#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม 2567
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามันตอนบน ประเทศไทย และอ่าวไทยตอนบน ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออกมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองในระยะนี้ไว้ด้วย กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนหรือฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 1 ? 2 ส.ค. 67 ร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ในขณะที่มีแนวลมพัดสอบของลมตะวันตกเฉียงใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกและอ่าวไทยตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและภาคตะวันออก ส่วนในช่วงวันที่ 3 ? 7 ส.ค. 67 ร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยเริ่มมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน โดยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ข้อควรระวัง ประชาชนบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม และเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ตลอดช่วง สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ตลอดช่วง
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด
ญี่ปุ่นขอเดนมาร์กส่งตัว ดำเนินคดีแกนนำต่อต้านการล่าวาฬเป็นอาหาร ญี่ปุ่นขอเดนมาร์กส่งตัว ? วันที่ 1 ส.ค. รอยเตอร์รายงานว่า ทางการญี่ปุ่นส่งเรื่องถึงทางการเดนมาร์กให้จับกุมและส่งตัวนายพอล วัตสัน ผู้นำกลุ่มต่อต้านการล่าปลาวาฬ มาดำเนินคดีที่ประเทศญี่ปุ่น หลังถูกจับกุมที่เกาะกรีนแลนด์ตั้งแต่เดือนก.ค. ที่ผ่านมา เรื่องดังกล่าวได้รับการเปิดเผยจากกระทรวงยุติธรรมของเดนมาร์ก ระบุว่า ทางการญี่ปุ่นต้องการตัวนายวัตสันในข้อหาลักลอบขึ้นเรือล่าวาฬของญี่ปุ่นในทะเลแอนตาร์กติก (ขั้วโลกใต้) เมื่อปี 2553 และขัดขวางการทำงานของเรือประมงและทำให้เสียทรัพย์ นายวัตสัน เป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มนักรณรงค์ต่อต้านการล่าวาฬ "ซีเชพเพิร์ด" และมูลนิธิ "กัปตัน พอล วัตสัน ฟาวน์เดชั่น" ถูกตำรวจจับกุมที่ท่าเรือเมืองนุก เกาะกรีนแลนด์ เขตปกครองตัวเองของราชอาณาจักรเดนมาร์ก เมื่อเดือนที่ผ่านมา ด้านนายฟรังซัวส์ ซิเมอเรย์ ทนายความของนายวัตสัน กล่าวว่า ระบบยุติธรรมของญี่ปุ่นนั้นไม่สามารถเชื่อถือ ว่าจะไต่สวนนายวัตสันอย่างยุติธรรมได้ และเรียกร้องให้ทางการเดนมาร์กปฏิเสธคำขอให้ส่งตัวของทางการญี่ปุ่น ทั้งนี้ แม้เกาะกรีนแลนด์จะเป็นเขตปกครองตัวเอง แต่อำนาจการพิจารณาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนนั้นจะขึ้นอยู่กับกระทรวงยุติธรรมของทางการเดนมาร์ก https://www.khaosod.co.th/around-the...s_777777866888
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจ
ขึ้นทะเบียนเพิ่ม 5 อุทยานแห่งชาติ เป็นเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทย ขึ้นทะเบียนเพิ่ม 5 อุทยานแห่งชาติ เป็นเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทย ประจำปี 2567 ส่งเสริมท่องเที่ยวเชิงดาราศาสตร์ ร่วมแก้ปัญหามลภาวะทางแสง วันที่ 1 สิงหาคม 2567 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โดยสำนักอุทยานแห่งชาติ เข้าร่วมในงานรับมอบโล่ และขึ้นทะเบียนเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทย ประจำปี 2567 "Amazing Dark Sky in Thailand 2024" แสดงความยินดีกับอุทยานแห่งชาติ 5 แห่ง ที่ได้ขึ้นทะเบียนเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดประจำปี 2567 จากสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ณ ห้องประชุมจารุวัสตร์ ชั้น 10 อาคารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กรุงเทพมหานคร โดยในปี 2567 สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประกาศรายชื่อเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด หรือ Dark Sky แห่งใหม่อีก 18 แห่ง โดยเป็นพื้นที่อุทยานท้องฟ้ามืด (Dark Sky Park) 5 แห่ง ได้แก่ 1. อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา - น้ำตกผาเสื่อ จังหวัดแม่ฮ่องสอน 2. อุทยานแห่งชาติตาดโตน 3. อุทยานแห่งชาติไทรทอง จังหวัดชัยภูมิ 4. อุทยานแห่งชาติภูผายล จังหวัดสกลนคร 5. อุทยานแห่งภูเวียง จังหวัดขอนแก่น สำหรับอุทยานท้องฟ้ามืดที่เป็นพื้นที่อนุรักษ์ในความรับผิดชอบของ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดแล้วเมื่อปี 2565 และ 2566 จำนวน 10 แห่ง ดังนี้ ปี 2565 จำนวน 5 แห่ง ได้แก่ อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง จังหวัดเชียงใหม่, อุทยานแห่งชาติผาแต้ม จังหวัดอุบลราชธานี, อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิ, อุทยานแห่งชาติภูแลนคา จังหวัดชัยภูมิ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ปี 2566 จำนวน 5 แห่ง ได้แก่ อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จังหวัดกำแพงเพชร, อุทยานแห่งชาติตาพระยา จังหวัดสระแก้ว, อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา, อุทยานแห่งชาติศรีน่าน จังหวัดน่าน และวนอุทยานน้ำตกผาหลวง จังหวัดอุบลราชธานี กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ตระหนักถึงมลภาวะทางแสง (Light Pollution) ที่เป็นอุปสรรคต่อการท่องเที่ยวเรียนรู้เชิงดาราศาสตร์ ทั้งยังส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ จึงส่งเสริมและสนับสนุนให้พื้นที่อนุรักษ์ในความรับผิดชอบ มีการบริหารจัดการแสงสว่างในพื้นที่ให้มีความมืดอยู่ในระดับที่สามารถสังเกตวัตถุบนท้องฟ้า เช่น ดาวเคราะห์ ดาวฤกษ์ กลุ่มดาว หรือทางช้างเผือก ได้ด้วยตาเปล่าหรืออุปกรณ์อื่นๆ และต้องปรับปรุงและพัฒนาภูมิทัศน์และสภาพสิ่งแวดล้อมให้เหมาะกับการสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมอีกทางหนึ่ง จนได้รับการรับรองจากสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ นอกจากนี้ กรมอุทยานฯ ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับการท่องเที่ยวเชิงดาราศาสตร์ ด้วยการจัดฝึกอบรมให้ความรู้และทักษะการจัดกิจกรรมนันทนาการที่เกี่ยวข้องกับดาราศาสตร์ให้แก่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ รวมถึงการพิจารณาจัดสรรงบประมาณเพื่อจัดหาอุปกรณ์ทางดาราศาสตร์สำหรับให้บริการนักท่องเที่ยวหรือผู้ที่สนใจทั่วไปด้วย https://www.bangkokbiznews.com/news/news-update/1138410
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#4
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก SpringNews
ชวนรีแคป "ภัยพิบัติรุนแรง" ที่โลกเผชิญในปี 2024 ผ่านมา 8 เดือนโลกเจออะไรบ้าง เผลอแปปเดียว 8 เดือนแล้ว... SPRiNG ชวนรีแคป "มหาภัยพิบัติ" ทั่วโลก ประเทศใดเจอภัยพิบัติทางธรรมชาติอะไรบ้าง สร้างความเสียหายมากแค่ไหน ย้อนกลับไปช่วงต้นปี ญี่ปุ่นคือชาติแรกที่ได้ลิ้มรสภัยพิบัติ ซึ่งต้องบอกว่าเป็นภัยภิบัติที่รุนแรงมาก นั่นคือแผ่นดินไหวที่จังหวัดอิชิคาวะ ขนาด 7.6 สร้างความเสียหายให้กับอาคารบ้านเรือนหลายร้อยหลัง สื่อต่างประเทศหลายสำนัก เปิดเผยตรงกันว่า ธรธีพิโรธญี่ปุ่นเมื่อช่วงต้นปี 2024 คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปกว่า 78 ราย และสูญหายอีกนับไม่ถ้วน นับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ เวลาผ่านไปแล้ว 8 เดือน สปริงนิวส์ในคอลัมน์ Keep The World ชวนทุกคนรีแคประยะเวลา 8 เดือน โลกเจอภัยพิบัติอะไรบ้าง มีทั้งหมด 4 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งสร้างความเสียหายต่ออาคารบ้านเรือน โครงสร้างพื้นฐาน ตลอดจนสิ่งแวดล้อม และร้ายแรงที่สุดคือพรากเอาชีวิตผู้คนไปด้วย ม.ค. 67: ธรณีพิโรธถล่มญี่ปุ่น เริ่มต้นปี 2024 มาได้เพียงวันเดียว บางคนยังปาร์ตี้ไม่ทันจบด้วยซ้ำไป แต่เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 67 ที่ผ่านมา ญี่ปุ่นเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.6 ที่จังหวัดอิชิคาวะ ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศ แม้ญี่ปุ่นจะเกิดภัยพิบัติอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว แต่จู่ ๆ เกิดแผ่นดินไหวฉุกละหุกเช่นนี้ใครหรือจะตั้งตัวทัน สถานการณ์แผ่นดินไหวญี่ปุ่นนับว่าเลวร้ายมาก อาคารบ้านเรือนเสียหายกว่า 200 หลัง และอีกกว่า 100,000 หลังคาเรือนไม่มีน้ำ-ไฟฟ้าใช้ มิหนำซ้ำยังเจอสึนามิสูงกว่า 1.2 เมตรซัดถล่มเมืองวาจิมะ จ.อิชิคาวะ และที่ร้ายแรงที่สุดคือมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวราว 78 คน สูญหายอีกนับไม่ถ้วน แผ่นดินไหวญี่ปุ่นถือเป็นภัยพิบัติหนแรกของโลกในปี 2024 ซึ่งจู่ ๆ ก็มา ไม่ทันได้รับมือ ก.ค. 67: พายุแกมีถล่ม จีน ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ วาร์ปมาเดือนที่ 7 ของปี "พายุไต้ฝุ่นแกมี" คืออีกหนึ่งภัยพิบัติที่สร้างความเสียหายให้กับ จีน ไต้หวัน และฟิลิปปินส์ อย่างรุนแรง ถล่มอาคารบ้านเรือน และโครงสร้างพื้นฐานพังทลาย ที่สำคัญคือมีผู้เสียชีวิตหลายราย ไต้หวัน - มีรายงานว่าพายุไต้ฝุ่นแกมีได้พัดถล่มพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ ในเขตอี๋หลาน ด้วยกำลังแรงลมสูงสุด 227 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นับเป็นพายุไต้ฝุ่นที่มีกำลังแรงที่สุด ในรอบ 8 ปี รายงานว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน บาดเจ็บอีก 266 คน จีน - พายุไต้ฝุ่นแกมีเคลื่อนตัวพัดถล่มหลายพื้นที่ของมณฑลหูหนาน ทางภาคกลางของประเทศจีน มีปริมาณฝนมากถึง 670 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่ามากที่สุดเท่าที่มนฑลหูหนานเคยบันทึกไว้ เป็นผลให้บ้านเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้ มีผู้เสียชีวิตพุ่ง 15 ราย เจ็บอีก 6 ราย ฟิลิปปินส์ - สื่อเอเอฟพีรายงานว่า พายุไต้ฝุ่นแกมี ได้พัดผ่านฟิลิปปินส์ ส่งผลให้เกิดฝนตกหนัก และน้ำท่วมฉับพลัน หลายมื่นครัวเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้ เที่ยวบินในและระหว่างประเทศอย่างน้อย 80 เที่ยวบินถูกยกเลิก เมืองมะนิลาน้ำท่วมอย่างหนัก เบื้องต้น ผู้เสียชีวิตพุ่ง 12 รายแล้ว ปฏิเสธไม่ได้ว่า "พายุไต้ฝุ่นแกมี" คือหนึ่งในภัยพิบัติครั้งยิ่งใหญ่ของปี 2024 ก.ค. 67 ไฟไหม้รัฐแคลิฟอร์เนีย มาต่อกันที่เพลิงพิโรธแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย เว็บไซต์บีบีซีเปิดเผยว่านี่คือไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นในปีนี้ ไฟป่าครั้งนี้ลุกลามในป่าทางตอนเหนือของเมืองซาคราเมนโต รัฐแคลิฟอร์เนีย กินพื้นที่ป่าไปแล้วกว่า 1,455 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเปรียบเทียบได้กับลอสแอนเจลิสทั้งเมือง ส่งผลให้ประชาชนหลายล้านชีวิตต้องทนอยู่กับคุณภาพอากาศที่ย่ำแย่ ภัยพิบัติในครั้งนี้เกิดขึ้นจากปัญหาสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว ขณะเดียวกัน พื้นที่ป่าถูกฟ้าผ่าบ่อย จึงเกิดไฟป่าขึ้น ประกอบกับรัฐแคลอฟอร์เนียมีลมกระโชกแรง ทำให้ไฟลุกโหมกระหน่ำจนควบคุมไม่ทัน แม้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต แต่ไฟไหม้ครั้งนี้เผาผลาญป่า อาคารบ้านเรือนของประชาชนไปนับไม่ถ้วน เหนือน่านฟ้าของรัฐแคลิฟอร์เนียอลหม่านไปด้วยเขม่าควัน เมื่อกางสถิติของศูนย์ดับเพลิงแห่งชาติดูแล้ว พบว่า ปี 2024 สหรัฐฯ เกิดไฟไหม้แล้ว 26,468 ครั้ง เผาผลาญพื้นที่ป่าไปแล้วกว่า 8.8 ล้านไร่ ก.ค. 67 น้ำท่วมจังหวัดตราด ขอปิดท้ายกันที่ประเทศไทย ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ไทยได้รับผลกระทบจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ที่บริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทย ข้อมูลจากกรมชลประทานระบุว่ามี 12 จังหวัด เกิดฝนตกน้ำท่วมใหญ่ ได้แก่ พิษณุโลก ขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี จันทบุรี ตราด พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี ราชบุรี และประจวบคีรีขันธ์ แต่ที่รุนแรงที่สุดคือฝนตกจังหวัดตราด ข้อมูลจาก ศูนย์อำนวยการน้ำแห่งชาติ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) จ. ตราด มีปริมาณฝนตกหนักสะสมอยู่ที่ 143-200 มิลลิเมตร พื้นที่ที่มีฝนตกหนักสูงสุดคืออำเภอบ่อไร่ 165 มิลลิเมตร ซึ่งมากกว่าในปี 2543 ฝนตกในครั้งนี้ถือว่าหนักสุดในรอบ 25 ปี ขณะที่ กรมทางหลวงแจ้งว่าสถานการณ์น้ำท่วมทำให้ทางหลวง 5 แห่งในจังหวัดตราดไม่สามารถสัญจรได้ น้ำท่วมในครั้งนี้ทำให้บ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วม ประชาชนต้องอาศัยขึ้นไปอยู่ชั้น 2 ของบ้าน ทั้งนี้ มีกว่า 1,727 ครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบ เบื้องต้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มอบถุงยังชีพจำนวน 1,000 ชุดให้กับประชาชนที่ได้รับผลจากอุทกภัย ผนึกความช่วยเหลือจากอบต.สะตอ ร่วมมือกับชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ จัดตั้งโรงครัว และจัดหากล่องอาหารให้กับประชาชนวันละ 3 มื้อ https://www.springnews.co.th/keep-th...-change/851851
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#5
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก GreenXpress
ชาวประมงพื้นบ้าน จ.ระยอง พบสภาพตับปลาฉลามหินผิดปกติ หลังเกิดเหตุน้ำมันรั่วลงทะเล ชาวประมงพื้นบ้าน จ.ระยอง ผ่าพิสูจน์ปลาฉลามหินที่เพิ่งจับได้ พบสภาพตับผิดปกติ ระบุ เจอปลาที่เป็นแบบนี้บ่อยครั้ง หลังเกิดเหตุน้ำมันรั่วลงทะเล อยากให้ผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจสอบหาสาเหตุ ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อบัญชี วรวุฒิ คงณรงค์ ได้โพสต์คลิปวีดีโอไลฟ์ ผ่าพิสูจน์ซากปลาฉลามหิน ความยาวประมาณ 1 เมตร ที่ชาวประมงพื้นบ้าน จ.ระยอง เพิ่งจับขึ้นมาได้ แต่สังเกตเห็นว่า ปลาฉลามตัวนี้ผอมผิดปกติ หัวโต ผิวหนังเหี่ยวย่น จึงได้ร่วมกันผ่าท้องเพื่อดูอวัยวะภายใน หลังการผ่า พบว่าตับของปลาฉลามมีสีคล้ำ ดำผิดปกติ สัมผัสดูเป็นก้อน มีเม็ดเล็กๆ กระจายอยู่ในตับ ส่วนที่ปลายตับด้านหนึ่ง มีสีเขียวคล้ำ ชาวประมงที่มีประสบการณ์ ระบุว่า ตับของปลาสดทั่วไป จะมีสีออกแดง ส่วนปลาตัวนี้ คาดว่าน่าจะป่วย เพราะตับไม่ทำงาน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการจับปลาในทะเลระยองแล้วพบว่าปลามีสภาพผิดปกติ ชาวประมงที่นี่บอกว่า จับปลาสภาพไม่ปกติได้บ่อยครั้ง นับตั้งแต่เกิดเหตุน้ำมันรั่วไหลลงทะเล และเมื่อผ่าท้องออกดู ก็พบสภาพตับของปลาดำคล้ำ ไม่ต่างจากปลาฉลามหินตัวนี้ กลุ่มชาวประมงพื้นบ้านยังบอกว่า ที่ผ่านมา ภาครัฐยังคงยืนยันว่าอาหารทะเลระยองสะอาด ปลอดภัย ไม่ปนเปื้อน จึงไม่มีหน่วยงานใดมาตรวจสอบเรื่องนี้ซ้ำ แต่พวกตนเป็นห่วงผู้บริโภค และกังวลว่าต่อไปจะออกทะเลจับสัตว์น้ำไม่ได้ จึงอยากให้มีผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่ตรวจสอบและเพื่อหาสาเหตุว่ามีความเชื่อมโยงกับเหตุน้ำมันรั่วไหลลงทะเลระยองหรือไม่ https://www.facebook.com/GreenXpress...cH5xzTNB95wRKl
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#6
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก GreenXpress
พบปรากฎการณ์ "RIP Currents" หรือคลื่นย้อนกลับ ที่หาดแม่รำพึง จ.ระยอง และอีกหลายหาด จ.ภูเก็ต เตือนภัย! พบปรากฎการณ์ "RIP Currents" หรือคลื่นย้อนกลับ ที่หาดแม่รำพึง จ.ระยอง และอีกหลายหาด จ.ภูเก็ต เพื่อความปลอดภัย เลี่ยงกิจกรรมทางน้ำในบริเวณดังกล่าว กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง แจ้งพบปรากฎการณ์ "RIP Currents" หรือคลื่นย้อนกลับ บริเวณหาดแม่รำพึง จ.ระยอง , หาดป่าตอง หาดกะรน หาดกะตะ หาดกะตะน้อย และหาดในหาน จ.ภูเก็ต ลักษณะของปรากฎการณ์ คือ บริเวณชายฝั่งที่กระแสน้ำเชี่ยว ไหลจากซ้ายและขวามาบรรจบกัน จากนั้นจะพุ่งออกจากชายฝั่งด้วยความเร็ว เป็นอันตรายต่อนักท่องเที่ยวที่กำลังเล่นน้ำในบริเวณดังกล่าว ทำให้ตกใจ พยายามว่ายน้ำสู้คลื่นจนหมดแรงและจมน้ำในที่สุด เพื่อความปลอดภัย จึงแนะนำให้เลี่ยงกิจกรรมทางน้ำในบริเวณดังกล่าว
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|