เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 01-08-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอังคารที่ 1 สิงหาคม 2566

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณมีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 1 ? 3 ส.ค. 66 ร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่าง ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 4 - 6 ส.ค. 66 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในขณะที่ร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านประเทศเมียนมา ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองตลอดช่วง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 1 ? 3 ส.ค. 66 นี้ไว้ด้วย






__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 01-08-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


อินเดียยืนยัน วัตถุปริศนาเกยหายออสเตรเลีย มาจากจรวดของพวกเขา

ทางการอินเดียยืนยัน เศษซากปริศนาที่ถูกคลื่นซัดไปเกยหายทางตะวันตกของออสเตรเลียเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน มาจากหนึ่งในจรวดส่งดาวเทียมของพวกเขาเอง



สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อช่วยกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีเศษซากวัตถุปริศนาถูกคลื่นซัดไปเกยหาด ?กรีดเฮด? ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองเพิร์ธ ทางตะวันตกของออสเตรเลียราว 250 กม. ทำให้เกิดการคาดเดาไปต่างๆ นานา ว่ามันคืออะไรกันแน่ บางคนถึงขั้นคิดว่ามันเป็นเศษชิ้นส่วนของเที่ยวบิน MH370 ที่หายสาบสูญไปหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ในวันจันทร์ที่ 31 ก.ค. 2566 นายสุธีร์ กุมาร โฆษกสำนักงานอวกาศอินเดีย ยืนยันกับสำนักข่าว บีบีซี ว่า ชิ้นส่วนดังกล่าวมาจากหนึ่งในจรวดส่งดาวเทียมโพลาร์ (PSLV) ของพวกเขาเอง และระบุว่า ขึ้นอยู่กับออสเตรเลียว่าจะทำอย่างไรกับวัตถุดังกล่าว โดยไม่แสดงความเห็นอื่นๆ เพิ่มเติม

ทั้งนี้ การยืนยันของอินเดียเกิดขึ้นหลังจากเมื่อสัปดาห์ก่อน สำนักงานอวกาศออสเตรเลียคาดการณ์ว่า มีความเป็นไปได้สูงที่วัตถุดังกล่าวจะมาจากชิ้นส่วนตอนที่ 3 ของจรวด PSLV ที่อินเดียใช้ส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรโลก


https://www.thairath.co.th/news/foreign/2713852

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 01-08-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการ


"ดร.ธรณ์" อธิบายเหตุการณ์แพลงก์ตอนบลูมในอ่าวไทย ย้ำโลกร้อนแรงขึ้น ทะเลใกล้เดือด



ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม ได้ออกมาโพสต์อธิบายเหตุการณ์แพลงก์ตอนบลูมในอ่าวไทย เกิดจากกระแสน้ำ ลมพัดพาเซลล์แพลงก์ตอนมากองรวมกัน แล้วเคลื่อนที่เข้ามาจนทำให้น้ำเปลี่ยนสี เตือนโลกร้อนแรงขึ้น ทะเลใกล้เดือด

วันนี้ (31 ก.ค.) เฟซบุ๊ก "Thon Thamrongnawasawat" หรือ ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม และอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ออกมาโพสต์อธิบายเหตุการณ์แพลงก์ตอนบลูมในอ่าวไทย โดยระบุว่า "ด้วยข้อมูลดาวเทียมจาก GISTDA เป็นภาพวัดคลอโรฟิลล์ในน้ำ ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับปริมาณแพลงก์ตอนพืชบลูม สีดำคือน้ำทะเลปรกติ สีเขียวคือเริ่มเกิดแพลงก์ตอนบลูม สีแดง/น้ำตาลเข้มคือบลูมเต็มที่ ปรกติแพลงก์ตอนบลูมจะเริ่มจากทะเลห่างฝั่ง จากนั้นพอเข้าใกล้ฝั่งด้วยกระแสน้ำ/คลื่นลม ปริมาณแพลงก์ตอนเพิ่มขึ้นเมื่อเจอธาตุอาหารสมบูรณ์ ประจวบกับแดดจ้า ปรกติเกิดที่ทะเลความลึก 8-10 เมตรหรือมากกว่า ในภาพจะเห็นในเขตสีเหลืองและสีแดงสุดท้ายจะเข้ามาจนถึงชายฝั่ง เป็นพัฒนาการขั้นเกือบสุดท้าย เป็นขั้นตอนที่เรียกว่า aggregation เกิดจากกระแสน้ำ/ลมพัดพาเซลล์แพลงก์ตอนมากองรวมกัน แล้วเคลื่อนที่เข้ามา

น้ำเปลี่ยนสีที่เข้าใกล้ฝั่งแล้วไม่นานจะสลายตัวไปด้วยสาเหตุต่างๆ แล้วแต่พื้นที่ เป็นขั้นตอนสุดท้ายของพัฒนาการการเกิดน้ำเปลี่ยนสี เรียกว่าขั้นตอนการยุติปรากฏการณ์ภาพจาก GISTDA แสดงให้เห็นชัดว่าแพลงก์ตอนบลูมในอ่าวไทยมากองรวมกันที่ชายฝั่ง EEC เพราะช่วงนี้เป็นมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ลมพัดน้ำมารวมอยู่บริเวณนั้นยังมีแพลงก์ตอนบลูมอีกแบบที่เกิดจากกระบวนการบริเวณปากแม่น้ำ

ขอบคุณข้อมูลจาก ดร.ไทยถาวร พี่หวอยของผม ผู้เชี่ยวชาญด้านแพลงก์ตอนบลูม/แพลงก์ตอนพืชของไทย ความรู้เหล่านี้มีประโยชน์มาก แสดงให้เห็นว่าเราต้องใช้ทั้งเทคโนโลยีทั้งการศึกษาวิจัยเข้ามารวมกันเพื่อตอบคำถามต่างๆ หวังว่าในอนาคต เราจะเริ่มสร้างระบบที่สามารถแจ้งเตือนสิ่งที่กำลังจะเกิด และจะมีส่วนช่วยเป็นอย่างยิ่งในการดูแลปกป้องกิจการของผู้คน ทั้งประมง ทั้งเพาะเลี้ยง ทั้งท่องเที่ยว ซึ่งทั้งหมดนั้น จำเป็นต้องได้รับความสนับสนุนอย่างจริงจังจากรัฐบาล/ภาครัฐ/ภาคเอกชน เพื่อระดมสรรพกำลังในการสร้างและดำเนินการ โลกร้อนแรงขึ้น ทะเลใกล้เดือด เราคงเหลือเวลาอีกไม่นานแล้วครับ"


https://mgronline.com/onlinesection/.../9660000068817

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 01-08-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด


คู่รักดวงเฮงเจอ "ไข่มุก" หอยนางรมขนาดใหญ่ โอกาสหนึ่งในล้าน-ทำแหวนหมั้น

โอกาสเจอหนึ่งในล้าน! สองสามีภรรยาดวงเฮง กัดเจอวัตถุแข็งๆ ในหอยนางรม อึ้ง เป็นไข่มุกเม็ดเบิ้ม ทั้งหายากและแพงประเมินค่าไม่ได้ ก่อนนำมาทำเป็นแหวนหมั้น



เว็บไซต์ต่างประเทศ รายงานว่า คู่รักคู่หนึ่งในสหรัฐ ชิมอาหารทะเลในร้านอาหารแห่งหนึ่ง พวกเขาบังเอิญพบวัตถุทรงกลมสีขาวในหอยนางรม ภายหลังจากการประเมินของผู้เชี่ยวชาญ พวกเขาก็ต้องประหลาดใจเมื่อรู้ว่าแท้จริงแล้วมันคือไข่มุกอันมีค่า ทั้งสองรู้สึกโชคดีมาก จึงตัดสินใจเก็บสมบัติล้ำค่านี้ไว้เป็นแหวนหมั้นเพื่อระลึกถึงช่วงเวลาพิเศษนี้ตลอดไป

ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น เผยว่า คู่รักในสหรัฐชื่อว่า นางแซนดี้ ซิคอร์สกี้ และ นายเคน สไตน์แคมป์ ได้ไปทานอาหารเย็นกับญาติและเพื่อนๆ ของพวกเขา ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เมื่อแซนดี้หยิบหอยนางรมตัวสุดท้ายบนจานในวันนั้นมาลองชิมดู จู่ๆ ก็รู้สึกว่ามีสิ่งแปลกปลอมแข็งๆ กลมๆ อยู่ในปาก

แซนดี้ได้คายสิ่งแปลกปลอมออกมา และวางบนมือของเธอเพื่อตรวจสอบ พี่สะใภ้ข้างๆ เธอเดาว่าเป็นฟันหรือไม่ แต่เธอมองใกล้ๆ และพบว่ามันเป็นไข่มุกที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดประมาณ 9.8 มิลลิเมตร

อย่างไรก็ตาม พวกเขาได้ส่งไข่มุกดังกล่าวไปให้ช่างอัญมณีตรวจสอบ ซึ่งก็ได้รับการยืนยันว่าเป็นไข่มุกจริงๆ ผู้ตรวจสอบถึงกับกล่าวว่าโอกาสที่จะพบไข่มุกเม็ดนี้มีประมาณ 1 ในล้านเท่านั้น และเน้นย้ำว่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 50 ปี ในการผลิตไข่มุกที่มีน้ำหนักและขนาดนี้ตามธรรมชาติ

เมื่อเร็วๆ นี้ แซนดี้ถูกแฟนหนุ่มซึ่งคบกับมา 4 ปี ขอแต่งงานจากเขา พวกเขาจึงสั่งไข่มุกพิเศษนี้เป็นแหวนหมั้น และกลับไปที่ร้านอาหารที่ค้นพบไข่มุกเพื่อฉลองช่วงเวลาสำคัญนี้

ทั้งนี้ เจ้าของร้านยังแชร์เรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ นี้บนอินสตาแกรม เพื่อแบ่งปันความสุขนี้กับคนอื่นๆ โดยชาวเน็ตต่างเข้ามาอวยพรให้ทั้งคู่มีความสุขในการเริ่มต้นชีวิตคู่


https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_7793067

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:31


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger