เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 04-07-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,581
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันจันทร์ที่ 4 กรกฏาคม 2565

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำ ที่ปกคลุมบริเวณประเทศจีนตอนใต้ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนบนทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยง การเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 6 ก.ค. 65


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากในระหว่างบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ส่วนในช่วงวันที่ 4 ? 6 ก.ค. 65 ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านประเทศเมียนมา ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณประเทศจีนตอนใต้ ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่อง โดยมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 7 ? 9 ก.ค. 65 ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านประเทศเมียนมา ตอนบนของภาคเหนือ และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

อนึ่ง พายุโซนร้อน "ชบา" (CHABA) ที่ปกคลุมบริเวณประเทศจีนตอนใต้ คาดว่าจะอ่อนกำลังลงตามลำดับในระยะต่อไป โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองตลอดช่วง สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดอกจากฝั่งจนถึงวันที่ 6 ก.ค. 65



*********************************************************************************************************************************************************



ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "คลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบน (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 3 - 6 กรกฎาคม 2565)" ฉบับที่ 3 ลงวันที่ 04 กรกฎาคม 2565

มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนบนทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 6 ก.ค. 65 นี้ไว้ด้วย






__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 04-07-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,581
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


?เราไม่สามารถมีโลกที่แข็งแรง หากปราศจากมหาสมุทรที่แข็งแรง? UN เตือนภาวะฉุกเฉินของมหาสมุทร ................ Nature Matter



= ในการประชุมสหประชาชาติเกี่ยวกับมหาสุมทรที่เมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ถึง 1 ก.ค. อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติกล่าวถึงสถานการณ์สิ่งแวดล้อมโลก โดยย้ำว่าปัจจุบันมหาสมุทรโลกกำลังเผชิญกับ 'ภาวะฉุกเฉิน'

= ทั้งการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล, ความร้อนจากมหาสมุทร, ความเป็นกรดในมหาสมุทร รวมไปถึงความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจก ล้วนเป็นสถานการณ์ที่อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ กลุ่มประเทศแผ่นดินต่ำและเมืองชายฝั่งต้องเผชิญกับน้ำท่วม ขณะที่มลพิษต่างๆ ก็กำลังทำให้ชายฝั่งทะเลกลายเป็น 'เขตมรณะ' (Dead Zones)



ในการประชุมสหประชาชาติเกี่ยวกับมหาสุมทรที่เมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ถึง 1 ก.ค. ที่ผ่านมา ท่ามกลางผู้นำระดับโลกกว่า 20 ประเทศที่เข้าร่วมประชุม อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ได้กล่าวถึงสถานการณ์สิ่งแวดล้อมสำคัญประการหนึ่งว่า ปัจจุบันเรากำลังเผชิญกับ 'ภาวะฉุกเฉินทางมหาสมุทร'

กูเตอร์เรสอธิบายว่า ตามรายงานสภาวะอากาศโลกขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลกในปี 2564 สถานการณ์การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล, ความร้อนจากมหาสมุทร, ความเป็นกรดในมหาสมุทร รวมไปถึงความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจก ล้วนเป็นสถานการณ์ที่อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีที่ผ่านมา

ยิ่งไปกว่านั้น กลุ่มประเทศแผ่นดินต่ำและเมืองชายฝั่งต้องเผชิญกับน้ำท่วม ขณะที่มลพิษต่างๆ ก็กำลังทำให้ชายฝั่งทะเลอันกว้างใหญ่กลายเป็น ?เขตมรณะ? (Dead Zones) หรือพื้นที่ขาดออกซิเจนจนสิ่งที่มีชีวิตไม่สามารถอยู่อาศัยได้ มลภาวะทางทะเลเพิ่มขึ้นในขณะที่ชนิดพันธุ์สัตว์น้ำลดลง รวมถึงปลาฉลามและปลากระเบนซึ่งมีประชากรลดลงมากกว่า 70% ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา

ไม่เพียงเท่านั้นกูเตอร์เรสยังกล่าวถึงความจริงที่ว่า น้ำเสียเกือบ 80% ของโลกถูกปล่อยลงทะเลโดยไม่มีการบำบัด ในขณะที่ขยะพลาสติกอย่างน้อย 8 ล้านตันจะเข้าสู่มหาสมุทรในแต่ละปี "หากปราศจากการแก้ปัญหาอย่างเข้มงวด พลาสติกอาจมีน้ำหนักมากกว่าปลาในมหาสมุทรทั้งหมดภายในปี 2050" กูเตอร์เรสกล่าวย้ำ

"เราไม่สามารถมีโลกที่แข็งแรงได้หากปราศจากมหาสมุทรที่แข็งแรง" นี่คือคำที่เลขาธิการสหประชาชาติกล่าวไว้ ก่อนที่เขาจะเรียกร้องให้รัฐบาลประเทศต่างๆ ยกระดับความใส่ใจต่อสุขภาพโลก รวมไปถึงเงินทุนเพิ่มเติมสำหรับนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ "มหาสมุทรที่อุดมสมบูรณ์จะมีความสำคัญต่ออนาคตของพวกเรา" กูเตอร์เรสย้ำ

กูเตอร์เรสได้อ้างอิงถึง 'ความเห็นแก่ตัว' ของบางประเทศที่ขัดขวางข้อตกลงใน 'สนธิสัญญาทะเลหลวง' (ทะเลที่ไม่ใช่น่านน้ำภายใน, ทะเลอาณาเขต, หรือเขตเศรษฐกิจจำเพาะของรัฐใด) สนธิสัญญาที่เกี่ยวกับการปกป้องมหาสมุทรของโลก โดยในช่วงที่ผ่านมา บางประเทศสมาชิกสหประชาชาติยังถูกนักวิทยาศาสตร์และนักสิ่งแวดล้อมวิพากษ์วิจารณ์ เนื่องจากการไม่ร่วมข้อตกลงในแผนงานปกป้องทะเลหลวงจากการแสวงประโยชน์ โดยในปัจจุบัน จาก 64% ของพื้นที่ทะเลหลวงที่อยู่นอกเหนืออาณาเขตของรัฐต่างๆ มีเพียง 1.2% เท่านั้นที่ถูกคุ้มครองอยู่

เขายังให้คำแนะนำหลายประการเกี่ยวกับการจัดการอย่างยั่งยืน เพื่อที่จะช่วยมหาสมุทรผลิตอาหารได้มากถึงหกเท่า และสร้างพลังงานหมุนเวียนได้มากถึง 40 รวมทั้งการปกป้องมหาสมุทรและผู้คนในพื้นที่ชายฝั่งทะเลจากผลกระทบของวิกฤติสภาพภูมิอากาศ

กูเตอร์เรสอธิบายว่า ปัจจุบันผู้คนมากกว่า 3.5 พันล้านคนต้องพึ่งพามหาสมุทรเพื่อความมั่นคงด้านอาหาร ในขณะที่คนกว่า 120 ล้านคนทำงานเกี่ยวกับประมงและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำโดยตรง ส่วนใหญ่อยู่ในรัฐกำลังพัฒนาที่เป็นเกาะขนาดเล็ก และกลุ่มประเทศพัฒนาน้อยที่สุด ทว่าในบรรดาเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติจำนวนหลายข้อ เป้าหมายข้อที่ 14 ที่ว่าด้วยการอนุรักษ์และการใช้สิ่งแวดล้อมทางทะเลอย่างยั่งยืน กลับได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลประเทศต่างๆ น้อยที่สุดจากเป้าหมายทั้งหมด

ด้าน อูฮูรู เคนยัตตา ประธานาธิบดีเคนยา ประธานร่วมของการประชุมในครั้งนี้ ได้กล่าวกับผู้เข้าร่วมประชุมว่า "มหาสมุทรเป็นทรัพยากรที่คนเห็นคุณค่าน้อยที่สุดในโลก" และกิจกรรมของมนุษย์ก็ทำให้มหาสมุทรตกอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ 'เครียดอย่างใหญ่หลวง'

"การจัดการที่ไม่ดีจะลดความสามารถตามธรรมชาติของมหาสมุทรในการฟื้นฟูตัวเอง มันน่าประหลาดใจมากที่เราจะเสี่ยงกับทรัพยากรที่สำคัญเช่นนี้"

ขณะที่ มาร์เซโล เรเบโล เด ซูซา ประธานาธิบดีโปรตุเกสและประธานร่วมของการประชุมได้ย้ำเตือนว่า สงครามและโรคระบาดใหญ่จะต้องไม่ถูกนำมาใช้เป็นข้ออ้างในการละเลยมหาสมุทร "เราต้องชดเชยเวลาที่สูญเสียไปและให้โอกาสกับคำว่า 'ความหวัง' อีกครั้ง ก่อนที่มันจะสายเกินไป"

อย่างไรก็ตาม ภายในเดือนสิงหาคมนี้ ที่นครนิวยอร์ก น่าจะมีการประชุมเจรจาเพื่อหาข้อตกลงสนธิสัญญาทะเลหลวง และน่าจะเป็นช่วงเวลาสำคัญที่เราจะได้รู้ว่า ?ภาวะฉุกเฉินทางมหาสมุทร? จะถูกปล่อยให้ลุกลามต่อไป หรือจะมีหนทางคืบหน้าอย่างไรบ้างในอนาคต


https://plus.thairath.co.th/topic/naturematter/101751

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 04-07-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,581
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


ระทึก! น้ำทะเลหนุนซัดถนนหน้าหาดทรายแก้ว จ.ภูเก็ต ชาวบ้านหวั่นไม่หาย

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ระทึก! น้ำทะเลหนุนสูงซัดขึ้นมาจนถึงถนนหน้าหาดทรายแก้ว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ชาวบ้านหวั่นไม่เร่งแก้ปัญหาถนนหายแน่ ขณะที่เจ้าหน้าที่อุทยานระบุเกิดขึ้นทุกปี แต่ปีนี้รุนแรงกว่าหลายๆ ปีที่ผ่านมา



เมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ (3 ก.ค.) เกิดเหตุน้ำทะเลหนุดสูง ทำให้มีคลื่นขนาดใหญ่ซัดเอาน้ำทะเล และขยะขึ้นมาจนถึงถนนหน้าชายหาดทรายแก้ว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นถนนข้าออกจากจังหวัดภูเก็ตไปยังจังหวัดพังงา ทั้งๆ ที่ถนนดังกล่าวอยู่ห่างจากชายหาดไม่ต่ำกว่า 50 เมตร ซึ่งกระแสน้ำที่ถูกคลื่นเข้ามามีความรุนแรง และมีความสูงประมาณ 50 ซม.

อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ ทราบว่า คลื่นเริ่มซัดน้ำทะเลขึ้นมาบริเวณชายหาดเมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ และเป็นคลื่นขนาดใหญ่ ซึ่งนอกจากน้ำทะเลแล้ว ยังพัดเอาขยะทะเลขึ้นมาด้วย ทำให้มีขยะติดอยู่บนถนนจำนวนมาก การสัญจรของรถต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางรถจักรยาน

อย่างไรก็ตาม ปัญหาคลื่นใหญ่กัดเซาะชายหาดทรายแก้วเกิดขึ้นมานานแล้ว และนับวันปัญหาจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และปันี้ขนาดคลื่นรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมามาก และเชื่อว่าถ้ายังปล่อยให้เกิดสถานการณ์แบบนี้ต่อไปเชื่อว่าถนนเส้นนี้อาจจะถูกซัดหายไปอย่างแน่นอน

ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ตำบลไม้ขาว ต่างก็เป็นห่วงถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเชื่อว่าถ้ายังไม่มีการแก้ไขปัญหา อีกไม่นานคลื่นซัดถนนหายไปแน่นอน จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแผนในการแก้ไขปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาว


https://mgronline.com/south/detail/9650000063150

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 04-07-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,581
Default

ขอบคุณข่าวจาก มติชน


อียิปต์สั่งปิดหาดทะเลแดง หลังนักเที่ยวโดนฉลามกัดแขน-ขาขาด ก่อนเสียชีวิต



สำนักข่าวเอพีรายงานว่า เกิดเหตุฉลามขนาดใหญ่กัดนักท่องเที่ยวหญิงชาวออสเตรีย วัย 68 ปี ที่ว่ายน้ำอยู่ที่ชายหาดในเมืองฮูร์กาดา ท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลแดง เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม จนแขนและขาขาด ก่อนจะไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล

คลิปวิดีโอที่มีผู้ถ่ายเอาไว้ได้จากท่าเรือใกล้จุดเกิดเหตุแสดงให้เห็นผู้หญิงคนหนึ่งถูกฉลามมาโคโจมตีขณะที่อยู่ในน้ำที่ยังพอยืนถึงใกล้ชายหาด ก่อนที่น้ำทะเลรอบๆ ตัวจะกลายเป็นสีแดง โดยไม่มีใครกล้าที่จะกระโดดลงไปช่วย อย่างไรก็ตาม ไม่ชัดเจนว่าหญิงคนดังกล่าวกลับมายังฝั่งได้อย่างไร

รายงานระบุว่า หลังเกิดเหตุทางการอียิปต์ได้สั่งห้ามทำกิจกรรมบริเวณชายหาดไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำ เล่นวินด์เซิร์ฟ ไคต์เซิร์ฟ และตกปลา ลงทั้งหมด

ขณะที่เมืองฮูร์กาดา เป็นเมืองที่อยู่ติดทะเลแดงมีชื่อเสียงเรื่องการดำน้ำแบบสคูบา และกำลังเปิดรับนักท่องเที่ยวอีกครั้งหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

ทั้งนี้ เหตุการณ์ฉลามโจมตีมนุษย์ในอียิปต์นั้นเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก อย่างไรก็ตาม ทะเลแดงมีฉลามอยู่เป็นจำนวนมากถึง 44 ชนิด ซึ่งในจำนวนนี้ก็มีฉลามที่อันตรายรวมอยู่ด้วย


https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_3433880

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 00:19


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger