เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 20-06-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายน 2567

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม

สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบน ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 19 - 20 มิ.ย. 67 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 21 ? 25 มิ.ย. 67 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับจะมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ฝั่งตะวันตก สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2 ? 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 21 - 25 มิ.ย. 67 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดจากฝั่ง












__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 20-06-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


โลกร้อนเป็นเหตุ เกาะมรดกโลกของกรีซ จะจมทะเลอีเจียนใน 50 ปี



ดีลอส เกาะที่ตั้งเมืองโบราณที่สำคัญที่สุดของกรีกและโรมันยุคก่อนประวัติศาสตร์ กำลังจะจมลงสู่ทะเลอีเจียนภายในไม่กี่สิบปีข้างหน้า เนื่องจากภาวะความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ

ประเทศกรีซ ขึ้นชื่อเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวและเกาะอันสวยงาม เช่น เกาะมีโคนอส ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความงดงามของบ้านเรือนซึ่งทาสีขาวสะอาดตา กับน้ำทะเลใสกระจ่าง แต่ห่างออกไปไม่ไกลจะเป็นที่ตั้งของเกาะดีลอส สถานที่ตั้งของซากโบราณที่สำคัญที่สุดของประวัติศาสตร์กรีกกับโรมัน ซึ่งได้รับการยกย่องเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก

เกาะดีลอส ห้อมล้อมไปด้วยทะเล สิ่งปลูกสร้างอายุกว่า 2,000 ปีของมันเป็นแหล่งข้อมูลจุลภาคอย่างดี ที่บ่งบอกถึงชีวิตประจำวันของผู้คนในสมัยเฮลเลนิสต์และโรมันโบราณ

แต่นักวิทยาศาสตร์เตือนว่าภายในไม่กี่ทศวรรษข้างหน้า สิ่งปลูกสร้างโบราณเหล่านี้ซึ่งรวมถึงวิหารที่มีรูปปั้นสิงโตล้อมรอบ อาจจะหายไปตลอดกาล เนื่องจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะภาวะความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ

"ดีลอส มีชะตาที่ต้องหายไปภายในเวลาประมาณ 50 ปี" ดร.เวโรนิก ช็องโกวสกี กล่าว โดยช็องโกวสกี เป็นหัวหน้าวิทยาลัยฝรั่งเศสแห่งเอเธนส์ (EFA) ซึ่งเป็น 1 ใน 17 สถาบันขุดค้นโบราณสถานที่ดำเนินการอยู่ในกรุงเอเธนส์ของกรีซ และสำรวจซากโบราณบนเกาะดีลอสมาตลอด 150 ปีที่ผ่านมา

ระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นสร้างความเสียหายอย่างเห็นได้ชัดต่อพื้นที่ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของร้านค้ากับอาคารเก็บของในยุค 1-2 ศตวรรษก่อนคริสตกาล

"น้ำทะเลเข้าไปในร้านในช่วงฤดูหนาว กัดเซาะฐานของกำแพง" นาย ฌอง-ชาร์ลส์ โมเรตติ ผู้อำนวยการภารกิจขุดค้นบนเกาะดีลอส และนักวิจัยจากสถาบันเพื่อการวิจัยโบราณสถาน (IRAA) แห่งฝรั่งเศส กล่าว "ทุกปีในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ผมสังเกตเห็นว่ามีกำแพงใหม่ถล่มเพิ่ม"

ขณะที่ ดร.ช็องโกวสกี เสริมว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 20 ม. ในบางพื้นที่ของเกาะ

ผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยอริสโตเตลิโอ ในเมืองเธสซาโลนิกิ ซึ่งเผยแพร่เมื่อปีก่อนพบว่า การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิกอปรกับระดับความชื้นที่เพิ่มสูง สามารถส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อองค์ประกอบทางเคมีของวัสดุบางชนิดที่ถูกใช้ในการสร้างอนุสรณ์สถานมรดกทางวัฒนธรรมต่างๆ ได้

"เช่นเดียวกับร่างกายมนุษย์ อนุสรณ์สถานเหล่านี้ถูกสร้างให้ทนต่ออุณหภูมิในระดับหนึ่ง" เอฟสตาเธีย ธิงกา นักวิจัยด้านอุตุนิยมวิทยาและสภาพอากาศวิทยา และเป็นหัวหน้าทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยอริสโตเตลิโอ กล่าว

นอกจากนั้นปัญหายังรุนแรงขึ้นอีกเนื่องจากนักท่องเที่ยวจากเกาะมีโคนอสฝ่าฝืนเข้าไปในเขตหวงห้าม โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนซึ่งมีนักโบราณคดีเพียงไม่กี่คนที่คอยตรวจตราพื้นที่ขุดค้น

สำหรับกรีกโบราณ ดีลอส เป็นสถานที่เกิดของ 'อพอลโล' เทพเจ้าแห่งแสง, ศิลปะ และการรักษา กับ 'อาร์ทีมิส' เทพีแห่งการล่าสัตว์ น้องสาวของพระองค์ และทั้งสองก็เป็นหนึ่งในเทพระดับสูงสุดที่ชาวกรีกกับชาวโรมันโบราณยกย่องบูชา

ในช่วงยุคทองของยุคโรมัน ดีลอส ดึงดูดผู้แสวงบุญและพ่อค้าจากทั่วโลกสมัยโบราณมารวมตัวกัน และขยายกลายเป็นเมืองซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่กว่า 30,000 คน แต่ความนิยมในเกาะแห่งนี้ก็นำมาซึ่งหายนะ เมืองถูกบุกปล้นถึง 2 ครั้ง ในช่วง 100 ปีก่อนคริสตกาล จนสุดท้ายชาวบ้านก็ทิ้งเมืองแห่งนี้ไป

ตอนนี้เจ้าหน้าที่ต้องใช้เสาไม้เพื่อช่วยค้ำยันโครงสร้างของกำแพงบางจุด แต่การจะใช้มาตรการที่แข็งแรงกว่านี้นั้นมีความซับซ้อน และต้องได้รับการตอบสนองด้านกฎระเบียบจากหลายภาคส่วน

"เมืองชายฝั่งทุกแห่งจะเสียพื้นที่ที่ปัจจุบันอยู่ในระดับน้ำทะเลไปจำนวนมากอย่างมีนัยสำคัญ" อาเธนา คริสเตียนา โลโป นักโบราณคดีชาวกรีก กล่าว "เราเปลี่ยนไปใช้หลอดกระดาษแทนหลอดพลาสติกแล้ว แต่เราแพ้สงครามในการปกป้องสิ่งแวดล้อมไปแล้ว".

ที่มา : thehindu


https://www.thairath.co.th/news/foreign/2794310
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 20-06-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการ


ฮือฮา! โซเชียลแห่แชร์ไวรัล "โลมาสีชมพู" (สด) ดร.ธรณ์ เชื่อเป็น "โลมาAI"


ภาพโลมาสีชมพูสดที่ถูกแชร์กันจนเป็นไวรัลบนโลกโซเชียล ซึ่งกูรูต่างเชื่อกันว่าเป็นภาพ AI

กูรูเชื่อภาพ "โลมาสีชมพูสด" ที่ถูกแชร์กันเป็นจำนวนมากบนโลกโซเชียล เป็นภาพ "โลมาAI" โดย ดร.ธรณ์ ได้โพสต์ถึงน้องโลมาดังกล่าวสั้น ๆ ว่า...ถึงเพื่อนธรณ์ผู้แชร์ภาพโลมาสีชมพูจากอเมริกา ผมเข้าใจว่านั่นคือโลมา AI ฮะ

ถือเป็นอีกหนึ่งไวรัลร้อนแรงบนโลกโซเชียลกับภาพ "โลมาสีชมพูสด" สุดจัดจ้าน กำลังกระโดดเล่นน้ำทะเลอย่างเริงร่า ซึ่งถูกแชร์กันเป็นจำนวนมาก

ภาพนี้แม้ไม่ระบุชัดเจนว่าใครเป็นเจ้าของภาพ แต่มีข้อมูลเบื้องต้นอ้างว่าพบที่บริเวณชายฝั่งนอร์ทแคโรไลนา

อย่างไรก็ดีหลังภาพนี้ถูกโพสต์และแชร์กันเป็นจำนวนมากบนโลกโซเชียล บรรดากูรูผู้เชี่ยวชาญเรื่องสัตว์ทะเลและภาพจาก AI ได้ออกมาระบุว่า ภาพน้อิงโลมาสีชมพูสดที่กำลังกระโดดอย่างเริงร่าอยู่นี้น่าจะเป็นภาพที่ใช้ AI สร้างขึ้นมา

โดย เพจ เพชรมายา ได้โพสต์ถึงเรื่องนี้เชิงตั้งคำถามว่า โลมาสีชมพูมีจริงหรือไม่ ? ก่อนจะอธิบายว่า

ช่วงนี้มีภาพของโลมาสีชมพูที่ถูกแชร์บนโลกออนไลน์อย่างมากในหลาย ๆ แพลตฟอร์ม หลายคนชื่นชมในอัศจรรย์ของธรรมชาติและฮือฮากันอย่างมาก โดยภาพเหล่านี้ถูกอ้างว่าพบที่บริเวณชายฝั่งนอร์ทแคโรไลนา

ข้อแรก ไม่มีโลมาสายพันธุ์สีชมพูอาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งนอร์ทแคโรไลนา

ข้อสอง โลมาสีชมพูมีอยู่จริง แต่....

โลมาที่มีสีออกโทนชมพูอย่าง Amazon River Dolphin ก็อาศัยอยู่แถบแม่น้ำแอมะซอนในอเมริกาใต้

หรือจะเป็น Indo-Pacific Humpback Dolphin ก็อยู่แถวบ้านเราทางมหาสมุทรอินเดียตะวันออกและแปซิฟิกตะวันตก

ความเป็นไปได้เดียวก็คือ มันเป็น Bottlenose Dolphin หรือโลมาปากขวด ที่พบได้ในมหาสมุทรทั่วโลก หน้าตาก็ดูเหมือนจะใช่เสียด้วย

ในขณะที่หลายคนเชื่อว่า มันคือภาพที่ถูกสร้างมาจาก AI หรือผ่านการตัดต่อสีชมพูเข้าไปมากกว่า เพราะจู่ ๆ ภาพชุดนี้ก็ปรากฏขึ้นแบบไม่มีที่มาที่ไป ไม่รู้่ว่าเจ้าของภาพเป็นใครมาจากไหน

ดังนั้น ถ้าใครเห็นคนแชร์ภาพโลมาสีชมพูชุดนี้ จึงอาจตีได้ว่าเป็นภาพปลอมไว้ก่อนครับ


ด้านเพจ ThaiWhales ก็ได้ออกมาให้ข้อมูลสั้น ๆ ว่า

โลมาสีชมพูBarbie pink ที่แชร์กันน่าจะ ai นะคะ ????โลมาสีชมพูหรือโลมาหลังโหนกมีจริง ? แต่ในรูปนั้นเป็นโลมาปากขวดค่ะ ????

เช่นเดียวกับ ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศน์ทางทะเล และรองคณบดี คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์ถึงเรื่องน้องโลมาสีชมพูสดตัวนี้ ผ่านเฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat เพียงสั้น ๆ ว่า


ถึงเพื่อนธรณ์ผู้แชร์ภาพโลมาสีชมพูจากอเมริกา ผมเข้าใจว่านั่นคือโลมา AI ฮะ ????

สำหรับโลมา ที่หลาย ๆ คนเข้าใจว่าเป็นปลา แต่จริง ๆ โลมาเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อาศัยอยู่ในน้ำ (เช่นเดียวกับวาฬ) ทั้งน้ำทะเล น้ำจืด และน้ำกร่อย

โลมามีหลายชนิดในวงศ์ต่าง ๆ ในบ้านเราขอมูลจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ระบุว่ามีโลมา 11 ชนิด อาทิ โลมาปากขวด โลมาหัวบาตรหลังเรียบ โลมาหลังโหนก โลมาลายแถบ โลมาลายจุด เป็นต้น

โลมาส่วนใหญ่มีสีเทา ดำ ทั้งยังมี "โลมาสีชมพู" ซึ่งในบ้านเราพบเจอบ่อยที่อ่าวไทย โดยเฉพาะบริเวณทะเลขนอม จ.นครศรีธรรม ซึ่งข้อมูลจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชระบุว่า โลมาสีชมพูที่เจอที่ทะเลขนอมเป็น โลมาหลังโหนก หรืออีกชื่อเรียกว่า โลมาขาวเทา/โลมาเผือก (Chinese white dolphin, Pacific humpback dolphin, Indo-Pacific humpbacked dolphin) ซึ่งเป็นโลมาชนิดหนึ่งในวงศ์โลมามหาสมุทร อยู่ในสถานะอนุรักษ์ ประเภทมีความเสี่ยงใกล้สูญพันธุ์ (NT) จัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตาม พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562

สำหรับสีชมพูของโลมานั้นมาจากเมื่อโลมามีอายุมากจะมีสีสว่างขึ้นจนถึงเป็นสีชมพู สีชมพูนี้ไม่ได้มาจากเซลล์เม็ดสี แต่มาจากสีของหลอดเลือดที่ทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้เกิดภาวะที่อุณหภูมิของร่างกายสูงเกินไป การพบเห็นโลมาสีชมพู ยังบ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลไทย


https://mgronline.com/travel/detail/9670000052661

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 01:15


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger