สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม 2565

[สายน้ำ]

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ปกคลุมบริเวณประเทศจีนตอนใต้ ประเทศเมียนมาตอนบน และประเทศลาวตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย มีกำลังปานกลาง

สำหรับทะเลอันดามันตอนบนคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 11 ? 12 ส.ค. 65 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ในขณะที่พายุโซนร้อน ?มู่หลาน?บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนบนคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 13 ? 17 ส.ค. 65 ร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อน ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลงแต่ยังคงทำให้มีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1- 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 11 ? 12 ส.ค. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนควรเพิ่มความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง



*********************************************************************************************************************************************************


ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุดีเปรสชัน มู่หลาน" ฉบับที่ 12 ลงวันที่ 12 สิงหาคม 2565

เมื่อเวลา 01.00 น. วันนี้ (12 ส.ค. 65) พายุดีเปรสชัน "มู่หลาน" บริเวณมณฑลยูนนานตอนใต้ ประเทศจีน ได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงแล้ว และเคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศจีนตอนใต้ ประเทศเมียนมาตอนบน และประเทศลาวตอนบน ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย
จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง มีดังนี้


วันที่ 12 สิงหาคม 2565

ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก และพิษณุโลก

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองบัวลำภู หนองคาย และอุดรธานี

สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ทำให้คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


ดร.ธรณ์! เผยรู้พิกัด ต่างชาติโพสต์คลิป "จับปลานกแก้วเป็นพวง" ขณะ ที่ปรึกษา ส.ประมง จ.กระบี่ ระบุ ไม่จับกิน
.
กระบี่ ? ดรามา ชายชาวต่างชาติจับปลานกแก้วมาร้อยเป็น พร้อมถ่ายคลิปโพสต์ผ่านโซเชียล ล่าสุด ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์เผยทราบพิกัดแล้ว ขณะ ที่ปรึกษา ส.ประมง จ.กระบี่ ระบุ ชาวประมงไม่จับกิน


.
วันนี้ (11 ส.ค.) จากกรณี เพจ "หมอแล็บแพนด้า" หรือ ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน อดีตนักเทคนิคการแพทย์ชื่อดัง ได้ออกมาโพสต์ภาพ พร้อมข้อความ ที่ชายชาวต่างชาติได้มีการโพสต์คลิปวิดีโอในแอปพลิเคชัน TikTok เป็นเหตุการณ์ขณะกำลังจับปลานกแก้ว ซึ่งถูกระบุว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย โดยทางเพจได้ระบุข้อความว่า "มีคนแจ้งเข้ามาเยอะเลยครับ ชาวต่างชาติโพสต์ติ๊กต็อกจับปลานกแก้วในบ้านเราเป็นพวงเลย เอาไงดี"
https://www.facebook.com/MTlikesara/...Aff4GTgv5PBV1l
.
หลังจากมีการโพสต์ภาพดังกล่าว ด้านเฟซบุ๊ก "Thon Thamrongnawasawat" หรือ ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศทางทะเล และรองคณบดี คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ออกมาระบุถึงกรณีดังกล่าวเช่นกันว่า "ภาพใน tiktok ส่งให้ผู้บริหารในกระทรวงแล้วครับ ตอนนี้พอทราบจุดแล้ว กำลังตามกันอยู่ครับ"
https://www.facebook.com/thon.thamro...b1L19HpZDeyKLl
.
ทั้งนี้ ปลานกแก้วมักอาศัยอยู่ตามแนวปะการัง เพื่อหาอาหาร โดยพื้นที่แนวปะการังทั่วประเทศไทยได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์ปะการังหลายฉบับ ได้แก่ พระราชบัญญัติการเดินเรือน่านน้ำไทย พ.ศ. 2456 พระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2490 พระราชบัญญัติให้อำนาจทหารเรือปราบปรามการกระทำผิดบางอย่างทางทะเล พ.ศ. 2490 พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 พระราชบัญญัติการส่งออกไปนอกราชอาณาจักรและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ. 2522 พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 พระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2535 และฉบับที่ 2 พ.ศ. 2545 และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอีก 3 ฉบับ ซึ่งกฎหมายบางฉบับเกี่ยวข้องโดยตรงและบางฉบับเกี่ยวข้องในทางอ้อม

โดยมีการระบุว่า พิกัดในคลิป อยู่ในบริเวณทะเลเกาะพีพี อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่

นาย นายดลหล้อ เกมพิทักษ์ ที่ปรึกษาสมาคมชาวประมง จ.กระบี่ และ เป็นชาวประมงพื้นบ้าน ได้กล่าวถึงคลิปดังกล่าว ว่าปลานกแก้ว เป็นปลาที่มีสีสันสวยงาม และ เป็นปลาหวงห้าม หากชาวประมงจับได้ ก็จะปล่อยคืนกลับทะเล ส่วนใหญ่จะติดลอบปลา สำหรับปลานกแก้วเป็นปลาที่ชอบอาศัยอยู่ตามแนวปะการัง และคอยกัดกินปะการังที่ตายเป็นอาหาร โดยลักษณะเด่นสีสันสวยงาม มีฟันที่แข็งแรงเอาไว้ครูดกินซากปะการังตาย คล้ายๆกับช่วยทำความสะอาดให้ปะการัง และเป็นปลาที่หายาก เมื่อติดอวนหรือลอบชาวประมงก็จะปล่อยคืนสู่ทะเลและไม่นิยมนำมากินเป็นอาหาร


https://mgronline.com/south/detail/9650000076884

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก มติชน


อ.ธรณ์จี้ ทส. จะเปิดเกาะตาชัยต้องเข้มจริงๆ ไม่งั้นพังอีก อย่าให้ที่ผ่านมาเสียเปล่า



อ.ธรณ์จี้ ทส.จะเปิดเกาะตาชัยต้องเข้มจริงๆ ไม่งั้นพังอีก อย่าให้ที่ผ่านมาเสียเปล่า
ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) โพสต์เรื่องการเปิดพื้นที่เกาะตาชัยอีกครั้ง หลังจากปิด เพื่อให้ธรรมชาติรอบเกาะได้รับการฟื้นฟูมาตั้งแต่ปี 2559 โดยระบุว่า

เมื่อวานมีการประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาอุทยานทางทะเล มีท่านรองปลัดกระทรวงเป็นประธาน หนึ่งในนั้นคือเรื่องของ #เกาะตาชัย จึงนำมาอัปเดทให้เพื่อนธรณ์ทราบครับ

ขอสรุปความเป็นมาจะได้เข้าใจตรงกัน

เกาะตาชัยอยู่ในอุทยานสิมิลัน ตั้งอยู่โดดเดี่ยวกลางทะเลอันดามัน

อยู่ใต้เกาะสุรินทร์ 33 กม. ห่างจากเกาะแปด สิมิลัน 48 กม. และห่างฝั่งเป็นเส้นตรง 50 กม.

เกาะตาชัยไม่มีคนอยู่ ไม่มีชุมชนในรัศมี 50 กิโลเมตร ยกเว้นชาวมอแกนที่เกาะสุรินทร์ที่คงไม่มาถึงตาชัย

จึงต่างจากเกาะเกือบทั้งหมดในทะเลไทย เพราะที่นี่ไม่มีชาวบ้านมาใช้ประโยชน์ ไม่มีเรือหางยาวพานักท่องเที่ยวมา ไม่เหมือนเกาะพีพีที่มีคนท้องถิ่นอยู่เกือบพัน

เมื่อกรมอุทยานร่วมกับคณะวนศาสตร์ จัดทำแผนบริหารอุทยานทางทะเล จึงกำหนดให้เกาะตาชัยเป็นเขตสงวน ไม่ใช่พื้นที่ท่องเที่ยวทั่วไป

เพราะนอกจากดงปะการังสีฟ้าที่อยู่ในน้ำตื้น หายากยิ่งในทะเลไทย บนบกยังมีหอยมรกตและปูไก่จำนวนมาก

แต่กระแสการท่องเที่ยวที่บูมมากในช่วงนั้น ทำให้เกาะตาชัยกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว มีคนไปจำนวนมาก ปะการังสีฟ้าเสียหายจากการทิ้งสมอตอนนำเรือเข้าหาด ยังมีน้ำเสียจากการทำอาหาร ฯลฯ

กรมอุทยานจึงประกาศปิดเกาะตาชัย ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2559 เพื่อให้โอกาสธรรมชาติฟื้นฟู

การปิดดังกล่าวไม่เกี่ยวอะไรกับการดำน้ำลึกแบบ SCUBA จะเกี่ยวเฉพาะการขึ้นเกาะไปเที่ยว/ดำน้ำตื้น

การสำรวจล่าสุดในเดือนพฤษภาคม 2565 โดยกรมอุทยานและนักวิชาการ พบว่าปะการังฟื้นตัวตามที่เห็นในภาพ หมายถึงที่ปิดมา 6 ปีได้ผล

อย่างไรก็ตาม เกาะตาชัยมีความสำคัญต่อการท่องเที่ยวเช่นกัน จึงมีการนำเสนอความเป็นไปได้ในการเปิดเกาะตาชัยอีกครั้ง ทำให้กรมอุทยานนำเรื่องนี้เข้าสู่การประชุมคณะกรรมการอุทยานทางทะเล

ที่ประชุมตกลงกันว่า เนื่องจากเกาะตาชัยมีทรัพยากรบอบบาง อยู่ในเขตสงวนอุทยาน หากจะตัดสินใจใดๆ จำเป็นต้องมีการศึกษาความเป็นไปได้ในการบริหารจัดการอย่างรอบคอบ

ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เราจะไม่มีทางปล่อยให้เกิดผลกระทบต่อปะการังโดยเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นจะปิดมาทำไม

การท่องเที่ยวหากเปิด จำเป็นต้องมีการควบคุมดูแลอย่างเคร่งครัด เพื่อให้สอดคล้องกับเขตสงวนรักษาตามที่กรมอุทยานเคยกำหนดไว้


เมื่อเทียบกับอ่าวมาหยา เกาะตาชัยจะพิเศษยิ่งกว่า เพราะมีความแตกต่างกันหลายประการตามที่บอกไว้

หากลองติดตามข้อมูลในต่างประเทศ จะเห็นแหล่งท่องเที่ยวพิเศษแบบนี้หลายแห่ง และมีมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น อินโดนีเซีย มัลดีฟส์ ฯลฯ

คณะกรรมการจึงเสนอกรมอุทยาน ให้จัดทำการศึกษาเรื่องนี้โดยเฉพาะ เพื่อให้เกิดความมั่นใจสูงสุด

จึงมารายงานให้เพื่อนธรณ์ทราบเรื่องเกาะตาชัย มีความคืบหน้าเมื่อไหร่ จะมาเล่าให้ฟังเป็นระยะ

ตอนนี้อมยิ้มดูภาพปะการังสีฟ้าที่ฟื้นตัวเยอะแยะไปก่อนนะครับ


https://www.matichon.co.th/social/news_3501740