รายงานผลโครงการเก็บขยะ / ตัดอวน ที่ เกาะเต่า-ชุมพร เดือนสิงหาคม 2553

[สายชล]

น้ำที่่ใสแจ๋วและไร้ตะกอน ทำให้เรามองได้ไกลกว่า 30 เมตร ทำให้เราว่ายน้ำสำรวจไปได้ถึงขอบทุ่งปะการังที่กว้างใหญ่รอบๆกองหินตุงกูได้อย่างสบายๆ

[สายชล]

กองตุงกูเป็นกองหินใหญ่ที่มียอดหินสองยอดอยู่ห่างกันเพียงเล็กน้อย หินก้อนใหญ่เป็นรูปทรงฝาชีเหมือนภูเขาไฟ ที่ยอดอยู่ต่ำจากผิวน้ำเพียง 8 เมตรเท่านั้นเอง ส่วนหินก้อนเล็กอยู่ลึกลงไปจากผิวน้ำราว 18 เมตร

[สายชล]

เมื่อเราว่ายน้ำกลับเข้ามาใกล้กองหิน....เราเห็นมีเศษซากอวนผืนใหญ่นอนกองอยู่ระหว่างซอกหิน


เห็นอย่างนี้แล้วงานก็เข้าทันที...


เราเริ่มเลาะเศษอวนที่พันติดอยู่กับกองหินและปะการัง

[สายชล]

พวกเรามะรุมมะตุ้มตัดอวน แล้วผูกถุงก๊อบแก๊บกับเศษอวนผืนนั้น แล้วค่อยๆใส่ลมเข้าไปในถุงพอให้เศษอวนยกตัวขึ้น

เมื่อปลดอวนออกจากสิ่งยึดติดได้แล้ว....อวนก็ลอยขึ้นสู่ผิวน้ำ

[สายชล]

ยังมีเศษอวนอีกมากมายให้เก็บตามรายทาง....

[สายชล]

หอยเม่นเยอะเหลือเกินค่ะ จะตัดอวนก็ต้องระวังตัวไว้


Pointer ช่วยเราได้ใช้ก็ตอนนี้เอง...

[สายชล]

มีลอบอันใหญ่ที่ถูกตัดเรียบร้อยแล้ว วางอยู่บนกอปะการังดำ ที่ความลึกกว่า 25 เมตร...


สองสายกับกลุ่มน้องติ่ง snr มาพบลอบใบนี้เมื่อเหลือเวลาดำน้ำอีกเพียง 3-4 นาที จึงต้องปล่อยให้น้องๆกลุ่มอื่นจัดการย้ายลอบออกไปให้พ้นดงปะการังดำ

[สายชล]

ซากเรือที่คงแล่นมาชนกองหินจนแตก ยังเหลือซากไว้ให้เราเห็น...


มีเรื่องเล่าว่า เมื่อสมัยโบราณนานเน มีเรือที่มีสมอทองคำมาจมเพราะชนกองหินตุงกู จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีใครเจอสมอทองคำนั้น....

[สายชล]

แต่เราคิดว่า....เราเจอสิ่งที่สูงค่ากว่าสมอทองคำที่หินตุงกูแล้ว


ความสุขใจที่ได้สัมผัสกับความงามของหินตุงกูนี่อย่างไรคะ....ที่มีค่าสูงกว่าสมอทองคำตั้งมากมา


เราจึงต้องช่วยกันดูแลรักษาความงามใต้ทะเลแห่งนี้ไว้ มิให้สูญสิ้นไป....เพื่อให้ลูกหลานของเราได้มาสัมผัสด้วยตาและมีความสุขใจ ณ.ที่แห่งนี้ต่อไปตราบนานแสนนาน

[สายชล]

เราเริ่มไต่ระดับสูงขึ้น เพื่อเตรียมตัวขึ้นสู่ผิวน้ำ...