![]() |
|
![]() |
|
Share | คำสั่งเพิ่มเติม | เรียบเรียงคำตอบ |
#91
|
||||
|
||||
![]() ![]() เราจะขึ้นยอดภูเรือ ซึ่งอยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเพียง 5 กิโลเมตรเองค่ะ...รถเริ่มไต่ไปตามถนนสองเลนลาดยางแคบๆ แต่จะมีเวิ้งให้รถหลบเข้าข้างทาง เพื่อจะให้รถสวนกันได้อยู่เป็นระยะๆ ยิ่งรถขึ้นไปสูงมากเท่าไร เราก็ยิ่งเห็นต้นสนสองใบและสามใบมากขึ้นเท่านั้น และอากาศเริ่มเย็นขึ้นๆ จนเราตัดสินใจปิดแอร์รถและเปิดหน้าต่างแทน เพื่อรับอากาศบริสุทธิ์จากภายนอก.... ![]() เกือบถึงยอดภูเรือ...ก็เจอที่ราบมีป่าสนเป็นดงทึบ สลับกับร้านขายของและลานจอดรถ เราไปต่อไม่ได้ เพราะถูกต้อนให้เข้าไปจอดรถที่ลานใต้ต้นสน พอออกจากรถได้ เราก็ได้สัมผัสกับความหนาวเย็น เครื่องวัดอุณหภูมิในรถบอกว่าขณะนั้นอุณหภูมิ 12 องศาเซลเซียส เล่นเอาต้องหาถุงน่องรองเท้า เสื้อกันหนาว และผ้าพันคอออกมาใช้ เพื่อป้องกันความหนาวเย็นจากลมหนาว ที่พัดวีดหวิวมาต้องกาย ![]() จากนั้น...เราก็ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานฯต้อนอีกครั้ง ให้ไปขึ้นรถกระบะสองแถวที่ทางอุทยานฯ จัดหามาให้ เพื่อนั่งขึ้นไปยอดภูเรือ ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้รถราขึ้นไปวิ่งกันขวั่กไขว่บนยอดภู อันจะทำให้สภาพแวดล้อม ที่สวยงามและบริสุทธิ์ของยอดภูเรือต้องเสียไป ![]()
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 21-06-2012 เมื่อ 00:43 |
#92
|
||||
|
||||
![]() โชคดีที่สายชลได้นั่งด้านหน้าของรถสองแถว ทำให้มีโอกาสได้คุยกับคนขับ จึงทราบว่ารถสองแถวเหล่านี้ ทางอุทยานฯได้อนุญาตให้เจ้าหน้า ร่วมกันจัดหารถขึ้นมาให้บริการนักท่องเที่ยว และให้ลูกเมียญาติพี่น้องของเจ้าหน้าที่ ขึ้นมาขายสินค้าและอาหารบนนี้ได้ เพื่อนำรายได้จาการให้บริการและการจำหน่ายสินค้าและอาหาร มาเป็นสวัสดิการของเจ้าหน้าที่.. ![]() พอสองสายและนักท่องเที่ยวอื่นๆ นั่งจนเต็มรถสองแถวแล้ว คนขับรถซึ่งเป็นญาติพี่น้องของเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ก็ออกรถไปตามทางดินแคบๆ ที่สองข้างทางเป็นป่าสน เพื่อมุ่งหน้าสู่ยอดภูเรือ... ![]() รถสองแถววิ่งโคลงเคลงไปตามทาง ที่ลาดชันเล็กน้อยขึ้นสู่ยอดภู สองข้างทางมีต้นสนสองใบสามใบสูงตะหง่านขึ้นอยู่เต็ม รถวิ่งมาได้สักครึ่งกิโลเมตร รถก็จอด เพื่อให้เราเดินขึ้นสู่ยอดสูงสุดของภูเรือ... เราจ่ายค่ารถไปคนละ 20 บาท คนขับรถบอกว่า เรามีเวลาที่ยอดภูเรือ 40 นาที เมื่อถึงเวลา รถสองแถวจะมารับเรากลับลงไปที่ที่เราจอดรถไว้ ![]() เมื่อลงจากรถมาได้ ลมหนาวก็พัดกระหน่ำมาประทะหน้าตาเนื้อตัวของเรา จนเย็นยะเยือกจับใจ เราเดินฝ่าลมหนาวไปตามทางเดิน ที่จะนำเราไปสู่หน้าผารูปหัวเรือ อันเป็นที่มาของชื่อ "ภูเรือ" ระยะทางอีกราว 200 เมตร จากจุดที่รถสองแถวจอดให้เราลง ![]()
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 21-06-2012 เมื่อ 00:50 |
#93
|
||||
|
||||
![]() เกือบสุดทางเดิน มีศาลาอันเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูป ที่มีลักษณะงดงาม ![]() เราเข้าไปกราบไหว้พระเพื่อเป็นสิริมงคล ![]() สาธุ...สาธุ...สาธุ... ![]()
__________________
Saaychol |
#94
|
||||
|
||||
![]() กราบพระเรียบร้อยแล้ว เราเดินขึ้นไปจนถึงป้ายชื่อ "ยอดภูเรือ" ![]() มาถึงทั้งที มีหรือที่จะไม่ขอถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก.... ![]() ภูเรือ..ได้ชื่อว่า เป็นจุดที่หนาวสุดในเมืองไทย แม้จะมีความสูงเพียง 1365 เมตร จากระดับน้ำทะเล มีพื้นที่ตั้งอยู่ในเขตอำเภอภูเรือ และอำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 16 ของประเทศ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2522 มีพื้นที่ประมาณ 120.84 ตร.กม. หรือ 75,525 ไร่ ![]() บริเวณยอดภูเรือ เป็นที่ราบกว้างใหญ่ เราจะพบป่าสนเขา สลับกับสวนหินธรรมชาติที่งดงาม นอกจกนี้ยังพบพันธุ์ไม้นานาพันธุ์ ได้แก่ กุหลาบแดง กุหลาบขาว ดาวเรืองภูเฟิร์น กล้วยไม้ป่า เป็นต้น ซึ่งจะสลับกันออกดอกให้ชมกันตลอดทั้งปี ![]()
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 21-06-2012 เมื่อ 00:52 |
#95
|
||||
|
||||
![]() บนยอดภุเรือ มีจุดชมวิวทัศนียภาพได้โดยรอบ จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผาโหล่นน้อย น้ำตกห้วยไผ่ สวนหินธรรมชาติ ฯลฯ ซึ่งแต่ละแห่งทางอุทยานได้จ้ดทำเส้นทางเดินเท้าเพื่อชมได้อย่างสะดวกสบาย ![]() ![]() ![]() ![]()
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 21-06-2012 เมื่อ 00:54 |
#96
|
||||
|
||||
![]() หินพระศิวะ ซึ่งเป็นหินซ้อนกันอยู่ตามธรรมชาติ ![]() เมฆฝนที่เห็นมืดครึ้มอยู่ทางด้านเหนือ ซึ่งสามารถมองเห็นทิวเขายาวเหยียดต่อเนื่องกัน ไปจนจดเขตประเทศลาว ![]() ลมบนยอดภูเรือแรงงมากค่ะ ![]()
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 21-06-2012 เมื่อ 00:56 |
#97
|
||||
|
||||
![]() พันธุ์ไม้ที่อยู่บนลานยอดภูเรือ สวยงามน่าชม... ![]() ![]() ![]() ![]()
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 21-06-2012 เมื่อ 00:57 |
#98
|
||||
|
||||
![]() ดอกไม้งาม...ทำให้ชื่นใจยิ่งนัก ![]() ![]()
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 21-06-2012 เมื่อ 00:57 |
#99
|
||||
|
||||
![]()
ภูหลวง
![]() หลังลงจากภูเรือ...เราไปแวะชม ภูหลวง กันสักหน่อยดีกว่า อยากจะเห็นธรรมชาติของที่นี่ว่าเป็นอย่างไร ถ้าชอบใจ วันหน้าจะได้หาเวลามาชื่นชมธรรมชาติ สูดอากาศบริสุทธิ์สักสองสามคืน เมื่อออกมาถึงทางหลวงสายสาย 203 เราเลี้ยวซ้ายย้อนกลับไปทางเข้าเมืองเลย ไม่นานนัก ก็เห็นทางเข้าภูหลวงทางด้านขวามือ เลี้ยวเข้าไปเลยค่ะ ทางเข้าภูหลวงนึกว่าจะใกล้ๆเหมือนเข้าภูเรือ ที่ไหนได้ต้องวิ่งจากปากทางไปตามถนนคดๆเคี้ยวๆ อีกตั้ง 18 กิโลเมตร กว่าจะถึงที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ![]() เราเข้าไปขอแผนที่และรายละเอียดเกี่ยวกับภูหลวงที่ศูนย์ศึกษาธรรมชาติภูหลวง แล้วก็ได้หนังสือสวยๆ เนื้อหาดีๆชื่อ "พรรณไม้งาม ป่าภูหลวง" เขียนโดยคุณ นิพนธ์ ศรนคร อดีตหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ที่ทำงานอยู่ในพื้นที่นี้ถึง 19 ปี นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2519 ![]() จากนั้น...เราก็เริ่มขับรถลุยขึ้นภูหลวง เป้าหมายคือ หน่วยพิทักษ์ป่าโคกนกกระบา หรือที่เรียกว่า หลังภูหลวง ซึ่งเป็นยอดสูงที่สุดบนภูหลวง ระยะทางห่างจากที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ราว 10 กิโลเมตร ![]()
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 04-07-2012 เมื่อ 17:43 |
#100
|
||||
|
||||
![]() ทางที่ขึ้นสู่ยอดภูหลวง เป็นถนนลาดยางเล็กๆ รถพอสวนกันได้ แต่อยู่ในสภาพที่ดี และเส้นทางที่สวย ด้วยผ่านไปในป่าลักษณะต่างๆ ตามลักษณะของพื้นที่และความสูงที่เริ่มจาก 400 เมตร ไปจนถึง 1,400 กว่าเมตร จากระดับน้ำทะเล จึงมีทั้ง ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ป่าไผ่ ป่าเบญจพรรณผสมป่าไผ่ และป่าดิบเขา ให้เห็นได้เป็นระยะๆ.. ![]() ถนนขึ้นภูหลวงร่มรื่นด้วยแมกไม้ ที่แผ่กิ่งก้านสาขาออกมาจากสองข้างทาง จนเหมือนอุโมงค์ต้นไม้ ทำให้อดใจไม่ได้ ต้องจอดรถเพื่อแวะจอดถ่ายภาพ... ![]() เอ๊ะ...อะไรกองอยู่บนถนน เมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ โอ๊ะโอ....มูลช้างกองใหญ่นี่เอง ![]() ไม่ใช่มูลช้างกองเดียว แต่เรี่ยราดทั่วไป ทั้งบนถนนและข้างถนน... เห็นอย่างนี้แล้ว เราก็ใจแป่ว ไม่กล้าจอดรถเพื่อลงไปถ่ายภาพกันอีก แต่รีบเร่งเร็วรี่ บึ่งรถขึ้นยอดภูหลวง ก่อนที่น้องช้างจะแวะมาทักทาย โดยมิได้นัดหมาย... ![]()
__________________
Saaychol |
![]() |
|
|