#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพุธที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนอีกระลอกหนึ่งแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิลดลง 1-2 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีอากาศเย็นในตอนเช้า สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณเกาะบอร์เนียว มีแนวโน้มเคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศมาเลเซียและภาคใต้ตอนล่าง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย และชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือและหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็นในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 23 ? 26 ก.พ. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิลดลง โดยในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีอากาศเย็นในตอนเช้า สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณเกาะบอร์เนียวเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณประเทศมาเลเซีย ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 27 ? 28 ก.พ. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีหมอกในตอนเช้า ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนลดลง แต่ลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคใต้ยังคงมีกำลังแรง ทำให้คลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างยังคงตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 23 -26 ก.พ. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสมที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 26 -27 ก.พ. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย ส่วนชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือและหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กในอาวไทยควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 23-28 ก.พ. 2565 ********************************************************************************************************************************************************* ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "ฝนตกหนักและคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 23-26 กุมภาพันธ์ 2565)" ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 ในช่วงวันที่ 23 - 26 ก.พ. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณเกาะบอร์เนียวมีกำลังแรง และมีแนวโน้มเคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศมาเลเซียและภาคใต้ตอนล่าง ทำให้ภาคใต้บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร สำหรับทะเลอันดามันคลื่นสูง 1-2 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 23 - 26 ก.พ. 65
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
ตื่นตา! จุดดำน้ำใหม่ "เรือหลวงปลดประจำการ" ตั้งสง่างามใต้ท้องทะเลกระบี่ ภาพจากเฟซบุ๊กเพจทัพเรือภาคที่ ๓ เฟซบุ๊กเพจทัพเรือภาคที่ ๓ เผยภาพสุดสง่างามของ 2 เรือหลวงปลดประจำการ "ร.ล.ปราบปรปักษ์" และ "เรือ ต.16" ซึ่งได้ถูกวางไว้ใต้ท้องทะเลกระบี่เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวของนักดำน้ำ โดยเฟซบุ๊กเพจทัพเรือภาคที่ ๓ ได้โพสต์ข้อความว่า สำรวจ ร.ล.ปราบปรปักษ์ และเรือ ต.16 พบตัวเรือตั้งตรงอยู่บนพื้นทรายใต้ท้องทะเลกระบี่ พร้อมธงราชนาวีโบกสะบัดอย่างสง่างาม นักดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์ในโครงการอุทยานใต้ทะเล จุฬาภรณ์ 36 โดยเรือจุฬาภรณ์ 48 ได้ส่งภาพเรือหลวงปราบปรปักษ์ และเรือ ต.16 ที่ถูกวางไว้ใต้ท้องทะเลบริเวณเกาะหมา ต.ศาลาด่าน อ.เกาะลันตา นอกชายฝั่งกระบี่ประมาณ 20 กม. มาให้พวกเราได้ชมกัน โดยมี พลเรือตรี อาภากร อยู่คงแก้ว รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 เป็นผู้นำทีมดำสำรวจในครั้งนี้ ภาพจากเฟซบุ๊กเพจทัพเรือภาคที่ ๓ จากการสำรวจพบว่าตัวเรือทั้ง 2 ลำ มีสภาพสมบูรณ์ ตั้งตรงอยู่บนพื้นทรายที่ความลึก 20 ม. และมีฝูงปลาได้เริ่มเข้าไปอยู่อาศัย นอกจากนั้นยังพบว่าธงราชนาวี ได้โบกสะบัดที่ยอดเสาอย่างสง่างาม ทั้งนี้เรือรบทั้ง 2 ลำ ได้ปลดประจำการและถูกวางไว้ใต้ท้องทะเลเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ตามโครงการอุทยานการเรียนรู้ใต้ท้องทะเล จังหวัดกระบี่ และพร้อมให้นักดำน้ำทั่วไปได้เข้าชมความสวยงามได้แล้ว พิกัดจุด Entry Point : Lat 7.611133 Long 98.861749 พิกัดจุด Exit Point : Lat 7.61107 Long 98.862049 ระดับความลึก : 20 ม. https://mgronline.com/travel/detail/9650000017960
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด
เฮลิคอปเตอร์ ยามฝั่งสหรัฐ ช่วยชายถูก ฉลามกัด ขณะล่องเรือตกปลา วันที่ 22 ก.พ. ซีเอ็นเอ็น รายงาน ภารกิจของหน่วยยามฝั่งสหรัฐอเมริกาในการช่วยเหลือชายที่ถูก ฉลามกัด ขณะตกปลาใกล้เมืองบิมินี ประเทศบาฮามาส ด้วยเฮลิคอปเตอร์ แห่แชร์สนั่น! คลิปป้ารัตนา ลีลาการเต้นสับๆระหว่างถ่ายMV เพจดังถึงกับลั่น หน่วยยามฝั่งนครไมอามีได้รับแจ้งในตอนเที่ยงวันจันทร์ว่า ชายวัย 51 ปีถูก ฉลามกัด ขณะอยู่บนเรือ และมีการใช้สายรัดที่แขนเพื่อป้องกันการเสียเลือดเพิ่มเติม USCG กล่าว หลังเจ้าหน้าที่ระบุว่า ชายคนดังกล่าวต้องเคลื่อนย้ายทางการแพทย์ เฮลิคอปเตอร์ ดอลฟิน เอ็มเอช-65 ของหน่วยยามฝั่งไมอามี และลูกเรือมาถึงจุดเกิดเหตุ อุ้มชายคนนั้นและส่งไปที่โรงพยาบาลในนครไมอามี มีรายงานว่า ชายคนนี้มีอาการทรงตัว ฌอน คอนเนตต์ เจ้าหน้าที่ผู้บังคับบัญชาของหน่วยยามฝั่งเขตที่ 7 กล่าวว่า "นี่เป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับสถานการณ์ที่น่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริง บุคคลนี้โชคดีที่มีเพื่อนร่วมลูกเรือคนหนึ่งสามารถให้ความช่วยเหลือก่อนการมาถึงของหน่วยยามฝั่งซึ่งช่วยดึงออกจากเรือได้อย่างรวดเร็ว" https://www.khaosod.co.th/around-the...s/news_6903816
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#4
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก คม ชัด ลึก
เศร้า "โลมาอิรวดี" สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ เป็นซากเกยตื้นที่แหลมงอบ พบซาก "โลมาอิรวดี" สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ของไทย ตายเกยตื้น ที่ อ.แหลมงอบ จ.ตราด ส่วนที่ลาว ปิดตำนาน "ทัวร์ปลาข่า" แห่งลาวใต้ หลังสูญเสีย "โลมาอิรวดี" ตัวสุดท้ายแล้ว นายแสงสุรี ซองทอง หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 4 จ.ตราด เปิดเผย?ว่า? เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง ได้รับการแจ้งข่าวจากชาวบ้าน ว่าพบซาก โลมาอิรวดี ความยาว 1.04 เมตร น้ำหนัก 5.75 กิโลกรัม บริเวณสะพานอรุณ (อ่าวธรรมชาติ) ต.คลองใหญ่ อ.แหลมงอบ จ.ตราด ก่อนนำส่งซาก โลมาอิรวดี ตัวดังกล่าว ให้กับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อพิสูจน์สาเหตุการตายต่อไป ปัจจุบัน โลมาอิรวดี มีจำนวนลดลงไปมาก เนื่องการล่าของมนุษย์ บางพื้นที่นำมาบริโภค และเพื่อเป็นการปกป้องจากการถูกทำร้ายจนใกล้จะสูญพันธุ์ ประเทศไทยจึงจัดให้ โลมาอิรวดี เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535 ทั้งยังถูกจัดให้อยู่ในสถานภาพใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง และในที่ประชุมไซเตส (Cites) ปี 2546 ไทยได้เสนอให้ โลมาอิรวดีเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองบัญชีที่ 1 อันมีผลทำให้โลมาอิรวดีได้รับการคุ้มครองในระดับนานาชาติ จัดเป็นสัตว์สัญลักษณ์ที่ควรอนุรักษ์ 1 ใน 20 ของปีสากลแห่งความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทยอีกด้วย ขณะที่สถานการณ์ในประเทศไทย อยู่ในสถานภาพใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ โลมาอิรวดีตัวสุดท้าย ของกัมพูชา ได้ตายลงแล้ว เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี้เอง The Phnom Penh Post รายงานว่า โลมาอิรวดีตัวสุดท้ายที่เหลืออยู่ในสระเฌอเตียล ( Chheuteal ) ของจังหวัดสตึงแตรง ตายลงแล้ว โดยผู้เชี่ยวชาญสรุปว่าสาเหตุอาจมาจากอาการบาดเจ็บที่หางที่เกิดจากอวนจับปลา ทั้งนี้บริเวณดังกล่าวเป็นพรมแดนระหว่างประเทศกัมพูชาและประเทศลาว ซึ่งการที่โลมาอิรวดีตัวสุดท้ายนี้ตายลง เท่ากับการสูญสิ้นสปีชีส์นี้ไปเลยจากพื้นที่ของประเทศลาว ซึ่งเรียกมันว่า "ปลาข่า" จากที่ก่อนนี้การล่องเรือชมปลาข่า นับเป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวยอดนิยมทางตอนใต้ของลาว ขณะที่ฝั่งกัมพูชามีข้อเสนอว่าอาจนำพันธุ์โลมาจากที่อื่นเข้ามาเลี้ยงทดแทนหรือไม่ แต่ในทางเทคนิคนั้น กองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF) ประกาศว่า โลมาอิรวดีน้ำจืด ในพื้นที่นี้ สูญพันธุ์ไปแล้วเพราะคู่ผสมพันธุ์น้อยเกินไป โดยเมื่อปี 2561 พบว่ามีโลมาที่รอดชีวิตเพียง 3 ตัว และเหลือตัวสุดท้ายตั้งแต่ต้นปี 2564 กระทั่งมันตายลงในที่สุด https://www.komchadluek.net/news/506352
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|