เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 13-08-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอาทิตย์ที่ 13 สิงหาคม 2566

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่อาจจะเกิดขึ้นไว้ด้วย

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเริ่มมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณมีฝนฟ้าคะนอง

อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น "แลง" (LAN) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก มีแนวโน้มจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่นในช่วงวันที่ 14-15 ส.ค. 66 ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าว โปรดตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางในระยะนี้ไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากในช่วงระหว่างบ่ายถึงค่ำ
อุณหภูมิต่ำสุด 28-29 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 13 - 15 ส.ค. 66 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับร่องมรสุมกำลังอ่อนพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2 ? 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1 ? 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 16 ? 18 ส.ค. 66 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับร่องมรสุมยังคงพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ ส่วนมากบริเวณด้านรับมรสุม และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังปานกลาง โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนบริเวณทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1 ? 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 13 ? 18 ส.ค. 66 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วยตลอดช่วง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนด้านภาคตะวันออกควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 13 ? 15 ส.ค. 66 นี้ไว้ด้วย









__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 13-08-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


เร่งค้นหา 2 ผู้สูญหาย พายุงวงช้างพัดสปีดโบ๊ตนักท่องเที่ยวล่มที่ปากอ่าวบางตะบูน

จนท.กู้ภัยเพชรบุรียังคงเร่งออกค้นหา 2 นักท่องเที่ยวที่หายไปจากเหตุเรือสปีดโบ๊ตท่องเที่ยวถูกพายุงวงช้างพัดกระหน่ำ พัดเรือลอยแล้วพลิกคว่ำล่มที่ปากอ่าวบางตะบูน ต.บางตะบูน ที่ อ.บ้านแหลม ขณะที่อีก 5 คนว่ายน้ำขึ้นฝั่งอย่างปลอดภัย



เมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. วันที่ 12 สิงหาคม ร.ต.อ.ไชยชนม์ อรุณโรจน์รังษี ร้อยเวร สภ.บางตะบูน อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี รับแจ้งเหตุเรือโดยสารล่ม มีผู้สูญหาย ที่บริเวณปากอ่าวบางตะบูน หมู่ 2 ตำบลบางตะบูนออก จึงรายงานให้ นายศนันย์ เกตุทอง นายอำเภอบ้านแหลมทราบแล้วรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมประสาน เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างสรรเพชญ แพทย์ รพ.บ้านแหลม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยเหลือ

ที่เกิดเหตุเป็นกลางแม่น้ำบางตะบูน ห่างจากฝั่งตลิ่งด้านทิศใต้ประมาณ 15 เมตร พบผู้ประสบเหตุว่ายน้ำขึ้นมาที่บริเวณริมฝั่งได้ จำนวน 6 คน เป็นชาย 2 คน คือ นายสัมพันธ์ จีนปึ้ง เป็นคนขับเรือ และนายธนากร ริ้วสุเมธ เป็นหญิง 4 คน คือ นางสาวสุธีพร ทวนทอง นางสาววาสนา โตสกุล นางสาวสุนีย์ แซ่เล้า และนางสาว ธนาพร ชูโต โดยขณะนี้ยังมีผู้สูญหายภายในน้ำเป็นชาย 2 คน ทราบชื่อคือ นายกฤษณัฐ คำปัญญา และ นายชนินทร์ ชมปิ่นทอง

สอบถาม นายสัมพันธ์ จีนปึ้ง คนขับเรือทีมงานปูเย็น ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่รอดชีวิต ทราบว่าก่อนเกิดเหตุได้รับการว่าจ้างจากกลุ่มนักท่องเที่ยว จำนวน 7 คน จาก Water Camping Resort บริเวณหมู่ 2 ตำบลบางตะบูน อำเภอบ้านแหลม ให้พานำเที่ยวบริเวณปากอ่าวแม่น้ำวังตะบูน เพื่อดูทัศนียภาพ ตนจึงนำนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวขึ้นเรือโดยสารมีหลังคา ที่ชาวบ้านเรียกเรือแท็กซี่ ยาวประมาณ 12 เมตร กว้าง 3 เมตร สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ประมาณ 22 คน นำนักท่องเที่ยว จำนวน 7 คนดังกล่าว เป็นผู้หญิง 4 คน ผู้ชาย 3 คน ออกจากปากอ่าวบางตะบูน ไปเที่ยวชมทัศนียภาพ ช่วงพระอาทิตย์ตกที่ปากอ่าวทะเลบ้านแหลม

หลังจากเที่ยวชมทัศนียภาพเสร็จ ขณะที่ตนกำลังขับเรือกลับเข้ามาในแม่น้ำบางตะบูน ขณะเหลือระยะทางอีกประมาณ 2 กิโลเมตร จะกลับถึงรีสอร์ต ได้ปรากฏพายุงวงช้างขนาดใหญ่ พัดรุนแรงพาเรือลอยจากนำ้และพลิกคว่ำทันที คณะนักท่องเที่ยวไม่ได้สวมเสื้อชูชีพ ตนได้พยายามช่วยเหลือนำนักท่องเที่ยวชาย 2 คน ที่อยู่ใกล้ตัวพาว่ายเข้าริมตลิ่ง เมื่อใกล้ถึงริมทะเล ตนคาดว่าน่าจะปลอดภัย ตนจึงว่ายน้ำกลับไปที่เรือที่ล่มเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยอีก 5 คน แต่ปรากฏว่าเมื่อหันกลับมาก็พบชาย 2 คนที่ตนช่วยมาครั้งแรกดังกล่าวจมน้ำหายไป ขณะห่างจากตลิ่งไม่เกิน 4-5 เมตร ตนไม่สามารถช่วยเหลือได้ทัน จึงจำเป็นต้องหันกลับไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยอีก 5 คน ขึ้นฝั่งได้อย่างปลอดภัย

เบื้องต้น นายศรันย์ เกตุทอง นายอำเภอบ้านแหลม รายงานให้ นายณัฏฐชัย นำพูลสุขสันติ์ ผู้ว่าฯ เพชรบุรี ทราบ และประสานสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระดมค้นหา นายกฤษณัฐ คำปัญญา และ นายชนินทร์ ชมปิ่นทอง ผู้สูญหายทั้ง 2 ราย อย่างเร่งด่วนแล้ว.


https://www.thairath.co.th/news/local/central/2716869

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 13-08-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจ


ดร.ธรณ์ เผยสาเหตุ 'แพลงก์ตอนบลูม' เกิดบ่อย ส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำ-ระบบนิเวศ

'ดร.ธรณ์' เผยสาเหตุที่ 'แพลงก์ตอนบลูม' เกิดบ่อย หลังล่าสุดน้ำทะเล 'บางแสน' สีเขียวปี๋ ชี้แม้ไม่มีพิษแต่ส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำ-ระบบนิเวศ



วันที่ 12 สิงหาคม 2566 ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ หรือ 'ดร.ธรณ์' อาจารย์ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat ระบุถึงกรณีเกิดปรากฏการณ์ 'แพลงก์ตอนบลูม' ที่ทะเล 'บางแสน' จนน้ำทะเลมีสีเขียวปี๋ ว่า


ทะเลชายฝั่ง 'บางแสน' ศรีราชา เกิด 'แพลงก์ตอนบลูม' ต่อเนื่อง จึงอยากสรุปให้เพื่อนธรณ์ทราบอีกครั้ง น้ำเขียวปี๋เกิดจากแพลงก์ตอนพืชเพิ่มจำนวนมากผิดปรกติ แพลงก์ตอนที่พบในตอนนี้ไม่มีพิษ ยังกินอาหารทะเลได้ตามปรกติ

แต่น้ำเขียวไม่น่าเล่นน้ำ/ท่องเที่ยว ยังส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำและระบบนิเวศ ออกซิเจนลดลงโดยเฉพาะบริเวณพื้นทะเล บางครั้งทำให้สัตว์น้ำตาย ยังส่งผลต่อการประมงชายฝั่งและการเพาะเลี้ยง

แพลงก์ตอนบลูมเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ เกิดขึ้นจากธาตุอาหารลงทะเลมากในหน้าฝน บางจังหวะมีแดดแรง กระบวนการในทะเลเหมาะสม ทำให้แพลงก์ตอนพืชเพิ่มเร็ว มนุษย์มีส่วนเกี่ยวข้องเพราะเราเพิ่มธาตุอาหารลงไป ทั้งการเกษตร น้ำทิ้ง ฯลฯ

แพลงก์ตอนบลูมเริ่มก่อตัวในทะเลนอก และขยายจำนวนขึ้น จนเข้าสู่ระยะสุดท้ายบริเวณชายฝั่ง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ พัดน้ำเข้าไปรวมที่อ่าวไทยตอนในแถวชลบุรี ทำให้น้ำเขียวรวมตัวอยู่แถบนั้น

ระยะสุดท้ายของแพลงก์ตอนบลูมจะเกิดเพียงช่วงสั้นๆ ไม่กี่วัน จากนั้นจะหมดไป แต่อาจเกิดขึ้นใหม่ตามลมที่พัดพามวลน้ำเข้ามา ยังมีปรากฏการณ์แพลงก์ตอนบลูมที่เกิดตามปากแม่น้ำได้อีกด้วย แต่สุดท้ายลมในช่วงนี้ก็พัดไปรวมที่ชายฝั่งชลบุรี

เมื่อถึงช่วงปลายปี ลมมรสุมเปลี่ยนทิศ แพลงก์ตอนบลูมแถวชลบุรีอาจลดลง แต่ปีหน้าก็อาจกลับมาใหม่ตามลมมรสุม 'โลกร้อน' อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับแพลงก์ตอนบลูม ตามการศึกษาต่างประเทศที่พบว่าน้ำเขียวทั่วโลกเกิดถี่ขึ้นเรื่อย และขยายพื้นที่ไปในบริเวณต่างๆ ของโลก

เราวัดคลอโรฟิลล์ในผิวหน้าน้ำทะเลได้โดยใช้ดาวเทียม แต่ต้องทำเป็นระบบและติดต่อเป็นประจำ เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง หากเราเข้าใจกระบวนการทางสมุทรศาสตร์เพิ่มขึ้น เช่น วัดกระแสน้ำ คุณภาพน้ำแบบเรียลไทม์ ฯลฯ เราจะเริ่มมีความสามารถในการทำนายและแจ้งเตือน

น่าเสียดายที่สถานีวัดสมุทรศาสตร์แบบดังกล่าวตอนนี้มีเฉพาะที่ศรีราชา เป็นความร่วมมือระหว่างคณะประมง มก./สสน. ผมเคยเสนอให้มีการติดตั้งสถานีวัดสมุทรศาสตร์เพิ่มเติมไปแล้วอย่างน้อยอีก 2 ที่เพื่อให้ครอบคลุมอ่าวไทยตอนในทั้งหมด ผ่านที่ประชุมระดับชาติไปแล้ว แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้เกิด (เท่าที่ทราบ)

หากเรายังไม่ทำอย่างเป็นระบบ ไม่มีข้อมูลเพียงพอ ทำได้แค่น้ำเขียวเมื่อไหร่ก็ไปตรวจสอบเหมือนอย่างที่เป็นมา เราก็ย่ำอยู่กับที่ ในขณะที่มีแนวโน้มว่าน้ำเขียวจะเพิ่มขึ้นและถี่ขึ้นเรื่อยในอนาคต

ในขณะเดียวกัน การยกระดับการบำบัดน้ำทิ้ง การปรับเปลี่ยนการเกษตรให้เหมาะสม จะช่วยลดปัญหาที่ต้นเหตุ น้ำคือทุกอย่างของทะเล เมื่อน้ำมีปัญหา ทุกอย่างในทะเลก็มีปัญหา กิจการเกี่ยวกับทะเลย่อมได้รับผลกระทบ

เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาเฉพาะที่ แต่เป็นปัญหาในภาพรวม การแก้ไขไม่สามารถทำเฉพาะครั้งคราว แต่ต้องลงทุนลงแรงทำจริงจังต่อเนื่อง เรียนรู้เพื่อทำนายและแจ้งเตือน กำหนดเป้าในการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ

หากเราไม่ลงทุนกับสิ่งเหล่านี้ ทะเลเราก็แย่ลง กิจการเกี่ยวกับทะเลก็ได้รับผลกระทบมากขึ้น สุดท้ายไม่ว่าเราลงทุนกับโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการท่องเที่ยวหรือฝันอยากเป็นอะไร เมื่อน้ำทะเลสีเขียวปี๋บ่อยขึ้นและบ่อยขึ้น เราก็คงยากไปถึงฝัน

โลกเราซับซ้อนมากขึ้น ตัวแปรมีมากมาย หากเราอยากอยู่กับธรรมชาติอย่างยั่งยืน ได้ประโยชน์ให้เนิ่นนาน เราต้อง 'รู้จัก' ทะเลให้มากขึ้น ณ จุดนี้ เรายังทำความรู้จักกับยุคโลกร้อนทะเลเดือดได้ไม่พอครับ

ขอบคุณภาพจาก 'ชอบจัง บางแสน' ย้ำเตือนว่าแพลงก์ตอนไม่มีพิษ ยังคงกินสัตว์น้ำได้ครับ


https://www.bangkokbiznews.com/news/news-update/1083277

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 10:06


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger