#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2566
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ในขณะที่ลมฝ่ายตะวันตกในระดับบนเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีอากาศหนาวเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังอ่อน ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งในระยะนี้ ฝุ่นละอองในระยะนี้: ประเทศไทยตอนบนมีแนวโน้มการสะสมฝุ่นละออง/หมอกควันอยู่ในเกณฑ์เล็กน้อยเนื่องจากมีการระบายอากาศดี เว้นแต่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ฝุ่นละอองยังสะสมอยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงมาก กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 11 ? 13 ก.พ. 66 ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนประกอบกับลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทย เข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน กับมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ในขณะที่ลมฝ่ายตะวันตกในระดับบนพัดพาความหนาวเย็นจากที่ราบสูงทิเบตและประเทศเมียนมาเข้ามาปกคลุมบริเวณภาคเหนือตอนบน ทำให้ภาคเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังอ่อน ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนน้อย ส่วนในช่วงวันที่ 14 ? 16 ก.พ. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทย เข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก จะมีกำลังแรงขึ้น ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในระยะแรก โดยมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง หลังจากนั้นภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 3 ? 5 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลางรวมกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1 ? 3 องศาเซลเซียส สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 14 ? 16 ก.พ. 66 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและลูกเห็บตก โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง รวมถึงระวังอันตรายจากฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้ ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ส่วนชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์
ลงทะเลแล้ว! ภูเก็ตร่วมปล่อยลูกเต่ามะเฟือง 32 ตัว คืนสู่ธรรมชาติ ประชาชน-เจ้าหน้าที่ร่วมปล่อยลูกเต่ามะเฟือง? จำนวน 32 ตัว คืนสู่ธรรมชาติ ผวจ.ภูเก็ต เผยแสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ที่ฟื้นคืนมาของทรัพยากรธรรมชาติ ของจังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ หาดในยาง? นายสรศักดิ์ รณะนันทน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ พร้อมด้วย นายโสภณ เคี่ยมกา ประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต, นายสุรินทร์ โยธารักษ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลสาคู, ทีมสัตวแพทย์จากศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน, เจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับ นายณรงค์? วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต? เดินทางมาเป็นสักขีพยานในการปล่อยลูกเต่ามะเฟือง? จำนวน 32 ตัว? โดยเป็นลูกเต่าที่เกิดจากการฟักตัว จากไข่เต่า 108 ฟอง?ที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถได้นำมาจากหาดไม้ขาว เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยอุทยานแห่งชาติสิรินาถ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 2 จังหวัดภูเก็ต ว่า ได้รับแจ้งจาก นายบุญเจิด แซ่ตัน ชาวบ้านตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง ว่า พบร่องรอยการขึ้นวางไข่ของเต่าทะเล บริเวณหาดไม้ขาว หน้าโรงแรมสแปลช บีช รีสอร์ท หลังรับแจ้งได้ร่วมกันเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ ที่พบร่องรอยการขึ้นวางไข่ของเต่าขนาดใหญ่ วัดขนาดความกว้างของอกได้ 110 ซม. ขนาดความกว้างของพาย 180 ซม. คาดว่าเป็นเต่ามะเฟือง จึงได้ช่วยกันขุดหาไข่เต่า พบไข่เต่าทั้งหมด 108 ฟอง เป็นไข่ดี 79 ฟอง (แตก 3 ฟอง เหลือ 76 ฟอง) ไข่ลม 29 ฟอง โดยเจ้าหน้าที่ได้นำไข่เต่าทั้ง 108 ฟอง มาทำการฟักโดยขุดหลุมทรายฝังไว้พร้อมสร้างรั้วไม้ไผ่ล้อมไว้ จนมาถึงวันนี้ (10 กุมภาพันธ์ 2566)? พบกล่องใส่บริเวณที่ฝังไข่เต่าได้เกิดการยุบตัวลงแสดงว่าไข่เต่าได้ฟักตัวแล้ว? เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการขุดหลุมทราย พบลูกเต่าที่มีการฟักตัวแล้วจำนวน 32 ตัว ส่วนที่เหลือยังเป็นไข่ที่ยังไม่ฟักตัว โดยทางอุทยานแห่งชาติสิรินาถ จะนำไปอนุบาลและฟักต่อไป โอกาสนี้ นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตกล่าวว่าทิศทางการพัฒนาจังหวัดภูเก็ต คือแนวคิดที่เรานำไปใช้ในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการจัดงาน Expo 2028 Phuket Thailand? คือ Future of Life : Living in Harmony, Sharing Prosperity ชีวิตแห่งอนาคต-แบ่งปันความรุ่งเรือง อยู่ร่วมกันเป็นหนึ่ง ดังนั้น ในวันนี้การคืนเต่าสู่ธรรมชาติแสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ที่ฟื้นคืนมาของทรัพยากรธรรมชาติ ของจังหวัดภูเก็ตและสามารถยืนยันได้ว่า ทุกภาคส่วนสามารถปฏิบัติได้จริงเป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ายินดีมาก https://www.dailynews.co.th/news/1984428/
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก BBCThai
แม่วาฬเพชฌฆาตใช้ชีวิตดูแลลูกวาฬตัวผู้ตลอดชีวิต ............... โดย วิกตอเรีย จิลล์ วาฬเพชฌฆาตมีความผูกพันกันในครอบครัว ..... ที่มาของภาพ,CENTER FOR WHALE RESEARCH การศึกษาออร์กา หรือ วาฬเพชฌฆาตในแปซิฟิกเหนือพบว่า แม่วาฬ "อุทิศเวลาทั้งชีวิต" เพื่อลูกวาฬตัวผู้ การเลี้ยงดูลูกวาฬเพชฌฆาตตัวผู้ ทำให้แม่วาฬมีโอกาสในการขยายพันธุ์ในอนาคตลดลง พวกมันต้องใช้พลังงานในการหาอาหารให้ลูกวาฬทำให้ส่งผลเสียต่อสุขภาพ และความสามารถในการขยายพันธุ์และเลี้ยงลูกวาฬตัวอื่นลดลง "แม่วาฬสละอาหารของตัวเองและออกแรงของตัวเอง" ศาสตราจารย์ดาร์เรน ครอฟต์ จากมหาวิทยาลัยเอ็กซิเตอร์ (University of Exeter) วาฬเพชฌฆาตยังคงรู้สึกผูกพันกับครอบครัวของตัวเองอย่างมากตลอดทั้งชีวิต ลูกวาฬเพศเมียที่อายุยังน้อยจะมีความเป็นอิสระเมื่อโตเต็มวัย แต่ลูกวาฬเพศผู้ยังคงพึ่งพาแม่วาฬอยู่ ถึงขั้นต้องขอแบ่งอาหารที่แม่หามาได้ ศ.ครอฟต์ เรียกการค้นพบนี้ว่า "เป็นข้อมูลเชิงลึกใหม่เกี่ยวกับชีวิตทางสังคมที่ซับซ้อนและชีวิตครอบครัวของสัตว์ที่น่าอัศจรรย์เหล่านี้" การศึกษานานหลายสิบปีซึ่งเผยแพร่ในวารสาร Current Biology เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจทำความเข้าใจชีวิตครอบครัวของวาฬเพชฌฆาตที่กำลังดำเนินต่อไป ศูนย์วิจัยวาฬ (Center for Whale Research?CWR) ซึ่งติดตามชีวิตของวาฬเพชฌฆาตกลุ่มหนึ่ง ที่รู้จักกันในชื่อ ผู้อยู่อาศัยทางใต้ (Southern Residents) มานานกว่า 40 ปี แล้ว เป็นผู้ทำให้เกิดภารกิจนี้ นับตั้งแต่ปี 1976 CWR ได้สำรวจจำนวนประชากรวาฬเพชฌฆาตกลุ่มนี้ ทำให้นักชีววิทยาสามารถทำการศึกษาวาฬหลายรุ่นได้เหมือนการศึกษานี้ ซึ่งได้ค้นพบพฤติกรรมทางสังคมที่มีความสำคัญและความผูกพันภายในครอบครัวที่ส่งผลต่อการอยู่รอดของสัตว์ชนิดนี้โดยตรง สำหรับการศึกษานี้ นักวิทยาศาสตร์ได้สำรวจวาฬเพชฌฆาตเพศเมีย 40 ตัวระหว่างปี 1982-2021 และค้นพบว่า วาฬเพชฌฆาตเพศเมียแต่ละตัวที่มีลูกวาฬเพศผู้ 1 ตัว โอกาสในการเลี้ยงดูลูกวาฬอีกตัวจนถึงอายุ 1 ปี ลดลงครึ่งหนึ่ง ดร.ไมเคิล ไวส์ส จากมหาวิทยาลัยเอ็กซิเตอร์และศูนย์วิจัยวาฬกล่าวว่า "การวิจัยก่อนหน้านี้ เผยให้เห็นว่า ลูกวาฬตัวผู้มีโอกาสในการมีชีวิตรอดสูงขึ้น ถ้ามีแม่อยู่ใกล้ ๆ" "เราต้องการหาว่า การช่วยเหลือนี้ต้องมีอะไรแลกมาไหม และคำตอบคือ ใช่ แม่วาฬเพชฌฆาตต้องสูญเสียการขยายพันธุ์ในอนาคตเพื่อดูแลลูกวาฬตัวผู้ให้มีชีวิตรอด" ครอบครัววาฬเพชฌฆาต การศึกษากลุ่มประชากรวาฬเพชฌฆาตที่ถูกคุกคามและอาศัยอยู่ในน่านน้ำใกล้ชายฝั่งระหว่างเมืองแวนคูเวอร์และนครซีแอตเทิลยังดำเนินต่อไป การศึกษานี้เกิดขึ้นจากดร.เคน บัลคอมบ์ ตอนแรกเขาต้องการสำรวจภัยคุกคามในการอยู่รอดของวาฬกลุ่มนี้ การติดตามผลการสำรวจนี้ทำให้ได้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับชีวิตของวาฬเพชฌฆาตที่ได้รับการเปิดเผยผ่านการศึกษานานหลายสิบปี นักชีววิทยาได้ทำงานร่วมกับ CWR เพื่อเปิดเผยถึงบทบาทสำคัญของวาฬเพชฌฆาตเพศเมียที่อายุมากและเหตุผลที่วาฬเพศเมียของวาฬสายพันธุ์นี้หยุดการเจริญพันธุ์ก่อนวัยอันควร จากการศึกษาปฏิสัมพันธ์ของวาฬเพชฌฆาตนานหลายปี นักวิทยาศาสตร์รู้แล้วว่า แม่วาฬและลูกวาฬเพศผู้ "ใช้เวลา" อยู่ด้วยกันในช่วงที่ลูกวาฬเพศผู้โตเต็มวัยแล้ว "พวกมันถึงขั้นป้อนแซมอนที่จับได้ให้ลูกวาฬตัวผู้กิน" ศ.ครอฟต์ อธิบาย ขณะที่ลูกวาฬเพศเมียจะหาอาหารกินเองอย่างอิสระ บรรดานักวิจัยคิดว่า นี่อาจจะเป็นวิวัฒนาการของการได้อย่างหนึ่งมาและต้องเสียอย่างหนึ่งไป ซึ่งในกรณีนี้คือการได้วาฬเพศผู้ตัวใหญ่ที่สุดและอายุมากที่สุดในการให้กำเนิดลูกวาฬจำนวนมาก "ถ้าแม่วาฬสามารถทำให้ลูกวาฬเพศผู้ของมันกลายเป็นวาฬตัวผู้ขนาดใหญ่ในฝูงวาฬ มันก็จะเป็นวาฬพ่อพันธุ์ [ให้กับวาฬรุ่นต่อมาจำนวนมาก]" ศ.ครอฟต์อธิบาย ดูเหมือนว่า จะมีความย้อนแย้งกันที่สัตว์ที่ฉลาดและทรงพลังเช่นนั้น ยังคงต้องพึ่งพาแม่ของมันตลอดชีวิต แต่ดูเหมือนว่า วาฬตัวผู้ไม่จำเป็นต้องเป็นอิสระ เพราะแม่ของมันยังอยู่เคียงข้างมันโดยตลอด "ถ้าแม่ของผมทำอาหารเย็นให้ผมทุกคืน บางทีผมก็คงไม่จำเป็นต้องเรียนรู้การทำอาหารเย็นเอง" ศ.ครอฟต์ กล่าวติดตลก "แต่ดูเหมือนว่า จะเป็นผลดีต่อแม่วาฬเอง" ปัจจุบันมีวาฬเพชฌฆาตเหล่านี้เหลืออยู่ 73 ตัว ดังนั้นนักวิทยาศาสตร์ระบุว่า พวกเขาจำเป็นต้องเข้าใจทุกอย่างที่อาจช่วยในการตัดสินใจเกี่ยวกับวิธีการปกป้องสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลเหล่านี้ ศ.ครอฟต์ระบุว่า วาฬเพชฌฆาตเหล่านี้เสี่ยงที่จะสูญพันธุ์ ดังนั้นอะไรก็ตามที่ลดการขยายพันธุ์ของเพศเมียจึงเป็นความน่ากังวลของกลุ่มประชากรนี้ วาฬเพชฌฆาตเหล่านี้อยู่ในสารคดีที่ได้รับรางวัลของบีบีซี เรดิโอ 4 (BBC Radio4) เรื่อง The Whale Menopause (อาจแปลเป็นภาษาไทยได้ว่า วาฬวัยทอง) https://www.bbc.com/thai/international-64582266
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|