#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันเสาร์ที่ 22 กรกฎาคม 2566
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป ร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากในภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย สำหรับทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณมีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 22 - 25 ก.ค. 66 ร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ส่วนในช่วงวันที่ 26 ? 27 ก.ค. 66 ร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านประเทศเมียนมา ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันตอนบน และภาคใต้ มีกำลังค่อนข้างแรงตลอดช่วง ทำให้บริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2 ? 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 24 ? 27 ก.ค. 66 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ส่งผลทำให้คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2 ? 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนบริเวณทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อนึ่ง พายุโซนร้อน "ทกซูรี" บริเวณด้านตะวันออกของฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้น คาดว่าจะเคลื่อนผ่านตอนบนของประเทศฟิลิปปินส์ ลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบน ในช่วงวันที่ 25 ? 26 ก.ค. 2566 หลังจากนั้นจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งตอนใต้ของประเทศจีนในวันที่ 27 ก.ค. 2566 ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 22 - 25 ก.ค. 66 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองสำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งตลอดช่วง ส่วนเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 24 - 27 ก.ค. 66
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์
ตะลึง! นักประดาน้ำเจอปลาพญานาคยักษ์ ตำนานเก่าแก่เชื่อเป็นลางภัยพิบัติ กลุ่มนักประดาน้ำจากไต้หวันผู้โชคดี พบปลาน้ำลึกหาชมยาก ระหว่างการลงน้ำ และได้สัมผัสใกล้ชิดแบบตัวเป็น ๆ สำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนัก นำเสนอคลิปวิดีโอความยาวไม่ถึง 1 นาที ซึ่งกลายเป็นไวรัลไปแล้วในตอนนี้ เนื่องจากมีภาพของปลาน้ำลึกหายากอยู่ในนั้น? ผู้โพสต์คลิปวิดีโอต้นฉบับคือครูสอนดำน้ำ หวังเฉิงหรู จากไต้หวัน ซึ่งโพสต์ไว้ตั้งแต่เดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา คลิปดังกล่าวเป็นภาพของกลุ่มนักประดาน้ำที่ไปพบเข้ากับปลาน้ำลึกโดยบังเอิญ ทั้งที่พวกเขาดำน้ำอยู่ในเขตน้ำตื้น นอกชายฝั่งเขตรุ่ยฟาง เมืองนิวไทเป? ปลาในคลิปซึ่งมีขนาดตัวใหญ่โตมาก คือปลาออร์ฟิช (Oarfish) หรือปลาพญานาค ปกติจะพบในเขตน้ำลึกระหว่าง 200-1,000 ฟุต จากผิวน้ำ เป็นปลากระดูกแข็ง ลำตัวเรียวยาวเรียบลื่น ไร้เกล็ด ผิวเป็นสีเงิน คล้ายงูขนาดใหญ่? หวัง ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเจอปลาพญานาคที่ตัวใหญ่ขนาดนี้ อย่างไรก็ตาม ปลาในคลิปดังกล่าว ดูเหมือนจะได้รับบาดเจ็บเพราะมีบาดแผลที่ลำตัวขนาดใหญ่ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้มันปรากฏตัวในเขตน้ำตื้น ตามตำนานเก่าแก่ เชื่อว่าการพบเห็นปลาพญานาคเป็นลางร้าย หลังจากที่มันปรากฏตัว จะเกิดภัยพิบัติ เช่น แผ่นดินไหวหรือสึนามิ แต่ในความเป็นจริง ตัวปลาพญานาคเอง ไม่ถือว่าเป็นสัตว์ที่ดุร้ายหรือเป็นอันตรายต่อมนุษย์ นอกจากนี้มันยังเป็นปลาที่ไม่มีฟันและกินแต่แพลงตอนเป็นอาหารเท่านั้น https://www.dailynews.co.th/news/2553883/
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการ
พบสภาพเนื้อ "ซากวาฬบรูด้า" ลอยกลางทะเลเกาะล้านเน่าเสียมากจนต้องผ่าพิสูจน์?อย่างละเอียดก่อนฝังกลบ ศูนย์ข่าว?ศรี?ราชา ?- ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก ร่วมชาวบ้านตรวจสอบ "ซากวาฬบรูด้า" หลังพบลอยกลางทะเลเกาะล้าน พบมีสภาพเนื้อเน่าเสียมากจนต้องส่งตรวจอย่างละเอียดก่อนทำการฝังกลบ จาก?กรณี?ที่มีการพบซากวาฬบรูด้าขนาดโตเต็มวัย อายุประมาณ 5-6 ปี ลอยกลางทะเลเกาะล้าน เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่สำนักทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2 ได้ส่งทีมเข้ากู้ซากก่อนเคลื่อนย้ายเข้าฝั่งชายหาดหัวโขด เกาะล้าน เพื่อเตรียมทำการชันสูตรหาสาเหตุการตายนั้น ล่าสุด วันนี้ (21 ก.ค.) มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่และทีมสัตวแพทย์ จากศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2 เมืองพัทยา และเครือข่ายชุมชนลงพื้นที่บริเวณหาดหัวขวด ชุมชนเกาะล้าน เพื่อทำการตรวจสอบซากวาฬบรูด้า ซึ่งในเบื้องต้นวัดความยาวได้ 12 เมตร เบื้องต้นพบว่า ซากวาฬมีการแปรสภาพสูงมาก หรือมีสภาพเนื้อเน่าเสียเป็นเวลานานจนทำให้ไม่สามารถแยกชนิดและหาสาเหตุการตายได้ จึงคาดว่าจะต้องใช้เวลาในการผ่าตรวจอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง เพื่อนำเนื้อเยื่อต่างๆ ไปตรวจสอบอีกครั้ง และหลังจากที่ทำการผ่าพิสูจน์เสร็จแล้วจะนำซากวาฬไปทำการฝังกลบที่ชายหาด เพื่อรอการย่อยสลายตามธรรมชาติก่อนจะขุดนำกระดูกไปเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์เพื่อศึกษาและดูแลต่อไป https://mgronline.com/local/detail/9660000066085 ****************************************************************************************************** นักวิจัยจีนพบ 'วาฬ 15 สายพันธุ์' ในทะเลจีนใต้ เมื่อไม่นานนี้ คณะนักวิจัยจีนจากห้องปฏิบัติการสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมและการใช้เสียงของสัตว์ทะเล ภายใต้สถาบันวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ใต้ทะเลลึก สังกัดสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน พบวาฬอย่างน้อย 15 สายพันธุ์ ระหว่างการสำรวจทางวิทยาศาสตร์ในน่านน้ำทางตอนเหนือของทะเลจีนใต้ หลังจากเดินทางนาน 20 วัน ระยะทางกว่า 3,500 กิโลเมตร ทีมวิจัยได้กลับถึงเมืองซานย่าของมณฑลไห่หนาน (ไหหลำ) ทางตอนใต้ของจีน เมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา นักวิจัยผสมผสานการสังเกตด้วยสายตา และการตรวจสอบด้วยเสียงแบบพาสซีฟ (PAM) พร้อมกับเก็บดีเอ็นเอสิ่งแวดล้อมระหว่างการวิจัย โดยทีมนักวิจัยสังเกตเห็นวาฬอย่างน้อย 15 สายพันธุ์ ซึ่งรวมถึงวาฬดำน้ำลึก 10 สายพันธุ์ และโลมา 5 สายพันธุ์ที่อาศัยไกลออกไปในทะเล การสำรวจทางวิทยาศาสตร์ครั้งล่าสุดนี้มอบหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับความหลากหลายทางชีวภาพของวาฬที่อุดมสมบูรณ์ภายในน่านน้ำที่สำรวจ โดยในฐานะสัตว์ชนิดพันธุ์เรือธง (flagship species) ของระบบนิเวศทางทะเล วาฬเป็นตัวบ่งชี้ถึงสภาวะสิ่งแวดล้อมท้องถิ่นและมีคุณค่าด้านการวิจัยเป็นอย่างมากสำหรับการปกป้องสภาพแวดล้อมทางนิเวศวิทยาในทะเลจีนใต้ให้ดียิ่งขึ้น ห้องปฏิบัติการจัดการสำรวจทางวิทยาศาสตร์ในทะเลจีนใต้ 6 ครั้ง เป็นเวลา 5 ปีติดต่อกัน ตั้งแต่ปี 2019 โดยคาดว่าผลลัพธ์การวิจัยจะเป็นรากฐานทางวิทยาศาสตร์สำหรับการคุ้มครองสัตว์ทะเลที่ใกล้สูญพันธุ์และหายากในน่านน้ำดังกล่าวต่อไป https://mgronline.com/china/detail/9660000065088
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#4
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด
เฉลยแล้วคืออะไร วัตถุปริศนาบนหาดออสเตรเลีย เกยตื้นมายังไง ชาวเน็ตหวั่นอันตราย เว็บไซต์ต่างประเทศ รายงานว่า วัตถุปริศนารูปโดมขนาดใหญ่ที่ถูกซัดมาเกยตื้นบนชายหาดอันห่างไกลของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ประเทศออสเตรเลีย ได้รับการระบุแล้วว่า เป็นถังเชื้อเพลิงของจรวด Indian Polar Satellite Launch Vehicle (PSLV) จากอินเดีย โดยเป็นวัตถุที่ปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงอันตรายต่อชุมชนดังกล่าว ก่อนหน้านี้ วัตถุปริศนารูปโดมนี้เป็นวัตถุที่ดูเหมือนไม่เคยเห็นกันมาก่อนว่ามันคือส่วนไหนในอุตสาหกรรมการบิน โดยมีคนที่มาเดินเล่นริมหาดกรีนเฮด เห็นมันโดยบังเอิญ จนทำให้ชาวบ้านในพื้นที่พากันมาดูว่าวัตถุปริศนาดังกล่าวคืออะไร บางคนถึงกับบอกว่า 'มันดูน่ารัก' และวันรุ่งขึ้นได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมายังบริเวณที่พบวัตถุปริศนาถูกคลื่นซัดมาเกยชายหาด และได้มีการกั้นพื้นที่ไว้ อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ถูกพบเมื่อวันอาทิตย์ 16 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งทางตำรวจออสเตรเลียได้ทำการคุ้มกันรอบพื้นที่ด้วยความกังวลว่าวัตถุนี้อาจจะเป็นขยะอวกาศ จำพวกเศษซากจรวดหรือยานอวกาศที่ตกลงมาบนโลก ที่อาจมีเชื้อเพลิงหรือสารเคมีอันตราย แต่จากการตรวจวิเคราะห์โดยศูนย์เคมี ยืนยันแล้วว่าวัตถุดังกล่าวมีความปลอดภัย ทางด้าน ดร.อลิซ กอร์แมน ผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดีอวกาศ จากมหาวิทยาลัยฟลินเดอร์ ของออสเตรเลีย เผยว่า ถังโลหะขนาดยักษ์นี้ แท้จริงแล้วคือชิ้นส่วน third stage จากจรวด PSLV ของอินเดีย โดยหลังการปล่อยจรวด ถังเชื้อเพลิงที่ถูกใช้แล้วจะถูกปลดออก ซึ่งทั่วไปก็มักจะร่วงลงมหาสมุทร เช่นเดียวกับชิ้นส่วนนี้ ดร.อลิซ เผยอีกว่า วัถตุนี้น่าจะจมอยู่บริเวณก้นทะเลมาระยะหนึ่งแล้ว จนกลายเป็นที่อาศัยของสัตว์น้ำต่าง ๆ รวมถึงพวกเพรียง ก่อนจะถูกพายุซัดขึ้นมา จนถูกคลื่นซัดขึ้นฝั่ง ทั้งนี้ ด้านองค์การอวกาศออสเตรเลีย (ASA) ระบุว่า ขณะนี้ทางหน่วยงานอยู่ระหว่างตรวจสอบวัตถุดังกล่าว ซึ่งอาจจะมาจากยานที่ถูกปล่อยสู่อวกาศของต่างชาติ และกำลังประสานงานกับหน่วยงานทั่วโลก ที่สามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ พร้อมขอความร่วมมือว่า หากมีผู้พบเห็นเศษซากต้องสงสัยเพิ่มเติม ขอให้แจ้งไปยังตำรวจท้องถิ่นและแจ้งมายัง ASA https://www.khaosod.co.th/around-the...s/news_7776730
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|