#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฏาคม 2565
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ลักษณะเช่นนี้ยังคงทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากในระหว่างบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 6 ? 7 ก.ค. 65 ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา และตอนบนของภาคเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออก และภาคใต้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 8 ? 12 ก.ค. 65 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับในช่วงวันที่ 10 ? 12 ก.ค. 65 ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรง โดยบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อนึ่ง ในช่วงวันที่ 10 -12 ก.ค. 65 หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณประเทศฟิลิปปินส์จะเคลื่อนตัวลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบน และมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้น ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 8 ? 12 ก.ค. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดอกจากฝั่ง ****************************************************************************************************** ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามัน (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 9-14 กรกฎาคม 2565)" ฉบับที่ 1 ลงวันที่ 07 กรกฎาคม 2565 ในช่วงวันที่ 9-14 ก.ค. 65 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับในช่วงวันที่ 10-12 ก.ค. 65 ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 8-13 ก.ค. 65 นี้ไว้ด้วย
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ
เปลือกโลกหมู่เกาะนิโคบาร์ ขยับยุบตัว ความเสี่ยงไทย เกิดสึนามิ ซ้ำรอยปี 47 สถานการณ์แผ่นดินไหวเขย่าไม่หยุด ต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค. 2565 บริเวณหมู่เกาะนิโคบาร์ หมู่เกาะอันดามัน ประเทศอินเดีย ห่างจากจ.พังงา 500 กว่ากิโลเมตร และหมู่เกาะสุมาตรา ประเทศอินเดีย ห่างจากจ.ภูเก็ต 400 กว่ากิโลเมตร รวมถึงแผ่นดินไหวในประเทศเมียนมา ได้สร้างความวิตกกังวลให้กับผู้คนเกรงว่าจะเกิดสึนามิ ซ้ำรอยปี 2547 โดยเฉพาะผู้อยู่อาศัยริมทะเลใน 5 จังหวัดฝั่งทะเลอันดามัน ทั้งพังงา ระนอง กระบี่ ภูเก็ต และสตูล ขณะที่ #สึนามิ ยังคงติดเทรนด์ทวิตเตอร์ ภายหลังรศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผอ.ศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติมหาวิทยาลัยรังสิต ออกมาแจ้งเตือนจ.พังงา ระนอง กระบี่ ภูเก็ต และสตูล ให้เฝ้าระวังสึนามิ อย่างใกล้ชิด และซ้ำร้ายมีการออกมาระบุว่าทุ่นเตือนภัยในมหาสมุทรอินเดีย ทั้งของไทย 2 ทุ่น และอินเดีย 5 ทุ่น ใช้งานไม่ได้อีกด้วย ความเป็นไปได้จะเกิดคลื่นยักษ์สึนามิ และไทยควรต้องเตรียมพร้อมรับมือให้ทันเวลาหรือไม่ ?ดร.ประหยัด นันทศีล? นักธรณีวิทยา ภาควิชาวิทยาศาสตร์พื้นพิภพ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มองว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่าประมาทเด็ดขาด เนื่องจากหมู่เกาะนิโคบาร์ ซึ่งเป็นหมู่เกาะภูเขาไฟ อยู่ใกล้ไทยมากที่สุดในฝั่งทะเลอันดามัน เป็นแนวการมุดตัวของเปลือกโลก เหมือนกับในญี่ปุ่น และฟิลิปปินส์ จึงมีโอกาสที่จะเกิดแผ่นดินไหวจนนำไปสู่การเกิดสึนามิ ซ้ำรอยปี 2547 ได้ "ไทยเคยมีการวางระบบเตือนภัย และซักซ้อมการหนีภัยมามากพอระดับหนึ่ง จะสามารถลดความเสียหายได้ หากเกิดสึนามิอีกครั้ง อยากให้ประชาชนมั่นใจระบบเตือนภัยต่างๆ รวมทั้งทุ่นตรวจจับสึนามิ เพราะไม่ใช่ว่าทุกครั้งที่เกิดแผ่นดินไหว จะเกิดการเลื่อนตัวในแนวดิ่งจนทำให้มีการเคลื่อนตัวของน้ำอย่างเร็ว ในระดับลึกๆ เมื่อเคลื่อนถึงฝั่งก็กลายเป็นสึนามิหรือเกิดภูเขาไฟระเบิดใต้น้ำ เหมือนในตองกา ก็ทำให้เกิดสึนามิได้ แต่ถามว่ามีโอกาสเกิดขึ้นหรือไม่ ก็มีโอกาส เพราะหลังเหตุการณ์สึนามิ เมื่อปี 2547 มีการขุดพบชั้นตะกอนที่มีลักษณะเช่นเดียวกับชั้นตะกอนที่เกิดครั้งนั้นในจุดอื่นๆ ที่พังงาและบริเวณใกล้เคียง ซึ่งเป็นหลักฐานบ่งชี้ว่าเคยเกิดสึนามิมาแล้วในอดีต" การจะเกิดสึนามิหรือแผ่นดินไหว คาดเดาได้ยากกว่าการคาดคะเนว่าจะเกิดภูเขาไฟระเบิดหรือไม่ เพราะไม่มีสัญญาณใดๆ บอกล่วงหน้าอย่างชัดเจนว่าจะเกิดแผ่นดินไหว หากทิศทางการขยับของเปลือกโลกเป็นแนวระนาบ จะไม่เกิดสึนามิ แต่หากเป็นแนวดิ่งจะเกิดสึนามิ โดยขณะที่คลื่นสึนามิกำลังเดินทางอยู่ในทะเลลึกนั้นที่ผิวน้ำจะดูเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อเดินทางมาใกล้กับชายฝั่ง จะเกิดการยกตัวขึ้นและดึงน้ำตามชายฝั่ง จนลดลงอย่างรวดเร็วและโหมซัดกระหน่ำชายฝั่ง ในมุมมองของนักธรณีวิทยา เชื่อว่าระบบเตือนภัยต่างๆ จะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ แม้เราจะไม่สามารถจะต้านพลังธรรมชาติเหล่านี้ได้ แต่เราสามารถเตือนภัยและอพยพคนในพื้นที่เสี่ยงให้ทันท่วงที หากเกิดสึนามิ และในเหตุการณ์ครั้งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ต้องซ้อมการอพยพไปยังที่ปลอดภัย ให้พร้อมรับมือหากเกิดเหตุขึ้นมา อีกทั้งสถานการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นถี่และต่อเนื่อง ก็เป็นที่น่าสังเกต เนื่องจากภัยพิบัติธรรมชาติลักษณะนี้ยังไม่มีเครื่องมือพยากรณ์ล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ ต่างกับภัยอื่นๆเช่นการเกิดทอร์นาโด เนื่องจากหินเปลือกโลกมีความซับซ้อน แต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน โดยรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกบริเวณหมู่เกาะนิโคบาร์นั้น เป็นแผ่นเปลือกโลกมหาสมุทรอินเดีย มีการมุดตัวลงไปใต้แผ่นยูเรเชีย เป็นแนวยาวต่อเนื่องไปจนถึงหมู่เกาะสุมาตรา เพราะฉะนั้นอย่าประมาทกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ และต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับพื้นที่ที่มีโอกาสเกิดธรณีพิบัติภัยเช่นนี้ให้ได้ ส่วนทะเลอ่าวไทย ไม่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเกิดสึนามิ หากมีอุกกาบาตตกใส่ก็มีโอกาสได้เช่นเดียวกันเพียงแต่โอกาสเกิดสึนามิอาจจะน้อยกว่าฝั่งทะเลอันดามัน และมหาสมุทรอินเดีย หรือสึนามิในอ่าวไทยก็มีโอกาสเกิดเนื่องจากคลื่นที่มาจากฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น เพราะแผ่นดินไหวและการเกิดสึนามิ คาดเดาได้ยากมาก. https://www.thairath.co.th/scoop/theissue/2438101
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|