เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า สัปดาห์ที่แล้ว
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพุธที่ 4 กันยายน 2567

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมถึงระวังอันตรายจากลมกระโชกแรงที่อาจจะเกิดขึ้นไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณภาคกลาง

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 8 ก.ย. 67 นี้ไว้ด้วย

สำหรับพายุโซนร้อนกำลังแรง "ยางิ" (YAGI) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่น โดยคาดว่าในช่วงวันที่ 6 - 7 ก.ย. 67 จะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำ ประเทศจีน และขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมี ฝนตกหนักบางแห่งในช่วงวันที่ 7 ? 8 ก.ย. 67


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 4 ? 7 ก.ย. 67 ร่องมรสุมกำลังปานกลางเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ ภาคตะวันออก และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้

ส่วนในวันที่ 8 - 9 ก.ย. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคตะวันออก และอ่าวไทย จะเริ่มมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคใต้ฝั่งตะวันตก ในขณะที่ พายุโซนร้อนกำลังแรง "ยางิ" (YAGI) จะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและภาคตะวันออก มีฝนตกหนักมากบางพื้นที่

สำหรับในช่วงวันที่ 4 ? 8 ก.ย. 67 คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2 ? 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1 ? 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร หลังจากนั้นในวันที่ 9 ก.ย. 67 คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง โดยทะเลอันดามันตั้งแต่จังหวัดระนองขึ้นมาและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตั้งแต่จังหวัดพังงาลงไปมีคลื่นสูง 1 ? 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

อนึ่ง พายุโซนร้อนกำลังแรง "ยางิ" (YAGI) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นพายุไต้ฝุ่นตามลำดับ มีแนวโน้มจะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำ ประเทศจีน และขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ในช่วงวันที่ 7 ? 8 ก.ย. 67 ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางในระยะนี้ไว้ด้วย


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทย โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ตลอดช่วง สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ตลอดช่วง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 4 ? 8 ก.ย. 67



******************************************************************************************************



ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุ "ยางิ" ฉบับที่ 2 (161/2567)

เมื่อเวลา 22.00 น. ของวันนี้ (3 ก.ย. 67) พายุโซนร้อนกำลังแรง "ยางิ" บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 18.7 องศาเหนือ ลองจิจูด 118.1 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 95 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกอย่างช้าๆ โดยมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่นต่อไป คาดว่าในช่วงวันที่ 6 - 8 ก.ย. 67 จะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำ ประเทศจีน และขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงวันที่ 7 ? 8 ก.ย. 67

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 3 ? 6 ก.ย. 67 ร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคใต้

ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 8 ก.ย. 67 นี้ไว้ด้วย









__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า สัปดาห์ที่แล้ว
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก มติชน


ปลดประจำการ กองทัพเรือ จมเรือ ต.94 และ ต.95 นำไปจัดวางเป็นอุทยานเรียนรู้ใต้ท้องทะเล



ปลดประจำการ! กองทัพเรือ ประกอบพิธีนำเรือ ต.94 และเรือ ต.95 ไปจัดวางเป็นอุทยานการเรียนรู้ใต้ท้องทะเล

เมื่อวันที่ 3 กันยายน พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ประธานกรรมการอำนวยการโครงการอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ในพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เป็นประธานประกอบพิธีนำเรือ ต.94 และเรือ ต.95 ไปจัดวางเป็นอุทยานการเรียนรู้ใต้ท้องทะเล บริเวณทิศตะวันออกของเกาะจวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พร้อมด้วย คณะกรรมการอำนวยการโครงการอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ในพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ผู้แทนหน่วยงานสนองพระดำริ และเจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการอำนวยการโครงการ กำลังพลกองทัพเรือ หน่วยงานสนองพระดำริ ประชาชน นักเรียนจากโรงเรียนในพื้นที่กว่า 300 คน ร่วมในพิธีดังกล่าว

สำหรับพิธีนำเรือ ต.94 และเรือ ต.95 ไปจัดวางเป็นอุทยานการเรียนรู้ใต้ท้องทะเล ประกอบด้วย พิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทาน และพิธีเปิดโครงการอุทยานการเรียนรู้ใต้ท้องทะเล การจัดแสดงนิทรรศการของหน่วยงานสนองพระดำริ นิทรรศการประวัติเรือ ต.94 และเรือ ต.95 ณ สโมสรสัญญาบัตร กองเรือยุทธการ และพิธีจัดวางเรือ ต.94 และเรือ ต.95 บริเวณเกาะจวง พิธีกล่าวอำลา พิธีวางพวงมาลา การเป่าแตรนอน การให้สัญญาณชักหวูดนำเรือลงใต้ทะเล การเปิดคลุมป้ายโครงการ บริเวณชายหาดเกาะจวง และการปล่อยน้ำเข้าเรือเพื่อนำเรือลงสู่ใต้ทะเล ณ เรือหลวงกระบุรี

โครงการอุทยานการเรียนรู้ใต้ท้องทะเล ภายใต้โครงการอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ในพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา มีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีแด่พระบรมวงศานุวงศ์ และปลุกจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล โดยนำเรือ ต.94 และเรือ ต.95 ไปจัดวางเป็นอุทยานการเรียนรู้ใต้ท้องทะเลให้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเลชายฝั่ง เป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งที่อนุบาลหรือยึดเกาะของตัวอ่อนปะการัง รวมทั้งจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวใต้ทะเลในพื้นที่จังหวัดชลบุรีแห่งใหม่ เป็นการขยายกลุ่มนักท่องเที่ยวที่แออัด อันจะทำให้ปะการัง ได้มีเวลาพักฟื้นและเจริญเติบโตของปะการังต่อไป

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมีเจตนารมณ์ ที่จะอนุรักษ์แนวปะการัง กัลปังหา และสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย และทรงห่วงใยปัญหาความเสื่อมโทรม ของทรัพยากรธรรมชาติใต้ทะเล จึงโปรดให้มีการจัดตั้งมูลนิธิและโครงการ ?อนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย? ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้แนวปะการัง กัลปังหา และสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ได้รับการอนุรักษ์รวมทั้งได้รับการฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเล และสัตว์ทะเลไม่ถูกทำลาย ทั้งยังเป็นการกระตุ้นและปลุกจิตสำนึก ให้ประชาชนได้เห็นถึงคุณค่าของทรัพยากรทางทะเล นำไปสู่ความสมดุลทางธรรมชาติ และการพัฒนาที่ยั่งยืนสืบไป

กองทัพเรือได้ตระหนักถึงความสำคัญและประโยชน์ของการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล จึงได้จัดทำโครงการนำเรือ ต.94 และเรือ ต.95 ไปจัดวางเป็นอุทยานการเรียนรู้ใต้ท้องทะเล ณ บริเวณทิศตะวันออกของเกาะจวง ภายใต้โครงการอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ในพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เพื่อสนองพระดำริที่ทรงมีเจตนารมณ์ที่จะอนุรักษ์แนวปะการัง กัลปังหา และสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย โดยทรงห่วงใยปัญหาเรื่องความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติใต้ทะเล การทำร้ายสัตว์ทะเลด้วยน้ำมือมนุษย์โดยตั้งใจหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เป็นแหล่งฝึกศึกษาให้กับนักเรียนฝึกดำน้ำ เป็นการสร้างแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลแห่งใหม่ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี เป็นการลดผลกระทบจากการท่องเที่ยวดำน้ำในแนวปะการังตามธรรมชาติ และเปิดโอกาสในการพักฟื้นตัวของแหล่งท่องเที่ยวแนวปะการังธรรมชาติให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน ตลอดจนเป็นการช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เป็นแหล่งรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรีต่อไป

เรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง ต.94 และ ต.95 เป็นเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งชุดเรือ ต.91 ซึ่งประกอบด้วยเรือ ต.91, เรือ ต.92, เรือ ต.93, เรือ ต.94, เรือ ต.95, เรือ ต.96, เรือ ต.97, เรือ ต.98 และเรือ ต.99 รวมทั้งสิ้น 9 ลำ สร้างโดยกรมอู่ทหารเรือ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2510 ? 2530 นับเป็นเรือตรวจการณ์สมัยใหม่ชุดแรก ที่กองทัพเรือไทยสร้างเองในประเทศ ตามพระราชดำริ และพระบรมราชวินิจฉัยของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้แก่กองทัพเรือไทยเป็นล้นพ้นพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระราชดำริว่า กองทัพเรือเราควรต่อเรือประเภทนี้ไว้ใช้เองบ้าง

ทั้งนี้ด้วยเรือยนต์รักษาฝั่งมีบทบาทสำคัญ เช่น ในการปราบปราม และป้องกันการลักลอบลำเลียงอาวุธ และกำลังคนของฝ่ายก่อการร้ายเข้ามาในน่านน้ำอาณาเขตของประเทศเราในระหว่างการต่อเรือ ต.91 กองทัพเรือได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระองค์โดยทรงให้สถาบันวิจัยและทดสอบ แบบเรือของต่างประเทศช่วยทดสอบแบบเรือลำนี้ทางเทคนิคต่าง ๆ ให้ และได้พระราชทานคำแนะนำจนถึงทรงร่วมทดลองเรือในทะเลด้วยพระองค์เองกองทัพเรือยังคงสานต่อพระราชปณิธานอย่างต่อเนื่องสืบมา ในการปรับปรุงแบบเรือและสร้างเพิ่มเติม เช่น เรือ ต.92, ต.93, ต.94, ต.95, ต.96, ต.97, ต.98,ต.99, ต.991, ต.994 ซึ่งทำให้กองทัพเรือสามารถสร้างเรือรบเองได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างรั้วทางทะเลให้เข้มแข็งทั้งยังทำให้องค์บุคคลของกองทัพเรือได้มีการพัฒนาความรู้ ความสามารถ และก้าวไปสู่การต่อเรือขนาดใหญ่ต่อไป

สำหรับ เรือ ต.94 ขึ้นระวางประจำการเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2526 และปลดประจำการเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2562 และเรือ ต.95 ขึ้นระวางประจำการเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2525 และปลดประจำการเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2562 โดยเรือทั้ง 2 ลำ สังกัดหมวดเรือที่ 2 กองเรือยามฝั่ง กองเรือยุทธการ


https://www.matichon.co.th/politics/news_4771640

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า สัปดาห์ที่แล้ว
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ThaiPBS


สลด! วาฬหัวทุยแคระลูกตายคาท้อง พบขยะพลาสติกเต็มท้อง

สลด "แม่วาฬหัวทุยแคระ" ท้องแก่ใกล้คลอด ผ่าพบลูกตัวผู้ความยาว 50 ซม.แต่พบถุงพลาสติก เชือกเต็มหลอดอาหาร-กระเพาะ



วันนี้ (3 ก.ย.2567) ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามันตอนบน ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชายหาดบางเทา จ.ภูเก็ต พบซากวาฬหัวทุยแคระ? ขนาดความยาว 2.24 เมตร ตัวเมียโตเต็มวัย แต่สภาพซากเริ่มเน่า ความสมบูรณ์ของร่างกายผอม

ลักษณะภายนอกพบบาดแผลถลอกจากการเกยตื้น นอกจากนี้บริเวณส่วนหัวและข้างลำตัว ทางเดินหายใจพบฟองอากาศ มีของเหลวคั่งในหลอดลมและเนื้อเยื่อปอด บ่งบอกว่าสัตว์มีอาการสำลักน้ำก่อนตาย

จากการผ่าชันสูตรวาฬหัวทุยแคระ ทางเดินอาหารพบขยะทะเล ประเภทถุงพลาสติก และเชือกในหลอดอาหาร และกระเพาะอาหารส่วนต้น บริเวณกระเพาะอาหารพบแผลหลุมจำนวนมาก ส่วนของลำไส้เล็กและใหญ่พบการอักเสบ ระบบสืบพันธ์ุพบลูกวาฬ ขนาดความยาว 50 ซม.ตัวผู้ สภาพสมบูรณ์อยู่ในระยะช่วงท้ายของการตั้งท้อง

สรุปสาเหตุการตาย คาดว่าแม่วาฬมีสภาพอ่อนแอ และกินขยะทะเลทำให้ไม่สามารถกินอาหารได้ตามปกติ จนมีอาการป่วยและมีการจมน้ำตายในที่สุด ทั้งนี้เจ้าหน้าที่เก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อ เพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการต่อไป


ล้อมคอกดูแล 3 พะยูนหากินสะพานราไวย์

ด้านนายวิษณุ แจ้งใจ ผอ.สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 10 (สทช.10) มอบหมายให้ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล จ.ภูเก็ต ลงพื้นที่ติดตามพะยูน 3 ตัวที่หากินบริเวณท่าเทียบเรือสะพานราไวย์ จ.ภูเก็ต โดยงดใช้เครื่องมืออวนขนาดใหญ่ หรือหลีกเลี่ยงบริเวณแหล่งหญ้าทะเลหรือพื้นที่การแพร่กระจายของพะยูน

ส่วนการเดินเรือ ควรใช้ความเร็วไม่เกิน 3 น๊อต กรณีหากพบเห็นพะยูนบาดเจ็บหรือตาย สามารถแจ้งข่าวสารให้กับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง หรือโทรแจ้งสายด่วน หมายเลข 1362 เพื่อจะได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าช่วยเหลือและนำส่งศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ทะเลหายาก พร้อมนี้ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้าดูแล ประชาสัมพันธ์ และเฝ้าระวังทุกวัน


https://www.thaipbs.or.th/news/content/343783

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 00:23


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger