#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม 2567
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 6 - 7 ก.ค. 67 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ส่วนในช่วงวันที่ 8 ? 12 ก.ค. 67 ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านประเทศเมียนมาและประเทศลาวตอนบน ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะเริ่มมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 10 ? 12 ก.ค. 67 ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยในช่วงวันที่ 7 - 9 ก.ค. 67 ทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนบริเวณทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทย มีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 10 - 12 ก.ค. 67 คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 9 ? 12 ก.ค. 67 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์
นักวิชาการชี้ 'ลานีญา' กำลังทำโลกร้อนขึ้นจนเกิดปรากฏการณ์ rain bomb นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อมชี้ ภาวะ "ลานีญา" กำลังทำโลกร้อนขึ้นจนเกิดปรากฏการณ์ rain bomb ทำฝนตกกระหน่ำอย่างไม่ลืมหูลืมตา ที่ทำให้เกิดน้ำท่วมอย่างฉับพลัน เรียกได้ว่าเป็นกระแสที่กลายเป็นไวรัลอย่างมากอยู่ในขณะนี้ หลังเมื่อวันที่ 2 ก.ค. 67 ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม เป็นอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เผยข้อมูลลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว Thon Thamrongnawasawat ว่า ภาวะ ?ลานีญา? ที่กำลังจะมาโลกร้อนทำให้เกิด rain bomb (ฝนตกกระหน่ำอย่างไม่ลืมหูลืมตา) ที่ทำให้เกิดน้ำท่วมอย่างฉับพลัน โดย ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ระบุข้อความว่า rain bomb เป็นคำใหม่ ไม่ถูกใช้เป็นทางการ แต่ความหมายทั่วไปคือฝนตกกระหน่ำอย่างไม่ลืมหูลืมตา ปริมาณน้ำฝนในช่วงเวลาสั้นๆ ทะลุขีดจำกัด ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันเนื่องจากเป็นศัพท์ใหม่ จึงไม่มีการฟันธงว่านี่คือปรากฏการณ์ "ระเบิดฝน" หรือไม่ แต่ว่าง่ายๆ คือเหมือนฟ้ารั่ว เนื่องจากน้ำจากฟ้าถล่มลงมาอย่างรุนแรงในช่วงแสนสั้น การรับมือแบบดั้งเดิมจึงมีปัญหา ผลกระทบจึงมาสู่ชีวิตและทรัพย์สินตลอดจนการทำมาหากินของพวกเรา ซึ่งตัวอย่างมีให้เห็นทั่วไป เฉพาะช่วงนี้ก็มีทั้งน้ำท่วมภูเก็ต ออสเตรเลีย สวิตเซอร์แลนด์ ภาพรถที่ลอยไปตามน้ำไหลหลากดูน่ากลัว จนบางคนเปรียบเทียบว่า เหมือนสึนามิจากฟ้า rain bomb อาจแฝงมาพร้อมพายุฝนฟ้าคะนอง จะเกิดบ่อยขึ้นเรื่อยๆ ผศ.ดร.ธรณ์ เผยอีกว่า ในยุคโลกเดือด เพราะมหาสมุทรร้อน น้ำระเหยมากขึ้น อากาศร้อนเพิ่มขึ้น เมฆมีน้ำอยู่มากมายพร้อมทะลักทลายจากบนฟ้าในช่วงสั้นๆ หากตกลงบนเขาหรือในป่า อาจเกิดน้ำไหลหลากฉับพลันลงมาในเมือง ตามถนนหนทางที่กลายเป็นทางน้ำ รวมถึงโคลนถล่มตามมาในพื้นที่ไม่เคยเกิด เช่น หายนะที่ลิเบียหากตกลงในเมืองที่ราบแบบกรุงเทพฯ น้ำท่วมเร็วมาก น้ำเข้าบ้านโดยเฉพาะพื้นที่เป็นแอ่ง น้ำท่วมรถติดบนถนน ทำทรัพย์สินเสียหาย นอกจากนี้ คำว่าบอมบ์ หมายถึง เกิดฉับพลันแล้วหายไป น้ำท่วมแบบนี้จึงไม่นาน แต่ความเสียหายเกิดขึ้นแล้วการคาดการณ์ล่วงหน้าทำแทบไม่ได้ในระยะยาว ปกติก็เป็นการทำนายทั่วไปในพื้นที่กว้าง แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าเรนบอมบ์กำลังมา ให้เอารถขึ้นที่สูง ป้องกันน้ำเข้าบ้านทุกวิถีทาง เน้นย้ำว่าเป็นคำทั่วไป ไม่ใช่ศัพท์ทางวิชาการ คงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการทำนายแบบเป็นทางการว่าจะเกิดเรนบอมบ์ ต่างจากทำนายสึนามิหรืออื่นๆ เราจึงต้องระวังรักษาตัวเองและทรัพย์สินให้มากที่สุด เช่น ศึกษารอบบ้านให้ดี ดูเส้นทางน้ำหลาก ดูพื้นที่ลุ่ม ดูปัจจัยเสี่ยง โลกยุคนี้อยู่ไม่ง่ายแน่นอน และจะยากขึ้นเรื่อยๆ จะไปหวังพึ่งใครก็ไม่ได้มาก เราต้องช่วยตัวเองให้ถึงที่สุดรวมถึงเลิกคิดแบบเดิมๆ ว่าจะมีการเยียวยาชดใช้ เราคงไม่ได้อะไรมากหรอก โดยเฉพาะเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สภาพอากาศสุดขีดแบบนี้จึงเป็นความเสี่ยงอันดับ 1 ของโลกในยุค 10 ปีต่อจากนี้ไป ตามที่ world economic forum ระบุไว้ว่า ลานีญากำลังมา rain bomb อาจแฝงมากับสภาพฝนตกฟ้าคะนอง อย่างไรก็ตาม ตัวอย่างการเตรียมตัวจากบ้านผม บ้านผมอยู่กรุงเทพฯ ไม่มีน้ำหลาก แต่เป็นแอ่งอยู่กลางเมือง น้ำท่วมง่าย จึงจ่ายตังค์ค่าระบบระบายน้ำในบ้านไปเยอะ มีกระสอบทรายเตรียมไว้กันน้ำจากถนนไหลเข้าเขตบ้าน มีอะไรเตรียมไว้อุดน้ำเข้าบ้านในช่วงสั้นๆ ของส่วนใหญ่ที่อยู่ในน้ำท่วมถึงได้ก็ไม่ค่อยแพง ยกง่ายหน่อย เตรียมคัตเอาต์ตัดไฟห้องชั้นล่าง ส่วนรถผมไม่มีปัญหาเพราะโรงรถสูงกว่าถนนมาก น้ำไม่เคยท่วมถึง เพราะน้ำท่วมแบบนี้เกิดแค่ 1-6 ชั่วโมง ไม่แช่นานอีกด้วย.. ขอบคุณข้อมูล : Thon Thamrongnawasawat https://www.dailynews.co.th/news/3597267/
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการ
แม่เต่ากระ ขึ้นวางไข่ ชายหาดเกาะสมุย รังที่5 ก่อนคลานลงทะเล สุราษฎร์ธานี - แม่เต่ากระ ว่ายน้ำจากเกาะล้าน จ.ชลบุรี มาขึ้นวางไข่บนชายหาดท้องหนัน เกาะสมุย เป็นรังที่ 5 แล้ว และเป็นครั้งที่ 2 ในรอบปี 2567 นี้ ก่อนคลานลงทะเล เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยพัฒนาทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลางกลาง จังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังที่ได้เฝ้าติดตามการขึ้นมาวางไข่ของแม่เต่ากระ ที่มีน้ำหนัก 70-80 กิโลกรัม ที่ขึ้นมาวางไข่บริเวณชายหาดท้องหนัน ต.มะเร็ต อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นการขึ้นมาวางไข่ของแม่เต่ากระตัวนี้ เป็นรังที่ 5 แล้ว โดยการขึ้นมาวางไข่แต่ละครั้งของแม่เต่ากระตัวนี้ รังละ 100-120 ฟอง หลังจากวางไข่แล้วเสร็จ แม่เต่ากระได้ใช้ขาหลังทั้งสองข้างกวาดทรายมาปกปิดหลุมไข่ของตัวเอง และใช้ขาหลังทั้งสองข้างกลบหลุมทรายจนเรียบ เพื่อปกปิดหลุมไข่ ป้องกันอันตรายรังไข่ก่อนคลานกลับลงไปในทะเล จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้นำคอกตาข่ายมาล้อมรังไข่เอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ขุดกินไข่ และป้องกันไม่ให้ใครมารบกวนหลุมไข่ โดยจากการเฝ้าติดตามของทางเจ้าหน้าที่ทราบว่า แม่เต่ากระ ตัวนี้ได้เดินทางมาจากเกาะล้าน จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นแหล่งที่หากินของแม่เต่ากระตัวนี้ เมื่อครบวงรอบเเม่เต่ากระก็จะเดินทางกละบมาวางไข่ที่ชายหาดท้องหนัน บนเกาะสมุย ปีเว้นปี เป็นแบบนี้ต่อเนื่องกันมาตั้งแต่ปี 2555 ตลอดมาจนถึงปี 2567 ซึ่งเป็นการ เป็นห่วงรอบที่ 6 แล้ว สำหรับในปี 2567 แม่เต่ากระได้ขึ้นมาวางไข่ บริเวณชายหาดบ้านท้องหนัน เป็นครั้งที่ 2 แล้ว เป็นการบ่งบอกถึงธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ในท้องทะเลเกาะสมุยและความเงียบสงบของชายหาดแห่งนี้ https://mgronline.com/south/detail/9670000057612
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#4
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก แนวหน้า
ข่าวเศร้า! พบ 'วาฬบรูด้า' หนัก 10 ตัน เกยตื้นตาย ที่เกาะพะลวย 6 ก.ค.67 ผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อ นายธีระพงค์ ทองมาก ได้ไลฟ์สดชาวบ้านหมู่ 6 ตำบลอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี กำลังร่วมแรงร่วมใจช่วยชีวิตวาฬบรูด้าขนาดใหญ่ที่กำลังดิ้นรนให้ตัวเองออกจากการที่เข้ามาเกยตื้นบริเวณอ่าวสองของเกาะพลวย (พะลวย) โดยวาฬบรูด้าไม่ทราบเพศมีขนาดลำตัวยาวประมาณ 15 เมตร คาดว่าวาฬบรูด้าตัวนี้มีน้ำหนักโดยประมาณ 10 ตัน ชาวบ้านและเด็กๆ ที่ทราบข่าวว่า วาฬบณูด้ามาเกยตื้นได้รีบเดินทางมาช่วยวาฬบรูด้าที่เกยตื้น การที่วาฬบรูด้าตัวนี้เกยตื้นน่าจะเกิดจากการตามเข้ามากินลูกปลาขนาดเล็ก ซึ่งเป็นอาหารที่วาฬบรูด้าชอบทำให้เกยตื้นจนไม่สามารถกลับสู่ทะเลลึกได้ จากคลิปพบว่า น้ำทะเลรอบตัววาฬบรูด้ามีสีแดงที่เกิดจากเลือดของวาฬที่ออกตามผิวหนังของวาฬบรูด้าที่ดิ้นรนเพื่อเอาตัวเองออกสู่ทะเลที่มีนำลึก ซึ่งการช่วยวาฬบรูด้าตัวดังกล่าวเป็นไปด้วยความลำบากเนื่องจากสภาพน้ำที่วาฬบรูด้ามาเกยตื้นนั้นน้ำทะเลสูงประมาณ 50 เซนติเมตรชาวบ้านจึงต้องรอให้น้ำทะเลขึ้นสูง นายธีระพงค์ ทองมาก ชาวบ้านเกาะพลวยได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง เจ้าหน้าที่ได้นำเรือยางติดเครื่องยนต์จำนวนสองลำเดินทางมายังจุดที่พบวาฬบรูด้า เพื่อเข้าช่วยวาฬบรูด้าแต่วาฬบรูด้าไม่สามารถทนพิษจากบาดแผลที่ถูกหินที่บาดตามลำตัวบางจุดเป็นแผลลึกจากการดิ้นรนทำให้วาฬบรูด้าตัวดังกล่าวตาย ท่ามกลางความเศร้าของชาวบ้านเกาะพลวย จนเวลาประมาณ 15.00 น.น้ำทะเลได้ขึ้นชาวบ้านจึงสามารถดึงวาฬบรูด้าออกจากจุดที่เกยตื้น โดยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองได้นำวาฬบรูด้าที่ตายตัวดังกล่าวไปพิสูจน์หาสาเหตุการตาย และเทียบรูปว่าวาฬตัวดังกล่าวเป็นตัวที่หากินในเขตอุทยานหรือไม่ นายธีระพงค์ ทองมาก ชาวบ้านเกาะพลวยกล่าวว่า ตนเองได้กลับจากวางอวนจับกุ้งระหว่างนั้นได้เห็นน้ำกระจายบริเวณชายทะเลอ่างสอง จึงได้นำเรือเข้าใกล้จุดดังกล่าวจึงเห็นว่าเป็นวาฬบรูด้าขนาดใหญ่ จึงได้ไลฟ์สดเพื่อขอความช่วยเหลือ ซึ่งชาวเกาะพลวยที่รู้ต่างรีบเดินทางมาช่วยแต่ไม่สามารถช่วยได้เพราะน้ำตื้น ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงที่พยายามช่วยแต่ไม่สามารถยื้อชีวิตได้ทำให้วาฬบรูด้าตาย ซึ่งทำให้ตนเองและชาวเกาะพลวยเศร้าและเสียใจอย่างมาก เพราะวาฬบรูด้าเป็นสัตว์ทะเลขนาดใหญ่ที่ชอบหากินบริเวณอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง และเกาะพลวย การตายของวาฬครั้งนี้ตนเองรู้สึกเสียดายอย่างมาก สำหรับวาฬบรูด้ามีจุดเด่นที่ครีบหลังที่มีรูปโค้งอยู่ค่อนไปทางด้านปลายหาง แพนหางวางตัวตาม แนวราบ และมีรอยเว้าเข้าตรงกึ่งกลาง ครีบคู่หน้ามีปลายแหลม ซี่บนแผ่นกรองค่อนข้างหยาบ และเป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ วาฬบรูด้าเป็นสัตว์คุ้มครองเป็นสัตว์ป่าสงวนตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2562 ห้ามมีการค้าขายวาฬบรูด้าระหว่างประเทศ http://www.saveoursea.net/forums/new...uote=1&p=66062
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|