#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันศุกร์ที่ 13 มกราคม 2566
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว ประกอบกับมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในขณะที่มีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนหรือฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่เกิดจากสภาพอากาศแห้งไว้ด้วย สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อน ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนบริเวณอ่าวไทยทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ฝุ่นละอองในระยะนี้: ประเทศไทยตอนบนมีการสะสมฝุ่นละออง/หมอกควันอยู่ในเกณฑ์น้อยถึงปานกลาง เนื่องจากมีฝนตกในบริเวณดังกล่าว กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 13 ? 15 ม.ค. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนบางแห่งเกิดขึ้นได้ ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมบริเวณอ่าวไทย และภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังอ่อน แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ส่วนในวันที่ 16 - 18 ม.ค. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 3 - 5 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมบริเวณอ่าวไทย และภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังแรงขึ้น บริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ข้อควรระวัง ประชาชนบริเวณภาคใต้ให้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ในช่วงวันที่ 16 ? 18 ม.ค.
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์
นักท่องเที่ยวฮือฮา! เจอ 'พะยูน' ว่ายน้ำหมุนตัวระยะใกล้พื้นที่ 'เกาะลิบง' พบ "พะยูน" ว่ายน้ำหาหญ้าทะเลแหล่งอาหาร ห่างจากสะพานหอชมพะยูน ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง เพียง 3-4 เมตร แถมโชว์หมุนตัวอย่างสบายใจ สร้างความฮือฮาให้แก่นักท่องเที่ยวผู้โชคดีเป็นอย่างมาก เมื่อวันที่ 12 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณสะพานหอชมพะยูน ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง มีนักท่องเที่ยวถ่ายคลิปพะยูนที่กำลังว่ายน้ำมาใกล้สะพานเพื่ออวดโฉม รวมทั้งหมุนตัวโชว์อีกด้วย สร้างความตื่นตาตื่นใจให้ผู้พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้ "เกาะลิบง" เป็นแหล่งอาหารและหญ้าทะเลที่อุดมสมบูรณ์ของทะเลตรัง อีกทั้งชาวบ้าน ชาวประมง และผู้นำท้องถิ่น ต่างคอยเฝ้าระวังและดูแลพะยูนให้มีความปลอดภัยมากที่สุด จนทำให้พะยูนรู้สึกคุ้นชินกับคนมาก สามารถว่ายน้ำเล่นในระยะใกล้ได้ โดยไม่หวาดกลัว ซึ่งนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนเกาะลิบง ต่างใฝ่ฝันที่จะได้ชมพะยูนตัวเป็น ๆ สักครั้ง จึงนับเป็นวันโชคดีอีกวัน ที่นักท่องเที่ยวได้ยลโฉมกันแบบใกล้ชิดเช่นนี้ ด้าน นายอานนท์ กิ่งเกาะยาว อายุ 35 ปี ไกด์หนุ่มบนเกาะลิบง กล่าวว่า นับเป็นความโชคดีที่นักท่องเที่ยวที่ได้เห็นพะยูนว่ายน้ำมาหาหญ้าทะเล อวดโฉมอย่างใกล้ชิด บริเวณสะพานหอคอยพะยูน ห่างจากสะพานแค่ 3-4 เมตร แม้ว่าเวลานี้ จำนวนพะยูนจะลดน้อยลง แต่ก็ยังสามารถมาดูพะยูนได้ที่เกาะลิบง จึงต้องเร่งอนุรักษ์สัตว์น้ำและหญ้าทะเล เพื่อคืนความสมบูรณ์ของสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้พะยูนมาพักอาศัย และขยายพันธุ์ในพื้นที่นี้ตลอดไป https://www.dailynews.co.th/news/1886477/
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|