#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน 2565
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป ร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศมาเลเซีย ในขณะที่ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย สำหรับบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้ยังคงมีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ สำหรับภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย ฝุ่นละอองในระยะนี้: ประเทศไทยและกรุงเทพมหานครมีการสะสมฝุ่นละออง/หมอกควันน้อย เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังปานกลางและยังคงมีฝนตกในบางพื้นที่ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 17 ? 18 พ.ย. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ ส่วนในช่วงวันที่ 19 ? 22 พ.ย. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนลดลง โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และในช่วงวันที่ 20 ? 22 พ.ย. 65 หย่อมความกดอากาศต่ำจากบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคตะวันออกและอ่าวไทยตอนบน ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและลมตะวันออกยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ประกอบกับร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นมาพาดผ่านบริเวณภาคใต้ตอนล่างในระยะแรก และจะเลื่อนข้นไปพาดผ่านภาคใต้ตอนกลางในระยะต่อไป ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง ตลอดช่วง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ ในช่วงวันที่ 21 ? 22 พ.ย. 65 ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนเกษตรกรควรระมัดระวังและป้องกันความเสียหายต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย สำหรับประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ตลอดช่วง ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์
เอาจริง! ลุยจับร้านอาหารดังภูเก็ต ขาย 'ปลานกแก้ว' ทำอาหารให้ลูกค้า กรม "ทช." ออกปฏิบัติการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จับร้านอาหารชื่อดัง ใน จ.ภูเก็ต ลักลอบขายปลานกแก้ว นำไปประกอบอาหารให้ลูกค้า เมื่อวันที่ 16 พ.ย. มีรายงานว่า สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 10 (สทช.10) โดยศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลจังหวัดภูเก็ต และศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน ได้ออกปฏิบัติการตรวจตราบังคับใช้กฎหมายในกรณีที่มีการฝ่าฝืนประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พ.ศ. 2560 ลงวันที่ 23 พ.ย. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2563 ลงวันที่ 18 พ.ย. 2563 ในพื้นที่ ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่กองกำกับการ 5 สังกัดกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรจังหวัดภูเก็ต และหน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลท้ายเหมือง (พังงา) หลังได้รับแจ้งมีการลักลอบ ค้าขายปลานกแก้ว ในวงศ์ Scaridae ขนาดไม่เกิน 50 ซม. ซึ่งเป็นปลาสวยงามตามบัญชี 3 ท้ายประกาศกระทรวงฯ เบื้องต้นสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดจำนวน 3 ราย ได้แก่ 1.ผู้จัดการร้านอาหารชื่อ ชิคเรสเตอร์รองท์ ของกลางปลานกแก้ว 9 ตัว 2.ผู้จัดการร้านอาหารชื่อ บาวว์ตี้ซีฟู๊ด ของกลางปลานกแก้ว จำนวน 5 ตัว และ 3.เจ้าของร้านอาหารชื่อ ต้นตาลซีฟู๊ด ของกลางปลานกแก้ว 2 ตัว ได้แจ้งข้อกล่าวหาในความผิดฐานฝ่าฝืน ข้อ 11 (8) ห้ามจับหรือครอบครองปลาสวยงามตามบัญชี 3 ท้ายประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดังกล่าว โดยนำผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรกะรน จังหวัดภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป https://www.dailynews.co.th/news/1691052/ ********************************************************************************************************************************************************* 'ตูวาลู' หันหาเมตาเวิร์ส เหตุระดับน้ำทะเลคุกคามการดำรงอยู่ ตูวาลูมีแผนที่จะสร้างประเทศของตัวเองในรูปแบบดิจิทัล โดยจำลองเกาะและสถานที่สำคัญต่าง ๆ เพื่อรักษาประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไว้ เนื่องจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น กำลังคุกคาม และจมประเทศเกาะขนาดเล็กในมหาสมุทรแปซิฟิกแห่งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานจากเมืองชาร์ม เอล-ชีค ประเทศอียิปต์ เมื่อวันที่ 16 พ.ย. ว่า นายไซมอน โคเฟ รมว.ต่างประเทศตูวาลู กล่าวกับที่ประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตามกรอบของอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ยูเอ็นเอฟซีซีซี) ครั้งที่ 27 หรือ ?คอป 27? ว่า มันถึงเวลาที่จะต้องพิจารณาวิธีแก้ปัญหาอื่นเพื่อความอยู่ของตูวาลู ซึ่งสิ่งนี้รวมถึงการทำให้ตูวาลูอยู่ในรูปแบบดิจิทัลในเมตาเวิร์ส เป็นประเทศแรกของโลกอีกด้วย "แผ่นดินของเรา มหาสมุทรของเรา วัฒนธรรมของเรา เป็นทรัพย์สินที่มีค่ามากที่สุดสำหรับผู้คนของเรา และเพื่อทำให้สิ่งเหล่านั้นปลอดภัยจากอันตราย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในโลกความเป็นจริงก็ตาม เราจะย้ายพวกมันไปยังพื้นที่ดิจิทัล" โคเฟ กล่าวในคลิปวิดีโอที่เขายืนอยู่บนแบบจำลองดิจิทัลของเกาะเล็ก ๆ ซึ่งถูกคุกคามจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น ตูวาลู ประเทศที่ประกอบด้วยเกาะขนาดเล็ก 9 เกาะ และมีประชากรราว 12,000 คน ซึ่งตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างออสเตรเลียและหมู่เกาะฮาวาย คือประเด็นที่ทำให้เกิดการถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง เกี่ยวกับความเสี่ยงของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูง โดยพื้นที่ของกรุงฟูนะฟูตี มากถึง 40% ต้องจมบาดาลเมื่อถึงช่วงน้ำขึ้น และมีการคาดการณ์ว่า ทั้งประเทศจะจมอยู่ใต้น้ำภายในสิ้นศตวรรษนี้ ทั้งนี้ โคเฟหวังว่าการสร้างประเทศในรูปแบบดิจิทัลจะช่วยให้ตูวาลูทำหน้าที่เป็นรัฐต่อไปได้ และมันยังเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับประเทศของเขา เนื่องจากรัฐบาลเริ่มความพยายามเพื่อทำให้แน่ใจว่า ตูวาลูจะยังคงได้รับการยอมรับในระดับสากลว่าเป็นประเทศ รวมถึงการยอมรับเขตแดนทางทะเลและทรัพยากรในน่านน้ำเหล่านั้นต่อไป แม้ว่าประเทศจะจมบาดาลโดยสมบูรณ์ก็ตาม https://www.dailynews.co.th/news/1690122/ ********************************************************************************************************************************************************* พบ 'เหรียญทองโบราณ' โผล่ริมหาดแคนาดา อายุเก่าแก่ยิ่งกว่ายุคก่อตั้งประเทศ นักตรวจจับและเก็บเศษโลหะในแคนาดา ตรวจพบเหรียญทองโบราณริมชายฝั่ง คาดว่าเป็นเหรียญทองที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยมีการค้นพบในประเทศ และอาจทำให้ต้องเปลี่ยนแปลงข้อมูลในประวัติศาสตร์เสียใหม่ เครดิตภาพ : gov.nl.ca. รัฐบาลท้องถิ่นของรัฐนิวฟันด์แลนด์และแลบราดอร์แห่งแคนาดา เผยแพร่ข่าวเมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2565 ว่า มีการค้นพบเหรียญทองโบราณของอังกฤษ โดยนักตรวจจับและเก็บเศษโลหะรายหนึ่งที่บริเวณริมฝั่งทะเล ในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา ซึ่งเขาได้รายงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายว่าด้วยแหล่งประวัติศาสตร์ของแคนาดา เอ็ดเวิร์ด ไฮนส์ ผู้ใช้เครื่องมือสแกนโลหะจนพบเหรียญดังกล่าว ที่ชายฝั่งของรัฐนิวฟันด์แลนด์ เล่าว่า เขาได้ยินเสียงเตือนจากเครื่องว่า พบชิ้นส่วนที่เป็นโลหะ จึงลงมือขุดพื้นทรายลงไปราว 5 นิ้ว และพบเหรียญทองที่มีลวดลายแกะสลักที่ซับซ้อนและโค้งงอเป็นคลื่นเล็กน้อย มันมีสีเหลืองสดใสและเนื้อบางมาก ในตอนแรกเขาคิดว่ามันไม่น่าจะเป็นเหรียญทองคำ แต่คิดว่าเป็นกระดุมหรือแผ่นป้ายอะไรสักอย่างมากกว่า ไฮนส์ ได้แจ้งไปยังหน่วยงานของทางการถึงการค้นพบของเขา ซึ่งต่อมา เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเหรียญเงินโบราณ ได้ระบุว่า เหรียญทองดังกล่าวเป็นเหรียญ Quater noble จากสมัยพระเจ้าเฮนรีที่ 6 ของอังกฤษ ผลิตขึ้นใช้ครั้งแรกในกรุงลอนดอน ระหว่างปี ค.ศ. 1422-1427 ซึ่งเท่ากับว่า มีอายุเก่าแก่ยิ่งกว่าประเทศแคนาดา ซึ่งสถาปนาขึ้นในปี ค.ศ. 1867 มากกว่า 400 ปี ทีมผู้เชี่ยวชาญยังไม่สามารถระบุได้ว่า เหรียญทองคำเหรียญนี้เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลกว่า 32,000 กม. มายังแคนาดาได้อย่างไร แต่กล่าวว่า ตอนที่เหรียญเดินทางมาถึงแคนาดา ไม่น่าจะเป็นช่วงที่ยังใช้เหรียญชนิดนี้ในระบบเงินตราของอังกฤษแล้ว? เมื่อปีที่แล้ว ก็เคยมีการพบเหรียญเงินที่ผลิตราวทศวรรษที่ 1490 ในเมืองแคนเทอเบอรี ของอังกฤษในรัฐนี้ และได้รับการยอมรับว่า เป็นเหรียญเงินอังกฤษที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยมีการค้นพบในแคนาดา และอาจจะเก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยมีการค้นพบในทวีปอเมริกาเหนือ ตามข้อมูลทางประวัติศาสตร์ จอห์น คาบอต นักสำรวจชาวอิตาลี ได้ชื่อว่าเป็นนักสำรวจคนแรกจากทวีปยุโรป ที่เดินทางมายังพื้นที่ที่เป็นรัฐนิวฟันด์แลนด์ในปัจจุบัน เมื่อปี ค.ศ. 1497 ขณะที่การค้นพบเหรียญทองเหรียญล่าสุดในครั้งนี้ คือเหรียญที่ผลิตขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1420 ของรัชสมัยพระเจ้าเฮนรีที่ 6? หากข้อมูลของเหรียญทองดังกล่าวได้รับการยืนยันว่าถูกต้อง ก็เท่ากับว่า จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลทางประวัติศาสตร์ใหม่ และ คาบอต ก็จะไม่ใช่นักสำรวจคนแรกที่เดินทางมาถึงพื้นที่นี้อีกต่อไป ตามตำนานเก่าแก่ยอดนิยมระบุว่า มีกลุ่มนักบวชชาวไอริช นำโดย นักบุญเบรนเดน เคยล่องเรือมายังนิวฟันด์แลนด์ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 6 และจากกรณีศึกษาเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสาร Nature ก็ได้เปิดเผยว่า พบหลักฐานที่บ่งบอกว่ามีชาวไวกิ้งเคยมาอาศัยอยู่ในพื้นที่ของนิวฟันด์แลนด์ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1021 แหล่งข่าว : miamiherald.com https://www.dailynews.co.th/news/1689841/
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ไทยโพสต์
เร่งต่อต้านการประมงผิดกฎหมายส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน การประมงเป็นอาชีพที่อยู่คู่คนไทยมาช้านาน และมีความสำคัญอย่างมากต่อเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากไทยเป็นผู้ผลิตและส่งออกอาหารทะเลรายใหญ่ติดอันดับต้น ๆ ของโลก แต่ในปัจจุบัน ประเทศไทยและทุกประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ทำให้อุณหภูมิในทะเลและมหาสมุทรสูงขึ้น ภัยธรรมชาติรุนแรงขึ้น ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น และค่าเป็นกรดเป็นด่างของน้ำทะเลสูงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อการทำประมง รวมถึงการขาดแคลนอาหารได้ในอนาคต ดังนั้น การบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและมหาสมุทรให้มีความยั่งยืน จึงเป็นวาระที่ทุกประเทศทั่วโลกรวมถึงไทยต้องให้ความสำคัญเร่งด่วน โดยที่ผ่านมา รัฐบาลได้มีการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนวาระดังกล่าวในหลายด้าน เช่น การรณรงค์ให้ใช้เรือและเครื่องมือประมงที่ถูกกฎหมาย การจัดทำแผนงานส่งเสริมการทำประมงพื้นบ้าน การรณรงค์งดเว้นการจับสัตว์น้ำในฤดูวางไข่และสัตว์น้ำที่ยังมีขนาดเล็ก รวมถึงไม่ใช้แรงงานที่ผิดหลักมนุษยธรรม นอกจากนี้ ในฐานะเจ้าภาพจัดการประชุมคณะทำงานมหาสมุทรและการประมงครั้งที่ 19 (19th Meeting of APEC Ocean and Fisheries Working Group: OFWG) ซึ่งเป็นการประชุมผ่านระบบประชุมออนไลน์ ระหว่างวันที่ 17 - 18 สิงหาคม 2565 ณ ห้องประชุมตะพัดทอง กรมประมง เป็นโอกาสที่ไทยจะได้พิจารณากลั่นกรองและร่วมส่งเสริมโครงการต่าง ๆ ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล การประมง การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ การต่อต้านการประมงผิดกฎหมาย และการจัดการขยะทะเล รวมทั้งผลักดันให้สมาชิกเขตเศรษฐกิจเอเปคร่วมกันให้ความสำคัญกับการทำประมงพื้นบ้าน การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำรายย่อย การต่อต้านประมงผิดกฎหมาย รวมถึงการจัดการขยะทะเล เพื่อมุ่งไปสู่ความยั่งยืนของทรัพยากรและคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยขอบเขตดำเนินงานของคณะทำงาน OFWG ในปีนี้ มีทั้งหมด 10 ด้าน ได้แก่ 1) การส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน ทั้งในแง่การใช้ทรัพยากรประมง การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และระบบนิเวศทางมหาสมุทรอย่างยั่งยืน รวมถึงการดำเนินการตามแผนปฏิบัติงานแผนที่ขั้นตอนดำเนินการการต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมาย (APEC Roadmap on Combatting Illegal, Unreported, and Unregulated (IUU) Fishing) และแผนที่ขั้นตอนดำเนินการการจัดการขยะทะเล (APEC Roadmap on Marine Debris) ของสมาชิกเอเปคภายใต้คณะทำงาน OFWG 2) จัดทำแผนการดำเนินงานด้านการทำประมงพื้นบ้านและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำขนาดเล็ก ที่สนับสนุนปีแห่งการเฉลิมฉลองการทำประมงพื้นบ้านและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของ The State of World Fisheries and Aquaculture (SOFIA) 3) การเสริมสร้างความเข้าใจด้านระบบนิเวศทางทะเลและการจัดการพื้นที่ทางทะเล (Marine Spatial Planning) และส่งเสริมการดำเนินงานที่สนับสนุนเศรษฐกิจสีน้ำเงิน (Blue Economy) 4) การเสริมสร้างความเข้าใจต่อภาวะโลกร้อนที่มีผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเล รวมทั้งการทำประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ 5) การเสริมสร้างความเข้าใจเรื่องภัยธรรมชาติที่มีผลกระทบต่อการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำห่วงโซ่อาหารในทะเล และส่งเสริมการทำวิจัยที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบของภัยพิบัติที่มีต่อชุมชนชายฝั่ง 6) การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนกับคณะทำงาน OFWG 7) ส่งเสริมการมีส่วนร่วมระหว่างคณะทำงาน (Cross Fora Collaboration) เช่น คณะทำงานหุ้นส่วนเชิงนโยบายด้านความมั่นคงทางอาหาร (Policy Partnership on Food Security: PPFS) คณะอนุกรรมการด้านพิธีการศุลกากรเอเปค (Sub - Committee on Customs Procedures: SCCP) รวมถึงการสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศและแผนที่ขั้นตอนดำเนินการการส่งเสริมบทบาทสตรีในเอเปค (APEC La Serena Roadmap) 8) แผนการดำเนินงานที่เกี่ยวกับการฟื้นฟูหลังการระบาดของโควิด-19 ที่สอดคล้องกับความยั่งยืนทางทะเล 9) การส่งเสริมความร่วมมือของคณะทำงาน OFWG และศูนย์เอเปค 3 แห่ง ได้แก่ ศูนย์การศึกษาและอบรมสิ่งแวดล้อมทางทะเล (APEC Marine Environmental Training and Education Center: AMTEC) ศูนย์การพัฒนาทางทะเลอย่างยั่งยืน (APEC Marine Sustainable Development Center: AMSDC) และศูนย์ข้อมูลข่าวสารทางมหาสมุทรและประมง (APEC Ocean and Fisheries Information Center: AOFIC) 10) ส่งเสริมและสนับสนุนการจัดทำความร่วมมือทางวิชาการเพื่อเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรในเอเปค ทั้งในแบบที่ขอทุนสนับสนุนจากเอเปค (APEC Fund) และไม่ขอทุนสนับสนุนจากเอเปค (Self - Funded) https://www.thaipost.net/hi-light/264674/
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|