#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพุธที่ 2 มีนาคม 2565
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป หย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งบริเวณกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมทั้งภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวระมัดระวังในการเดินเรือและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีหมอกบางในตอนเช้า กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 2 ? 5 มีนาคม 65 หย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณ์เช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง ส่วนในช่วงวันที่ 6-7 มี.ค. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นระลอกใหม่กำลังค่อนข้างแรงจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมีลมใต้ และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ใขณะที่บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางพื้นที่ ซึ่งจะเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะเกิดในระยะต่อไป สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้เพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางแห่ง ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 6-7 มี.ค. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ สำหรับประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
หินภูเขาไฟลอยมาไกลถึง "หาดทุ่งวัวแล่น" จ.ชุมพร ชาวบ้านเก็บขาย เชื่อสลายเอง ชุมพร - หินภูเขาไฟจากประเทศอินโดนีเซีย ลอยไกลถึง "หาดทุ่งวัวแล่น" แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของ จ.ชุมพร ชาวบ้านแห่เก็บขาย นำไปใช้ในการเกษตร เผยหลายชั่วอายุคนเพิ่งเคยพบถือเป็นบุญตา ปลัด อบต.เผยไม่เป็นอันตรายจะสลายเองตามธรรมชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหาดทุ่งวัวแล่น หมู่ 8 ตำบลสะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร ได้มีชาวบ้านลงไปเก็บ "หินพัมมิช" หรือ ที่เรียกว่าหินภูเขาไฟ ลักษณะเป็นตะกอนหินก้อนเล็ก ๆ มีรุพรุนคล้ายฟองอากาศ ก้อนสีดำเทา น้ำหนักเบา ถูกคลื่นซัดขึ้นมากองทับถมอยู่เกลื่อนบริเวณชายหาด ยาวกว่า 10 กิโลเมตร ขณะเดียวกันได้มีเจ้าหน้าที่จากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ลงพื้นที่เก็บข้อมูลและยืนยันว่าเป็นตะกอนหินภูเขาไฟที่ปะทุในประเทศอินโดนีเซีย และเป็นชนิดเดียวกันกับที่เป็นข่าวถูกคลื่นซัด เกยชายหาดที่ จ.สงขลา จ.นราธิวาส จ.ปัตตานี และ จ.นครศรีธรรมราช อย่างไรก็ตามชาวบ้านจำนวนมากที่ทราบข่าว หลังจากที่มีคนโพสต์ลงในสื่อออนไลน์ ต่างเดินทางนำกระสอบและถุงปุ๋ยมาเก็บนำกลับบ้านเพื่อใช้ในการเกษตร และ หลายรายบอกว่าจะนำไปขาย โดยคนซื้อให้กิโลกรัมละ 50 บาท ส่วนคนเฒ่าคนแก่อายุ 70-80 หลายคนในพื้นที่ดังกล่าว บอกว่าตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็นมาก่อนเพราะประเทศไทยไม่มีภูเขาไฟ และคิดว่าหลายชั่วอายุคนที่ผ่านมาก็ไม่น่าจะมีคนเคยเห็นมาก่อน จึงถือเป็นบุญตาอย่างมากที่ได้เห็นหินภูเขาไฟถูกคลื่นซัดมาเกยที่ชายหาดแห่งนี้ และจะเก็บสะสมไว้เป็นของที่ระลึกด้วย นางนิด ปานคล้าย อายุ 52 ปี เจ้าของร้านอาหารชื่อ "เจ้ติ๋มซีฟู๊ด" กล่าวว่าตนตื่นขึ้นมาตอนเช้าก็สังเกตเห็นว่า ชายหาดทุ่งวัวแล่นกลายเป็นสีดำ เหมือนคราบน้ำมันจึงเดินลงไปดูก็พบว่าเป็นก้อนหินขนาดเล็ก ๆ แต่เบามากเหมือนฟองน้ำ ถูกคลื่นซัดมากองเต็มชายหาด ต่อมาได้มีคนบอกว่าเป็นหินภูเขาไฟที่ระเบิดในประเทศอินโดนีเซีย แต่ตนก็ยังแปลกใจว่าทำไมถึงลอยมาไกลได้ขนาดนี้ และตลอดทั้งวันคลื่นยังคงซัดลอยมาเกยชายหาดอยู่อย่างต่อเนื่อง ด้านนายวัชรินทร์ สุวพิศ ปลัด อบต.สะพลี อ.ปะทิว กล่าวว่าตามที่ปรากฎภาพในสื่อออนไลน์ ที่มีชาวบ้านพบวัตถุสีคล้ำคล้ายก้อนกรวดถูกน้ำทะเลซัดขึ้นมาเกยชายหาดทุ่งวัวแล่น หมู่ 8 ตำบลสะพลี จากการตรวจสอบเบื้อต้นเป็นหินภูเขาไฟปะทุในประเทศเพื่อนบ้าน แล้วถูกคลื่นซัดมาขึ้นฝั่งในประเทศไทย และหินภูเขาไฟเหล่านี้ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม ขอให้นักท่องเที่ยวและประชาชนอย่าได้วิตก แต่อาจทำให้ชายหาดเกิดความไม่สวยงาม เมื่อเวลาผ่านไปก็จะสลายไปเองตามธรรมชาติ. https://mgronline.com/south/detail/9650000020701
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|