เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 20-01-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันศุกร์ที่ 20 มกราคม 2566

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนเริ่มมีกำลังอ่อนลง ประกอบกับลมตะวันตกในระดับบนเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียสในภาคเหนือ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากลมแรงและสภาพอากาศแห้งในระยะนี้

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง มีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย

ฝุ่นละอองในระยะนี้: ประเทศไทยตอนบนมีการสะสมฝุ่นละออง/หมอกควันอยู่ในเกณฑ์น้อย เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมบริเวณดังกล่าวเริ่มมีกำลังแรงขึ้น


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 20 - 22 ม.ค. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นแรงจากประเทศจีนที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้เริ่มมีกำลังอ่อนลงแต่ยังคงทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง โดยบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ในขณะที่ในช่วงวันที่ 19 ? 21 ม.ค. 66 ลมตะวันตกในระดับบนเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ ทำให้ภาคเหนือมีอุณหภูมิลดลง 3 ? 5 องศาเซลเซียส

ส่วนในช่วงวันที่ 23 - 25 ม.ค. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางระลอกใหม่จะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาวเย็นต่อเนื่อง
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงยังคงปกคลุมบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้ตลอดช่วง ส่งผลให้ในช่วงวันที่ 20 ? 25 ม.ค. 66 บริเวณภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2 -3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ตลอดช่วง


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น รวมถึงระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากลมแรงและอากาศแห้งไว้ด้วย สำหรับประชาชนในภาคใต้ระวังคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าฝั่งไว้ด้วย ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ หลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่ง ตลอดช่วง ส่วนในช่วงวันที่ 20 ? 25 ม.ค. 66 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก



******************************************************************************************************



ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากและคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ ฉบับที่ 3 (24/2566) (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 20 - 25 มกราคม 2566)

ในช่วงวันที่ 20-25 มกราคม 2566 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย

จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง มีดังนี้


วันที่ 20 - 22 มกราคม 2566

ภาคใต้: จังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูล


ช่วงวันที่ 23 - 25 มกราคม 2566

ภาคใต้: จังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันดังกล่าว






__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 20-01-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


ผลศึกษาใหม่ ชี้ กรีนแลนด์ ร้อนสุดในรอบ 1,000 ปี

ผลศึกษาใหม่ ชี้ แกนน้ำแข็งที่กรีนแลนด์ ดินแดนทางเหนือสุดของโลก มีอุณหภูมิร้อนที่สุดในรอบ 1,000 ปี ถือเป็นเครื่องบ่งชี้ชัดเจนที่สุดของภาวะโลกร้อน ที่กำลังทำให้ธารน้ำแข็งละลายอย่างรวดเร็ว



เมื่อ 19 ม.ค. 2566 เว็บไซต์ อัลจาซีรา รายงาน ผลศึกษาใหม่ของทีมนักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาเรื่องธารน้ำแข็ง แสดงให้เห็นว่า แกนน้ำแข็งของกรีนแลนด์ ดินแดนทางเหนือสุดของโลก ในมหาสมุทรอาร์กติก กำลังมีอุณหภูมิร้อนที่สุดในรอบ 1,000 ปี ซึ่งถือเป็น 'ลายเซ็นชัดเจน' ของภาวะโลกร้อนอันเนื่องมาจากน้ำมือมนุษย์

ผลศึกษาใหม่โดยการเก็บตัวอย่างจากแผ่นน้ำแข็งและธารน้ำแข็งที่อยู่ในระดับลึกของกรีนแลนด์ ซึ่งเป็นเกาะใหญ่ที่สุดในโลก มีพื้นที่ประมาณ 2.17 ล้านตารางกิโลเมตร ถูกนำมาตีพิมพ์ลงในวารสารวิทยาศาสตร์ ?เนเจอร์? (Nature) เมื่อวันพุธที่ 18 ม.ค. ที่ผ่านมา พบว่าอุณหภูมิของแกนน้ำแข็งที่กรีนแลนด์ สูงขึ้นถึง 1.5 องศาเซลเซียส จากค่าเฉลี่ยในศตวรรษที่ 20 นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1995

'พวกเรากำลังดูอุณหภูมิที่สูงขึ้นระหว่างทศวรรษ 1990 และ 2011? Maria Hoerhold หัวหน้าผู้เขียนผลการศึกษา ซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาสนใจเรื่องธารน้ำแข็งจากสถาบัน Alfred Wegener ในเยอรมนี กล่าว พร้อมบอกว่า ?พวกเรามีลายเซ็นที่ชัดเจนของภาวะโลกร้อน'

เดือนพฤศจิกายน 2565 มีรายงานของสหประชาชาติออกมาว่าธารน้ำแข็งที่มีชื่อเสียงมากที่สุดบนโลกจำนวนมาก อาจหายไปในปี 2050 ขณะโลกกำลังอุ่นขึ้น โดยจากการติดตามของนักวิทยาศาสตร์ของสหประชาชาติถึงสถานการณ์ของธารน้ำแข็งกว่า 18,600 แห่งในแหล่งมรดกโลก 50 แห่ง คาดว่า ประมาณ 1 ใน 3 ของธารน้ำแข็งเหล่านี้ จะหายไปในกลางศตวรรษนี้ ขณะที่ผลการศึกษาอีกชิ้นหนึ่งคาดว่า 2 ใน 3 ของธารน้ำแข็งทั่วโลกจะหายไปในปี 2100 ซึ่งการละลายของธารน้ำแข็งที่กรีนแลนด์ย่อมส่งผลให้ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้น

จากรายงานระบุว่า แกนน้ำแข็งที่กรีนแลนด์ สามารถเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิระยะยาว ซึ่งต้องใช้เวลาในการวิเคราะห์ โดยข้อมูลจากแกนน้ำแข็งที่กรีนแลนด์ได้มีการวิเคราะห์ครั้งล่าสุด เมื่อปี 1995 อีกทั้ง ก่อนหน้านี้ มีการชี้ว่า อุณหภูมิของกรีนแลนด์จะไม่อุ่นเร็วเท่ากับบริเวณอื่นๆ ของมหาสมุทรอาร์กติก

อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษาแกนน้ำแข็งที่กรีนแลนด์ครั้งใหม่ ซึ่งดำเนินการในปี 2011 แสดงให้เห็นว่าแกนน้ำแข็งมีอุณหภูมิสูงขึ้นมากในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา ในขณะที่นักวิยาศาสตร์ได้นำแกนน้ำแข็งมาสร้างชาร์ต-แผนภูมิอุณหภูมิเฉลี่ยที่กรีนแลนด์ ในช่วงระยะ 1,000 ปี นับจากปี ค.ศ. 1000 จนถึงปี 2011.


https://www.thairath.co.th/news/foreign/2606990

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 20-01-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์


ผู้เชี่ยวชาญระบุ "แมนนาทีฟลอริดา" กำลังตายในอัตราน่าใจหาย

แมนนาทีฟลอริดา หรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเล ที่รู้จักกันในชื่อ "วัวทะเล" กำลังตายในรัฐฟลอริดา ด้วยอัตราที่น่าตกใจ ซึ่งส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการขาดอาหาร เนื่องจากหญ้าทะเลที่เป็นอาหารหลักของพวกมันหายไป ในภูมิภาคแพนแฮนเดิล


เครดิตภาพ : REUTERS

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานจากเมืองคริสตัลริเวอร์ รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ว่า นายเจมส์ "บัดดี" โพเวลล์ นักชีววิทยาแมนนาที กล่าวว่า จากจำนวนประชากรแมนนาทีราว 6,000-7,000 ตัว ในรัฐฟลอริดา พวกมันตายไปมากถึง 1,000 ตัว ในปีที่แล้วเพียงปีเดียว

"ผมคิดว่าสิ่งที่พวกเราเห็นในตอนนี้คือ สัญญาณเตือน" โพเวลล์ กล่าวว่า แมนนาทีเหล่านี้ประสบกับความอดอยาก เพราะอาหารตามธรรมชาติของพวกมันหายไป ส่งผลให้พวกมันมีปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการขาดสารอาหาร และตายลงในเวลาต่อมา

แม้แมนนาทีจะเป็นสายพันธุ์สัตว์ที่ได้รับการคุ้มครองในรัฐฟลอริดา ทว่าสภาพแวดล้อมของพวกมันกลับตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง ทำให้แมนนาทีมีความเสี่ยงเป็นพิเศษ เนื่องจากการขาดแคลนหญ้าทะเลในแหล่งที่อยู่อาศัย, ผลกระทบของมลพิษทางน้ำ, การได้รับบาดเจ็บจากเรือ และการตายจากการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วของสาหร่ายที่เป็นอันตราย หรือ "ปรากฏการณ์ขี้ปลาวาฬ"

ประชากรแมนนาทีในภูมิภาคแพนแฮนเดิล ทางตะวันตกของรัฐฟลอริดา มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เนื่องจากกิจกรรมของมนุษย์, จำนวนเรือ และมลพิษที่น้อยลง ประกอบกับความพยายามในการฟื้นฟูระบบนิเวศชายฝั่ง และการปลูกหญ้าทะเล โดยองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร "ซี แอนด์ ชอร์ไลน์" ที่นำโดยโพเวลล์ และอุทิศตนเพื่อการฟื้นฟูพืชและสัตว์น้ำ กำลังปลูกหญ้าทะเลในเขตรักษาพันธุ์แมนนาทีของเมืองคริสตัลริเวอร์

ทั้งนี้ นายรอน เดอซานทิส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา จัดสรรงบประมาณมากกว่า 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 990 ล้านบาท) เมื่อเดือน พ.ค. 2565 เพื่อยกระดับและขยายการช่วยเหลือแมนนาที, ความพยายามในการฟื้นฟู และจัดหาการฟื้นฟูที่อยู่อาศัย สำหรับพื้นที่ซึ่งมีแมนนาทีอยู่อย่างหนาแน่น.


https://www.dailynews.co.th/news/1909000/


******************************************************************************************************


ผลการศึกษาชี้ 2 ใน 3 ของฉลาม-กระเบนแนวปะการัง "เสี่ยงสูญพันธุ์"

ผลการวิจัยครั้งใหม่พบว่า เกือบ 2 ใน 3 ของปลาฉลามและปลากระเบน ที่อาศัยอยู่ท่ามกลางแนวปะการังของโลก กำลังเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์ พร้อมกับเตือนว่า สิ่งนี้อาจสร้างความเสียหายเพิ่มเติมต่อแนวปะการังอันมีค่าได้



สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ว่า แนวปะการัง ซึ่งเป็นแหล่งอยู่อาศัยของสัตว์และพืชทะเลอย่างน้อย 1 ใน 4 ตกอยู่ในอันตรายร้ายแรงจากการคุกคามจากมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็น การประมงเกินขนาด, มลพิษ และการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ

นางซาแมนธา เชอร์แมน จากมหาวิทยาลัยไซมอน เฟรเซอร์ ในแคนาดา และกลุ่มสัตว์ป่า "ทราฟฟิก อินเทอร์เนชั่นเนล" กล่าวว่า ปลาฉลามและปลากระเบน มีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้ ซึ่งไม่สามารถแทนที่ด้วยสัตว์สายพันธุ์อื่นได้

อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาในนิตยสาร Nature Communications ซึ่งประเมินข้อมูลความเสี่ยงของการสูญพันธุ์จากองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (ไอยูซีเอ็น) พบว่าพวกมันกำลังถูกคุกคามอย่างหนักทั่วโลก โดยปลาฉลามและปลากระเบนแนวปะการังสัดส่วน 59% มีความเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์มากเกือบ 2 เท่า ของปลาฉลามและปลากระเบนทั่วไป

เมื่อปีที่แล้ว หลายประเทศที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอนุสัญญา ว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (ไซเตส) อนุมัติแผนคุ้มครองปลาฉลามและปลากระเบนหลายสิบสายพันธุ์ด้วยการเพิ่มแนวปะการังในพื้นที่ ซึ่งเชอร์แมนมองว่าเป็น ?การก้าวไปในทิศทางที่ถูกต้อง? แต่เสริมว่า มันจำเป็นต้องมีความพยายามในระดับโลก เพื่อปรับปรุงการนำไปใช้ด้วย

แม้การประมงในแนวปะการัง จะมีส่วนช่วยโดยตรงต่อการดำรงชีวิตและความมั่นคงด้านอาหาร แต่ระบบนิเวศสำคัญนี้ กำลังเผชิญกับภัยคุกคามที่มีอยู่ในปัจจุบัน ทั้งการใช้ทรัพยากรเกินขีดจำกัด และภาวะโลกร้อน

"พวกเราทราบดีว่า สุขภาพของแนวปะการังกำลังแย่ลง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ อย่างไรก็ตาม ปลาฉลามและปลากระเบนแนวปะการัง สามารถช่วยรักษาความสมบูรณ์ของแนวปะการังให้อยู่นานขึ้นได้" เชอร์แมน กล่าวทิ้งท้าย


https://www.dailynews.co.th/news/1908999/

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 09:45


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger