#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพุธที่ 29 มิถุนายน 2565
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง และฝนตกหนักที่อาจเกิดขึ้นไว้ด้วย สำหรับคลื่นบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนได้ทวีกำลังขึ้นเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ ละติจูด 15.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 116.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนืออย่างช้าๆ คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 2?3 ก.ค. 65 กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 28 - 29 มิ.ย. 65 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังอ่อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง ส่วนมากบริเวณด้านรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ โดยมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคใต้ ส่วนในช่วงวันที่ 30 มิ.ย. ? 4 ก.ค. 65 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับจะมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบนและประเทศเวียดนามตอนบน ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้น และเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 2 ? 4 ก.ค. 65 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย ข้อควรระวัง ส่วนในช่วงวันที่ 30 มิ.ย. ? 4 ก.ค. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ โดยหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ไว้ด้วย ********************************************************************************************************************************************************* ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน ? 2 กรกฎาคม 2565)" ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 29 มิถุนายน 2565 เมื่อเวลา 01.00 น. ของวันนี้ (29 มิ.ย. 65) หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนได้ทวีกำลังขึ้นเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ ละติจูด 15.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 116.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนืออย่างช้าๆ คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 2?3 ก.ค. 65 ประกอบกับในช่วงวันที่ 30 มิ.ย. ? 2 ก.ค. 65 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ในขณะที่ร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก และเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่อาจเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง มีดังนี้ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 ภาคเหนือ: จังหวัดเชียงราย พะเยา และน่าน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร ภาคตะวันออก: จังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้: จังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ ลำปาง อุตรดิตถ์ ตาก พิษณุโลกและเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี หนองบัวลำภู สกลนคร นครพนม ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี และราชบุรี ภาคตะวันออก: จังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้: จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ วันที่ 2 กรกฎาคม 2565 ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี หนองบัวลำภู สกลนคร นครพนม ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ภาคกลาง: จังหวัดอุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี ภาคตะวันออก: จังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้: จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ไทยโพสต์
'กรมเจ้าท่า' ลุยปั้นโมเดลอ่าว พัทยา-เกาะล้าน ฟื้นท่องเที่ยวไทย 'กรมเจ้าท่า' โชว์ 5 ยุทธศาสตร์ ยกระดับความปลอดภัยทางน้ำ เดินหน้าปั้นโมเดลอ่าวพัทยา-เกาะล้าน แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต จัดระเบียบกิจกรรมทางน้ำ สนับสนุนฟื้นฟูเศรษฐกิจการท่องเที่ยวให้กลับมาอีกครั้ง 28 มิ.ย.2565 ? นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้ประกาศเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ กรมเจ้าท่าได้เตรียมนำยุทธศาสตร์ เพื่อการยกระดับความปลอดภัยทางน้ำ รองรับการท่องเที่ยวที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว ที่ไทยถือเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวทางน้ำที่ไทยติดอันดับโลกเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ดังนั้นจึงได้นำแผนยุทธศาสตร์ ทั้งนี้เพื่อยกระดับความปลอดภัยทางน้ำในพื้นที่อ่าวพัทยา และเกาะล้าน จ.ชลบุรี สู่การพัฒนาเป็นโมเดล ก่อนที่จะขยายผลไปยังพื้นที่อื่นๆ เพราะพื้นที่ทั้งสองแห่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก มีกิจกรรมทางน้ำหลากหลายรูปแบบ จึงต้องมีการบริหารจัดการกำหนดพื้นที่ต่างๆ เพื่อสร้างมาตรฐานความปลอดภัยในการให้บริการด้านการท่องเที่ยว สร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวและประชาชน อย่างไรก็ตามภายใต้การบริหารจัดการในกิจกรรมทางน้ำตามยุทธศาสตร์กรมเจ้าท่า ได้ออกมาตรการเพื่อกำกับดูแลความปลอดภัยในระดับสูงสุด 5 มาตรการ ประกอบด้วย 1.การจัดระเบียบพื้นที่ทางน้ำ (Zoning) กำหนดขอบเขตการใช้พื้นที่ทางน้ำให้มีความชัดเจนมากขึ้น อาทิ การวางทุ่นกำหนดเขตว่ายน้ำ เล่นกีฬาทางน้ำ เป็นการเฉพาะ การวางทุ่นเครื่องหมายจำกัดความเร็วเรือ เพื่อควบคุมพื้นที่การเดินเรือในระดับที่มีความปลอดภัยเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ รวมทั้งกำหนดเส้นทางการเดินเรือระหว่างอ่าวพัทยาและเกาะล้าน และกิจกรรมทางน้ำ ไม่ว่าจะเป็น ให้บริการลากร่ม Banana boat พร้อมกำหนดพื้นที่ท่าจอดเทียบเรือให้มีความเหมาะสม นายภูริพัฒน์ กล่าวต่อว่า 2.กำกับดูแลและควบคุมการจราจรทางน้ำ (Monitoring) ด้วยพื้นที่อ่าวพัทยาและเกาะล้าน มีปริมาณการจราจรที่หนาแน่นสูง และปริมาณเรือที่มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กรมเจ้าท่าได้นำเทคโนโลยีมาสนับสนุนในการจัดระบบ กำกับดูแลและควบคุมจราจร ในพื้นที่เศรษฐกิจท่องเที่ยว ควบคู่ไปกับกำกับดูแลด้านราคาการให้บริการ โดยมีศูนย์ควบคุมการจราจร และสามารถให้คำแนะนำผ่านระบบวิทยุสื่อสาร ระหว่างเรือ ท่าเทียบเรือ และศูนย์ควบคุมวิทยุโดยตรง รวมทั้งติดตั้งระบบโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ในท่าเทียบเรือ และจุดจอดเรือ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจทางน้ำ ร่วมกันออกตรวจตราพื้นที่ร่วมกับตำรวจท่องเที่ยว, ตำรวจน้ำ, เมืองพัทยา, ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชลบุรี และให้ติดตั้งอุปกรณ์ AIS เพื่อใช้ตรวจจับความเร็วของเรือโดยสารสาธารณะ และตำแหน่งเรือที่เกิดอุบัติเหตุ เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างทันท่วงที 3.บูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานรัฐ เอกชน และผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในพัทยา สร้างมาตรฐานด้านความปลอดภัยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการเชิงรุกรณรงค์ด้านความปลอดภัย ประชาสัมพันธ์ ช่วยเหลือกู้ภัย และรับเรื่องร้องเรียนต่างๆ 4.รณรงค์สร้างจิตสำนึกความปลอดภัย มุ่งเน้นมาตรการเชิงป้องกันก่อนเกิดเหตุมากกว่าการเยียวยา โดยการกำกับดูแลให้ความรู้และฝึกอบรม ผู้ควบคุมเรือ คนเรือ ทั้งเรือโดยสารสาธารณะ และเรือส่วนบุคคล ออกใบรับรองการทำงานบนเรือโดยสารสาธารณะ เพื่อเป็นเครื่องการันตีและสร้างมาตรฐานความปลอดภัย นายภูริพัฒน์ กล่าวอีกว่า และ 5.การปฏิรูปกฎหมายให้สอดคล้องกับการพัฒนา กรมเจ้าท่าจะเร่งยกระดับกฎหมายในเรื่องของมาตรฐานเรือ อุปกรณ์เรือ มาตรฐานความรู้ความสามารถของผู้ควบคุมเรือ และคนประจำเรือ การเพิ่มวงเงินคุ้มครองการประกันภัยสำหรับเรือโดยสาร ซึ่งจะครอบคลุมผู้ประสบภัยทางน้ำ เพื่อให้เกิดมาตรการป้องกัน กำกับดูแลและเยียวยาอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้การยกระดับมาตรการความปลอดภัยทางน้ำดังกล่าวจะสามารถสร้างรายได้ให้กับประชาชนในท้องถิ่น ภายหลังจากที่ประเทศต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และไม่สามารถให้บริการได้ในช่วงที่ผ่านมา โดยธุรกิจการเดินเรือมีความสำคัญ ในการฟื้นฟูการท่องเที่ยวให้กลับมาอีกครั้ง ซึ่งกรมเจ้าท่าเป็นหน่วยงานที่ให้การสนับสนุน และพร้อมให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดความปลอดภัย พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ตามนโยบายและยุทธศาสตร์กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม และรัฐบาล https://www.thaipost.net/district-news/170687/
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|