#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม 2565
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ทีพัดปกคลุมประเทศไทย อ่าวไทย และภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีฝนเพิ่มมากขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมอ่าวเบงกอลตอนกลางและทะเลอันดามันตอนบน จะมีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไซโคลน และเคลื่อนเข้าปกคลุมอ่าวเบงกอลตอนบน ในช่วงวันที่ 7-9 พ.ค. 65 กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 7 ?10 พ.ค. 65 ลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้น ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มมากขึ้น และฝนตกหนักบางแห่ง ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณอ่าวเบงกอลตอนล่าง มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไซโคลน และจะเคลื่อนขึ้นไปปกคลุมบริเวณอ่าวเบงกอลตอนบน ทำให้ภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 11-12 พ.ค. 65 ลมใต้และตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทย ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และอ่าวไทย มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตลอดช่วง ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง และฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย สำหรับประชาชนบริเวณภาคใต้ควรระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำฉลับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย ส่วนชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ โดยหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ตลอดช่วง ********************************************************************************************************************************************************* ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณอ่าวเบงกอลตอนล่าง" ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 07 พฤษภาคม 2565 หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณอ่าวเบงกอลตอนล่าง มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไซโคลน และจะเคลื่อนตัวทางทิศเหนือและเข้าปกคลุมอ่าวเบงกอลตอนบนในช่วงวันที่ 7-9 พ.ค. 65 ส่งผลให้ลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทย อ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ในขณะที่อ่าวไทยตอนบนทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ
ทหารเรือ ศรชล.ภาค 2 จับเรือประมงเวียดนาม 2 ลำรุกล้ำจับสัตว์น้ำในทะเลไทย ทัพเรือภาคที่ 2 ร่วมกับ ศรชล.ภาค 2 จับกุมเรือประมงสัญชาติเวียดนาม 2 ลำ เข้ามาทำการประมงผิดกฎหมายในน่านน้ำไทย ส่ง ร.ล.ท้ายเหมือง ประกบเข้าฝั่ง ก่อนคุม 14 ลูกเรือดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทัพเรือภาคที่ 2 ร่วมกับ ศรชล.ภาค 2 ได้รับแจ้งเบาะแสจากแหล่งข่าวในพื้นที่ว่ามีเรือประมงต่างชาติเข้ามาทำการประมงผิดกฎหมายในน่านน้ำไทย บริเวณแบริ่ง 086 ระยะ 120 ไมล์ จากทุ่นไฟปากร่องสงขลา ซึ่งอยู่ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ พลเรือโท สุนทร คำคล้าย ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2/ผอ.ศรชล.ภาค 2 ได้สั่งการให้เรือหลวงท้ายเหมือง ลาดตระเวนพิสูจน์ทราบ โดยในวันที่ 5 พฤษภาคม 2565 เวลา 04.30 น. เรือหลวงท้ายเหมือง ได้ตรวจพบเรือประมงสัญชาติเวียดนามจำนวน 2 ลำ กำลังลักลอบทำการประมงโดยการลากอวนคู่ บริเวณแบริ่ง 086 ระยะ 120 ไมล์ จากทุ่นไฟปากร่องสงขลา (เขตน่านน้ำเศรษฐกิจจำเพาะ) ผู้ควบคุมพร้อมลูกเรือทั้ง 2 ลำ รวมจำนวน 14 คน จากการตรวจสอบภายหลังหยุดเรือ พบว่า เรือออกมาจากเมืองกาเมา ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 65 โดยทำการประมงมาแล้ว 4 วัน จึงได้ควบคุมเรือพร้อมลูกเรือทั้งหมดมาทำการสอบสวนที่ท่าเทียบเรือฐานทัพเรือสงขลา ทัพเรือภาคที่ 2 เพื่อสอบสวนเพิ่มเติมและส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ผู้บัญชาการทัพเรือภาค 2 กล่าวว่า การดำเนินคดีกับเรือประมงสัญชาติเวียดนาม เนื่องจากเป็นการจับกุมในพื้นที่เขตเศรษฐกิจจำเพาะ จึงได้ตั้งข้อกล่าวหาผู้กระทำความผิดไว้ 3 ข้อหา คือ 1. ใช้เรือประมงไร้สัญชาติทำการประมงในเขตการประมงไทย 2. ร่วมกันทำการประมงพาณิชย์โดยไม่มีใบรับอนุญาตทำการประมง 3. ทำการประมงในเขตการประมงไทย โดยทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมเรือโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้ การจับกุมเรือประมงต่างชาติในพื้นที่ ทัพเรือภาคที่ 2 ในปีงบประมาณ 2565 การจับกุมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 10 รวมเรือทั้งหมด 14 ลำ ผู้ควบคุมเรือพร้อมลูกเรือรวม จำนวน 70 คน ทัพเรือภาคที่ 2 และ ศรชล.ภาค 2 ขอขอบคุณพี่น้องชาวประมงในความร่วมมือที่ได้แจ้งเบาะแสของเรือที่กระทำความผิด และขอให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนและชาวประมงไทยว่า "ในพื้นที่รับผิดชอบของ ทัพเรือภาคที่ 2 ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 113,275 ตารางกิโลเมตรนั้น เราจะปกป้องและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลอย่างเต็มความสามารถ โดยมิยอมให้เรือประมงต่างชาติรุกล้ำเข้ามาแย่งชิงทรัพยากรในการทำการประมงเป็นอันขาด ทั้งนี้เพื่อให้ทรัพยากรของประเทศไทยคงอยู่กับลูกหลานของคนไทยตลอดไป". https://www.thairath.co.th/news/local/south/2385941
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|