เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 16-01-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันจันทร์ที่ 16 มกราคม 2566

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทยแล้ว ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก จะได้รับผลกระทบในระยะถัดไป ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง รวมถึงระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากลมแรงและสภาพอากาศแห้งในระยะนี้

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ฝุ่นละอองในระยะนี้: ประเทศไทยตอนบนมีการสะสมฝุ่นละออง/หมอกควันอยู่ในเกณฑ์น้อยถึงปานกลาง เนื่องจากลมพี่พัดปกคลุมบริเวณดังกล่าวเริ่มมีกำลังแรงขึ้น


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 16 - 21 ม.ค. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 4 - 6 องศาเซลเซียส ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 2 - 4 องศาเซลเซียส

มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคใต้ โดยบริเวณอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2 -3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 16 ? 21 ม.ค. 66 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง ส่วนในช่วงวันที่ 16 ? 21 ม.ค. 66 ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ หลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่ง



******************************************************************************************************



อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบนและคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย ฉบับที่ 6 (16/2566)


ในช่วงวันที่ 16-19 ม.ค. 2566 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนบนทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร และอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง






__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 16-01-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


สีสันนักท่องเที่ยวแห่ชมเรือน้ำมันเกยตื้น จุดเช็กอินแห่งใหม่แหลมสมิหลาสงขลา



ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - นักท่องเที่ยวแห่ชม "เรือภัทรพัณณ์" เรือบรรทุกน้ำมันที่ถูกคลื่นซัดมาเกยตื้นบริเวณชายหาดปลายแหลมสมิหลา อ.เมืองสงขลา กลายเป็นจุดเช็กอินใหม่ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการกู้เรือ

ที่ จ.สงขลา ตอนนี้นักท่องเที่ยวทั้งชาว จ.สงขลา และจากจังหวัดใกล้เคียงที่เข้ามาท่องเที่ยวบริเวณชายหาดแหลมสมิหลา อ.เมืองสงขลา ต่างพากันไปดู ?เรือภัทรพัณณ์? ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันที่ถูกคลื่นซัดมาเกยตื้นบริเวณชายหาดปลายแหลมสนอ่อน ตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคมปีที่แล้ว และขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการกู้เรือ

จนตอนนี้กลายเป็นจุดเช็กอินใหม่ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว เนื่องจากเป็นเรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่ 2,037 ตันกรอส ที่มาเกยตื้นบริเวณชายหาด และนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปดูได้อย่างใกล้ชิด รวมถึงสามารถถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก

โดยขณะนี้ทางบริษัทเจ้าของเรืออยู่ระหว่างการกู้เรือ โดยขุดทรายบริเวณที่เรือเกยตื้นออกเป็นร่องน้ำ เพื่อเตรียมลากเรือออกจากฝั่ง แต่คาดว่าต้องใช้เวลาอีกหลายวัน ตอนนี้จึงกลายเป็นจุดเช็กอิน และสีสันการท่องเที่ยวของชายหาดแหลมสมิหลา ที่นักท่องเที่ยวพากันมาชมความใหญ่ของเรือลำนี้

โดยเหตุเรือบรรทุกสินค้า และเรือน้ำมันเกยตื้นบริเวณชายหาดแหลมสมิหลา เกิดขึ้นครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว โดยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อปี 2537 เรือขนส่งสินค้าของปานามา ถูกคลื่นซัดเกยตื้นที่ชายหาดชลาทัศน์ ต่อมาเมื่อปี 2557 เรืออรพิน 4 ถูกคลื่นซัดเคยตื้นที่บริเวณชายหาดปลายแหลมสนอ่อน และล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2565 เรือภัทรพัณณ์ ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันก็ถูกคลื่นซัดมาเกยตื้นอีกลำ


https://mgronline.com/south/detail/9660000004409


******************************************************************************************************


ชาวสมุยพรึบโหวตเห็นด้วยสร้างสะพานเชื่อมแผ่นดินใหญ่ ยันเกิดแน่ เตรียมทุ่มงบ 25,000 ล้านบาท



สุราษฎร์ธานี - ชาวเกาะสมุยพรึบยกมือโหวตเห็นด้วยสร้างสะพานเชื่อมแผ่นดินใหญ่ จะทำให้การคมนาคมสะดวกขึ้นในการเดินทาง ด้านผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย เผยหากชาวเกาะสมุยต้องการจริงๆ สะพานเชื่อมแผ่นดินใหญ่เกิดขึ้นแน่นอน ด้วยงบ 25,000 ล้านบาท

จากกรณีที่มีการเรียกร้องให้มีการสร้างโครงการทางพิเศษเชื่อมเกาะสมุย และแผ่นดินใหญ่ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและอำนวยความสะดวกในการเดินทางเชื่อมระหว่างเกาะสมุยแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง และแผ่นดินใหญ่ ล่าสุด ได้มีการจัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นขึ้นที่ห้องประชุมเพชรสมุย เทศบาลนครเกาะสมุย อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี

โดยมีนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย นายกาจผจญ อุดมธรรมภักดี รองผู้ว่าการฝ่ายกลยุทธ์และแผนงาน น ส.ณัฐฐา กาสี ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายและแผน นางอินทิรา รัตนปัญญากร ผู้อำนวยการฝ่ายก่อสร้างทางพิเศษ พร้อมคณะได้เดินทางร่วมรับฟัง และบรรยาย โครงการทางพิเศษเชื่อมเกาะสมุย และแผ่นดินใหญ่ โดยมีนายรามเนตร ใจกว้าง นายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย นายชยพล อินทรสุภาพ นายอำเภอเกาะสมุย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน และกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจ เกษตรกรชาวสวน และประชาชนในอำเภอเกาะสมุยเข้าร่วมรับฟัง เป็นจำนวนมาก

นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การทางพิเศษให้ความสำคัญกับพี่น้องประชาชนชาวเกาะสมุย การทางพิเศษแห่งประเทศไทยมีขั้นตอนและแผนการศึกษาโครงการ ขณะที่ เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว เศรษฐกิจภาคการเกษตรที่ได้รับผลประโยชน์จากสะพานแห่งนี้

ขณะที่บรรยากาศในที่ประชุม ผู้ที่เข้าร่วมรับฟังได้แสดงพลังยกมือโหวตเห็นด้วยที่จะให้รัฐบาลเร่งการก่อสร้างสะพานดังกล่าวให้แล้วเสร็จเร็วที่สุด ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลชุดไหน แต่ขอให้สะพานเชื่อมเกาะสมุยเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ เนื่องจากในปัจจุบัน การคมนาคมเดินทางเข้าออกเกาะสมุยเหมือนถูกมัดมือชก คนเกาะสมุยเหมือนกับเป็นตัวประกัน เนื่องจากการเดินทางเข้าออกเกาะสมุยทั้งทางอากาศ และทางน้ำเป็นของเอกชนทั้งนั้น ราคาค่อนข้างสูง คนในเกาะไม่มีทางเลือก

อย่างไรก็ตาม นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย หลังได้ร่วมรับฟังจากพี่น้องประชาชน พร้อมด้วยคณะได้เดินทางไปอ่าวบ้านพังกา และลงเรือไปเกาะเเตน ในตำบลตลิ่งงาม อำเภอเกาะสมุย พบปะพูดคุยกับชาวบ้าน และผู้ประกอบการท่องเที่ยวบนเกาะเเตน เพื่อดูสถานที่บริเวณใกล้เคียงที่เป็นไปได้

พร้อมให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ที่ได้เดินทางมาร่วมรับฟังการสร้างสะพานเชื่อมจากแผ่นดินใหญ่มาเกาะสมุย มาตามการเชิญของนายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย ที่ต้องการให้มารับฟังความคิดเห็น ความต้องการของพี่น้องชาวเกาะสมุย ซึ่งเมื่อมาแล้วยอมรับว่าเสียงตอบรับดีกว่าที่คิด เสียงตอบรับเป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือ คนส่วนใหญ่อยากจะได้ และให้มีความชัดเจน และทางกระทรวงคมนาคมยืนยันว่ามีความชัดเจน โดยการทางพิเศษแห่งประเทศไทย เป็นผู้รับผิดชอบโครงการนี้โดยตรง ซึ่งตอนนี้จะมีการจ้างที่ปรึกษาที่เป็นมืออาชีพเพื่อวิเคราะห์ข้อมูล และเดินหน้าอย่างเต็มรูปแบบ และอีกไม่เกิน 1 ปี จะมีความชัดเจนว่าโครงการนี้มีความเป็นไปได้แค่ไหน

ส่วนในเรื่องของงบประมาณ ทางการพิเศษแห่งประเทศไทย เป็นหน่วยงานที่มีเงินทุนเป็นของตัวเอง และมีอุปกรณ์มากมายในการจัดหาแหล่งเงินทุนโดยไม่ต้องไปพึ่งงบ ประมาณของรัฐ อาจจะมีบ้างในส่วนเกี่ยวกับการเวนคืนที่ดิน ขอให้ประชาชนสบายใจได้ ภายใน 1 ปีข้างหน้า จะมีทีมลงพื้นที่จัดทำข้อมูลทั้งหมด และจัดทำเป็นรายงานเพื่อรายงานหน่วยเหนือ ถึงแม้ชาวบ้านเห็นด้วยแต่เรื่องยังไม่จบ

ซึ่งตนในฐานะที่เป็นผู้รับผิดชอบต้องมีการรายงานไปหน่วยงานต่างๆ เช่น กรมป่าไม้ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ คณะกรรมการสำนักงานงบประมาณในการให้ใช้เงินในการเวนคืนที่ดิน จนกระทั่งถึงกระทรวงคมนาคม และถึง ครม. ซึ่งงบประมาณในครั้งนี้บวกลบแล้วประมาณ 25,000 ล้านบาท

การลงพื้นที่ครั้งนี้ได้ลงมาดูพื้นที่เพื่อจะได้ เห็นกับตา เส้นทางมีแล้ว เส้นทางเคเบิล เส้นทางน้ำประปาที่ข้ามมาจากแผ่นดนใหญ่มาดูให้เห็นของจริง และครั้งนี้มีแผนที่จะแวะไปเกาะข้างเคียงกรณีหน้ามรสุมจะสามารถ หลบลมมรสุมได้หรือไม่ ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในการทางพิเศษแห่งประเทศไทย และยืนยันว่าโครงการนี้จะเดินหน้าต่อ หากผ่านการพิจรณาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากการศึกษาข้อดี และข้อเสีย และสิ่งที่เป็นไปได้คาดว่าจะสามารถเริ่มงานก่อสร้างได้ในปี 2571 และเปิดให้บริการปลายปี 2573


https://mgronline.com/south/detail/9660000004259

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 16-01-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ThaiPBS


ถอดบทเรียน เต่าทะเลตาย 11 ตัว พบทุกตัวมีขยะในทางเดินอาหาร

กรมทะเลชายฝั่ง ถอดบทเรียนจาก "ลูกเต่าทะเล" 11 ตัว ติดแพขยะขนาดใหญ่ กว่า 700 เมตร ถูกซัดขึ้นมาบนชายหาดบ้านอำเภอ ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี นำไปรักษาแต่ก็ไม่รอด ทีมสัตวแพทย์ชันสูตร พบ ทุกตัวมีขยะอยู่ในทางเดินอาหาร



วันนี้ (15 ม.ค.2566) จากเหตุการณ์พบลูกเต่าทะเลติดแพขยะขนาดใหญ่ กว่า 700 เมตร ถูกซัดขึ้นมาบนชายหาดบ้านอำเภอ ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 8 ก.ย.2565 ที่ผ่านมานั้น เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ได้นำลูกเต่า 11 ตัว ไปรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์ทะเลหายาก จ.ระยอง สังกัดกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

ลูกเต่ามีอายุไม่ถึง 1 เดือน มีอาการอ่อนแรง ส่วนใหญ่ซึม ไม่ยอมกินอาหาร จึงต้องดูแลอย่างใกล้ชิด หลังจากสัตวแพทย์ของ ทช. พยายามดูแลรักษา ประคับประคองอาการมาได้ 1 เดือน ลูกเต่าเริ่มทยอยตาย จนเข้าสู่เดือนที่ 3 ลูกเต่าตัวสุดท้ายได้ตายลง

หลังจากการชันสูตรของทีมสัตวแพทย์ของ ทช. พบว่าลูกเต่า ทุกตัวมีขยะอยู่ในทางเดินอาหาร แม้จะได้รับการรักษาก็ยังไม่สามารถขับถ่ายขยะจำนวนมากออกมาได้ ทำให้ทางเดินอาหารอุดตันไปด้วยขยะ และลูกเต่าไม่สามารถกินอาหารได้ ส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนและตายในที่สุด

แม้ว่าขยะที่อุดตันในลำไส้ลูกเต่า จะเป็นเพียงขยะชิ้นเล็ก ๆ สำหรับมนุษย์ แต่ก็ทำให้สัตว์ทะเลตัวเล็ก ๆ เหล่านั้น เจ็บปวดและทรมาน จนถึงแก่ความตายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีสัตว์ทะเลหายากที่ใกล้สูญพันธุ์อย่างเต่าทะเล ที่มีอัตราการรอดน้อยมากอยู่แล้ว ภัยคุกคามจากขยะทะเลยิ่งซ้ำเติมให้เต่าทะเลมีโอกาสสูญพันธุ์มากยิ่งขึ้น

เช่นกรณีที่พบลูกเต่าทะเลติดมากับแพขยะ และพัดเข้าสู่ชายหาดจอมเทียน คาดว่าลูกเต่าชุดดังกล่าวถูกพัดพามาจากแหล่งวางไข่ บริเวณชายหาดของเกาะคราม หรือเกาะล้าน จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการรายงานเต่าทะเลขึ้นวางไข่เป็นประจำ

ทั้งนี้ เป็นพฤติกรรมของลูกเต่าทะเล ที่เมื่อฟักออกจากไข่แล้ว การดำรงชีวิตในทะเลช่วงแรกของชีวิตจะลอยตามกระแสน้ำและไม่สามารถดำน้ำได้จึงต้องหลบซ่อนตามสิ่งที่ลอยบนผิวน้ำทะเล จนลูกเต่าลอยไปติดกับแพขยะดังกล่าว ที่มีขยะส่วนใหญ่เป็นขยะจากเศษวัชพืช ขยะพลาสติก และขยะประเภทเศษอวนเครื่องมือทำการประมงที่ลอยมาตามลมมรสุมที่พัดเข้าชายฝั่งตามฤดูกาล โดยแพขยะดังกล่าวมีน้ำหนักมากถึง 3,000 กิโลกรัม

จากการพูดคุยกับสัตวแพทย์ ประจำศูนย์ช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายากสิรีธาร กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พบว่า ขยะพลาสติกเป็นภัยกับเต่าทะเลตั้งแต่เกิดจนตาย เมื่อเต่าทะเลโตขึ้นต้องแหวกว่ายผ่านแพขยะพลาสติกระหว่างทางที่มันอพยพไปหากินแหล่งอื่น และสิ่งที่น่าตกใจ คือ เต่าทะเลอาจกินขยะพลาสติกเหล่านั้นเข้าไป เพราะมันเข้าใจผิดคิดว่าขยะที่ล่องลอยอยู่ในทะเลเป็นอาหารของมัน

นอกจากขยะพลาสติกจะมีผลกระทบต่อสัตว์ทะเลแล้ว มนุษย์ก็อาจได้รับผลกระทบจากพลาสติกเช่นกันในรูปแบบของ ?ไมโครพลาสติก? หรือพลาสติกที่เล็กกว่า 5 มิลลิเมตร ที่ทำมาจากพลาสติกที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน พลาสติกเหล่านี้เมื่อโดนน้ำ โดนแดด โดนฝน และอยู่ในธรรมชาติเป็นเวลานาน จะสามารถแตกตัวเป็นพลาสติกชิ้นเล็ก ๆ ได้

ทั้งนี้ เราสามารถเป็นส่วนหนึ่งที่จะหยุดไม่ให้ขยะพลาสติกไหลลงสู่ทะเล หรือหยุดสร้างไมโครพลาสติกได้ เริ่มได้ง่ายที่สุดคือลดการสร้างขยะพลาสติก เพราะอย่างนี้ สัตว์ทะเลยังคงเป็นเหยื่อของความสะเพร่าของมนุษย์อยู่เสมอ ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดในการช่วยเหลือพวกเขาเหล่านี้ได้

นั่นคือหยุดความสะเพร่าของตัวเราเอง หันมาใส่ใจในสิ่งแวดล้อม รวมถึงปลูกจิตสำนึกสร้างการรับรู้และเข้าใจในสังคม เพื่อสัตว์ทะเลของเราจะยังคงอยู่ต่อไป

อย่างไรก็ตาม ปัญหาขยะทะเลที่กำลังวิกฤตอยู่ในขณะนี้ สามารถบรรเทาลงได้ ด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วน เพียงแค่ช่วยกันลดการสร้างขยะ แยกขยะเพื่อให้เกิดการรีไซเคิล หรือใช้ซ้ำให้มากที่สุด และช่วยกันเก็บขยะที่ตกค้างในสิ่งแวดล้อมทางทะเล ก็จะช่วยบรรเทาปัญหาดังกล่าวได้เป็นอย่างดี


https://www.thaipbs.or.th/news/content/323559

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 13:32


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger