#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายน 2567
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบน ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 19 - 20 มิ.ย. 67 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 21 ? 25 มิ.ย. 67 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับจะมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ฝั่งตะวันตก สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2 ? 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 21 - 25 มิ.ย. 67 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดจากฝั่ง
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ
โลกร้อนเป็นเหตุ เกาะมรดกโลกของกรีซ จะจมทะเลอีเจียนใน 50 ปี ดีลอส เกาะที่ตั้งเมืองโบราณที่สำคัญที่สุดของกรีกและโรมันยุคก่อนประวัติศาสตร์ กำลังจะจมลงสู่ทะเลอีเจียนภายในไม่กี่สิบปีข้างหน้า เนื่องจากภาวะความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ประเทศกรีซ ขึ้นชื่อเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวและเกาะอันสวยงาม เช่น เกาะมีโคนอส ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความงดงามของบ้านเรือนซึ่งทาสีขาวสะอาดตา กับน้ำทะเลใสกระจ่าง แต่ห่างออกไปไม่ไกลจะเป็นที่ตั้งของเกาะดีลอส สถานที่ตั้งของซากโบราณที่สำคัญที่สุดของประวัติศาสตร์กรีกกับโรมัน ซึ่งได้รับการยกย่องเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก เกาะดีลอส ห้อมล้อมไปด้วยทะเล สิ่งปลูกสร้างอายุกว่า 2,000 ปีของมันเป็นแหล่งข้อมูลจุลภาคอย่างดี ที่บ่งบอกถึงชีวิตประจำวันของผู้คนในสมัยเฮลเลนิสต์และโรมันโบราณ แต่นักวิทยาศาสตร์เตือนว่าภายในไม่กี่ทศวรรษข้างหน้า สิ่งปลูกสร้างโบราณเหล่านี้ซึ่งรวมถึงวิหารที่มีรูปปั้นสิงโตล้อมรอบ อาจจะหายไปตลอดกาล เนื่องจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะภาวะความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ "ดีลอส มีชะตาที่ต้องหายไปภายในเวลาประมาณ 50 ปี" ดร.เวโรนิก ช็องโกวสกี กล่าว โดยช็องโกวสกี เป็นหัวหน้าวิทยาลัยฝรั่งเศสแห่งเอเธนส์ (EFA) ซึ่งเป็น 1 ใน 17 สถาบันขุดค้นโบราณสถานที่ดำเนินการอยู่ในกรุงเอเธนส์ของกรีซ และสำรวจซากโบราณบนเกาะดีลอสมาตลอด 150 ปีที่ผ่านมา ระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นสร้างความเสียหายอย่างเห็นได้ชัดต่อพื้นที่ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของร้านค้ากับอาคารเก็บของในยุค 1-2 ศตวรรษก่อนคริสตกาล "น้ำทะเลเข้าไปในร้านในช่วงฤดูหนาว กัดเซาะฐานของกำแพง" นาย ฌอง-ชาร์ลส์ โมเรตติ ผู้อำนวยการภารกิจขุดค้นบนเกาะดีลอส และนักวิจัยจากสถาบันเพื่อการวิจัยโบราณสถาน (IRAA) แห่งฝรั่งเศส กล่าว "ทุกปีในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ผมสังเกตเห็นว่ามีกำแพงใหม่ถล่มเพิ่ม" ขณะที่ ดร.ช็องโกวสกี เสริมว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 20 ม. ในบางพื้นที่ของเกาะ ผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยอริสโตเตลิโอ ในเมืองเธสซาโลนิกิ ซึ่งเผยแพร่เมื่อปีก่อนพบว่า การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิกอปรกับระดับความชื้นที่เพิ่มสูง สามารถส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อองค์ประกอบทางเคมีของวัสดุบางชนิดที่ถูกใช้ในการสร้างอนุสรณ์สถานมรดกทางวัฒนธรรมต่างๆ ได้ "เช่นเดียวกับร่างกายมนุษย์ อนุสรณ์สถานเหล่านี้ถูกสร้างให้ทนต่ออุณหภูมิในระดับหนึ่ง" เอฟสตาเธีย ธิงกา นักวิจัยด้านอุตุนิยมวิทยาและสภาพอากาศวิทยา และเป็นหัวหน้าทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยอริสโตเตลิโอ กล่าว นอกจากนั้นปัญหายังรุนแรงขึ้นอีกเนื่องจากนักท่องเที่ยวจากเกาะมีโคนอสฝ่าฝืนเข้าไปในเขตหวงห้าม โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนซึ่งมีนักโบราณคดีเพียงไม่กี่คนที่คอยตรวจตราพื้นที่ขุดค้น สำหรับกรีกโบราณ ดีลอส เป็นสถานที่เกิดของ 'อพอลโล' เทพเจ้าแห่งแสง, ศิลปะ และการรักษา กับ 'อาร์ทีมิส' เทพีแห่งการล่าสัตว์ น้องสาวของพระองค์ และทั้งสองก็เป็นหนึ่งในเทพระดับสูงสุดที่ชาวกรีกกับชาวโรมันโบราณยกย่องบูชา ในช่วงยุคทองของยุคโรมัน ดีลอส ดึงดูดผู้แสวงบุญและพ่อค้าจากทั่วโลกสมัยโบราณมารวมตัวกัน และขยายกลายเป็นเมืองซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่กว่า 30,000 คน แต่ความนิยมในเกาะแห่งนี้ก็นำมาซึ่งหายนะ เมืองถูกบุกปล้นถึง 2 ครั้ง ในช่วง 100 ปีก่อนคริสตกาล จนสุดท้ายชาวบ้านก็ทิ้งเมืองแห่งนี้ไป ตอนนี้เจ้าหน้าที่ต้องใช้เสาไม้เพื่อช่วยค้ำยันโครงสร้างของกำแพงบางจุด แต่การจะใช้มาตรการที่แข็งแรงกว่านี้นั้นมีความซับซ้อน และต้องได้รับการตอบสนองด้านกฎระเบียบจากหลายภาคส่วน "เมืองชายฝั่งทุกแห่งจะเสียพื้นที่ที่ปัจจุบันอยู่ในระดับน้ำทะเลไปจำนวนมากอย่างมีนัยสำคัญ" อาเธนา คริสเตียนา โลโป นักโบราณคดีชาวกรีก กล่าว "เราเปลี่ยนไปใช้หลอดกระดาษแทนหลอดพลาสติกแล้ว แต่เราแพ้สงครามในการปกป้องสิ่งแวดล้อมไปแล้ว". ที่มา : thehindu https://www.thairath.co.th/news/foreign/2794310
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการ
ฮือฮา! โซเชียลแห่แชร์ไวรัล "โลมาสีชมพู" (สด) ดร.ธรณ์ เชื่อเป็น "โลมาAI" ภาพโลมาสีชมพูสดที่ถูกแชร์กันจนเป็นไวรัลบนโลกโซเชียล ซึ่งกูรูต่างเชื่อกันว่าเป็นภาพ AI กูรูเชื่อภาพ "โลมาสีชมพูสด" ที่ถูกแชร์กันเป็นจำนวนมากบนโลกโซเชียล เป็นภาพ "โลมาAI" โดย ดร.ธรณ์ ได้โพสต์ถึงน้องโลมาดังกล่าวสั้น ๆ ว่า...ถึงเพื่อนธรณ์ผู้แชร์ภาพโลมาสีชมพูจากอเมริกา ผมเข้าใจว่านั่นคือโลมา AI ฮะ ถือเป็นอีกหนึ่งไวรัลร้อนแรงบนโลกโซเชียลกับภาพ "โลมาสีชมพูสด" สุดจัดจ้าน กำลังกระโดดเล่นน้ำทะเลอย่างเริงร่า ซึ่งถูกแชร์กันเป็นจำนวนมาก ภาพนี้แม้ไม่ระบุชัดเจนว่าใครเป็นเจ้าของภาพ แต่มีข้อมูลเบื้องต้นอ้างว่าพบที่บริเวณชายฝั่งนอร์ทแคโรไลนา อย่างไรก็ดีหลังภาพนี้ถูกโพสต์และแชร์กันเป็นจำนวนมากบนโลกโซเชียล บรรดากูรูผู้เชี่ยวชาญเรื่องสัตว์ทะเลและภาพจาก AI ได้ออกมาระบุว่า ภาพน้อิงโลมาสีชมพูสดที่กำลังกระโดดอย่างเริงร่าอยู่นี้น่าจะเป็นภาพที่ใช้ AI สร้างขึ้นมา โดย เพจ เพชรมายา ได้โพสต์ถึงเรื่องนี้เชิงตั้งคำถามว่า โลมาสีชมพูมีจริงหรือไม่ ? ก่อนจะอธิบายว่า ช่วงนี้มีภาพของโลมาสีชมพูที่ถูกแชร์บนโลกออนไลน์อย่างมากในหลาย ๆ แพลตฟอร์ม หลายคนชื่นชมในอัศจรรย์ของธรรมชาติและฮือฮากันอย่างมาก โดยภาพเหล่านี้ถูกอ้างว่าพบที่บริเวณชายฝั่งนอร์ทแคโรไลนา ข้อแรก ไม่มีโลมาสายพันธุ์สีชมพูอาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งนอร์ทแคโรไลนา ข้อสอง โลมาสีชมพูมีอยู่จริง แต่.... โลมาที่มีสีออกโทนชมพูอย่าง Amazon River Dolphin ก็อาศัยอยู่แถบแม่น้ำแอมะซอนในอเมริกาใต้ หรือจะเป็น Indo-Pacific Humpback Dolphin ก็อยู่แถวบ้านเราทางมหาสมุทรอินเดียตะวันออกและแปซิฟิกตะวันตก ความเป็นไปได้เดียวก็คือ มันเป็น Bottlenose Dolphin หรือโลมาปากขวด ที่พบได้ในมหาสมุทรทั่วโลก หน้าตาก็ดูเหมือนจะใช่เสียด้วย ในขณะที่หลายคนเชื่อว่า มันคือภาพที่ถูกสร้างมาจาก AI หรือผ่านการตัดต่อสีชมพูเข้าไปมากกว่า เพราะจู่ ๆ ภาพชุดนี้ก็ปรากฏขึ้นแบบไม่มีที่มาที่ไป ไม่รู้่ว่าเจ้าของภาพเป็นใครมาจากไหน ดังนั้น ถ้าใครเห็นคนแชร์ภาพโลมาสีชมพูชุดนี้ จึงอาจตีได้ว่าเป็นภาพปลอมไว้ก่อนครับ ด้านเพจ ThaiWhales ก็ได้ออกมาให้ข้อมูลสั้น ๆ ว่า โลมาสีชมพูBarbie pink ที่แชร์กันน่าจะ ai นะคะ ????โลมาสีชมพูหรือโลมาหลังโหนกมีจริง ? แต่ในรูปนั้นเป็นโลมาปากขวดค่ะ ???? เช่นเดียวกับ ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศน์ทางทะเล และรองคณบดี คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์ถึงเรื่องน้องโลมาสีชมพูสดตัวนี้ ผ่านเฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat เพียงสั้น ๆ ว่า ถึงเพื่อนธรณ์ผู้แชร์ภาพโลมาสีชมพูจากอเมริกา ผมเข้าใจว่านั่นคือโลมา AI ฮะ ???? สำหรับโลมา ที่หลาย ๆ คนเข้าใจว่าเป็นปลา แต่จริง ๆ โลมาเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อาศัยอยู่ในน้ำ (เช่นเดียวกับวาฬ) ทั้งน้ำทะเล น้ำจืด และน้ำกร่อย โลมามีหลายชนิดในวงศ์ต่าง ๆ ในบ้านเราขอมูลจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ระบุว่ามีโลมา 11 ชนิด อาทิ โลมาปากขวด โลมาหัวบาตรหลังเรียบ โลมาหลังโหนก โลมาลายแถบ โลมาลายจุด เป็นต้น โลมาส่วนใหญ่มีสีเทา ดำ ทั้งยังมี "โลมาสีชมพู" ซึ่งในบ้านเราพบเจอบ่อยที่อ่าวไทย โดยเฉพาะบริเวณทะเลขนอม จ.นครศรีธรรม ซึ่งข้อมูลจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชระบุว่า โลมาสีชมพูที่เจอที่ทะเลขนอมเป็น โลมาหลังโหนก หรืออีกชื่อเรียกว่า โลมาขาวเทา/โลมาเผือก (Chinese white dolphin, Pacific humpback dolphin, Indo-Pacific humpbacked dolphin) ซึ่งเป็นโลมาชนิดหนึ่งในวงศ์โลมามหาสมุทร อยู่ในสถานะอนุรักษ์ ประเภทมีความเสี่ยงใกล้สูญพันธุ์ (NT) จัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตาม พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 สำหรับสีชมพูของโลมานั้นมาจากเมื่อโลมามีอายุมากจะมีสีสว่างขึ้นจนถึงเป็นสีชมพู สีชมพูนี้ไม่ได้มาจากเซลล์เม็ดสี แต่มาจากสีของหลอดเลือดที่ทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้เกิดภาวะที่อุณหภูมิของร่างกายสูงเกินไป การพบเห็นโลมาสีชมพู ยังบ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลไทย https://mgronline.com/travel/detail/9670000052661
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|