เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 18-08-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันศุกร์ที่ 18 สิงหาคม 2566

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลงแต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักในระยะนี้

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากในช่วงระหว่างบ่ายถึงค่ำ
อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 18 - 19 ส.ค. 66 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในขณะที่ร่องมรสุมกำลังอ่อนยังคงพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลงแต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1 ? 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 20 ? 23 ส.ค. 66 ร่องมรสุมกำลังปานกลางจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1 ? 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองตลอดช่วง






__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 18-08-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


ทีมวิจัยไขปริศนาซากวาฬ "ฟาโรห์" อายุ 41 ล้านปี



บาซิโลซอรัส (Basilosauridae) เป็นกลุ่มวาฬที่สูญพันธุ์ไปแล้ว แต่มีความสำคัญตรงที่วาฬวงศ์นี้แสดงขั้นตอนวิวัฒนาการของวาฬ โดยเปลี่ยนจากอยู่บนบกไปสู่ทะเล พัฒนาลักษณะที่เหมือนปลา ทั้งมีร่างกายที่คล่องตัว มีหางแข็งแรง รยางค์คล้ายใบพาย มีครีบหาง และมีรยางค์ส่วนท้ายที่ดูเหมือน "ขา" แต่ไม่ได้ใช้เดิน ทว่าอาจใช้ในการผสมพันธุ์ อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีประเด็นที่นักบรรพชีวินวิทยาสงสัยอยู่มากถึงวิวัฒนาการของวาฬในยุคแรกเริ่ม

ล่าสุด ทีมวิจัยนำโดยผู้เชี่ยวชาญด้านซากดึกดำบรรพ์สัตว์มีกระดูกสันหลังที่มหาวิทยาลัยอเมริกัน กรุงไคโร และศูนย์บรรพชีวินวิทยาสัตว์มีกระดูกสันหลังที่มหาวิทยาลัยอัลมันศูเราะฮ์ ในอียิปต์ เผยการศึกษาซากฟอสซิลของวาฬที่สูญพันธุ์ไปแล้วชื่อ Tutcetus rayanensis เพิ่งค้นพบในหินสมัยอีโอซีนตอนกลาง ขนาดตัวของมันยาวประมาณ 2.5 เมตร ถูกระบุว่าเป็นวาฬสายพันธุ์ใหม่ อาศัยอยู่ในทะเลโบราณที่ปกคลุมอียิปต์ในปัจจุบันเมื่อราว 41 ล้านปีก่อน Tutcetus rayanensis จัดอยู่ในวงศ์บาซิโลซอรัสที่เล็กที่สุดเท่าที่เคยพบมา เพราะเมื่อประเมินมวลกายพบว่าอยู่ที่ประมาณ 187 กิโลกรัมเท่านั้น และมันยังเป็นหนึ่งในหลักฐานเก่าแก่ที่สุดของวงศ์บาซิโลซอรัสจากแอฟริกา

ทีมวิจัยเผยว่า Tutcetus rayanensis ช่วยให้เห็นภาพวิวัฒนาการของวาฬในยุคแรกเริ่มในแอฟริกาได้อย่างชัดเจน ชื่อของมันได้แรงบันดาลใจจากประวัติศาสตร์อียิปต์และตำแหน่งที่พบฟอสซิล โดยคำว่า "Tut" หมายถึง "ฟาโรห์ตุตันคามุน" ผู้โด่งดังของอียิปต์ ส่วน "cetus" เป็นภาษากรีกแปลว่า "วาฬ".


https://www.thairath.co.th/news/foreign/2717465

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 18-08-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการ


ทช.จัดกิจกรรมระลึก 4 ปีแห่งการจากไปพะยูนมาเรียม-ยามีล เผยผลสำรวจพะยูนทะเลกระบี่พบ 22 ตัว

กระบี่ - กรมทะเลชายฝั่ง จัดกิจกรรมงานวันอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติ ครั้งที่ 2 ร่วมระลึก 4 ปีแห่งการจากไปพะยูนมาเรียม-ยามีล เผยผลการสำรวจพะยูนทะเลกระบี่พบ 22 ตัว คู่แม่ลูก 3 คู่



วันนี้ (17 ส.ค.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ร่วมกับจังหวัดกระบี่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดกิจกรรมงานวันอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติ ครั้งที่ 2 ประจำปี 2566 ?ระลึกถึงพะยูนน้อยมาเรียม และยามีล ร่วมใจกันรักษ์พี่น้องและพ่อแม่พะยูนของไทย? โดยมี นายพิชิต สมบัติมาก รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธี พร้อมกันนี้ นายสมชาย หาญภักดีปฏิมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายอภิชัย เอกวนากุล รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (รรท.อทช.) พล.ร.ต.ภุชงค์ รอดนิกร เสนาธิการทัพเรือภาคที่ 3 ดร.พรศรี สุทธนารักษ์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และนายภาคภูมิ วิธานติรวัฒน์ ประธานมูลนิธิอันดามัน ตลอดจนคณะผู้บริหารในสังกัดกระทรวง ทส. ทัพเรือภาคที่ 3 ศรชล.ภาค 3 ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน มูลนิธิ องค์กร ชุมชนชายฝั่ง และภาคีเครือข่ายด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในพื้นที่ รวมถึงนักเรียน นักศึกษา สื่อมวลชน และประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมงานกว่า 500 คน ณ เวทีกลางจัดงาน สวนสาธารณะเทศบาลเมืองกระบี่ อ.เมือง จ.กระบี่

นายพิชิต สมบัติมาก รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า สืบเนื่องวันที่ 17 สิงหาคมของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็นวันอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติ และเพื่อเป็นการระลึกถึง 4 ปีแห่งการจากไปของพะยูนมาเรียมและยามีล กรม ทช. จึงจัดกิจกรรมงานวันอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติ ครั้งที่ 2 ประจำปี 2566 ขึ้น เพื่อสร้างความตระหนักถึงการดูแลทรัพยากรท้องทะเลไทย รวมถึงรณรงค์ลดขยะทะเลและลดการใช้ถุงพลาสติก ตลอดจนสร้างจิตสำนึกให้ทุกคนเห็นถึงความสำคัญของการอนุรักษ์พะยูน และแหล่งหญ้าทะเลของไทย สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-17 สิงหาคม 2566 โดยภายในงานได้มีการจัดนิทรรศการด้านการอนุรักษ์พะยูน และหญ้าทะเลของหน่วยงานต่างๆ การออกบูทจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากเครือข่ายชุมชนชายฝั่ง องค์กรเอกชน ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ มีเวทีเสวนาให้ความรู้วิชาการในหัวข้อ "อดีต ปัจจุบัน และอนาคตพะยูนไทย" รวมถึงแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในหัวข้อ "เรื่องเล่าน้องมาเรียม ยามีล สู่การจัดการพะยูน และแหล่งหญ้าทะเลใน 13 พื้นที่ของประเทศไทย นอกจากนี้ ได้มีการจัดกิจกรรมอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ในพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีกิจกรรมปลูกฟื้นฟูหญ้าทะเล และปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ณ บริเวณอ่าวน้ำเมา ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ ร่วมกับทัพเรือภาคที่ 3 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลการสำรวจพะยูนในท้องทะเลกระบี่ ของศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนล่าง (ศวอล.) ออกปฏิบัติงานสำรวจการแพร่กระจายของสัตว์ทะเลหายาก บริเวณพื้นที่ จ.กระบี่ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ผลการสำรวจเบื้องต้นพบพะยูน 22 ตัว (พะยูนคู่แม่-ลูก จำนวน 3 คู่) ผลการตรวจสุขภาพโดยการประเมินสุขภาพจากการสังเกตด้วยสายตา พบว่าพะยูนแสดงพฤติกรรมว่ายน้ำหาอาหารบนแนวหญ้าทะเล และพฤติกรรมการผสมพันธุ์ นอกจากนี้ ยังพบพะยูนคู่แม่-ลูก ซึ่งแสดงถึงความสมบูรณ์เพศของตัวสัตว์ หากินแหล่งหญ้าทะเลบริเวณ เกาะศรีบอยา อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ ซึ่งจังหวัดกระบี่ มีแหล่งหญ้าขนาดใหญ่กระจายตามพื้นที่ชายฝั่งอำเภอเมืองกระบี่ เหนือคลอง คลองท่อม และเกาะลันตา

สำหรับพะยูนมาเรียม เป็นลูกพะยูนที่พลัดหลงจากฝูงถูกพบเกยตื้นอยู่บนชายหาดอ่าวทึง ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ เมื่อปี 2562 ถูกนำตัวไปอนุบาลระบบเปิดในธรรมชาติบริเวณบ้านแหลมจูโหย เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง และยามีล พะยูนเพศผู้ วัย 3 เดือน ถูกพบเกยตื้น บริเวณทะเลกระบี่ ต.ทรายขาว อ.คลองท่อม เมื่อวันที่ 1 ก.ค.2562 นำไปอนุบาลพักฟื้นอยู่ภายในบ่ออนุบาลของกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน (ศวทม.) แหลมพันวา ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต แต่พะยูนทั้ง 2 ตัวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ผ่าชันสูตรพบขยะทะเลอยู่ในท้องของพะยูนทั้ง 2 ตัว จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการรณรงค์อนุรักษ์พะยูน และไม่ทิ้งขยะลงทะเลอย่างจริงจัง


https://mgronline.com/south/detail/9660000074114

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 18-08-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ


17 สิงหาคม วันอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติ เผยแหล่งอาศัย 13 แห่งในไทย



17 สิงหาคม วันอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมระบุจำนวนพะยูนในธรรมชาติเพิ่มขึ้น ประเมินประชากรพะยูนในปี 2565 พบประมาณ 273 ตัว และในปี 2566 อยู่ระหว่างการสำรวจในพื้นที่แหล่งอาศัยพะยูน 13 แห่ง

วันนี้ 17 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นวันอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติ ซึ่งจะตรงกับวันที่ 17 สิงหาคมของทุกปี ตามมติคณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2562 เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2562

นอกจากนี้ ในที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบแผนอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติ เน้นเป้าหมายเพิ่มประชากรพะยูน การดูแลพื้นที่อาศัยของพะยูน การจัดการท่องเที่ยว/ประมงเพื่อลดการรบกวนพะยูน การจัดตั้งศูนย์ช่วยชีวิต การสร้างพิพิธภัณฑ์สัตว์หายากและศูนย์เรียนรู้ฯ และการรณรงค์เพื่อการอนุรักษ์พะยูน

สำหรับ "พะยูน" ในไทยมีชื่อเรียกภาษาอังกฤษว่า Dugong มีชื่อเรียกท้องถิ่นหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น วัวทะเล หมูน้ำ ฝั่งจันทบุรีจะเรียกว่า หมูดุด ส่วนในภาษามลายูจะเรียกว่า ดุหยง ซึ่งแปลว่าหญิงสาวแห่งท้องทะเล พะยูนที่พบในไทยมีลักษณะเด่นคือหางจะมีลักษณะเป็นหางสองแฉกคล้ายหางโลมา

ทั้งนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) จัดกิจกรรมงานวันอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติ ครั้งที่ 2 ประจำปี 2566 ?ระลึกถึงมาเรียม ยามีล ร่วมใจกันรักษ์พี่น้องและพ่อแม่พะยูนของไทย? ที่สวนสาธารณะเทศบาลเมืองกระบี่ อ.เมือง จ.กระบี่

โดยนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) กล่าวว่า 4 ปีแห่งการจากไปของมาเรียมและยามีลพะยูนน้อยแห่งทะเลอันดามัน ทำให้สังคมหันมาสนใจในการอนุรักษ์พะยูน และตระหนักถึงปัญหาของขยะทะเลกันมากขึ้น

ที่ผ่านมากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำชับให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์ุพืช และหน่วยงานในสังกัดได้ร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ในการทำงานเพื่อแก้ไขและฟื้นฟูเพิ่มจำนวนพะยูน รวมถึงสัตว์ทะเลหายากในท้องทะเลไทยมาโดยตลอด

โดยผ่านกระบวนการทำงานภายใต้ "มาเรียมโปรเจค" ซึ่งจากการสำรวจประเมินประชากรพะยูนในปี 2565 พบพะยูนประมาณ 273 ตัว และในปี 2566 อยู่ระหว่างการสำรวจในพื้นที่แหล่งอาศัยพะยูนทั้ง 13 แห่ง ประกอบด้วย

1.บริเวณเกาะลิบง เกาะมุก และอ่าวสิเกา จังหวัดตรัง

2.เกาะศรีบอยา เกาะปู เกาะจำ และอ่าวนาง จังหวัดกระบี่

3.เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่ อ่าวพังงา จังหวัดพังงา อ่าวป่าคลอก จังหวัดภูเก็ต

4.เกาะลิดี เกาะสาหร่าย จังหวัดสตูล

5.เกาะพระทอง จังหวัดพังงา

6.หมู่เกาะกรูด จังหวัดตราด

7.อ่าวคุ้งกระเบน จังหวัดจันทบุรี

8.ปากน้ำประแส จังหวัดระยอง

9.อ่าวสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

10.อ่าวทุ่งคาสวี จังหวัดชุมพร

11.อ่าวบ้านดอน จังหวัดสุราษฎร์ธานี

12.อ่าวปัตตานี จังหวัดปัตตานี และ

13.อ่าวเตล็ด จังหวัดนครศรีธรรมราช

จากความร่วมมือในการดำเนินการตามแผนอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติ ระยะที่ 1 นั้น ถือว่าผลลัพธ์ที่ได้เป็นที่น่าพอใจ เพราะเราสามารถเพิ่มจำนวนพะยูนในธรรมชาติได้เพิ่มขึ้นและยังสามารถออกกฎกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประกาศให้แหล่งอาศัยของพะยูนในอำเภอปะเหลียน อำเภอหาดสำราญ อำเภอย่านตาขาว อำเภอกันตัง และอำเภอสิเกา จังหวัดตรัง เป็นพื้นที่ให้ใช้มาตรการคุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

ในอนาคตจะเดินหน้าสานต่อการจัดทำแผนอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติ ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2566-2568) เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานในการเพิ่มจำนวนประชากรของพะยูนในประเทศไทยให้เพิ่มมากขึ้น

สำหรับการดำเนินงานที่ผ่านมา ต้องขอชื่นชมกับพี่น้องประชาชน นักท่องเที่ยว และภาคส่วนต่างๆ ที่เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานทุกขั้นตอน แก้ไขปัญหาครอบคลุมทุกมิติตั้งแต่การอนุรักษ์ ฟื้นฟู และจัดการปัญหาขยะทะเลตั้งแต่ต้นทางก่อนลงสู่ทะเล อีกทั้งประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการจัดการแบบเต็มรูปแบบอีกด้วย

ด้านนายอภิชัย เอกวนากุล รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (รรท.อทช.) กล่าวเสริมว่า ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2562 เป็นวันที่พะยูนมาเรียมเสียชีวิต และต่อมาพะยูนยามีลก็เสียชีวิตเช่นกัน ลูกพะยูนทั้งสองตัวถูกพบในพื้นที่จังหวัดกระบี่ โดยสาเหตุหลักของการตายเกิดจากการพลัดพรากจากแม่ที่คอยดูแลให้นม แล้วมีอาการเจ็บป่วยเนื่องจากมีขยะอยู่ในร่างกาย

เรื่องราวของลูกพะยูนขณะนั้นมีผลทำให้ทุกฝ่ายหันมาให้ความสนใจกับประเด็นการอนุรักษ์พะยูนและหญ้าทะเล และตระหนักถึงปัญหาขยะทะเลที่เป็นสาเหตุการตายของพะยูนมากขึ้น ดังนั้น เพื่อเป็นการระลึกถึงมาเรียมและยามีล จึงกำหนดให้วันที่ 17 สิงหาคมของทุกปี เป็นวันอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติ

ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เน้นย้ำเสมอว่า กระทรวงฯ ไม่เคยหยุดทำงานเพื่อแก้ไขและฟื้นฟูเพิ่มจำนวนพะยูนรวมถึงสัตว์ทะเลหายากในท้องทะเลไทย ซึ่งได้หารือกับปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อเร่งดำเนินการเพิ่มจำนวนประชากรพะยูนและแหล่งหญ้าทะเล พร้อมกำชับให้หน่วยงานในสังกัดกรม ทช. เดินหน้าสานต่อการจัดทำแผนอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติ ระยะที่ 2 (2566-2568)

ตลอดจนเร่งบูรณาการร่วมกับจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชนชายฝั่ง อาสาสมัครพิทักษ์ทะเล ผู้ประกอบการ และประชาชน ในการอนุรักษ์ ฟื้นฟูสัตว์ทะเลหายากทุกชนิด โดยเฉพาะพะยูน ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ต่อไป

ดังนั้น กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้เล็งเห็นถึงสิ่งสำคัญในการอนุรักษ์พะยูน จึงจัดกิจกรรมงานวันอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติ ครั้งที่ 2 ประจำปี 2566 "ระลึกถึงมาเรียม ยามีล ร่วมใจกันรักษ์พี่น้องและพ่อแม่พะยูนของไทย" ขึ้น ระหว่างวันที่ 16 ? 17 สิงหาคม 2566 เพื่อประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจ และสร้างจิตสำนึกแก่นักเรียน นักศึกษา ประชาชน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในพื้นที่ ให้เห็นถึงความสำคัญของการอนุรักษ์พะยูน และแหล่งหญ้าทะเลของไทย


https://www.prachachat.net/local-economy/news-1372813

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 15:26


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger