#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันจันทร์ที่ 18 กรกฏาคม 2565
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ ส่วนมากบริเวณด้านรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองที่อาจจะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากในระหว่างบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 18 ? 19 ก.ค. 65 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีลมใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง ส่วนมากบริเวณด้านรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนบริเวณทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 20 ? 23 ก.ค. 65 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมีร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 20 ? 23 ก.ค. 65 ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันตอนบน ควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์
สุดเศร้า 'โลมา' หางบาดเจ็บเกยตื้นหาดป่าตอง แพทย์ยื้อไม่ไหวเสียชีวิตแล้ว ทีมแพทย์พยายามรักษาอาการบาดเจ็บของ "โลมา" ที่ว่ายมาเกยตื้นยังหาดป่าตอง จ.ภูเก็ต หลังพบบาดแผลบริเวณหาง สุดท้ายอาการไม่ดีขึ้น เสียชีวิตในที่สุด จากกรณี ศูนย์รับแจ้งเหตุ สภ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต ประสาน เจ้าหน้าที่สิรีธาร สัตว์ทะเลหายาก เข้าตรวจสอบอาการบาดเจ็บของ "โลมา" ที่ถูกคลื่นทะเลซัดจนเกยตื้นริมหาดป่าตอง ใกล้สะพานคอรัลบีช ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เบื้องต้นพบว่ามีบาดแผลที่หาง โดยทีมแพทย์เข้าช่วยเหลือนำขึ้นฝั่งไปยัง ศูนย์ช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายาก อ่าวมะขาม ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ตามที่ปรากฏเหตุการณ์ไปแล้วนั้น เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 17 ก.ค. มีรายงานข่าวแจ้งว่า ทางแพทย์ได้พยายามช่วยชีวิต "โลมา" ที่ได้รับบาดเจ็บอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่สุดท้ายอาการก็ยังไม่ดีขึ้นและเสียชีวิตในที่สุด หลังจากนี้ทางทีมแพทย์จะได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ รวมทั้งส่งผ่าซากชันสูตร เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงแต่ไป https://www.dailynews.co.th/news/1260891/
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
วาฬเผือกหลังค่อมเพศเมียเกยตื้น ที่หาดมัลลาคูตา ออสเตรเลีย เมื่อวานนี้ (16 ก.ค.2022) มีรายงานข่าวพบวาฬขาวเกยตื้นบนชายหาดในรัฐนิวเซาธ์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย ในเบื้องต้นเกิดคำถามว่า มันใช่วาฬขาวหายากที่มีชื่อเสียง ที่เรียกว่า ?มิกาลู? (Migaloo) หรือไม่ อย่างไรก็ตามตามรายงานข่าวระบุถึงการวิเคราะห์จากภาพถ่ายว่าวาฬขาวตัวดังกล่าวเป็นเพศเมีย ดร. วาเนสสา ปิรอตต้า(Vanessa Pirotta) นักวิทยาศาสตร์ด้านสัตว์ป่าของมหาวิทยาลัย Macquarie เป็นหนึ่งในหลาย ๆ คนที่อยากรู้ว่าซากศพนั้นเป็นของวาฬขาว Migaloo หรือไม่ ซึ่งถูกพบเห็นเป็นประจำนอกชายฝั่งออสเตรเลียมาตั้งแต่ปี 1991 แต่เธอกล่าวว่ายังมีความเป็นไปได้อื่นๆ "สิ่งแรกที่เรานึกถึงเมื่อเราได้ยินเกี่ยวกับวาฬสีขาว คือวาฬขาวที่โด่งดังที่สุดในโลก มิกาลู" สภาพดินฟ้าอากาศอาจทำให้ผิวขาวขึ้นได้ ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าซากศพอยู่ที่นั่นนานแค่ไหน "เมื่อเวลาผ่านไป ผิวหนังจะเสื่อมสภาพและผุกร่อนจนเปลี่ยนเป็นสีขาว" ดร.ปิรอตต้า กล่าวว่า "แต่จากภาพถ่าย ดูเหมือนจะเป็นวาฬสีขาวอย่างแท้จริงแต่จะเป็นมิกาลู เรายังไม่ยืนยัน" ดร.ปิรอตตา กล่าวว่าภาพถ่าย หรือการสุ่มตัวอย่างทางพันธุกรรมจะถูกใช้เพื่อระบุว่าวาฬเป็นมิกาลูหรือไม่ "ถ้าเราได้ภาพที่ดีจริงๆ ของพยาธิใบไม้ที่หาง เราอาจหาคำตอบที่แน่ชัดว่า นั่นคือ Migaloo จริงหรือไม่ ตอนนี้จึงเป็นแค่ข้อสันนิษฐานในเบื้องต้นเท่านั้น" "ต่อไปคือการเก็บตัวอย่างทางพันธุกรรม ซึ่งจะถูกนำมาวิเคราะห์อย่างละเอียด เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์และเจ้าหน้าที่จะดำเนินการชันสูตรพลิกศพ เพื่อระบุและทำความเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ได้ดีที่สุด" "สัตว์ตายด้วยสาเหตุตามธรรมชาติ หรือว่าสัตว์มีปฏิสัมพันธ์เชิงลบในทะเลหรือไม่ เราแค่ไม่รู้ในขั้นตอนนี้" สำหรับ มิคาลู (Migaloo) วาฬเผือกหลังค่อม เป็นหนึ่งในวาฬหลังค่อมประมาณ 35,000 ตัวที่อพยพทุกปี แต่ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่มีสีขาวเต็มตัว มันได้รับการคุ้มครองภายใต้กฎหมายของรัฐควีนส์แลนด์และรัฐบาลเครือจักรภพ ซึ่งระบุว่าห้ามเรือใดๆ ได้รับอนุญาตให้เข้าใกล้วาฬในระยะ 500 เมตร ทั้งนี้ วาฬชนิดนี้อาจมีอายุยืนยาวได้ถึง 50 ปี มิคาลู ถูกพบตัวแรกของโลกในหมู่ประชากรของวาฬหลังค่อมของทางฝั่งตะวันออก เมื่อปี 1991 มันจึงถูกเรียกชื่อเล่นว่า "Migaloo" ซึ่งแปลว่า "ตัวขาว" ในภาษาของชนพื้นเมือง การพบซากของวาฬขาวหลังค่อม บนชายหาดทางตอนใต้ของรัฐนิวเซาธ์เวลส์ที่มัลลาคูตา ทำให้ผู้เชี่ยวชาญงงงวยและกังวลว่าอาจจะถูกคุกคามให้เกยตื้น โดยเฉพาะถ้าเป็น "มิกาลู" สัตว์คุ้มครองหายากและน่ารักมากที่สุดชนิดหนึ่งของออสเตรเลีย https://mgronline.com/greeninnovatio.../9650000067880
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|