เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 24-11-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน 2565

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณอ่าวไทยตอนบนและภาคตะวันออก ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนบน

สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันตอนล่าง คลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 24 ? 25 พ.ย. 65 หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมอ่าวไทยตอนบน มีแนวโน้มจะเคลื่อนผ่านภาคใต้ตอนบนลงสู่ทะเลอันดามันตอนบน ประกอบกับร่องมรสุมที่พาดผ่านบริเวณภาคใต้ตอนบน ส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยมีฝนตกหนักมากบางแห่งใน ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนคลื่มลมบริเวณอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 26 ? 29 พ.ย. 65 ร่องมรสุมที่พาดผ่านบริเวณภาคใต้มีกำลังอ่อน ในขณะที่ลมตะวันออกเฉียงใต้กำลังอ่อนพัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลง สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง โดยทั้งบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1 ? 2 เมตร และบริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 24 ? 25 พ.ย. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยและภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย สำหรับชาวเรือในบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 24 พ.ย. 65 นี้









__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 24-11-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์


แข็งแกร่ง! เวนิสยังคงแห้ง-ระบบเขื่อน "โมเซ" ป้องกันน้ำขึ้นได้

ระบบเขื่อนที่สร้างขึ้นเพื่อปกป้องเมืองเวนิส และจัตุรัสปียัซซา ซาน มาร์โก อันโด่งดัง จากน้ำท่วม สามารถรับมือความท้าทายของระดับน้ำที่สูงขึ้นเป็นพิเศษได้ หลังเกิดฝนตกหนักทั่วอิตาลี ในช่วงที่ผ่านมา



สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานจากเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ว่า แถลงการณ์สภาพอากาศของอิตาลีคาดการณ์ว่า ระดับน้ำจะอยู่ที่ 170 ซม. ซึ่งใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้มีการประกาศเตือนอุทกภัย ที่อาจทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองจมบาดาล

อย่างไรก็ตาม โครงการ "โมเซ" หรือระบบประตูระบายน้ำ 78 บาน ที่โผล่ขึ้นมาจากพื้นของเมืองเวนิส ถูกเปิดใช้งานล่วงหน้าช่วงข้ามคืน เพื่อปกป้องเมืองจากระดับน้ำสูงที่เห็นได้จากทะเล

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เมืองเวนิสได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์น้ำขึ้นเป็นประจำ ดังเช่นในปี 2562 ที่เมืองได้รับความเสียหายจากน้ำขึ้นสูงเป็นอันดับ 2 เท่าที่เคยมีการบันทึกไว้ และอีกเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน

เหตุการณ์ข้างต้น เกิดจากการผสมผสานของปัจจัยหลายประการที่รุนแรงขึ้น จากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ตั้งแต่ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น และน้ำขึ้นสูงผิดปกติ ไปจนถึงการทรุดตัวของดิน ซึ่งทำให้ระดับพื้นดินของเมืองจมลง

"หากไม่มีแนวกั้นโมเซ เมืองเวนิสจะต้องจมบาดาลอย่างหายนะ" นายมัตเตโอ ซัลวินี รมว.คมนาคมอิตาลี กล่าว

ทั้งนี้ โครงการโมเซ ซึ่งมีมูลค่าหลายพันล้านยูโร และได้รับการออกแบบเมื่อปี 2527 มีจุดมุ่งหมายเพื่อปกป้องเมืองเวนิสจากระดับน้ำสูงได้ถึง 3 เมตร ซึ่งเกินกว่าสถิติปัจจุบัน แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โครงการนี้ได้รับความเสียหายจากการทุจริต, ภาวะต้นทุนบานปลาย และความล่าช้าเป็นเวลานาน


https://www.dailynews.co.th/news/1714899/

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 24-11-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


เจ้าท่าพัทยายันเสริมทรายชายหาดนาจอมเทียนเฟสแรกเสร็จทันเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน

ศูนย์ข่าวศรีราชา - เจ้าท่าพัทยา ยันโครงการเสริมทรายชายหาดนาจอมเทียน เมืองพัทยา เฟสแรกเสร็จทันส่งมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวอย่างแน่นอน ประกาศพร้อมเดินหน้าเฟส 2 ระยะ 2.7 กม.ต่อทันที



วันนี้ (23 พ.ย.) นายเอกราช คันธโร ผู้อำนวยการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาพัทยา เผยถึงความคืบหน้าการเสริมทรายชายหาดนาจอมเทียน เฟสแรก ว่า หลังกรมเจ้าท่าได้ว่าจ้างบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เข้าทำการเสริมทรายตั้งแต่ปีงบประมาณ 2563-2565 ซึ่งถือเป็นงบผูกพันที่มีระยะเวลาตามสัญญาที่จะต้องแล้วเสร็จใน พ.ย.2565 แต่ระหว่างการงานกลับพบอุปสรรคหลายด้าน

ทั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงการแก้ไขแบบในจุดทางขึ้นลงเรือรวม 2 จุดที่ไม่สามารถเสริมทรายชายหาดได้ เนื่องจากกีดขวางการจราจรในการนำเรือขึ้นลง ซึ่งกรมเจ้าท่า ได้เสนอเรื่องไปยังคณะกรรมการเพื่อขอรับความเห็นชอบในแก้ไขแบบ ซึ่งหากได้รับความเห็นชอบ ผู้รับจ้างจะดำเนินการเสริมทรายต่อไป

"ส่วนเรื่องระบบการชะลอน้ำที่ต้องวางเส้นท่อตลอดแนวถนนด้านหลังทางเดินเท้าป้องกันมวลน้ำที่จะไหลเข้าสู่ชายหาดนั้น กรมเจ้าท่า จะมีการพิจารณาถึงความเหมาะสมในด้านความคุ้มค่าทางการลงทุน ซึ่งจะเพิ่มจุดชะลอน้ำไปในจุดวิกฤตที่มีน้ำท่วมเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการแก้ไขแบบเช่นกัน"

ผู้อำนวยการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาพัทยา ยังเผยอีกว่า หากการแก้ไขปัญหาทั้ง 2 ส่วนผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการที่ปรึกษาโครงการ กรมเจ้าท่าจะควบคุมงานกับผู้รับจ้างให้ได้ดำเนินการตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดเพื่อให้แล้วเสร็จทันเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน และนักท่องเที่ยว

ขณะที่แหล่งทรายซึ่งจะนำมาเสริมทรายชายหาดนาจอมเทียน ในเฟสแรก ยืนยันว่ามีเพียงพอ และในปี 2566 หากการเสริมทรายชายหาดนานจอมเทียนเฟสแรกแล้วเสร็จ กรมเจ้าท่าจะได้รับงบประมาณต่อเนื่องเพื่อเสริมทรายในเฟสที่ 2 ระยะทาง 2.7 กิโลเมตร จากซอยจอมเทียน 11 ไปจนถึงโค้งดงตาลต่อทันที และในขณะนี้อยู่ในระหว่างขั้นตอนการประกวดราคาหาผู้รับจ้างเพื่อดำเนินการ


https://mgronline.com/local/detail/9650000111797

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 24-11-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ


ชาวปะทิว ชุมพร 300 คน ค้านร่างประกาศ สวล. ขีดแนว 4 ตำบลห้ามทำประมง-สร้างตึก

ค้านร่างประกาศกำหนดเขต-มาตรการคุ้มครอง สวล. 4 ตำบลใน อ.ปะทิว จ.ชุมพร กำหนดระยะถอยร่นจากชายหาด 5,400 เมตรห้ามทำประมง-ก่อสร้างตึก



วันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (22 พ.ย. 65) ที่ศาลาประชาคม หมู่ที่ 2 ต.บางสน อ.ปะทิว จ.ชุมพร ประชาชนเครือข่ายสภาองค์กรชุมชนอำเภอปะทิวประมาณ 300 คน นำโดยนายศักดิ์ชาย พยันตา ประธานเครือข่าย ได้จัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2565 ได้ให้ความเห็นชอบร่างประกาศของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

เกี่ยวกับกำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมอำเภอปะทิวในบริเวณชายฝั่งพื้นที่ 4 ตำบล ประกอบด้วย ต.ปากคลอง ต.ชุมโค ต.บาสน และ ต.สะพลี ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ในระยะยาว

โดยมีนายเจริญโชค พรหมชุติมา นายอำเภอปะทิว ทำหน้าที่ประธานในการประชุม มีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด (ทสจ.) ชุมพร เข้าร่วมชี้แจงข้อเท็จจริงและรับฟังความคิดเห็น นอกจากนั้น ยังมีนายอำพล ธานีครุฑ รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชุมพร ที่ปรึกษานายก อบจ.ชุมพร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ฯลฯ เข้าร่วมประชุมและให้คำแนะนำด้วย

นายเจริญโชคกล่าวว่า ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรฯดังกล่าว ตนได้รับข้อมูลเบื้องต้นว่า เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2552 และเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2565 ก็มีข่าวว่า ครม.มีมติให้ความเห็นชอบร่างประกาศฉบับนี้ จึงแสดงว่ากรณีดังกล่าวไม่ได้เป็นเรื่องใหม่ แต่ได้มีการศึกษามานานกว่า 10 ปี โดยในปี 2554-2555 ได้มีการประชุมในเรื่องนี้ที่ที่ว่าการ อ.ปะทิว ซึ่งก่อนหน้านั้นจังหวัดชุมพรได้มีคำสั่งตั้งคณะทำงานเรื่องนี้ในปี 2553 ด้วย

แต่เมื่อมีความไม่สบายใจของประชาชนในเรื่องนี้ ในฐานะที่ตนเป็นนายอำเภอปะทิวก็มีความกังวลใจเช่นเดียวกันที่ประชาชนในพื้นที่เกรงว่าจะได้รับผลกระทบในเรื่องการทำมาหากินจากประกาศกระทรวงดังกล่าว

นายอำพลกล่าวว่า คิดว่าคงเป็นที่ร่างประกาศฉบับนี้คงจะว่างเกินเหตุ กรณีที่อ้างว่าทรัพยากรธรรมชาติใน อ.ปะทิวเริ่มเสื่อมโทรม จึงต้องร่างประกาศฉบับนี้ออกมาถือว่าฟังไม่ขึ้น และถือเป็นร่างประกาศที่ซ้ำซ้อนกับที่เคยออกในช่วงที่ผ่านมา เพราะมีทั้งประกาศกรมประมงที่ห้ามทำประมงหลายเรื่องมาก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ก็มีประกาศห้ามอีกมากมายหลายเรื่อง

นอกจากนั้น ยังมีประกาศต่าง ๆ ของกรมเจ้าท่า และยังมีประกาศห้ามเรื่องป่าชายเลนอีก จึงสงสัยว่าทำไมไม่เอามารวมเป็นฉบับเดียวกันเลย หากชาวบ้านจะทำอะไรเกี่ยวกับการประมงหรือการท่องเที่ยว ถามว่าต้องทำเรื่องขออนุญาตกี่หน่วยงาน ที่ว่าประกาศต่าง ๆ ที่ออกมาเหล่านี้ มีส่วนส่งเสริมอาชีพชาวบ้านอะไรบ้าง

ดังนั้น จึงขึ้นกับทุกคนที่เข้าร่วมประชุมในวันนี้ว่าจะยอมรับร่างประกาศที่กำลังจะมีการประกาศใช้นี้ได้หรือไม่ หากยอมรับไม่ได้จะต้องรีบทำหนังสือและร่วมกันลงชื่อถึง ทสจ.ชุมพรว่าพวกเราไม่ยอมรับ และพวกเราขอดูแลทรัพยากรในพื้นที่ของพวกเรากันเอง พร้อมกับต้องรีบทำหนังสือถึงส่วนกลางด้วย

หลังการประชุมและแสดงความคิดเห็นประมาณ 2 ชั่วโมง นายพรชัย พรหมรักษ์ ผู้ดำเนินรายการได้ขอมติจากผู้เข้าร่วมประชุมว่ามีผู้ใดไม่เห็นด้วยกับร่างประกาศกระทรวงดังกล่าว ปรากฏว่าทุกคนที่เข้าร่วมประชุมต่างยกมือว่าไม่เห็นด้วย และไม่มีผู้ร่วมประชุมคนใดที่ยกมือเห็นด้วยกับร่างประกาศกระทรวงดังกล่าวเลย จึงมีการบันทึกจากการประชุมเพื่อเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและ ครม.พิจารณาต่อไป

สำหรับสาระสำคัญของร่างประกาศกระทรวงดังกล่าวก็คือ มาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ 4 ตำบล เช่น พื้นที่ชายหาดที่อยู่ในท้องที่ดังกล่าว และทำเลที่อยู่ถัดออกไปจากชายหาด ระยะ 5,400 เมตร ห้ามทำการประมงโดยใช้เครื่องมือต่าง ๆ ห้ามก่อสร้างอาคารทุกชนิด พื้นที่แนวสันทราย ห้ามขุด ถม หรือเปลี่ยนแปลงสภาพธรรมชาติของพื้นที่บริเวณแนวสันทราย พื้นที่ภายในเขตท้องที่ดังกล่าว

รวมทั้งพื้นที่เกาะต่าง ๆ ที่อยู่ในแนวเขตพื้นที่ควบคุมการใช้เครื่องมือทำการประมง ห้ามก่อสร้างอาคารทุกชนิดในพื้นที่ที่วัดจากแนวชายฝั่งทะเลเข้าไปในแผ่นดิน ระยะ 20 เมตร


https://www.prachachat.net/local-economy/news-1127408

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #5  
เก่า 24-11-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก Nation TV


'ปลาทูไทย' หน้างอคอหักกับประโยชน์หลักคับเข่ง



เติมโอเมก้า 3 และสารอาหารดีๆ ให้ร่างกายด้วย "ปลาทู" ของอร่อยที่มาพร้อมกับประโยชน์หลากหลาย ทั้งให้โปรตีนสูง ไขมันต่ำ บำรุงสมอง ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด

ปลาไทยอย่าง "ปลาทู" ถูกเสิร์ฟเป็นเมนูคู่ครัวทุกยุคทุกสมัย หนึ่งในปลาทะเลที่มีขนาดตัวไม่ใหญ่ มีสีเงินเงาออกน้ำเงินแกมเขียว โดดเด่นด้วยท่าทางที่ถูกจัดวางในเข่งแบบ "หน้างอ คอหัก" ของดีขึ้นชื่อเมืองแม่กลอง จ.สมุทรสงคราม

วงจรชีวิตปลาทู เริ่มต้นขึ้นในทะเลลึกแถบหมู่เกาะอ่างทอง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งมีธรรมชาติอันพิสุทธิ์ แหล่งกำเนิดปลาทูวัยละอ่อนก่อนจะออกหาอาหารว่ายทวนน้ำเลียบชายฝั่งขึ้นทางเหนือ จนกระทั่งเข้าสู่บริเวณอ่าวไทยชั้นใน เมื่อได้รับตะกอนสารอาหารอันสมบูรณ์ในช่วงฤดูน้ำหลากจากระบบนิเวศปากแม่น้ำ ก็พอดีเวลากลายเป็นปลาทูเต็มสาวสมบูรณ์วัย และได้ชื่อว่าเป็น "ปลาทูแม่กลอง"

ระบบนิเวศปากแม่น้ำซึ่งอุดมสมบูรณ์ด้วยตะกอนแร่ธาตุสารอาหาร ทำให้ปลาทูที่เจริญเติบโตเต็มวัยใกล้ชายฝั่งในบริเวณนี้มีรสชาติดีที่สุด ปลาทูแม่กลองมีลักษณะลำตัวสั้น หนังบาง และเนื้อนุ่มหวานมัน สุดยอดความอร่อยคือ "ปลาทูโป๊ะ" หมายถึงปลาทูที่จับได้ด้วยเครื่องมือประมงประจำที่ที่เรียกว่า "โป๊ะ" ซึ่งปลาถูกจับด้วยวิธีละมุนละม่อม เมื่อโผล่พ้นน้ำขึ้นมาได้ราว 5 ? 10 นาที ปลาทูก็ตายโดยไม่บอบช้ำ ท้องไม่แตก รสชาติเนื้อปลายังคงสภาพดีที่สุด เมื่อนำไปปรุงอาหารสดๆ จะมีกลิ่นหอมของเนื้อปลา รสชาติอร่อย เนื้อนุ่มไม่กระด้างไม่เปื่อยยุ่ย น่าเสียดายที่ปัจจุบันปลาทูโป๊ะเหลือน้อยมาก เพราะหมดไปพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงของสภาพทรัพยากร เหลือเพียงแต่ปลาทูจากอวนติด ที่ทำให้เราได้รับประทานปลาทูแม่กลองสด


วิธีเลือกปลาทูสด

แนะนำให้เลือกที่ลูกตานูน ตาดำมีสีสดใส ส่วนหลังของลำตัวมีสีเขียวเป็นพื้น ส่วนท้องมีสีขาวหรือสีเงิน หางปลายังมีสีเหลือง ตามลำตัวมีเมือกลื่นๆ เหงือกสีแดงออกชมพู ปลาไม่มีกลิ่น เนื้อแน่น เมื่อใช้นิ้วกดที่กลางลำตัวแล้วปล่อยเนื้อจะคืนสภาพไม่ยุบ

ปัจจุบันปลาทูแม่กลองที่คนทั่วไปคุ้นเคย เป็นปลาทูอยู่ในเข่งลักษณะหน้างอคอหัก นั่นคือ "ปลาทูนึ่ง" ซึ่งเป็นวิธีถนอมอาหารให้ปลาทูสามารถส่งไปขายในพื้นที่ไกลได้ ในยุคที่การคมนาคมขนส่งยังไม่สะดวกรวดเร็วเหมือนปัจจุบัน ปลาทูสดที่จับมาใหม่ๆ จะถูกล้างควักไส้แล้วบรรจุลงแข่ง โดยการหักคอให้หน้างองุ้มลงเพื่อให้ปลาทูสามารถอยู่ในเข่งได้สวยงามพอดีไม่มีส่วนเกินยาวยื่นพ้นเข่งออกมา ปลาทูที่เรียงรายในเข่งจะถูกนำไปต้มในน้ำเกลือเดือด กลายเป็นปลาทูต้ม หรือที่เรียกกันว่าปลาทูนึ่ง อนึ่งทุกวันนี้มีการนำปลาทูชนิดอื่นซึ่งเป็นปลาทูยาว ปลาทูน้ำลึก ปลารัง หรือปลาอินโดที่มีขนาดใหญ่ ลำตัวยาว เนื้อแข็ง มาทำปลาทูนึ่งลักษณะหน้างอคอหักเช่นกัน ทำให้เกิดความสับสนและเข้าใจคลาดเคลื่อนเหมารวมเรียกว่า ปลาทูแม่กลอง แท้จริงแล้วมีความแตกต่างกัน


ปลาทูกับคุณค่าทางโภชนาการ

ข้อมูลจากกองโภชนาการ กรมอนามัย แสดงคุณค่าทางโภชนาการของปลาทูนึ่งในส่วนที่กินได้ปริมาณ 100 กรัม ดังนี้

- พลังงาน 136 กิโลแคลอรี

- โปรตีน 24.9 กรัม

- ไขมัน 4.0 กรัม

- แคลเซียม 163 มิลลิกรัม

- ฟอสฟอรัส 640 มิลลิกรัม

- เหล็ก 3.0 มิลลิกรัม

- วิตามินบี 1 0.09 มิลลิกรัม

- วิตามินบี 2 0.10 มิลลิกรัม

- ไนอะซิน 6.1 มิลลิกรัม

- ไอโอดีน 48 ไมโครกรัม

- คอเลสเตอรอล 76 มิลลิกรัม

- ไขมัน 6.20%

- กรดไขมันอิ่มตัว (SAT) 1,695 มิลลิกรัม

- กรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว (MUFA) 953 มิลลิกรัม

- กรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง (PUFA) 1,978 มิลลิกรัม

- กรดโอเลอิก (18:1) 391 มิลลิกรัม

- กรดไลโนเลอิก (18:2) 87 มิลลิกรัม

- อีพีเอ (EPA) 636 มิลลิกรัม

- DHA 778 มิลลิกรัม


ปลาทูมีโปรตีนสูง

ปลาทูเป็นแหล่งที่ดีของโปรตีน และโปรตีนจากเนื้อปลาก็เป็นโปรตีนที่ย่อยง่ายกว่าเนื้อสัตว์ชนิดอื่นๆ ส่งผลให้ระบบย่อยไม่ต้องทำงานย่อยโปรตีนจากปลาหนักเท่าการย่อยโปรตีนจากเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อหมู หรือเนื้อวัว อีกทั้งโปรตีนในเนื้อปลาทูยังมีปริมาณค่อนข้างสูง โดยปลาทู 100 กรัมมีโปรตีนอยู่ถึง 24.9 กรัม ร่างกายก็จะได้รับโปรตีนจากปลาทูไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ช่วยเสริมสร้างร่างกายให้เจริญเติบโตตามวัยอันควรอีกด้วย


ปลาทูอุดมด้วย EPA และ DHA

ปลาทูอุดมด้วย EPA และ DHA ซึ่งเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัว โดยสารทั้งสองชนิดนี้จะทำหน้าที่ลดการจับตัวของเกล็ดเลือดที่ผิดปกติ ในบางรายจึงทำให้เป็นภาวะหลอดเลือดแข็งตัวหรือพบการอักเสบ นอกจากนั้น ทั้ง EPA และ DHA ยังมีส่วนช่วยในการลดระดับไขมันชนิดที่ทำให้เกิดลิ่มเลือดหรือหลอดเลือดอุดตันได้


ปลาทูแหล่งโอเมก้า 3 และ 6

โอเมก้า 3 และ 6 เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนที่จำเป็นต่อร่างกาย มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมอง ทั้งยังเป็นส่วนประกอบของเยื่อบุผนังเซลล์ ช่วยลดคอเลสเตอรอล ลดความเสี่ยงทั้งโรคหัวใจและหลอดเลือด โอเมก้า 3 และ 6 ในปลาทูนี้ยังเป็นโครงสร้างที่สำคัญของเนื้อเยื้อบริเวณจอประสาทตา หรือ retina ที่ช่วยในการมองเห็นอีกด้วย นอกจากนี้ ไขมันโอเมก้า 3 เป็นกรดที่จำเป็นต่อร่างกายและสมอง มีส่วนช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อม อัลไซเมอร์ นอกจากนี้ ผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ยังพบว่า กรดไขมันโอเมก้า 3 เป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อการทำงานของระบบประสาทและสมอง และการขาดกรดไขมันชนิดนี้ อาจเป็นสาเหตุของโรคซึมเศร้าและโรคสมาธิสั้นได้ โดยเฉพาะในเด็กวัยกำลังเรียนรู้ หากขาดกรดไขมันโอเมก้า 3 อาจมีพัฒนาการด้านการอ่าน-เขียนค่อนข้างช้ากว่าเด็กในวันเดียวกันที่ได้รับกรดไขมันโอเมก้า 3 ในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย


แคลเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามินที่หลากหลายพบได้ในปลาทู

ในปลาทูมีแคลเซียม และฟอสฟอรัส สารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยสารอาหารเหล่านี้จะมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างความแข็งแรงกระดูกและฟันได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในวัยเด็กและวัยผู้สูงอายุ ทั้งยังเต็มไปด้วยวิตามินต่างๆ เช่น ไอโอดีน ธาตุเหล็ก วิตามินบี 1 บี 2 กรดไขมันจำเป็น ไนอะซิน ถึงแม้จะมีปริมาณอย่างละนิดแต่ก็เป็นสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกาย ช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างเต็มที่ บำรุงประสาทและสมอง

เห็นไหมว่า "ปลาทูไทย" ของอร่อยใกล้ตัว ราคาไม่แพง ก็อัดแน่นไปด้วยคุณประโยชน์ไม่แพ้แซลมอนปลาทะเลน้ำลึกที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาไกล มื้อต่อไปคงต้องมีไว้ในลิสต์รายการอาหารบ้างแล้ว


https://www.nationtv.tv/lifestyle/food/378893693

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:58


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger