เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 02-04-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอังคารที่ 2 เมษายน 2567

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด โดยหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานานไว้ด้วย

ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย

สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ในขณะที่ลมตะวันตกเฉียงเหนือพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ฝุ่นละอองในระยะนี้: ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน มีการสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันอยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงสูง เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมในบริเวณดังกล่าวมีกำลังอ่อน


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 28-30 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 36-41 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ตลอดช่วง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

ลมตะวันตกเฉียงเหนือพัดปกคลุมทะเลอันดามัน และภาคใต้ ส่วนลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด โดยหลีกเลี่ยงการทำงานหรือกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน และขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย ตลอดช่วง












__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 02-04-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


ภูเก็ต โซเชียลถล่มยับ ต่างชาติซิ่งรถลงทะเลชายหาดกมลา ผกก.เร่งตามตัว



โซเชียลถล่มยับ ภูเก็ต แต่ละวันพันกว่าเรื่อง ชาวต่างชาติซิ่งรถลงทะเลชายหาดกมลา ไม่สนไลฟ์การ์ดที่เดินโบกไม้โบกมือ ขณะที่ ผกก.สภ.กมลา เห็นคลิปแล้ว สั่งลูกน้องเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด ตามตัวคนขับมาสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 1 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในโลกโซเชียล จ.ภูเก็ต มีการแชร์คลิปจากผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อ "บังจ้า จอจานใช้ดี" ได้โพสต์คลิปความยาวราว 29 วินาที โดยภาพในคลิปเป็นรถเก๋งสีดำ คาดว่ายี่ห้อโตโยต้า คัมรี่ ไฮบริด ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน กำลังขับวนอยู่บริเวณชายหาดกมลา ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต จากนั้นได้ขับลุยน้ำทะเลอย่างไม่สนใจใคร โดยมีไลฟ์การ์ดได้เดินไปโบกไม้โบกมือ ให้นำรถขึ้นจากชายหาด แต่ไม่เป็นผล คนขับที่เป็นชาวต่างชาติ ยังคงวนรถขับลงไปในทะเล โดยไม่สนใจความเสียหายของรถแต่อย่างใด

โดยผู้ถ่ายคลิป ยังโพสต์ด้วยว่า "แต่ละวัน นักท่องเที่ยวสร้างแต่เรื่อง เมื่อเช้านี้ที่หาดกมลา นักท่องเที่ยวไม่ทราบสัญชาติขับเก๋งลงมาวิ่งบนชายหาดกมลาและขับลุยน้ำทะเล จนบรรดาผู้ประกอบการริมชายหาดและไลฟ์การ์ดต้องออกมาไล่ หากเป็นรถเช่า เจ้าของคงซ่อมหนักแน่นอน" ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ชาวต่างชาติที่ขับรถลงไปยังชายหาด

ทั้งนี้ จากการสอบถามไปยัง พ.ต.อ.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง ผกก.สภ.กมลา ทราบว่า เห็นคลิปดังกล่าวแล้ว และกำลังเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบชายหาดกมลา เพื่อติดตามคนขับรถคันดังกล่าวมาสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมาย

เบื้องต้น คาดว่ารถคันดังกล่าวอาจเป็นรถที่ชาวต่างชาติเช่ามาหรือไม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง


https://www.thairath.co.th/news/local/south/2775232

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 02-04-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


กุ้งเคยนับล้านตายเกลื่อนหาดไม้ขาว ภูเก็ต เชื่อธรรมชาติเตือนภัย


cr ภาพ: วินัย แซ่อิ๋ว

คนภูเก็ตวิจารณ์หนัก กุ้งเคย ลอยตายเกลื่อนหาดไม้ขาว คาดน้ำทะเลร้อนกว่าปกติ ชี้ธรรมชาติอาจเตือนถึงบางสิ่งบางอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้น

เวลา 19.20 น. วันที่ 31 มี.ค. 67 ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ วินัย แซ่อิ๋ว ได้โพสต์ภาพนิ่งจำนวน 3 ภาพ ซึ่งเป็นภาพกุ้งเคยลอยตายเกลื่อนชายหาดไม้ขาว ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต และคลิปความยาวราว 43 วินาทีพร้อมเสียงบรรยาย "วันนี้กุ้งเคยตายเกลื่อน ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น หน้าหาดไม้ขาวมีแต่กุ้งเคยขึ้นมาตายบนชายฝั่ง" โดยภาพเป็นกุ้งขนาดเล็ก หรือกุ้งฝอย นับล้านๆ ตัวถูกคลื่นซัดขึ้นมาจากทะเลแล้วเกยอยู่ตามชายหาดเป็นแนวยาวนับหลายกิโลเมตร โดยมีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นและแชร์คลิปเหตุการณ์ดังกล่าวไปเป็นจำนวนมาก ส่วนหนึ่งเชื่อว่าเกิดจากความร้อนของน้ำทะเลที่มีอุณหภูมิสูงขึ้นกว่าปกติ ธรรมชาติอาจเตือนบางสิ่งบางอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้นหรือไม่ เป็นสัญญาณเตือนจากธรรมชาติหรือไม่ เป็นต้น

"กุ้งเคย" จัดเป็นสัตว์น้ำประเภท กุ้ง กั้ง ปู ที่มีลักษณะสำคัญคือ มีเปลือกหุ้มตัว ลำตัวเป็นปล้อง โดยมีรยางค์ยื่นออกมาเป็นคู่ เช่น หนวด ขากรรไกร ขาเดิน และขาว่ายน้ำ เมื่อเจริญเติบโตจะสลัดเปลือกเดิมแล้วสร้างเปลือกใหม่ รูปร่างคล้ายกุ้ง แต่ตัวเล็กกว่า และไม่มีกรีแหลมๆ ที่บริเวณหัวเหมือนกุ้ง แต่มีลักษณะตัวสีขาวใส มีตาสีดำ มีเปลือกบางและนิ่ม ส่วนมากมักอาศัยอยู่ตามบริเวณรากไม้ตามป่าชายเลน เช่น ต้นโกงกาง แสม ลำพู ชาวบ้านมักจะออกไปช้อนตัวเคยกันในเวลาเช้า และหากันได้ทุกวัน เพราะมีอยู่มากในทุกฤดูกาล ส่วนมากตัวเคยจะอาศัยอยู่ใกล้ผิวทะเล โดยไม่จมลงไปในน้ำลึก ซึ่งชาวบ้านริมทะเลในภาคใต้นิยมนำมาทำกะปิ.


https://www.thairath.co.th/news/local/south/2775066
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 02-04-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด


หนุ่มเผลอหลับ หลังกางเต็นท์ริมหาด ตื่นมาแทบช็อกสบตากับ จระเข้ ห่างแค่คืบ



มือไม้สั่น แก๊งเพื่อนรวมตัวตั้งแคมป์ริมหาด ดันเผลอหลับ ตื่นมาช็อกพี่เบิ้มนอนห่างแค่คืบ เพื่อนถ่ายคลิปไม่กล้าปลุก กลัวตกใจตื่นหันมากัด

เว็บไซต์ต่างประเทศ รายงานเหตุการณ์น่าสะพรึงที่เกิดขึ้นในเม็กซิโก เมื่อกลุ่มแก๊งเพื่อนชวนกันไปตั้งแคมป์ริมชายหาด แต่จู่ๆ เกิดเรื่องไม่คาดฝัน หลังเพื่อนคนหนึ่งงีบหลับ ตื่นมาแทบช็อกจระเข้ตัวใหญ่โผล่นอนห่างแค่เอื้อมมือ เพื่อนเห็นไม่กล้าปลุก กลัวหันมากัด

ตามรายงานเผยว่า เหตุการณ์ระทึกดังกล่าวชายหาดในเมือง ฮาลิสโก ของเม็กซิโก โดยคลิปวิดีโอเผยให้เห็นกลุ่มเพื่อนอาบแดดรวมตัวกันตั้งแคมป์ หลังกางเต็นท์ เผลอหลับ ชายอีกคนตื่นขึ้นมาเห็นจระเข้มานอนเป็นเพื่อน

จากเสียงในคลิปเขาไม่กล้าปลุกเพื่อน กลัวเพื่อนตกใจ และเสียงอาจทำให้จระเข้ตื่นหันไปทำร้ายเพื่อน โชคดีไม่มีใครถูกจระเข้โจมตี ทำให้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

อย่างไรก็ตาม ทางด้านเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ได้ออกมาเตือน นักท่องเที่ยวให้คำนึงถึงการมีอยู่ของสัตว์ป่าในท้องถิ่น และใช้ความระมัดระวังอย่างเหมาะสม เพราะอาจจะไม่ได้จบสวยเหมือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็เป็นได้

ภายหลังคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่จนกลายเป็นไวรัล ทำชาวเน็ตตะลึงกับภาพที่เห็นเป็นอย่างมาก ส่วนใหญ่ช็อกถ้าเกิดกับตนเองคงตกใจสุดขีด เอาชีวิตไม่รอดแน่ๆ บางคนบอกว่า "อาจเป็นเพราะถิ่นที่อยู่ของพวกมันถูกย้ายออกไปโดยการเปลี่ยนเส้นทางแม่น้ำในท้องถิ่น"

นอกจากนี้ ชาวเน็ตบางส่วนแสดงความเห็นว่า 'คนที่ถ่ายวิดีโอกำลังรอให้จระเข้กัดเพื่อนของเขาหรือเปล่า' บางคนบอกว่าชายที่อยู่หลังกล้องอาจเล่นตลกกับเพื่อนของเขา โดยเสริมว่า 'จระเข้ตัวนั้นดูตายสำหรับฉันแล้ว'

ชาวเน็ตเชื่อกันว่า จระเข้ได้ย้ายถิ่นมาที่ชายหาดใน Boca de Iguanas ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของเม็กซิโกซิตี้ เนื่องจากมีอาหารและขยะเหลืออยู่บนที่ตั้งแคมป์ก็เป็นได้

ทั้งนี้ ตามที่รัฐบาลออกมาแถลง ระบุว่า สัตว์เลื้อยคลานอันตรายมักถูกดึงดูดให้กินอาหารง่ายๆ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องแน่ใจว่า เศษอาหารทั้งหมดของคุณอยู่ห่างจากแหล่งน้ำอย่างดี หากไม่ทำเช่นนั้นอาจก่อให้เกิดสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัยสำหรับตัวคุณเองหรือนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ


https://www.khaosod.co.th/around-the...s/news_8167532

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #5  
เก่า 02-04-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจ


กรมทะเล - กรมอุทยานฯ สำรวจสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล แนวปะการัง ส่งเสริมการท่องเที่ยว



กรมทะเล จับมือ กรมอุทยานฯ สำรวจและติดตามการอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล ในพื้นที่ จ.พังงา เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในอุทยานฯ

ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (อทช.) พร้อมด้วย นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (ออส.) พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดพังงา เพื่อสำรวจและติดตามการอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย บริเวณอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน และอุทยานหมู่เกาะสุรินทร์ พร้อมตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน ระหว่างวันที่ 29-31 มีนาคม 2567 โดยมี นายเพิ่มศักดิ์ คงแก้ว ผู้อำนวยการสำนักสำบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (นครศรีธรรมราช) หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิมิลัน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ให้การต้อนรับ

โดยเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2567 คณะฯ ได้เดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน เพื่อดำน้ำลึกสำรวจและติดตามการอนุรักษ์แนวปะการัง?และสิ่งมีชีวิต บริเวณจุดดำน้ำลึก "เรือนกล้วยไม้ (East of Eden)" และบริเวณจุดดำน้ำลึก "กองหินแฟนตาซี (Fantasy Reef)"

และวันที่ 30 มีนาคม 2567 คณะฯ เดินทางไปหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ สล.3 (เกาะตาชัย) และหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ มส. 3 (อ่าวช่องขาด) และเดินทางไปเยี่ยมหมู่บ้านมอแกน ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนชาวไทย มอแกนและสาธารณสุขมูลฐานชุมชน

ซึ่งการลงพื้นที่ในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือกันระหว่างกรมทะเล และกรมอุทยานฯ ในการปฏิบัติหน้าที่ภารกิจด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเล ผ่านกระบวนการสำรวจและติดตามการอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล ในพื้นที่ของเกาะตาชัย และอ่าวงวงช้างที่เกาะ 8 ในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน เพื่อศึกษาผลกระทบให้รอบด้าน และต้องผ่านการหารือจากหลายฝ่ายด้วย

ซึ่งการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวในอุทยานฯ เป็นหนึ่งในนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ ด้วยการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ แต่ต้องอยู่ภายใต้การกำหนดแผนที่เหมาะสมว่าจะไม่กระทบต่อทรัพยากรในทะเล ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงความสมดุลของระบบนิเวศเป็นสำคัญที่สุด เพื่อไม่ให้กระทบต่อธรรมชาติที่กำลังฟื้นตัวด้วย


https://www.bangkokbiznews.com/environment/1120208

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #6  
เก่า 02-04-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก SpringNews


สุดสะเทือนอารมณ์! เผยภาพวาฬเพชฌฆาต เฝ้าร่างไร้วิญญาณของแม่ไม่ห่าง


SHORT CUT

- เผยภาพวาฬเพชฌฆาต วัย 2 ขวบ กำลังว่ายวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ ร่างไร้วิญญาณของแม่ไม่ห่าง ที่ทะเลสาบแคนาดา

- นักวิทย์ฯ หวั่น หากยังปล่อยไว้แบบนี้ อาจตายไปอีกตัว เพราะพื้นที่อยู่ริมชายฝั่ง และไม่มีอาหารให้วาฬเพชฌฆาตดำรงชีวิต

- นักวิทย์ฯ พยายามหลอกหล่อด้วยเสียงวาฬตัวอื่น หรือต้อนไปยังบริเวณน้ำลึก แต่ก็ไม่เป็นผล




"แม่ตายแล้วจริง ๆ ไม่ใช่เรื่องโกหก" นักวิทย์ฯ เผยภาพ ลูกวาฬออร์กา กำลังว่ายน้ำอยู่ที่ทะเลสาบแคนาดา เฝ้าร่างไร้วิญญาณของแม่ เป็นเวลากว่า 2 วันแล้ว และยังไม่มีวี่แววว่าจะว่ายหนีไปไหน

บางทีความสูญเสีย อาจสะเทือนใจมากกว่าอาการหิวโหย เว็บไซต์ Daily Mail เผยภาพ เจ้าวาฬออร์กาหรือวาฬเพชฌฆาต วัย 2 ขวบ กำลังว่ายวนเวียนอยู่รอบ ๆ ซากของแม่ ณ ริมทะเลสาบแคนาดา

เมื่อ 2 วันก่อน ผู้เชี่ยวชาญและอาสาสมัครจำนวนหนึ่งได้พยายามช่วยเหลือแม่วาฬออการ์ เพราะเห็นว่ายังไม่ตาย เธอพยายามดิ้นไปมา แต่หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ได้บอกลาลูกน้อยและไปอยู่บนดาววาฬอย่างสงบ

สำหรับสาเหตุการขึ้นมาริมชายฝั่งยังไม่แน่ชัด แต่หลังจากที่เธอจากไปแล้ว เจ้าหน้าก็ได้ลงมือผ่าซากชันสูตรและพบว่า เธอกำลังท้องลูกอยู่ด้วย

อย่างไรก็ดี แม่ได้จากไปแล้ว เหลือก็แต่ลูกน้อยที่ยังไม่ยอมว่ายไปที่อื่น แม้บริเวณนั้นจะเป็นริมฝั่ง น้ำตื้น แถมไม่มีอาหาร จนเวลาผ่านไป 2 วันเต็ม ๆ ที่เจ้าวาฬออร์กาตัวนี้ยังคงว่ายวนเวียนอยู่รอบ ๆ แม่ไม่ห่าง

นักวิทยาศาสตร์มองว่าหากปล่อยไว้แบบนี้ น่าจะเป็นอันตรายต่อวาฬตัวลูก ทำให้ทั้งนักวิทย์ฯ และอาสาสมัครจำนวนหนึ่งระดมกำลังกันช่วยเหลือวาฬออร์กาผู้โดดเดี่ยวนี้ด้วยสารพัดวิธี

อาทิ การเปิดเสียงวาฬออร์กาหลอกล่อ ดึงดูดความสนใจ หรือร่วมกันต้อนเจ้าวาฬออร์กาไปยังบริเวณน้ำลึด แต่ก็ไม่เป็นผล

ทั้งนี้ นักวิทย์ฯ ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะช่วยสำเร็จหรือไม่ เพราะหากเราทรายถึงพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดนี้ พวกมันมักอยู่รวมกันเป็นครอบครัว ลูกมักตัวติดกับแม่เสมอ ดังนั้น นักวิทย์ฯ จึงย้ำว่าจะพยายามช่วยเหลือเจ้าวาฬออการ์ตัวนี้ให้เต็มที่

ที่มา: Daily Mail


https://www.springnews.co.th/keep-th...ronment/849110
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #7  
เก่า 02-04-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก SpringNews


กรมทะเล-กรมอุทยานฯ สำรวจอนุรักษ์แนวปะการัง-สิ่งมีชีวิตใต้ทะเล จ.พังงา



อธิบดีอุทยานฯ และอธิบดีทะเลและชายฝั่งฯ ลงพื้นที่สำรวจการอนุรักษ์แนวปะการัง?และสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย อช.หมู่เกาะสิมิลัน และ อช. หมู่เกาะสุรินทร์ ประเมินทรัพยากรทางทะเลรวมถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นหากเปิดการท่องเที่ยว เพื่อให้เกิดความสมดุลของระบบนิเวศ

นายอรรถพล? เจริญชันษา? อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ? สัตว์ป่า? และพันธุ์พืช (ออส.) พร้อมด้วยนายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (อทช.) และคณะ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดพังงา เพื่อสำรวจและติดตามการอนุรักษ์แนวปะการัง?และสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย บริเวณอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน และอุทยานหมู่เกาะสุรินทร์ และตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน ระหว่างวันที่ 29-31 มีนาคม 2567 โดยมีนายเพิ่มศักดิ์ คงแก้ว ผู้อำนวยการสำนักสำบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (นครศรีธรรมราช) หัวหน้า?อุทยานแห่งชาติสิมิลัน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ให้การต้อนรับฯ

วันที่ 29 มีนาคม 2567 คณะฯ ได้เดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน เพื่อดำน้ำลึกสำรวจและติดตามการอนุรักษ์แนวปะการัง?และสิ่งมีชีวิต บริเวณจุดดำน้ำลึก "เรือนกล้วยไม้ (East of Eden)" และบริเวณจุดดำน้ำลึก "กองหินแฟนตาซี (Fantasy Reef)" และวันที่ 30 มีนาคม 2567 คณะฯ เดินทางไปหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ สล.3 (เกาะตาชัย) และหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ มส. 3 (อ่าวช่องขาด) และเดินทางไปเยี่ยมหมู่บ้านมอแกน ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนชาวไทย มอแกนและสาธารณสุขมูลฐานชุมชน และมีกำหนดเดินทางกลับในวันที่ 31 มี.ค.2567

จากการลงพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อสำรวจและติดตามการอนุรักษ์แนวปะการัง?และสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล สำหรับในพื้นที่ของเกาะตาชัย และอ่าวงวงช้างที่เกาะ 8 ในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน กรมอุทยานแห่งชาติฯ มีแผนจะส่งเสริมศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในอุทยานทางทะเล ซึ่งที่ผ่านมาเกาะตาชัยเคยได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอย่างมาก แต่ต้องปิดตัวลงตั้งแต่ 15 พฤษภาคม 2559 เพราะสภาพธรรมชาติเสื่อมโทรม และตอนนี้ จึงอยู่ในแผนงานที่จะกลับมาเปิดอีกครั้ง โดยคาดว่ายังต้องใช้เวลาอีกประมาณ 1 ปี เพื่อศึกษาผลกระทบให้รอบด้าน และต้องผ่านการหารือจากหลายฝ่ายด้วย ซึ่งการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวในอุทยานฯ เป็นหนึ่งในนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ ด้วยการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ แต่ต้องอยู่ภายใต้การกำหนดแผนที่เหมาะสมว่าจะไม่กระทบต่อทรัพยากรฯ ในทะเล ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงความสมดุลของระบบนิเวศเป็นสำคัญที่สุด เพื่อไม่ให้กระทบต่อธรรมชาติที่กำลังฟื้นตัวด้วย

ส่วนอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ มีความสมบูรณ์ของปะการังและปลาทะเลที่สวยงาม มีบางพื้นที่ที่มีปะการังฟอกขาว จำเป็นต้องมีการวัดอุณหภูมิน้ำตลอดหรือต้องปิดพื้นที่เพื่อให้เกิดการฟื้นฟู ส่วนการจัดระเบียบพื้นที่กับชุมชนมอร์แกนนั้น นับว่ามีความสัมพันธ์อันดี มีการให้ความร่วมมือกับอุทยานฯ ในทุกด้าน ซึ่งชุมชนก็มีรายได้จากการท่องเที่ยว ทั้งนี้ได้กำชับหัวหน้าอุทยานฯ ต้องควบคุมประชากรให้มีความเหมาะสมเพื่อไม่ให้เกิดการทำลายสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ และให้ดูแลความสะอาดของอาคารสถานที่ให้เป็นระเบียบด้วย


https://www.springnews.co.th/keep-th...ronment/849118

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 19:34


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger