#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพุธที่ 17 สิงหาคม 2565
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมา ลักษณะเช่นนี้ทำให้ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือด้านตะวันตก ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 16 ? 17 ส.ค. 65 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ส่วนในช่วงวันที่ 18 - 19 ส.ค. 65 ร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านบริเวณประเทศเมียนมา ตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 20 - 22 ส.ค. 65 ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบนและเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยในช่วงวันที่ 18 ? 19 ส.ค. 65 บริเวณทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 20 - 22 ส.ค. 65 คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนบริเวณทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่าง ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1 - 2 เมตร ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ตลอดช่วง ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองในช่วงวันที่ 20 -22 ส.ค. 65
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ
ก้อนน้ำแข็งที่ใหญ่สุดในโลก พังเร็วกว่าที่คิด ในช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา มหาสมุทรที่ร้อนขึ้นได้ทำให้หิ้งน้ำแข็ง ด้านล่างอ่อนแอลง ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ ที่บันทึกได้ก่อนหน้านี้โดยเครื่องวัดระยะสูงจากดาวเทียม ที่วัดความสูงของการเปลี่ยนแปลงของน้ำแข็งและแสดงการสูญเสียโดยเฉลี่ย 149 ล้านตันต่อปี ระหว่างปี พ.ศ.2545-2563 ตามรายงานขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา หรือองค์การนาซา ทว่าการศึกษาใหม่ของนักวิทยาศาสตร์จากห้องปฏิบัติการแรงขับเคลื่อนไอพ่นหรือเจพีแอล (Jet Propulsion Laboratory-JPL) ขององค์การนาซา เผยถึงการวิเคราะห์จากดาวเทียม แสดงให้เห็นว่าธารน้ำแข็งชายฝั่งของทวีปแอนตาร์กติกากำลังทำให้ภูเขาน้ำแข็งเคลื่อนตัวออกเร็วกว่าเป็นไปตามธรรมชาติ และสามารถเติมลงสู่น้ำแข็งที่พังทลายได้ ซึ่งเพิ่มเป็น 2 เท่าของการประเมินในครั้งก่อนเกี่ยวกับการสูญเสียน้ำแข็งจากหิ้งน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในโลกในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา เรียกง่ายๆว่าความรวดเร็ว ของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้ชั้นน้ำแข็งลอยตัวของแอนตาร์กติกาอ่อนตัวลงและเร่งการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลทั่วโลกนั่นเอง ทั้งนี้ ความสูญเสียที่วัดได้จากการหลุดออกไปของก้อนน้ำแข็งตามธรรมชาติอย่างมาก นักวิจัยพบว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ที่แอนตาร์กติกาจะหวนกลับสู่ระดับเดิมก่อนทศวรรษ 2000 ภายในสิ้นศตวรรษนี้ และความล้มเหลว ในการควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกก็เสี่ยงต่อระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นหลายเมตรในอีกไม่กี่ร้อยปีข้างหน้า แต่ความหวังก็ยังพอมีตรงที่มนุษย์ต้องควบคุมอุณหภูมิโลกไม่เกิน 2 องศาเซลเซียสให้ได้ตามข้อตกลงปารีส. https://www.thairath.co.th/news/foreign/2473436
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
ว้าวมาก! ภาพฉลามวาฬ 1 ใน 5 เทพเจ้าแห่งปลายักษ์ใหญ่พาลูกๆ ออกว่ายน้ำกลางทะเลเมืองจันท์ จันทบุรี -? ว้าวมาก! ภาพสุดน่ารักของฉลามวาฬ 1 ใน 5 ปลายักษ์ใหญ่ที่กำลังว่ายน้ำเล่นกับลูกๆ อยู่บนผิวน้ำกลางทะเลเมือง?จันทบุรี อวดโฉมให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพกันอย่างจุใจ เชื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคักได้อีกครั้ง นายเรืองวิทย์ กรสุพรรณ์ ไต๋เรือ Mira Marine บอกว่าช่วงก่อนหน้าที่ จ.จันทบุรี? จะมีพายุเข้าตนเองได้นำนักท่องเที่ยวที่เข้าพักบ้านตาพูลวิลล่า ต.ตะกาดเง้า อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ออกแล่นเรือตกปลา และได้นำเรือขนาด 29 ฟุต วิ่งออกจากฝั่งมุ่งหน้าไปทาง อ.เกาะช้าง จ.ตราด ตามแพกเกจการท่องเที่ยวที่ทางรีสอร์ต?ได้จัดไว้ แต่เมื่อออกจากฝั่งได้ประมาณ 50 กิโลเมตรก็ได้พบกับฉลามวาฬตัวโตที่กำลังพาลูกๆ ออกมาเล่นน้ำอยู่บริเวณ?ผิวน้ำใกล้เรือ ทำให้นักท่องเที่ยวที่อยู่บนเรือพากันตื่นตาตื่นใจกับภาพความน่ารักของฝูงฉลามวาฬแม่ลูกที่กำลังดำผุดดำว่ายอยู่ใกล้ๆ เรือ และต่างพากันถ่ายคลิปและภาพแห่งความประทับใจนี้เผยแพร่ในโลก?ออนไลน์? นายเรืองวิทย์ หรือไต๋ปู้ ไต๋เรือ Mira Marine บอกว่าภาพฝูงฉลามวาฬแม่ลูกบ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทางทะเล จ.จันทบุรี และเชื่อว่าจะสร้างชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวให้จังหวัดได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ หากนักท่องเที่ยวสนใจชมความน่ารักของฝูงฉลามวาฬ หรือหากต้องการท่องเที่ยวทางเรือใน จ.จันทบรี สามารถสอบถามรายละเอียดเข้ามาได้ที่บ้านตาพูลวิลล่า อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี https://mgronline.com/local/detail/9650000078110 ****************************************************************************************************** น่าตกใจ! ขยะลอยเกลื่อนใต้ท้องทะเลเกาะพีพี จ.กระบี่ ภาพจากในคลิปของเพจ Green Guardians ต่างชาติแชร์คลิปที่ถ่ายใต้ทะเลใกล้กับเกาะพีพี จ.กระบี่ ประเทศไทย ซึ่งมีขยะพลาสติกลอยเกลื่อนอยู่ทั่วบริเวณ โดยคลิปดังกล่าวได้ถูกบันทึกเมื่อวันที่ 9 ส.ค. 65 ที่ผ่านมาไม่นานนี้ คลิปดังกล่าวถูกโพสต์โดยเฟซบุ๊กเพจ Green Guardians ซึ่งเป็นคลิปสั้นๆ ประมาณ 30 วินาที ที่เผยให้เห็นภาพของใต้ท้องทะเลที่มีขยะพลาสติกหลายพันชิ้นลอยเกลื่อนอยู่ทั่วบริเวณ โดยเป็นขยะจำพวกถุงหูหิ้วพลาสติก ซองขนม แก้วน้ำพลาสติก ฯลฯ และที่น่าสลดใจก็คือบริเวณที่ขยะเหล่านี้ลอยอยู่นั้น ก็มีฝูงปลาว่ายอยู่ใกล้เคียงด้วยเช่นกัน ซึ่งหากพวกมันกินเข้าไปหรือไปตัวไปติดอยู่ในขยะเหล่านั้นย่อมเกิดอันตรายแน่นอน ทางเพจ Green Guardians ได้ให้ข้อมูลคร่าวๆ ว่า คลิปนี้ได้บันทึกเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา บริเวณใกล้กับเกาะพีพี จ.กระบี่ ของประเทศไทย และเพจดังกล่าวยังบอกอีกว่าภาพแบบนี้ยังมีให้เห็นอีกทั่วโลก พร้อมกับได้รณรงค์ให้ลด ละ เลิก การใช้พลาสติกและผลิตภัณฑ์ที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ เพื่อช่วยกันลดขยะเหล่านี้ เพราะในตอนนี้ท้องทะเลทั่วโลกกำลังเผชิญกับขยะพลาสติกที่ลอยเกลื่อนกว่า 5,000 พันล้านชิ้นเลยทีเดียว https://mgronline.com/travel/detail/9650000078238
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#4
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก สำนักข่าวไทย
ญี่ปุ่นเตือนนักท่องเที่ยวระวังโลมาทำร้าย โตเกียว 16 ส.ค. ? จังหวัดฟุกุอิ ซึ่งเป็นเมืองตากอากาศชื่อดังของญี่ปุ่น ประกาศเตือนนักท่องเที่ยวให้อยู่ห่างจากโลมา หลังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 6 คนถูกโลมาทำร้าย และมีผู้บาดเจ็บคนหนึ่งถูกโลมากัดแขนจนต้องเย็บแผลถึง 14 เข็ม หนังสือพิมพ์ไมนิจิของญี่ปุ่นรายงานว่า มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 6 คนถูกโลมาปากขวดอินโดแปซิฟิกกัด เหตุเกิดที่ชายหาด 3 แห่งในจังหวัดฟุกุอิ ทางตอนกลางค่อนไปทางตะวันตกของเกาะฮนชูและมีพื้นที่ติดทะเลญี่ปุ่น ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่ถูกโลมากัดขณะว่ายน้ำในทะเลห่างจากฝั่งไม่ถึง 10 เมตร เจ้าหน้าที่ของทางการจังหวัดฟุกุอิพยายามหาวิธีแก้ปัญหานี้ด้วยการติดตั้งอุปกรณ์ใต้น้ำที่ปล่อยคลื่นอัลตราโซนิคเพื่อไล่โลมา แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ เนื่องจากได้รับแจ้งเหตุนักท่องเที่ยวอีก 2 คนถูกโลมาทำร้ายหลังจากที่ติดอุปกรณ์ดังกล่าว หนังสือพิมพ์ไมนิจิยังระบุว่า ผู้บาดเจ็บ 6 คนที่ถูกโลมาทำร้าย ได้แก่ ชาย 2 คน อายุ 40-49 ปี ถูกโลมากัดและต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจากอาการบาดเจ็บเล็กน้อยในวันเดียวกันที่หาดโคชิโนะในจังหวัดฟุกุอิ ชายอีกคน อายุ 60-69 ปี ที่ถูกโลมากัดที่มือขวาขณะว่ายน้ำในทะเลนอกหาดทาคาสึไม่ถึง 4 เมตร และมีผู้บาดเจ็บคนหนึ่งถูกโลมากัดแขนจนต้องเย็บแผลถึง 14 เข็ม ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดฟุกุอิเผยว่า โลมาไม่ชอบให้มนุษย์สัมผัสบางส่วนของร่างกาย เช่น จมูกและครีบหลัง ทั้งยังระบุว่า หลายวิดีโอในสื่อโซเชียลมีเดียแสดงให้เห็นว่านักท่องเที่ยวพยายามว่ายน้ำเข้าไปสัมผัสโลมาในจังหวัดฟุกุอิ และขอความร่วมมือทุกคนให้ดูโลมาอยู่ห่าง ๆ เพื่อความปลอดภัย. https://tna.mcot.net/world-998942
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|