#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2566
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1?2 องศาเซลเซียส แต่ยังคงมีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ในขณะที่ลมตะวันออกพัดความชื้นเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกและภาคกลางตอนล่าง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนบางแห่งเกิดขึ้นได้ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองในระยะนี้ไว้ด้วย กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 9 ? 11 ธ.ค. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางที่ปกคลุมภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้จะมีกำลังอ่อนลง ประกอบกับมีลมตะวันออกพัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1 - 3 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า และมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร อ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 12 ? 14 ธ.ค. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางอีกระลอกจากประเทศจีนจะแผ่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิลดลง กับมีฝนบางแห่งในระยะแรก โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 1 ? 3 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1 ? 2 เมตร อ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ตลอดช่วง ส่วนในช่วงวันที่ 9 - 11 ธ.ค. 66 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอก ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย ตลอดช่วง
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ
หุ่นยนต์ที่เก็บไมโครพลาสติกในมหาสมุทร ขยะพลาสติกคิดเป็น 80% ของมลพิษทางทะเลทั้งหมด มีขยะพลาสติก 8?10 ล้านเมตริกตันลงสู่มหาสมุทรในแต่ละปี ตามรายงานของสภาเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ ทว่าอุปกรณ์เก็บรวบรวมพลาสติกส่วนใหญ่จะอาศัยตาข่ายลากหรือสายพานลำเลียง เพื่อกวาดเอาเศษพลาสติกขนาดใหญ่ออกจากน้ำ แต่ไม่มีอุปกรณ์ที่ใช้เก็บไมโครพลาสติก อนุภาคเล็กๆของพลาสติกเหล่านี้จะถูกสัตว์ทะเลกลืนกินเข้าไปและจบลงในเนื้อเยื่อของมัน จากนั้นก็เข้าสู่ห่วงโซ่อาหาร สิ่งนี้กลายเป็นปัญหาด้านสุขภาพและอาจก่อให้เกิดมะเร็งในมนุษย์ ล่าสุด ทีมนักวิทยาศาสตร์จากภาควิศวกรรมสิ่งแวดล้อมและชีววิทยา มหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ สหรัฐอเมริกา ได้พัฒนาต้นแบบหุ่นยนต์ที่ได้แรงบันดาลใจจากหอยทากตัวเล็กๆ ทีมอธิบายว่าการออกแบบของหุ่นยนต์มีพื้นฐานมาจากหอยเชอรี่พันธุ์แอปเปิล ฮาวาย (Hawaiian apple snail) โดยใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติเพื่อสร้างแผ่นคล้ายพรมที่มีความยืดหยุ่นและเป็นโค้งคลื่นได้ โครงสร้างที่เป็นเกลียวที่ด้านล่างของแผ่นจะหมุนเหมือนเกลียวเพื่อทำให้พรมกระเพื่อม จากนั้นก็สร้างคลื่นเคลื่อนที่บนน้ำ ซึ่งระบบเปิดของหุ่นยนต์จะมีลักษณะคล้ายเทคนิคการเปิดสู่อากาศของหอยทาก เพื่อดูดน้ำหรืออนุภาค ซึ่งหุ่นยนต์ตัวต้นแบบแม้จะเล็ก แต่ก็ใช้ไฟฟ้าเพียง 5 โวลต์โดยดูดน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากน้ำหนักของแบตเตอรี่และมอเตอร์ นักวิจัยเผยว่าอาจจำเป็นต้องติดอุปกรณ์ลอยน้ำเข้ากับหุ่นยนต์เพื่อป้องกันไม่ให้จม ซึ่งเชื่อว่าสักวันหนึ่งหุ่นยนต์ชนิดนี้อาจเก็บขยะจิ๋วพวกไมโครพลาสติกจากพื้นผิวมหาสมุทร ทะเล และทะเลสาบได้. https://www.thairath.co.th/news/foreign/2746335
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการ
กองเรือเวียดนามบุกคราดปลิงทะเลหนัก โอดไร้ จนท.จัดการซ้ำสร้างปัญหาทำลายหน้าดิน นครศรีธรรมราช - ประมงไทยร้องผู้สื่อข่าวหลังพบกองเรือเวียดนามรุกล้ำน่านน้ำบริเวณหน้าอ่าวนครศรีธรรมราชอย่างโจ้งแจ้ง แต่ไร้เจ้าหน้าที่เข้าจัดการ โอดคราดปลิงทะเลสร้างปัญหาทำลายหน้าดินหนัก วันนี้ (8 ธ.ค.) เรือประมงพาณิชย์ไทยรายหนึ่งในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งตะวันออก ได้บันทึกและส่งภาพให้กับผู้สื่อข่าวช่วยทำการเผยแพร่ ซึ่งเป็นภาพกองเรือประมงเวียดนามหลายลำได้เข้ามาทำการประมงโดยใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่าคราดปลิงทะเล บริเวณหน้าอ่าวนครศรีธรรมราช โดยได้ส่งพิกัดดาวเทียมจุดที่ได้บันทึกภาพมาให้ด้วย ระยะในภาพห่างจากชายฝั่งนครศรีธรรมราช แค่ 32 ไมล์ทะเลเท่านั้น ยืนยันว่าเป็นน่านน้ำไทยและอยู่ในอาณาเขตของจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยได้ระบุจำนวนเรือที่อยู่ในพิสัยว่ามีมากกว่า 50 ลำได้กระจัดกระจายไปคราดปลิงอย่างเสรี นอกจากนั้นยังบอกด้วยว่าเรือประมงไทยบางลำได้แจ้งไปยังฐานทัพเรือภาค 2 ถึงสถานการณ์รุกล้ำน่านน้ำ แต่ปรากฎว่าไม่เห็นมีเรือของทางการออกมาดำเนินการผลักดันออกไป เรือประมงเวียดนามเหล่านี้ยังทำประมงได้ตามปกติ แม้แต่เรือประมงไทยเองยังพบเห็นกองทัพเรือไทยได้น้อยมากหรือแทบไม่พบเลย จึงไม่แปลกใจที่เรือเวียดนามจะเข้ามาเป็นจำนวนมากเช่นนี้ ชาวประมงรายนี้ยังบอกด้วยว่า การคลาดปลิงทะเลของกองเรือเวียดนามได้สร้างความเสียหายให้กับหน้าดินอย่างรุนแรง โดยเฉพาะสัตว์น้ำที่ไม่ต้องการ เช่น ดอนหอยขนาดใหญ่ แนวปะการัง หรือแม้กระทั่งเครื่องมือประมงของเรือไทยที่อยู่ในแนวคราดปลิง และเชื่อว่าหอยจำนวนมหาศาลที่ถูกคลื่นซัดมาเกยหาดก่อนหน้านี้ เกิดจากกองเรือคราดปลิงเวียดนามคราดหาปลิง ได้ทำลายจุดที่เรียกว่า "ดอนหอย" คือมีหอยอยู่ปริมาณมากคล้ายเนิน ทำให้เสียความสมดุลไม่มั่นคงเมื่อคลื่นซัดรุนแรงจึงถูกซัดหอบเข้าหาฝั่งตามที่เคยปรากฎเป็นข่าว https://mgronline.com/south/detail/9660000110297
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#4
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ไทยโพสต์
รังแรกของฤดูกาล! เต่ามะเฟืองวางไข่กว่า 100 ฟอง อุทยานฯเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง 8 ธ.ค.2566 - ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 (ศรชล.ภาค3) เปิดเผยว่า วันนี้ เวลา 11.30 น. ได้รับรายงานจากหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-ท้ายเหมือง ว่าพบร่องรอยเต่ามะเฟืองขึ้นมาวางไข่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง โดย เจ้าหน้าที่อุทยานร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 2 จังหวัดภูเก็ต ออกสำรวจการขึ้นวางไข่ของเต่าทะเลทั้งรอบดึกและรอบเช้า พบร่องรอยเต่ามะเฟืองขึ้นมาวางไข่ในพื้นที่อุทยานฯ เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.66 เวลา 00.05 น. ต่อมาในรุ่งเช้าหลังฝนหยุดตกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง พบร่องรอยการขึ้นวางไข่ของเต่ามะเฟือง โดยแม่เต่าตัวนี้ขึ้นมาวางไข่เป็นครั้งแรกของฤดูกาล ทั้งนี้ฝนได้กลบร่องรอยเดิมบางส่วนจึงเห็นรอยไม่ชัดเจน เบื้องต้นวัดรอยพบความกว้างช่วงอกประมาณ 50-55 ซม. ความกว้างพายทั้งหมดประมาณ 160-170 ซม. จึงได้ทำการสักหาไข่เต่าตามภูมิปัญญาชาวบ้านเพื่อตรวจสอบตำแหน่งหลุมไข่จนพบ เจ้าหน้าที่ทำการขุดย้ายเนื่องจากมีความเสี่ยงที่น้ำทะเลจะท่วมถึง ความลึกหลุมไข่60 ซม. ความกว้างหลุมไข่ 30 ซม. พบไข่ทั้งหมด 118ฟอง เป็นไข่สมบูรณ์ 84 ฟอง ไข่ลม 34 ฟอง ไข่เต่ามีขนาด 5 ซม. โดยจุดวางไข่อยู่บริเวณพิกัด UTM 47P 414739 937632 ได้ย้ายไข่เต่ามะเฟืองไปเพาะฟักในจุดที่สะดวกต่อการดูแลบริเวณหน้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ที่อยู่พ้นแนวน้ำขึ้นสูงสุดเพื่อให้ไข่เต่าได้มีโอกาสฟักตัวตามธรรมชาติ ทั้งนี้ จะมีเจ้าหน้าที่ฯ คอยตรวจสอบ ดูแลป้องกัน การรบกวนจากสัตว์หรือมนุษย์อย่างต่อเนื่อง และคาดว่าอีก 55-60วัน ไข่เต่าจะฟักตัวคาดว่าน่าจะอยู่ในช่วงระหว่างวันที่1-10 ก.พ.67 หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะแจ้งให้ทราบต่อไป เต่ามะเฟืองเป็นเต่าใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นเต่าชนิดเดียวของไทยที่เป็นสัตว์สงวนครับ https://www.thaipost.net/district-news/498219/
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|