เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 15-11-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพุธที่ 15 พฤศจิกายน 2566

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับมีลมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อย โดยภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีฝนบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากโดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ส่วนอ่าวไทยตอนบนทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร และอ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือ ในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองในระยะนี้ไว้ด้วย

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 16?19 พ.ย. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง โดยมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 5-7 องศาเซลเซียส ภาคเหนืออุณหภูมิจะลดลง 4?6 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 2?4 องศาเซลเซียส


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เมฆบางส่วน โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 14 ? 15 พ.ย. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งเกิดขึ้นได้ สำหรับภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนลมตะวันออกเฉียงเหนือและลมตะวันออกพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร


ส่วนในช่วงวันที่ 16 ? 20 พ.ย. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 5 - 7 องศาเซลเซียส ภาคเหนืออุณหภูมิจะลดลง 4 ? 6 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 2 ? 4 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 - 2 เมตร


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 16 ? 19 พ.ย. 66 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น และลมแรง สำหรับเกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ส่วนประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองตลอดช่วง ส่วนเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 17 - 19 พ.ย. 66 นี้ไว้ด้วย



******************************************************************************************************



ประกาศเริ่มต้นฤดูหนาว ปี พ.ศ. 2566

ประเทศไทยได้เข้าสู่ฤดูหนาวแล้วในวันนี้ (14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566) โดยอุณหภูมิต่ำสุดบริเวณประเทศไทยตอนบนจะลดลงต่ำกว่า 23 องศาเซลเซียส ซึ่งอยู่ในเกณฑ์อากาศเย็นในหลายพื้นที่ และทิศทางลมที่พัดปกคลุมบริเวณประเทศไทยที่ระดับความสูง 100 เมตร ถึงความสูง 3,500 เมตร เปลี่ยนเป็นลมตะวันออกเฉียงเหนือหรือลมตะวันออก ส่วนลมระดับบนที่ความสูงตั้งแต่ 5,000 เมตรขึ้นไป เปลี่ยนเป็นลมฝ่ายตะวันตก อย่างไรก็ตามช่วงเริ่มต้นของฤดูหนาวปีนี้ บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีฝนตกเล็กน้อยในบางช่วง ส่วนบริเวณภาคใต้จะมีฝนตกชุกหนาแน่นต่อไป












__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 15-11-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


วาฬสีน้ำเงินในไทย ยักษ์ใหญ่แห่งท้องทะเล สัตว์ป่าสงวนที่ใกล้สูญพันธ์ุ

ข่าวดีสำหรับคนรักสัตว์ ล่าสุดวันที่ 13 พ.ย. 2566 มีรายงานว่าพบวาฬสีน้ำเงินในไทยแถวหมู่เกาะสุรินทร์ หลังจากที่เคยพบล่าสุดเมื่อ 6 ปีก่อน แถวทะเลพังงา




รู้จักวาฬสีน้ำเงิน ยักษ์ใหญ่แห่งท้องทะเล

วาฬสีน้ำเงิน (Blue whale) จัดว่าเป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยทั่วไปจะมีขนาดยาวประมาณ 30-34 เมตร ขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยค้นพบมีความยาวถึง 60 เมตร ซึ่งเทียบได้กับความยาวของช้างในปัจจุบันจำนวนแปดเชือกมาต่อกันเรียงแถว น้ำหนักเมื่อโตเต็มที่ ประมาณ 100-200 ตัน ตัวเมียมีขนาดใหญ่กว่าตัวผู้ ลูกแรกเกิดมีขนาดยาว 7-8 เมตร อายุยืน 80-90 ปี

ลูกวาฬสีน้ำเงินหย่านมเมื่ออายุ 8 เดือน วัยเจริญพันธุ์อายุ 8-10 ปี ตัวเมียมีวงรอบการตกลูกทุก 2-3 ปี ในฤดูหนาว ตั้งท้องนาน 10-12 เดือน ออกลูกครั้งละ 1 ตัว

นอกจากขนาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว วาฬสีน้ำเงินยังมีลักษณะเด่นที่น่าสนใจคือส่วนหัวมีสีน้ำเงินสม่ำเสมอ ลำตัวด้านหลังมีสีน้ำเงินอมเทา ส่วนท้องสีจางกว่าเล็กน้อย ด้านหลังและด้านข้างมีลายสีน้ำเงิน หรือเทาอ่อน มีลักษณะเป็นดวงๆ เหมือนรอยด่าง ลำตัวเพรียวยาว ส่วนหัวกว้างคล้ายตัวยู (U-shaped) เมื่อมองจากด้านบน

มีสันกลางหัว 1 สัน มีช่องหายใจขนาดใหญ่ 2 รู มีซี่กรอง 260-400 คู่ แต่ละซี่ยาวประมาณ 100 เซนติเมตร ลักษณะของซี่กรองค่อนข้างหยาบ มีร่องใต้คาง 60-88 ร่อง ยาวเกือบถึงสะดือ ครีบหลังมีขนาดเล็กอาจมีรูปร่างคล้ายสามเหลี่ยม หรือลาดเอียง ปลายครีบแหลม หรือกลมมน ฐานครีบหลังตั้งอยู่ค่อนไปทางหาง คอดหางหนา ครีบข้างเพรียวยาว ปลายครีบแหลม และมีสีอ่อนกว่าส่วนอื่นของครีบ มีความยาวได้ถึงร้อยละ 15 ของความยาวลำตัว ครีบหางกว้างประมาณ 1 ส่วน 4 ของความยาวลำตัว มีร่องกึ่งกลางระหว่างแพนหาง


ขนาดของวาฬสีน้ำเงินเมื่อเทียบกับสัตว์ขนาดใหญ่ชนิดอื่นๆ

อาหารของวาฬสีน้ำเงินคือสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังขนาดเล็ก เช่น เคยสายพันธุ์ต่างๆ (Krill) วิธีการกินอาหารโดยการอ้าปากขยายร่องใต้คางให้ใหญ่ขึ้น และพุ่งเข้าหาเหยื่อโดยมักจะตะแคงตัว หรือหงายท้อง โดยกินอาหารทั้งผิวน้ำ และที่ระดับความลึกถึง 300 เมตร สามารถดำน้ำได้นานถึง 36 นาที ว่ายน้ำ 3-6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถว่ายน้ำได้เร็วถึง 7-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อมีสิ่งรบกวน วาฬสีน้ำเงินใช้เสียงในการส่งสัญญาณสื่อสารกันในระยะทางไกล เป็นเสียงแบบอินฟราโซนิก (Infra Sonic) 17-20 เฮิร์ตซ์ ซึ่งต่ำเกินไปสำหรับมนุษย์ที่จะได้ยิน วาฬสีน้ำเงินจะโผล่ส่วนหัว และช่องหายใจเหนือผิวน้ำมากกว่าวาฬชนิดอื่นๆ


การพบวาฬสีน้ำเงินในไทย

ถิ่นอาศัยของวาฬสีน้ำเงินจะอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้, แอตแลนติก และมหาสมุทรอินเดีย รวมถึงในมหาสมุทรแอนตาร์กติกด้วย

สำหรับประเทศไทยที่ผ่านมาเคยมีรายงานว่าพบวาฬสีน้ำเงินในทะเลไทยเพียง 3 ครั้ง ซึ่งเป็นบริเวณฝั่งทะเลอันดามันทั้งหมด พบครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2550 ที่หมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา ต่อมาพบเข้ามาเกยตื้นที่เกาะลิบง จ.ตรัง เมื่อปี พ.ศ.2556 ครั้งที่ 3 เมื่อปี พ.ศ.2560 พบที่หมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา

พบล่าสุดครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 13 พฤศิจิกายน พ.ศ.2566 ได้มีรายงานว่าพบวาฬสีน้ำเงินที่บริเวณทะเลหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา ซึ่งเป็นที่ตื่นเต้นในหมู่คนรักสัตว์และวาฬเป็นอย่างมาก กับการพบวาฬสีน้ำเงินในครั้งนี้

วาฬสีน้ำเงิน เป็นสัตว์ทะเลหายาก และใกล้สูญพันธุ์ ที่ได้รับความสำคัญจากนานาประเทศ เนื่องจากการอพยพย้ายถิ่นระยะไกล จึงมีแหล่งอาศัยในพื้นที่ทางทะเลระหว่างประเทศ จัดเป็นทรัพยากรร่วมกันของภูมิภาคและระดับโลก ประชากรปลาวาฬสีน้ำเงินโตเต็มวัยทั่วโลกมีอยู่ประมาณ 5,000-15,000 ตัว

เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2566 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.ฎ.กำหนดให้ "วาฬสีน้ำเงิน" เป็นสัตว์ป่าสงวน จากเดิมเป็นสัตว์ป่าควบคุม อนุรักษ์เข้มงวดไม่ให้สูญพันธุ์

เนื่องจากในอดีต วาฬสีน้ำเงิน มักถูกล่าจับเป็นจำนวนมากเพื่อนำเนื้อและไขมันมาใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ และประมงพื้นบ้าน ขณะที่แหล่งอาหารที่ลดลงจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และความเป็นกรดในทะเล ส่งผลต่อการสืบพันธุ์ จึงเป็นที่มาของการเสนอเป็นสัตว์ป่าสงวนในครั้งนี้.

ข้อมูลอ้างอิง : กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง


https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/2740533

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 15-11-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการ


คลื่นใหญ่หอบซัดหอยกะพงเกยหาดนับ 100 เมตร ชาวบ้านเมืองคอนเฮเก็บกิน-ขาย

นครศรีธรรมราช - หลังจากเกิดฝนตกหนักติดต่อกันมา 3-4 วัน และมีคลื่นลมแรง ทำให้คลื่นใหญ่หอบซัดหอยกะพงเกยหาดโคกตะเคียน ต.สระแก้ว อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ยาวนับ 100 เมตร ชาวบ้านเก็บกิน-ขาย คาดถูกซัดมาจากจุดที่มี "ดอนหอย"



วันนี้ (14 พ.ย.) ที่หาดโคกตะเคียน ต.สระแก้ว อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช หลังจากเกิดฝนตกหนักติดต่อกันมา 3-4 วัน และมีคลื่นลมแรง พบว่าคลื่นได้ซัดหอยกะพงที่อยู่ใต้ท้องทะเลขึ้นมาเกยชายหาดเป็นจำนวนมาก ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้เดินทางมาเก็บหอยกะพง ซึ่งถูกซัดมาเกยหาดปริมาณมหาศาลตลอดแนวหาดหลาย 100 เมตร

ชาวบ้านนับ 100 คน พากันมาเก็บหอยที่ถูกคลื่นซัดเข้าฝั่ง แต่ละคนเก็บได้เป็นจำนวนมาก บางคนเก็บได้มากว่า 100 กก. นอกจากนี้มีชาวบ้านจากหลายพื้นที่ในจังหวัดนครศรีธรรมราชที่ทราบข่าวถึงปรากฏการณ์นี้ได้พากันเดินทางมาดู และมาเก็บเป็นของติดไม้ติดมือ เพราะเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นน้อยมาก ในแต่ละปีจะเกิดขึ้นในช่วงมรสุมที่มีคลื่นลมแรง

ชาวบ้านในพื้นที่ที่มาเก็บหอยเล่าว่า ปรากฏการณ์หอยกะพง หรือหอยถูกคลื่นซัดเข้ามาจากท้องทะเล ในพื้นที่ศาลาไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นในรอบ 15 ปี โดยพบว่าคลื่นใต้น้ำซัดหอยขึ้นมาตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็น (13 พ.ย.) หอยที่เก็บมานั้นต้องนำไปแช่น้ำทะเลก่อนให้คายทรายออก ก่อนจะนำไปประกอบอาหารและนำไปขายได้ การที่คลื่นซัดขึ้นมาจำนวนมากเช่นนี้เข้าใจว่า คลื่นลมได้รุนแรงในจุดที่มี ?ดอนหอย? หรือแหล่งที่มีหอยอุดมสมบูรณ์ คลื่นซัดจนหลุดจากที่ยึดเกาะจนถูกคลื่นหอบมาเกยหาด

อย่างไรก็ตาม ปรากฏการ์ณนี้สร้างความตื่นเต้นให้ชาวบ้านเป็นอย่างมาก ปรากฏการณ์หอยที่ถูกคลื่นซัดเข้าฝั่งจำนวนมหาศาลในครั้งนี้ยังไม่มีใครระบุว่ามาจากสาเหตุใด แต่เบื้องต้นมีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่าอาจจะมาจากระบบนิเวศที่ได้รับผลกระทบจากการนำเครื่องมือประมงผิดกฎหมายมาคราดหาหอยแครงในท้องทะเล ทำให้แนวดอนหอยเสียหายขาดการยึดเกาะที่มั่นคง เมื่อเกิดคลื่นลมแรงทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น


https://mgronline.com/south/detail/9660000102360


******************************************************************************************************


วาฬสีน้ำเงิน พี่ใหญ่มาเยือนทะเลไทยฝั่งอันดามัน เป็นครั้งที่ 4 แถวหมู่เกาะสุรินทร์



วานนี้ (13 พ.ย.2566) เพจเฟซบุ๊ค ThaiWhales โพสต์คลิปสั้นๆ และข้อความว่า มีพี่ใหญ่ Blue whale หรือ วาฬสีน้ำเงิน มาเยือนหมู่เกาะสุรินทร์ ฝั่งอันดามัน และเดือนที่แล้วก็มี Omura?s whales ทางแอดมินบอกว่านำคลิปมาจากน้องสายป่าน- อภิญญา สกุลเจริญสุข Apinya นักแสดงและครูสอน Freedive และคุณกฤษดา ราหมัน ไกด์บนเรือ ที่พบวาฬ

แจ้งว่าได้ส่งข่าวให้เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.)แล้ว ทั้งผชช. หัวหน้ากลุ่มสัตว์ทะเลหายาก อันดามันทั้ง 2 และสัตวแพทย์ ทช.?อยากไปเก็บข้อมูลกันมากเลย ? อยากจะรู้เหมือนกันว่า ปีนี้กระแสน้ำเป็นยังไง หรืออะไรที่มีผลต่อการมีวาฬหายากๆ แวะเข้ามาอันดามันหลายตัวมั๊ย ก่อนหน้านี้ก็พบ omura?s ที่พบน่าจะมากกว่า 3 ตัวเลยค่ะ?

จากฐานข้อมูลข่าว กรมทช. ระบุว่า ในทะเลไทยเคยพบวาฬสีน้ำเงินเพียง 3 ครั้ง พบเห็นบริเวณฝั่งทะเลอันดามันทั้งหมด โดยพบครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2550 ที่หมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา ต่อมาพบเข้ามาเกยตื้นที่เกาะลิบง จ.ตรัง เมื่อปี พ.ศ. 2556 ล่าสุดเมื่อปี พ.ศ. 2560 พบที่หมู่เกาะสิมิลัน จ. พังงา ดังนั้น การพบครั้งนี้จึงเป็นครั้งที่ 4

จากการพบวาฬสีน้ำเงินในทะเลอันดามันส่วนใหญ่จะเกิดจากการอพยพย้ายถิ่นตามแหล่งอาหารที่มีความอุดมสมบูรณ์ วนไปเรื่อยๆ โดยอาหารหลักของวาฬสีน้ำเงินจะเป็น กุ้งเคยและแพลงก์ตอน แต่ก็อาจจะกินสัตว์น้ำขนาดเล็ก เช่น ปลาขนาดเล็กเข้าไปด้วย ซึ่งจะมีอัตราการกินอาหารอยู่ที่ 2-5% ของน้ำหนักตัว บางส่วนก็อพยพเพื่อหาพื้นที่ในการออกลูกและเลี้ยงดู โดยแต่ละกลุ่มก็จะมีประมาณ 2-5 ตัว แต่ส่วนใหญ่จะพบครั้งละตัว เนื่องจากวาฬสีน้ำเงินสามารถดำน้ำลงไปหาอาหารได้ลึกถึง 100 เมตร และอยู่ใต้น้ำได้ครั้งละ 20-40 นาที

ทั้งนี้ "วาฬสีน้ำเงิน" ถือเป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อโตเต็มที่จะมีความยาวประมาณ 26-29 เมตร น้ำหนักเมื่อโตเต็มที่ ประมาณ 100-200 ตัน แต่ที่ใหญ่ที่สุดจากสถิติเท่าที่มีการบันทึก ความยาวจะอยู่ที่ 31.2 เมตร เฉพาะลิ้นก็มีน้ำหนักเกือบเท่าช้างหนึ่งตัว หัวใจมีขนาดเท่ารถยนต์คันหนึ่ง และเส้นเลือดบางเส้นกว้างขนาดที่มนุษย์พอจะลงไปว่ายน้ำได้ และครีบหางก็มีขนาดกว้างกว่าปีกของเครื่องบินโดยสารขนาดเล็ก จัดเป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเท่าที่เคยมีมา ปัจจุบัน มีปริมาณวาฬสีน้ำเงินในซีกโลกใต้อยู่ประมาณ 1,350 ตัว อีกทั้งมีหลักฐานว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 ต่อปี แต่ยังไม่มีการประมาณจำนวนวาฬชนิดนี้ที่ดีพอในบริเวณอื่นของโลก

สำหรับสถานภาพวาฬสีน้ำเงิน พ.ศ. 2561 IUCN Red List กำหนดสถานภาพให้เป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ (Endangered Species, EN) ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเสนอเป็นสัตว์ป่าสงวน เพื่อเข้าบรรจุตามกฎหมายลำดับรองประกอบพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 (มาตรา6)


https://mgronline.com/greeninnovatio.../9660000102227


******************************************************************************************************


แฉกองเรือประมงเวียดนามนับ 100 ลำบุกยึดอ่าวนครศรีฯ ทำประมงเสรีนานนับเดือน



นครศรีธรรมราช - แฉกองเรือประมงพาณิชย์เวียดนามนับ 100 ลำ ยึดหน้าอ่าวนครศรีธรรมราช ทำประมงได้อย่างเสรีต่อเนื่องนานนับเดือนแล้ว เรือประมงไทยเผยแจ้งกองทัพเรือแล้วยังเฉย

ภาพจากเรือประมงพาณิชย์ชาวนครศรีธรรมราช ลำหนึ่งได้บันทึกไว้เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และเมื่อกลับเข้าฝั่งได้นำภาพนี้มาเปิดเผยข้อมูลสถานการณ์ประมงพาณิชย์หน้าอ่าวนครศรีธรรมราช ว่ากำลังอยู่ในภาวะวิกฤตจากการรุกล้ำของกองเรือประมงเวียดนามนับ 100 ลำ เข้ามาทำประมงได้อย่างเสรี และต่อเนื่องมานานนับเดือนแล้ว โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของไทยเข้าตรวจสอบ หรือเข้าเฝ้าระวังแนวน่านน้ำของประเทศไทย

ไต๋เรือประมงพาณิชย์ ผู้บันทึกภาพนี้ซึ่งไม่ขอเปิดเผยตัวเอง เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลากว่า 1 เดือนที่ผ่านมา อ่าวไทยบริเวณแนวเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ไปจนถึงเกาะกระ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ระยะใกล้ฝั่งมาก ห่างจากชายฝั่งนครศรีธรรมราชประมาณ 20-35 ไมล์ทะเล และชัดเจนว่านี่คือน่านน้ำนครศรีธรรมราช และน่านน้ำประเทศไทยในระยะใกล้ฝั่งมาก ซึ่งได้บันทึกภาพพิกัดที่พบไว้เป็นหลักฐาน จะเต็มไปด้วยกองเรือประมงเวียดนามตามภาพ ทั้งระยะใกล้ ระยะไกล ชาวประมงไทยไม่กล้าทำอะไร เนื่องจากกลัวว่ากองเรือเวียดนามเหล่านี้จะติดอาวุธ

กองเรือเวียดนามทำประมงอยู่นับเดือนแล้ว และยังคงทำอย่างต่อเนื่องทุกวัน เป็นการใช้ตะแกรงคราดหน้าดินหาสัตว์น้ำจำพวกปลิงทะเล ปลิงบอล ราคาแพงที่มีอยู่ชุกชุมในอ่าวนครศรีธรรมราช ทำลายหน้าดินใต้ทะเลอย่างรุนแรง สร้างความเดือดร้อนให้เรือประมงไทย ก่อให้เกิดความเสียหายกับอุปกรณ์ประมงซ้ำอีก แจ้งทางการโดยเฉพาะทางกองทัพเรือไปแล้ว แต่ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ ทั้งๆ ที่เรือของเจ้าหน้าที่ออกจากฝั่งมาถึงแนวทำประมงของกองเรือเวียดนามพวกนี้ใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมงเท่านั้นเอง

มีรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า บางช่วงเวลาเรือประมงพื้นบ้านที่ออกไปทำประมงพาณิชย์ ห่างจากฝั่งประมาณ 5-6 กิโลเมตร เคยพบเรือประมงเวียดนามเหล่านี้เช่นเดียวกัน ทำให้ชาวประมงเกิดความวิตกว่าอาจเกิดกระทบกระทั่งกันกลางทะเล ระหว่างชาวประมงไทยกับชาวประมงเวียดนาม และอาจนำมาซึ่งความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินได้ หากมีการปล่อยปละละเลยกันเช่นนี้


https://mgronline.com/south/detail/9660000102279

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 15-11-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก มติชน


ทร.โต้ ไม่มีเรือประมงเวียดนาม ยึดอ่าวไทย ชี้ เข้าใจคลาดเคลื่อน ทภ.2 ลาดตระเวนต่อเนื่อง

ทร.โต้ ไม่มีเรือประมงเวียดนาม ยึดอ่าวไทย เป็นการเข้าใจคลาดเคลื่อน ชี้ ทภ.2 จัดเรือลาดตระเวนเฝ้าระวังต่อเนื่อง ใครรุกน่านน้ำจับทุกราย



เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พล.ร.ต.วีรุดม ม่วงจีน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าว กรณีเรือประมงเวียดนาม เข้ามาทำการประมง ในบริเวณหน้าอ่าวนครศรีธรรมราชเป็นจำนวนมากโดยไม่มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของไทยเข้าไปตรวจสอบหรือเฝ้าระวังตามแนวน่านน้ำนั้นว่า ข่าวดังกล่าวคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง โดยที่ผ่านมากองทัพเรือโดยทัพเรือภาคที่ 2 ร่วมกับศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 ได้จัดเรือและอากาศยาน ทำการลาดตระเวนที่รับผิดชอบอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเฝ้าสังเกตการณ์และติดตามพฤติกรรมของกลุ่มเรือประมง ที่ลักลอบเข้ามาทำการประมงในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของไทย ซึ่งหากมีการตรวจพบจะดำเนินการจับกุมตามอำนาจหน้าที่ ซึ่งได้มีการบูรณาการความร่วมมือระหว่าง กองทัพเรือ โดยทัพเรือภาคที่ 2 ศูนย์อำนวยการ รักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) และเครือข่ายเรือประมงไทย ในการแจ้งข้อมูลข่าวสารและเบาะแสต่างๆ

โดยที่ผ่านมาเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ทัพเรือภาคที่ 2 ได้รับแจ้งว่ามีการตรวจพบเรือประมงเวียดนาม ในพื้นที่รับผิดชอบจึงได้จัดส่งเรือหลวงคลองใหญ่ เข้าตรวจสอบแต่ไม่พบว่ามีเรือประมงต่างชาติเข้ามาทำการประมงในพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมาจะได้รับแจ้งว่าตรวจพบหรือประมงต่างชาติเข้ามาทำการประมงในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของไทยจำนวน 1-2 ลำเท่านั้น ไม่ได้มีจำนวนเป็นร้อยลำ ดังที่เป็นข่าวแต่อย่างใด

โดยปัจจุบัน ได้มีการจัดเรือหลวงเทพา และเรือ ต.112 เฝ้าลาดตระเวนอยู่ในพื้นที่บริเวณเกาะกระ จังหวัดนครศรีธรรมราช และเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ทั้งนี้ การจับกุมเรือประมงต่างชาติ ที่มีพฤติกรรมเข้ามาทำการประมงบริเวณเขตเศรษฐกิจจำเพาะของประเทศไทย ที่ผ่านมาได้มีการจับกุมมาแล้วหลายครั้ง สำหรับในปีงบประมาณ 2566 ทัพเรือภาคที่ 2 ได้จัดเรือและอากาศยานเฝ้าตรวจและสามารถจับกุมเรือประมงเวียดนามจำนวน 3 ครั้ง ประกอบด้วย เรือประมง 3 ลำและลูกเรือจำนวน 15 คน

ทั้งนี้ ฝ่ายไทยได้มีการแจ้งเตือนเรือประมงต่างชาติมิให้รุกล้ำเข้ามาทำการประมงในเขตน่านน้ำของประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ยังคงมีการฝ่าฝืนและลักลอบเข้ามาทำการประมงอยู่บ่อยครั้ง โดยการจับกุมแต่ละครั้ง ทางเจ้าหน้าที่มิได้มีการใช้ความรุนแรงแต่อย่างใด และเป็นการดำเนินการเพื่อปกป้องและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลซึ่งเป็นหนึ่งในภารกิจที่สำคัญของกองทัพเรือ

"การดำเนินการจับกุมเรือประมงต่างชาติข้างต้นนั้น เป็นไปตามนโยบายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ของ พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ในฐานะรอง ผอ.ศรชล.ที่ได้มีนโยบายให้ทุกหน่วยงาน มีการบูรณาการร่วมกันในการป้องกันและปรามปรามการกระทำผิดกฎหมายทางทะเล เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้ทรัพยากรทางทะเลไทยมีความอุดมสมบูรณ์ เกิดความมั่นคง ยั่งยืนและสามารถแสวงหาประโยชน์ได้ตลอดไป" โฆษกกองทีพเรือกล่าว

ทั้งนี้ กองทัพเรือและ ศรชล.จะดำเนินการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงทางทะเล รวมทั้งภาคประชาชนและภาคเอกชน ในการร่วมกันแก้ปัญหาความเดือดของพี่น้องประชาชน ที่ประสบปัญหาที่เกี่ยวข้องกับกิจการทะเลต่างๆ เพื่อให้เกิดความเป็นรูปธรรม มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนต่อไป


https://www.matichon.co.th/politics/news_4282680
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 19:34


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger