#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม 2566
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณด้านตะวันตกของประเทศ ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรงในระยะนี้ สำหรับทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น "โคอินุ" บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีนในช่วงวันที่ 8-9 ต.ค. 66 ซึ่งจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนและพายุดีเปสชันตามลำดับ โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางไว้ด้วย กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 7 ? 8 ต.ค. 66 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมด้านตะวันตกของประเทศไทย ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ สำหรับบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 9 ? 12 ต.ค. 66 ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน โดยมีบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่องกับมีลมกระโชกแรง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง สำหรับบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น "โคอินุ" บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน โดยจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีนในวันที่ 9 ต.ค. 66 และจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน และพายุดีเปรสชันตามลำดับ โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากลมกระโชกแรง ฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วยตลอดช่วง ****************************************************************************************************** ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุ "โคอินุ" ฉบับที่ 4 (265/2566) เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (7 ต.ค. 66) พายุไต้ฝุ่น "โคอินุ" บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 21.2องศาเหนือ ลองจิจูด 115.6 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 157 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางใต้เล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีนในช่วงวันที่ 8-9 ต.ค. 66 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์
พบ 'ไข่ประหลาด' ในอะควาเรียมฟักออกมาเป็นสัตว์ตัวจิ๋วสุดน่ารัก หลังจากที่มีนักท่องเที่ยวช่างสังเกตมองเห็น "ไข่" หน้าตาประหลาดในสวนสัตว์น้ำที่ซานดิเอโก ไข่ใบนั้นก็ฟักออกมาเป็นสัตว์ตัวน้อยหน้าตาน่าเอ็นดู หลังจากที่มีนักท่องเที่ยวสวนสัตว์น้ำ 'เบิร์ช อะความเรียม' ในซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สังเกตเห็นไข่หน้าตาแปลก ๆ ในสวนสัตว์น้ำ พวกเขาก็ได้เห็นภาพของสมาชิกใหม่ของอะความเรียมแห่งนี้เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ที่ผ่านมา ทางอะควาเรียมอธิบายว่า ไข่ประหลาดดังกล่าวที่มีเปลือกเป็นสีน้ำตาลเข้มนั้น เป็นไข่ของปลาสเกตพันธุ์ใหญ่ (Big skate) ซึ่งเป็นปลากระเบนชนิดหนึ่ง มีชื่อเรียกกันเล่น ๆ ว่า ?กระเป๋าถือของนางเงือก? ส่วนที่เป็นเปลือกนี้สร้างมาจากโปรตีน และไข่แต่ละใบก็อาจจะมีตัวอ่อนอยู่ภายในเป็นจำนวนหลายตัว? ในช่วงสุดสัปดาห์ที่แล้ว ไข่ประหลาดเหล่านี้บางใบได้ฟักออกมาเป็นตัว ซึ่งปลาตัวจิ๋วแสนน่ารักเหล่านี้จะถูกจัดให้อยู่ในโซนอนุบาลลูกปลาไปก่อน ปลาสเกตพันธุ์ใหญ่นี้เป็นปลาสเกตสายพันธุ์ที่ตัวใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือ ซึ่งมีความสามารถในการพรางตัวให้เข้ากับก้นทะเลโดยอาศัยรูปร่างทรงแบนและสีที่เหมือนท้องทรายของมัน เมื่อโตเต็มที่จะมีความยาวได้ถึง 8 ฟุต และมีลายจุดขนาดใหญ่เพื่อใช้ข่มขู่ศัตรู มีอายุขัยเฉลี่ยที่ 26 ปี ที่มาและเครดิตภาพ :? aquarium.ucsd.edu, sacbee.com https://www.dailynews.co.th/news/2785255/
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก Nation TV
สุดทึ่ง พบปะการังอ่อนในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ชี้ชัด อุณหภูมิในทะเลสูงขึ้น สภาวะโลกร้อน ที่เกิดขึ้นส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมทั้งบนบกและในทะเล รวมถึงปะการัง ล่าสุดมีการค้นพบปะการังอ่อนในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งเป็นสัญญาณว่าทะเลร้อนขึ้น ปะการังที่ถูกค้นพบเป็นสกุล Dendronephthya (กลุ่มสายพันธุ์) ถูกพบลึก 42 เมตร (138 ฟุต) นอกชายฝั่ง Kibbutz Sdot Yam ทางตอนใต้ของ Haifa ทางตอนเหนือของอิสราเอล การค้นพบนี้เกิดขึ้นระหว่างการดำน้ำตามปกติสำหรับโครงการวิจัยระยะยาวที่ดำเนินการโดยศูนย์วิจัยทางทะเล Morris Kahn แห่งมหาวิทยาลัย Haifa นักศึกษาวิจัย ฮาไก เนทีฟ จากโรงเรียนวิทยาศาสตร์ทางทะเลชาร์นีย์ มหาวิทยาลัยไฮฟา กล่าวว่า ?จนถึงขณะนี้อุณหภูมิที่ต่ำในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนช่วงฤดูหนาว ทำให้ปะการังเขตร้อนไม่สามารถเข้ามาในพื้นที่ได้ และยังเร็วเกินไปที่จะคาดการณ์การแตกกิ่งก้านของปะการังชนิดใดชนิดหนึ่งที่เราพบ การค้นพบนี้ให้หลักฐานเพิ่มเติมว่าอุปสรรคทางธรรมชาติระหว่างทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและทะเลแดงกำลังหายไปเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ" สุดทึ่ง พบปะการังอ่อนในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ชี้ชัด อุณหภูมิในทะเลสูงขึ้น ปะการังต้องการอุณหภูมิน้ำที่อยู่ระหว่าง 17?C ถึง 30?C (62.6?F ถึง 86?F) เพื่อความอยู่รอดแต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากโลกร้อนขึ้น อุณหภูมิของน้ำในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออกจึงเพิ่มขึ้น 0.27?C ถึง 0.35?C (0.49?F ถึง 0.63?F) ต่อทศวรรษ โดยอุณหภูมิต่ำสุดในฤดูหนาวในน่านน้ำชายฝั่งเพิ่มขึ้นจากประมาณ 16?C (60.8?F) เป็น 18?C (64.4?F) นับตั้งแต่ทศวรรษ 1990 จากข้อมูลของทัล โอเซอร์ ผู้ศึกษาทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออกเฉียงใต้และประสานงานข้อมูลสำหรับโครงการติดตามทางทะเลระดับชาติที่สถาบันวิจัยสมุทรศาสตร์และลิมโนโลยีอิสราเอล เผยว่า "ในระบบที่ซับซ้อน เช่น ระบบนิเวศทางทะเล การเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยก็สามารถกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ได้" ขอขอบคุณที่มา: Times of Israel https://www.nationtv.tv/gogreen/378932525 ****************************************************************************************************** "หมัดน้ำ" หนึ่งวิธีบำบัดน้ำเสียแบบธรรมชาติ ช่วยดูดซับสารพิษ หมัดน้ำ เปรียบเสมือนเครื่องดูดฝุ่นชีวภาพ สำหรับทำความสะอาดแหล่งน้ำ โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ไม่สามารถกำจัดมลพิษออกจากน้ำได้ทั้งหมด น้ำที่ถูกบำบัดยังมีสารเคมีตกค้างอยู่ สารตกค้างเหล่านั้นยังคงอันตรายต่อความหลากหลายทางชีวภาพและสร้างมลพิษให้กับอาหารและน้ำดื่ม นักวิจัยเผยว่า มีความเป็นไปได้ที่หมัดน้ำจะมีส่วนเข้ามาปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสีย เนื่องจากพวกมันมีความสามารถในการปรับตัวและมีชีวิตรอดในน้ำเสียได้ อีกทั้งยังควบคุมจำนวนประชากรของพวกมันเองได้ตามสารอาหารที่มีอยู่ในน้ำ การบำบัดน้ำเสียด้วยหมัดน้ำมีประสิทธิภาพและยังมีราคาถูก หมัดน้ำ เป็นแพลงก์ตอนสัตว์ในสกุล Daphnia ซึ่งมีขนาดเล็กมากประมาณ 0.4 - 1.8 มิลลิเมตร พบได้ในน้ำจืดทั่วโลก จากศึกษาวิจัยของนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮมในสหราชอาณาจักร พบว่า หมัดน้ำ หรือ Daphnia สามารถบำบัดน้ำเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมือนเครื่องดูดฝุ่นที่ทำความสะอาดน้ำให้สะอาด หมัดน้ำ สามารถกำจัดและกรองสารเคมีในน้ำได้ เช่น ไดโคลฟีแนคได้, สารหนู, อะทราซีน และกรองสาร PFOS ได้ถึง 50% สามารถบำบัดน้ำเสีย โดยเฉพาะการกรองสารตกค้างจากยาฆ่าแมลง และสารเคมีจากโรงงานอุตสาหกรรมออกจากน้ำได้ ทำให้แหล่งน้ำมีความปลอดภัยมากขึ้น งานวิจัยนี้ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Science of the Total Environment ซึ่ง Karl Dearn หนึ่งในทีมวิจัยเผยว่า หมัดน้ำเปรียบเสมือนเครื่องดูดฝุ่นชีวภาพสำหรับทำความสะอาดแหล่งน้ำ ซึ่งที่ผ่านมาโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ไม่สามารถกำจัดมลพิษออกจากน้ำได้ทั้งหมด น้ำที่ถูกบำบัดยังมีสารเคมีตกค้างอยู่ และมักถูกปล่อยลงตามแม่น้ำ ลำคลอง ซึ่งน้ำที่ได้ยังมีสารตกค้างเหล่านั้นยังคงอันตรายต่อความหลากหลายทางชีวภาพและสร้างมลพิษให้กับอาหารและน้ำดื่ม นักวิจัยเผยว่า มีความเป็นไปได้ที่หมัดน้ำจะมีส่วนเข้ามาปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสีย เนื่องจากพวกมันมีความสามารถในการปรับตัวและมีชีวิตรอดในน้ำเสียได้ อีกทั้งยังควบคุมจำนวนประชากรของพวกมันเองได้ตามสารอาหารที่มีอยู่ในน้ำ การบำบัดน้ำเสียด้วยหมัดน้ำมีประสิทธิภาพและยังมีราคาถูก และไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อีกด้วย ขอขอบคุณที่มา: The Guardian https://www.nationtv.tv/gogreen/378932533 ****************************************************************************************************** เร่งวางปะการังเทียมทะเลเกาะช้าง สร้างแหล่งอาศัยเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ ประมงจังหวัดตราด นำปะการังเทียมมาวางในทะเลเกาะช้าง เพื่อสร้างแหล่งอาศัยเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ และยังช่วยรับมือช่วงสถานการณ์เอลนีโญอีกทางหนึ่งด้วย 5 ตุลาคม 2566 น.ส.ฐิติพร หลาวประเสริฐ ประมงจังหวัดตราด เปิดเผยถึงโครงการวางปะการังเทียมในทะเลเกาะช้าง ว่า จังหวัดตราดได้รับงบประมาณในการจัดทำแนวปะการังเทียม เพื่อสร้างแหล่งเพาะขยายพันธุ์ และแหล่งพักอาศัยหลบภัยของสัตว์ะเล โดยกำหนดจุดวางแนวปะการังเทียมที่ทะเลบ้านบางเบ้า ม.1 ต.เกาะช้างใต้ อ.เกาะช้าง จ.ตราด โดยมีนายเติมศักดิ์ เสริฐศรี ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 บ้านบางเบ้า พร้อมเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกในการนำปะการังเทียมมาวางในทะเลดังกล่าว ซึ่งปะการังเทียมที่นำมาวางในครั้งนี้ เป็นแท่งซิเมนต์ขนาดกว้าง ยาว 1.5 เมตร ลักษณะแท่งลูกบาศก์ จำนวน 480 ลูก โดยแยกเป็นจุดๆเป็นแนวสลับฟันปลา จำนวน 7 จุดด้วยกัน แยกเป็นจุดละ120 แท่ง และ 60 แท่ง เป็นกลุ่มๆ ในแต่ละจุจะอยู่ที่ความลึก 24 เมตร ห่างจากชายฝั่ง 3 กม. รวมพื้นที่จัดสร้าง 0.39 ตร.กม. น.ส.ฐิติพร กล่าวอีกว่า จุดประสงค์โครงการดังกล่าว เพื่อให้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำ เพิ่มประชากรสัตว์น้ำ ให้ชาวประมงมีทรัพยากรสัตว์น้ำไว้ทำมาหากิน โดยชาวประมงขนาดเล็ก ชาวประมงพื้นบ้านไม่ต้องออกไปทำประมงในระยะไกลชายฝั่ง ช่วยให้มีอาชีพมีสัตว์น้ำจับตลอดไป อีกทั้ง ยังเป็นการเพิ่มแหล่งท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวที่นิยมท่องเที่ยวดำน้ำในทะเลเกาะช้างได้ด้วย หลังวางปะการังเทียมได้ 6 เดือน จะมีสัตว์น้ำเกิดใหม่ เพิ่มประชากรสัตว์น้ำให้มากขึ้น "อยากฝากถึงชาวประมงให้ช่วยกันดูแล รักษาแนวปะการัง อย่าให้มีการทำประมงผิดกฎหมาย อาทิ การลักลอบใช้สารเคมีในการจับปลา หรือกระแสไฟฟ้าช็อตปลา เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายกับประชากรสัตว์ในในทะเล นอกจากนี้ ในช่วงสถานการณ์เอลนีโญ จะเกิดภาวะทะเลร้อน ปะรังเทียม ยังจะช่วยป้องกันอันตรายให้สัตว์ทะเลได้อีกทางหนึ่งด้วย" น.ส.ฐิติพร กล่าว https://www.nationtv.tv/gogreen/378932418
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|