สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันศุกร์ที่ 6 ตุลาคม 2566

[สายน้ำ]

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณภาคกลางตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ และภาคกลาง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรงในระยะนี้

สำหรับทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น "โคอินุ" บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีนในช่วงวันที่ 6-8 ต.ค. 66 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 6 ? 7 ต.ค. 66 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนตามแนวร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือ ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ สำหรับบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 8 ? 11 ต.ค. 66 ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคใต้ตอนบน ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง กับมีลมกระโชกแรง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง สำหรับบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น "โคอินุ" บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก คาดว่าลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนในวันนี้ โดยจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีนในช่วงวันที่ 6 ? 8 ต.ค. 66 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากลมกระโชกแรง ฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วยตลอดช่วง



******************************************************************************************************



ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุ "โคอินุ" ฉบับที่ 2 (263/2566)

เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (6 ต.ค. 66) พายุไต้ฝุ่น "โคอินุ" บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 21.8 องศาเหนือ ลองจิจูด 118.2 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีนในช่วงวันที่ 6 ? 8 ต.ค. 66 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการ


พบซากวาฬบรูด้ากว่า 10 ตัน ตายลอยกลางทะเลหาดชะอำ เตรียมผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตาย

เพชรบุรี - พบซากวาฬบรูด้ากว่า 10 ตัน ตายลอยกลางทะเลด้านทิศเหนือของหาดชะอำ จ.เพชรบุรี คาดตายมาแล้วกว่า 10 วัน เจ้าหน้าที่เตรียมนำผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตาย



วันนี้ (5 ต.ค.) นายโชคชัย อธิกปาลี ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลเพชรบุรี สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 3 จ.เพชรบุรี ทีมสัตวแพทย์ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนบน ประมงเพชรบุรี เจ้าหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองชะอำ ได้รับแจ้งจากเรือประมง ชื่อเรือโชคออมทรัพย์ ว่า พบซากวาฬขนาดใหญ่ลอยอยู่กลางทะเล ด้านทิศเหนือของหาดชะอำ จ.เพชรบุรี จึงนำกำลังพร้อมนำเรือยาง และเรือเร็วป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองชะอำเข้าตรวจสอบ

ในที่เกิดเหตุเป็นท่าเทียบเรือสะพานหิน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ห่างจากฝั่งประมาณ 5 กิโลเมตร พบซากวาฬบรูด้า ตัวเต็มวัย อายุประมาณ 5-6 ปี ความยาว 10-13 เมตร ในสภาพเน่าเปื่อยส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วลอยตายอยู่ในทะเล คาดว่าตายมาแล้วกว่า 10 วัน โดยเรือประมงในพื้นที่ที่พบได้ทำการใช้เชือกมัดหางวาฬเก็บกู้ซากลากเข้ามาที่เข้าชายหาดชะอำ บริเวณท่าเทียบเรือสะพานหิน จากนั้นทีมสัตวแพทย์ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนบน ได้ทำการใช้เรือลากซากวาฬบรูด้าไปผ่าพิสูจน์ซากที่ค่ายพระรามหก อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เพื่อหาสาเหตุการตายที่แน่ชัดต่อไป

นายโชคชัย อธิกปาลี ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลเพชรบุรี กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากเรือประมงโชคออมทรัพย์ ว่า พบวาฬตายในทะเลก่อนใช้เรือลากเข้ามาให้เจ้าหน้าที่ที่ฝั่งตรวจสอบ พบเป็นวาฬบรูด้าขนาดโตเต็มวัย ทีมเจ้าหน้าที่ได้ระดมเครื่องมือนำซากไปผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายที่ค่ายพระรามหก ที่อาจจะบอกได้ว่าวาฬบรูด้าตัวนี้มีชื่อหรือไม่ ขอความร่วมมือชาวประมงในจังหวัดหากพบสัตว์ทะเลหายากที่บาดเจ็บ ป่วย ล้มตายแล้ว แจ้งได้ที่สายด่วน 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง จะมีทีมเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบ เพื่อร่วมอนุรักษ์สัตว์ทะเลของบ้านเราให้อยู่คู่ไทยไปนานๆ


https://mgronline.com/local/detail/9660000089760

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก แนวหน้า


ควบคุมคราบน้ำมันให้อยู่ในวงจำกัดได้แล้วหลังไหลออกจากเรือขุดแอ่งจอดท่าเรือแหลมฉบัง



รอง ผอ.ท่าเรือแหลมฉบังเผยควบคุมคราบน้ำมันจากเรือขุดแอ่งจอดเรือโครงการท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 ได้แล้ว ยันไม่มีคราบน้ำมันไหลออกนอกพื้นที่ควบคุม

ความคืบหน้ากรณีเรือขุดแอ่งจอดเรือ โครงการท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ทำน้ำมันรั่วไหลลงในทะเล บริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ส่วนที่ 1 ทางทะเล โดยมีการรั่วไหลของน้ำมันออกมาจากเรือขุด ที่ขุดลอกภายในโครงการฯ ซึ่งท่าเรือแหลมฉบัง ร่วมกับเจ้าท่าพื้นที่ ชลบุรี และเรือศรีราชา ออฟชอร์ 882 จาก บริษัท ศรีราชา ออฟชอร์ 88 จำกัด ออกวางบูมรอบบริเวณดังกล่าว เพื่อกั้นไม่ให้น้ำมันรั่วไหลออกมานอกพื้นที่ที่ควบคุม พร้อมโรยสารเคมีขจัดคราบน้ำมัน ที่จะทำให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งขณะนี้สามารถควบคุมพื้นที่ให้อยู่ในวงจำกัดได้แล้ว

นายวีระยุทธ์ สว่างแจ้ง รองผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง เปิดเผยว่า ในช่วงสายๆ วันนี้ได้รับแจ้งจากเรือขุดลอกที่มาสร้างท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ส่วนที่ 1 ทางทะเล ว่ามีคราบน้ำมันลอยอยู่เหนือผิวน้ำ ในเบื้องต้นยังไม่ทราบว่าน้ำมันดังกล่าว รั่วมาจากส่วนใหนของเรือและให้เรือลำดังกล่าวหยุดปฏิบัติหน้าที่โดยทันที ซึ่งยังโชคดีที่คราบน้ำมันยังอยู่ในแอ่งจอดเรือ ซึ่งสามารถควบคุมได้ ขณะนี้ท่าเรือฯ ได้ทำการล้อมบูมรอบบริเวณดังกล่าว เพื่อกั้นไม่ให้น้ำมันรั่วไหลออกมาออกนอกพื้นที่ควบคุม และให้เรือคอยตรวจสอบคราบน้ำมันอยู่ตลอดเวลา

ขณะนี้เหลือเพียงคราบฟิลม์น้ำมันบางๆ การทำงานในครั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่จาก กรมเจ้าท่า มาร่วมตรวจสอบด้วย หวังว่าวันนี้จะดำเนินการได้เสร็จสิ้น จึงขอแจ้งประชาชนในพื้นที่ไม่ต้องตกใจ เพราะจะไม่มีคราบน้ำมันรั่วไหลไปด้านนอกแน่นอน


https://www.naewna.com/local/761147