือนแห่งความรัก



วันนี้ (13 ก.พ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม หรือ อว. โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เผยภาพจากดาวเทียมไทยโชตโชว์เกาะรูปหัวใจแห่งอันดามัน ซึ่งภาพที่ปรากฏเป็นภาพบริเวณเหนือเกาะ 5 ภายในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันที่เมื่อมองจากอวกาศแล้วจะเห็นว่าเกาะดังกล่าวมีลักษณะคล้ายรูปหัวใจกลางทะเลสีฟ้าใส โดย GISTDA พร้อมส่งมอบความโรแมนติกจากห้วงอวกาศสู่สายตาคนไทยรับเดือนแห่งความรัก

นายตติยะ ชื่นตระกูล รองผู้อำนวยการด้านสร้างเสริมพันธมิตรและเครือข่ายองค์ความรู้ของ GISTDA กล่าวว่า "จากภาพดาวเทียมดังกล่าว GISTDA ทำการผสมสีที่เรียกว่า False Color Composite หรือสีผสมเท็จ ซึ่งจะทำให้เห็นพืชพรรณป่าไม้เป็นสีแดงและน้ำเป็นสีเข้ม มองเห็นรายละเอียดได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ดังนั้น จากภาพถ่ายดาวเทียมนี้ เราจึงมองเห็นเกาะเป็นรูปหัวใจสีแดงเข้ากับเดือนแห่งความรักได้พอดี"

ทั้งนี้ หมู่เกาะสิมิลัน ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 43 เมื่อปี พ.ศ. 2525 มีขนาดพื้นที่ 128 ตารางกิโลเมตร ในปี พ.ศ. 2541 มีการผนวกเกาะตาชัยและเกาะบอนเพิ่มอีก 12 ตารางกิโลเมตร รวมเป็น 140 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่บก 15 ตารางกิโลเมตร อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันอยู่ในเขต อ.คุระบุรี จ.พังงา สิมิลัน เป็นภาษายาวี หมายถึง เก้า ตามจำนวนเกาะที่เรียงตัวในแนวเหนือ-ใต้ โดยเกาะหนึ่งอยู่ด้านทิศใต้ เกาะแปดหรือเกาะสิมิลันมีขนาดใหญ่ที่สุดบนพื้นที่ประมาณ 5 ตารางกิโลเมตร และมียอดสูงสุดที่ 244 เมตร ปัจจุบันได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเป็นจำนวนมาก


https://mgronline.com/science/detail/9650000014650


*********************************************************************************************************************************************************


สลด! หมวกนักท่องเที่ยวติดหัวฉลามครีบดำ ดิ้นรนตายอนาถพร้อมลูกอีก 4 ตัว



กระบี่ - สุดสลด! พบฉลามครีบดำขนาดใหญ่นอนตายติดแนวปะการัง พร้อมลูกน้อยอีก 4 ตัว ตรวจสอบพบหมวกสานปีกกว้างของนักท่องเที่ยวติดอยู่ที่หัว เชื่อเป็นสาเหตุทำให้ตายอนาถ

จากกรณี นายณฐพล คงมาลัย อายุ 40 ปี ครูสอนดำน้ำอิสระที่เกาะพีพี พบฉลามครีบดำขนาดใหญ่ ยาวประมาณ 1.5 เมตร นอนตายอยู่ก้นทะเลที่ระดับความลึก 7 เมตร บริเวณหน้าถ้ำไวกิ้ง เกาะพีพี หมู่ 7 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ โดยมีลูกฉลามตายอยู่ข้างๆ ติดกับซากอีก 4 ตัว หลังจากนั้นได้นำภาพที่ถ่ายไว้มาลงในโลกโซเชียล

จนมีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก พร้อมระบุว่า จุดดังกล่าวเป็นเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ไม่ควรมีการดักอวน บางคนไว้อาลัยให้ฉลามน้อยๆ 4 ตัวที่ตายก่อนจะออกมาดูโลก ขณะที่บางรายอยากให้ทางเจ้าหน้าที่กวดขันให้มากขึ้น



สำหรับความคืบหน้ากรณีดังกล่าว นายปราโมทย์ แก้วนาม หัวหน้าอุทยานหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานใต้น้ำ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ลงพื้นที่ตรวจสอบ กรณีการตายของปลาฉลามที่ได้มีการเผยแพร่ในสื่อโซเชียล เมื่อวันที่ 9 ก.พ. เบื้องต้นพบว่าเป็นหมวกสานปีกกว้างที่นักท่องเที่ยวทำหล่น และไปติดอยู่ที่ส่วนหัวของฉลาม ไม่ใช่อวน



คาดว่าฉลามน่าจะว่ายเข้าไปชนหมวกที่มีชิ้นส่วนของหมวกไปติดกับปะการัง ทำให้ไม่สามารถว่ายน้ำต่อไป และดิ้นจนตาย สาเหตุเพราะปลาฉลามต้องว่ายน้ำตลอดเวลา หากหยุดว่ายน้ำมันจะตาย เพราะปลาชนิดอื่นๆ จะมีถุงลมทำให้หายใจได้แม้ไม่เคลื่อนที่ แต่ปลาฉลามไม่มีถุงลม ดังนั้น ถ้ามันหยุดว่ายน้ำจะทำให้ไม่มีออกซิเจนไหลผ่านเหงือกจึงไม่มีออกซิเจนใช้ในการหายใจ

ส่วนลูกทั้ง 4 ตัว เชื่อเป็นลูกที่ใกล้คลอด และตายไปพร้อมกับตัวแม่


https://mgronline.com/south/detail/9650000014676

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 07:18


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger