เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 24-11-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก Nation TV


'ปลาทูไทย' หน้างอคอหักกับประโยชน์หลักคับเข่ง



เติมโอเมก้า 3 และสารอาหารดีๆ ให้ร่างกายด้วย "ปลาทู" ของอร่อยที่มาพร้อมกับประโยชน์หลากหลาย ทั้งให้โปรตีนสูง ไขมันต่ำ บำรุงสมอง ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด

ปลาไทยอย่าง "ปลาทู" ถูกเสิร์ฟเป็นเมนูคู่ครัวทุกยุคทุกสมัย หนึ่งในปลาทะเลที่มีขนาดตัวไม่ใหญ่ มีสีเงินเงาออกน้ำเงินแกมเขียว โดดเด่นด้วยท่าทางที่ถูกจัดวางในเข่งแบบ "หน้างอ คอหัก" ของดีขึ้นชื่อเมืองแม่กลอง จ.สมุทรสงคราม

วงจรชีวิตปลาทู เริ่มต้นขึ้นในทะเลลึกแถบหมู่เกาะอ่างทอง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งมีธรรมชาติอันพิสุทธิ์ แหล่งกำเนิดปลาทูวัยละอ่อนก่อนจะออกหาอาหารว่ายทวนน้ำเลียบชายฝั่งขึ้นทางเหนือ จนกระทั่งเข้าสู่บริเวณอ่าวไทยชั้นใน เมื่อได้รับตะกอนสารอาหารอันสมบูรณ์ในช่วงฤดูน้ำหลากจากระบบนิเวศปากแม่น้ำ ก็พอดีเวลากลายเป็นปลาทูเต็มสาวสมบูรณ์วัย และได้ชื่อว่าเป็น "ปลาทูแม่กลอง"

ระบบนิเวศปากแม่น้ำซึ่งอุดมสมบูรณ์ด้วยตะกอนแร่ธาตุสารอาหาร ทำให้ปลาทูที่เจริญเติบโตเต็มวัยใกล้ชายฝั่งในบริเวณนี้มีรสชาติดีที่สุด ปลาทูแม่กลองมีลักษณะลำตัวสั้น หนังบาง และเนื้อนุ่มหวานมัน สุดยอดความอร่อยคือ "ปลาทูโป๊ะ" หมายถึงปลาทูที่จับได้ด้วยเครื่องมือประมงประจำที่ที่เรียกว่า "โป๊ะ" ซึ่งปลาถูกจับด้วยวิธีละมุนละม่อม เมื่อโผล่พ้นน้ำขึ้นมาได้ราว 5 ? 10 นาที ปลาทูก็ตายโดยไม่บอบช้ำ ท้องไม่แตก รสชาติเนื้อปลายังคงสภาพดีที่สุด เมื่อนำไปปรุงอาหารสดๆ จะมีกลิ่นหอมของเนื้อปลา รสชาติอร่อย เนื้อนุ่มไม่กระด้างไม่เปื่อยยุ่ย น่าเสียดายที่ปัจจุบันปลาทูโป๊ะเหลือน้อยมาก เพราะหมดไปพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงของสภาพทรัพยากร เหลือเพียงแต่ปลาทูจากอวนติด ที่ทำให้เราได้รับประทานปลาทูแม่กลองสด


วิธีเลือกปลาทูสด

แนะนำให้เลือกที่ลูกตานูน ตาดำมีสีสดใส ส่วนหลังของลำตัวมีสีเขียวเป็นพื้น ส่วนท้องมีสีขาวหรือสีเงิน หางปลายังมีสีเหลือง ตามลำตัวมีเมือกลื่นๆ เหงือกสีแดงออกชมพู ปลาไม่มีกลิ่น เนื้อแน่น เมื่อใช้นิ้วกดที่กลางลำตัวแล้วปล่อยเนื้อจะคืนสภาพไม่ยุบ

ปัจจุบันปลาทูแม่กลองที่คนทั่วไปคุ้นเคย เป็นปลาทูอยู่ในเข่งลักษณะหน้างอคอหัก นั่นคือ "ปลาทูนึ่ง" ซึ่งเป็นวิธีถนอมอาหารให้ปลาทูสามารถส่งไปขายในพื้นที่ไกลได้ ในยุคที่การคมนาคมขนส่งยังไม่สะดวกรวดเร็วเหมือนปัจจุบัน ปลาทูสดที่จับมาใหม่ๆ จะถูกล้างควักไส้แล้วบรรจุลงแข่ง โดยการหักคอให้หน้างองุ้มลงเพื่อให้ปลาทูสามารถอยู่ในเข่งได้สวยงามพอดีไม่มีส่วนเกินยาวยื่นพ้นเข่งออกมา ปลาทูที่เรียงรายในเข่งจะถูกนำไปต้มในน้ำเกลือเดือด กลายเป็นปลาทูต้ม หรือที่เรียกกันว่าปลาทูนึ่ง อนึ่งทุกวันนี้มีการนำปลาทูชนิดอื่นซึ่งเป็นปลาทูยาว ปลาทูน้ำลึก ปลารัง หรือปลาอินโดที่มีขนาดใหญ่ ลำตัวยาว เนื้อแข็ง มาทำปลาทูนึ่งลักษณะหน้างอคอหักเช่นกัน ทำให้เกิดความสับสนและเข้าใจคลาดเคลื่อนเหมารวมเรียกว่า ปลาทูแม่กลอง แท้จริงแล้วมีความแตกต่างกัน


ปลาทูกับคุณค่าทางโภชนาการ

ข้อมูลจากกองโภชนาการ กรมอนามัย แสดงคุณค่าทางโภชนาการของปลาทูนึ่งในส่วนที่กินได้ปริมาณ 100 กรัม ดังนี้

- พลังงาน 136 กิโลแคลอรี

- โปรตีน 24.9 กรัม

- ไขมัน 4.0 กรัม

- แคลเซียม 163 มิลลิกรัม

- ฟอสฟอรัส 640 มิลลิกรัม

- เหล็ก 3.0 มิลลิกรัม

- วิตามินบี 1 0.09 มิลลิกรัม

- วิตามินบี 2 0.10 มิลลิกรัม

- ไนอะซิน 6.1 มิลลิกรัม

- ไอโอดีน 48 ไมโครกรัม

- คอเลสเตอรอล 76 มิลลิกรัม

- ไขมัน 6.20%

- กรดไขมันอิ่มตัว (SAT) 1,695 มิลลิกรัม

- กรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว (MUFA) 953 มิลลิกรัม

- กรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง (PUFA) 1,978 มิลลิกรัม

- กรดโอเลอิก (18:1) 391 มิลลิกรัม

- กรดไลโนเลอิก (18:2) 87 มิลลิกรัม

- อีพีเอ (EPA) 636 มิลลิกรัม

- DHA 778 มิลลิกรัม


ปลาทูมีโปรตีนสูง

ปลาทูเป็นแหล่งที่ดีของโปรตีน และโปรตีนจากเนื้อปลาก็เป็นโปรตีนที่ย่อยง่ายกว่าเนื้อสัตว์ชนิดอื่นๆ ส่งผลให้ระบบย่อยไม่ต้องทำงานย่อยโปรตีนจากปลาหนักเท่าการย่อยโปรตีนจากเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อหมู หรือเนื้อวัว อีกทั้งโปรตีนในเนื้อปลาทูยังมีปริมาณค่อนข้างสูง โดยปลาทู 100 กรัมมีโปรตีนอยู่ถึง 24.9 กรัม ร่างกายก็จะได้รับโปรตีนจากปลาทูไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ช่วยเสริมสร้างร่างกายให้เจริญเติบโตตามวัยอันควรอีกด้วย


ปลาทูอุดมด้วย EPA และ DHA

ปลาทูอุดมด้วย EPA และ DHA ซึ่งเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัว โดยสารทั้งสองชนิดนี้จะทำหน้าที่ลดการจับตัวของเกล็ดเลือดที่ผิดปกติ ในบางรายจึงทำให้เป็นภาวะหลอดเลือดแข็งตัวหรือพบการอักเสบ นอกจากนั้น ทั้ง EPA และ DHA ยังมีส่วนช่วยในการลดระดับไขมันชนิดที่ทำให้เกิดลิ่มเลือดหรือหลอดเลือดอุดตันได้


ปลาทูแหล่งโอเมก้า 3 และ 6

โอเมก้า 3 และ 6 เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนที่จำเป็นต่อร่างกาย มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมอง ทั้งยังเป็นส่วนประกอบของเยื่อบุผนังเซลล์ ช่วยลดคอเลสเตอรอล ลดความเสี่ยงทั้งโรคหัวใจและหลอดเลือด โอเมก้า 3 และ 6 ในปลาทูนี้ยังเป็นโครงสร้างที่สำคัญของเนื้อเยื้อบริเวณจอประสาทตา หรือ retina ที่ช่วยในการมองเห็นอีกด้วย นอกจากนี้ ไขมันโอเมก้า 3 เป็นกรดที่จำเป็นต่อร่างกายและสมอง มีส่วนช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อม อัลไซเมอร์ นอกจากนี้ ผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ยังพบว่า กรดไขมันโอเมก้า 3 เป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อการทำงานของระบบประสาทและสมอง และการขาดกรดไขมันชนิดนี้ อาจเป็นสาเหตุของโรคซึมเศร้าและโรคสมาธิสั้นได้ โดยเฉพาะในเด็กวัยกำลังเรียนรู้ หากขาดกรดไขมันโอเมก้า 3 อาจมีพัฒนาการด้านการอ่าน-เขียนค่อนข้างช้ากว่าเด็กในวันเดียวกันที่ได้รับกรดไขมันโอเมก้า 3 ในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย


แคลเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามินที่หลากหลายพบได้ในปลาทู

ในปลาทูมีแคลเซียม และฟอสฟอรัส สารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยสารอาหารเหล่านี้จะมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างความแข็งแรงกระดูกและฟันได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในวัยเด็กและวัยผู้สูงอายุ ทั้งยังเต็มไปด้วยวิตามินต่างๆ เช่น ไอโอดีน ธาตุเหล็ก วิตามินบี 1 บี 2 กรดไขมันจำเป็น ไนอะซิน ถึงแม้จะมีปริมาณอย่างละนิดแต่ก็เป็นสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกาย ช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างเต็มที่ บำรุงประสาทและสมอง

เห็นไหมว่า "ปลาทูไทย" ของอร่อยใกล้ตัว ราคาไม่แพง ก็อัดแน่นไปด้วยคุณประโยชน์ไม่แพ้แซลมอนปลาทะเลน้ำลึกที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาไกล มื้อต่อไปคงต้องมีไว้ในลิสต์รายการอาหารบ้างแล้ว


https://www.nationtv.tv/lifestyle/food/378893693

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 17:05


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger