เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > เรื่องเล่าชาวทะเล

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #11  
เก่า 11-07-2011
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default



หลังจากเข้าที่พักอาบน้ำอาบท่าแล้ว เหล่าสมาชิกทั้งเด็กและผู้ใหญ่ก็เดินเล่นแถวสวนของรีสอร์ต

ที่นี่...เขามีต้นไม้แปลกๆให้ดูมากมาย อย่างเช่น "ต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง" ที่ต้นและต๊อบไม่เคยเห็นเป็นต้น






ด้านหลังของรีสอร์ตมีแปลงนาสาธิต ใช้ปลูกข้าว...ไม้ผล...ไม้ดอก นานาชนิด และบ่อปลา เพื่อให้ผู้เข้ามาเยือนได้เห็นถึงวิถีชีวิตแบบ "เศรษฐกิจพอเพียง" ตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ





หลังอาหารค่ำที่แสนอร่อย...ลุงนาราก็พาน้องบิง..ต้น...และต๊อบ ไปไล่จับปูลมกัน พอจับได้ก็ชื่นชมปูอยู่สักพัก แล้วก็ปล่อยปูให้เป็นอิสระ

ทุกคนสนุกสนานแต่ก็เหนื่อยกันมาก...คืนนั้นพอหัวถึงหมอนก็หลับสนิทไปถึงเช้า
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #12  
เก่า 11-07-2011
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default



เช้าวันใหม่.... คนแก่และเด็กทั้ง 12 คน มีโปรแกรมไปล่องแพที่ พะโต๊ะ ซึ่งอยู่ในเขตชุมพร ไม่ห่างจากหลังสวนนัก

หลังอาหารเช้าทุกคนนั่งรถตู้จากรีสอร์ตล่องใต้ไปยังพะโต๊ะ ระหว่างทางรถแวะจอดให้ซื้อผลไม้ที่สวี ซึ่งตอนนี้มีเพียงสละ..ระกำ...สับปะรด และส้มโอ

จากนั้นรถก็วิ่งเลี้ยวขวาข้าถนนสองช่องทาง ที่มีสภาพดีพอควร สองข้างทางเป็นเขาสูงๆต่ำๆ "น้าเอ๋" ซึ่งเป็นไกด์ของรีสอร์ตบอกเราว่าที่นี่ได้ชื่อว่า "แม่ฮ่องสอนห่งภาคใต้" เพราะตอนเช้าๆจะมีหมอกลงหนา ดูสวยงามเหมือนเมืองในหมอก

ที่พะโต๊ะ..เราต้องแวะเปลี่ยนจากรถตู้เป็นรถกะบะ ตามนโยบายกระจายรายได้สู่ชนบท รถกะบะเก่าคร่ำคร่าและด้านหลังไม่มีหลังคา วิ่งปุเลงๆไปตามถนนดินลูกรัง เพียง 15 นาที ก็ถึงริมแม่น้ำหลังสวน

ทุกคนเห็นแพไม้ไผ่ที่ต้องขึ้นไปนั่งแล้วก็เสียวๆ โดยเฉพาะ "ป้าจ้อย" เริ่มมีอาการตัวแข็งขึ้นมาทันที แต่ก็เป็นคนแรกที่เดินลงแพไป

แพลำแรกลอยปริ่มน้ำ เพราะป้าแต่ละคนมีขนาด "นางงามช้าง" เรียกพี่กันทั้งนั้น






แพลำที่สอง ซึ่งคนที่จะนั่งก็ขนาดไม่ธรรมดา...พอขึ้นแพก็ทำท่าจะจม ผู้คุมท่าเรือเลยต้องเปลี่ยนแพที่ใหญ่ขึ้นให้

ค่อยยังชั่วหน่อย...ที่ไม่ต้องนั่งแพที่จมไปจนมองไม่เห็นบั้นท้ายของผู้นั่ง






แดดเปรี้ยง แต่ลมพัดเย็นสบาย และสองข้างทางเขียวขจีไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ ทำให้รู้สึกไม่ร้อนมากและทุกอย่างดูสดชื่นไปหมด

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 11-07-2011 เมื่อ 12:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #13  
เก่า 11-07-2011
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default



เรือแล่นไปราว 45 นาที ก็จอดให้เราขึ้นฝั่งไปทานอาหารเที่ยงกัน

ตลิ่งที่สูงชันขึ้นไปนั้นร่มครึ้มด้วยไม้ใหญ่ แต่เมื่อก้าวพ้นขึ้นไปกลับเห็นเป็นสวนผลไม้ ที่ปลูกไม้ผลชนิดต่างๆไว้อย่างเป็นระเบียบ

ที่กลางสวน..มีศาลาเปิดโล่ง และมีโต๊ะอาหารตั้งอยู่ราว 8 โต๊ะ เราได้รับแจกเครื่องดื่มสีเหมือนน้ำมะนาว แต่เมื่อลองดื่มดู รสชาติกลับเหมือนน้ำมะขาม เมื่อถามว่าน้ำอะไรก็ได้ความว่า "น้ำส้มแขก" ที่ใช้ลดความอ้วนได้ดี

เอ...ประชดกันหรือเปล่านี่

จากนั้นก็ถูกต้อนไปนั่งโต๊ะอาหารที่ยังว่างอยู่....ไม่ต้องรอนาน อาหารก็ถูกนำมาวาง






อาหารบนโต๊ะหน้าตาแปลกๆ....

ข้าวสวย....ถูกห่อเหมือนข้าวต้มมัดด้วยใบ "คลุ้ม" ซึ่งมีลักษณะคล้ายใบต้นปักษาสวรรค์ แล้วนำไปนึ่งในกระบอกไม้ไผ่ท่อนยาว ที่วางตั้งอิงไฟกองใหญ่ เมื่อแกะออกมาจะร้อน....หอมชื่นใจและอร่อยสุดๆ

ไข่เจียว....ทอดบนใบตอง โดยไม่ต้องใช้น้ำมันพืชหรือน้ำมันหมู แต่ใช้น้ำมันจากใบตองแทน (คนที่คิดวิธีทำไข่เจียวใบตอง เล่าว่า เป็นเพราะลืมเอาน้ำมันมา เลยลองใช้ใบตองวางบนกระทะแล้วเทไข่ลงไป ก็เห็นว่าเป็นไข่เจียวใช้ได้ และอร่อยด้วย)

แกงเหลืองหยวกกล้วย...ใช้หยวกกล้วยเล็กๆมาแทนหน่อไม้ รสชาติเผ็ดเด็ดขาด แต่อร่อยถึงใจ

ผัดผักกูดราดกะทิ....หอมมันและอร่อยแถมยังเคี้ยวกรุบๆ สนุกปากอีกด้วย

น้ำพริกกะปิ.....ใช้กะปิเมืองชุมพรที่หอมอร่อย ทานพร้อมปลาทูเมืองชุมพร แกล้มด้วยผักนานาพันธุ์

ใบเหลียงผัดไข่....หวานมัน..หอมชื่นใจ จนเด็กๆร้องขอเพิ่มอีก

ทุกคนทานข้าวห่อใบคลุ้มอย่างน้อยคนละ 2 ห่อ และขอเพิ่มอาหารที่มีให้เติมไม่อั้น จนอิ่มแปล้ ตบท้ายด้วยสละรสหวานอมเปรี้ยวนิดๆ และสับปะรดหวานฉ่ำที่ซึ้อมาเองจากสวี

เอิ้กกกก...อิ่มจนจะเดินไม่ไหว






อิ่มได้ที่ดีแล้ว เราก็ถูกเกณฑ์ไปลงเรือ

ขณะเดินตัดสวนผลไม้นานาพันธุ์ไปที่ท่าเรือริมน้ำ....ก็ให้นึกไปว่าน่าจะมีลูกห้อยระย้ามาให้เด็ดหม่ำได้ตามใจชอบ แต่นี่มีแต่ดอกกับใบ ซึ่งกว่าจะออกลูกออกผลได้ก็ราวเดือนกรกฏาคม-สิงหาคม โน่น....

เห็นที่ช่วงนั้น...ต้นกับต๊อบต้องขอมาใหม่อีกสักรอบ

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 11-07-2011 เมื่อ 12:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #14  
เก่า 11-07-2011
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default



ขบวนเด็กและผู้สูงวัยที่มาปล่อยแก่กัน พากันลงแพที่บัดนี้ลำที่มีป้าหมูนั่งอยู่เริ่มปริแตก จำต้องถ่ายโอนคนมาลงอีกแพหนึ่งที่ใหญ่กว่า

ความอิ่มทำให้ทุกคนนั่งพุงอืดดดดด.....อยากจะเอนหลังนอน แต่น้ำอาจจะท่วมหน้าแทนที่จะท่วมก้น ก็เลยทนนั่งเอนๆแก้ขัดไปพลางๆ






พอถึงที่ร่มลมโกรกใต้เงาไม้ใหญ่ริมแม่น้ำ คนถ่อแพก็แวะจอดเรือเข้าริมตลิ่งให้คนแก่และเด็กได้ลงฉิ๊งฉ่อง และเล่นน้ำที่ตื้นแค่อกของเด็กๆกันอย่างสนุกสนาน





ที่เด็กๆชอบกันมาก เห็นจะเป็นการให้ป้าๆจูงมือและต่อกันเป็นขบวนยาว ลากขึ้นไปเหนือน้ำ แล้วก็ปล่อยให้ไหลตามน้ำลงมา

เสียงหัวเราะด้วยความสุขสนุกสนานดังลั่นทั่วคุ้งน้ำ....






ป้าจูงมือหลานขึ้นเหนือน้ำจนเหนื่อย แถมสะดุดหินล้มไปนอนแช่น้ำเกือบทั้งตัว ป้าเลยเปลี่ยนแผนชวนหลานๆว่ายล่องไปตามกระแสน้ำ แล้วให้แพไม้ไผ่ไหลตามมาเรื่อยๆ

พอตรงไหนมีโตรกหิน น้ำตื้นและแรงก็ปีนกลับขึ้นเรือ พอน้ำเรียบ..ก็กระโดดลงไปแช่น้ำใหม่....

อืมมม....การ "ปล่อยแก่" เพื่อเอาใจเด็กๆนี่ ก็ทำให้มีความสุขดีเหมือนกันนะคะ

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 11-07-2011 เมื่อ 12:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #15  
เก่า 11-07-2011
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default



กว่าเรือจะเข้าเทียบท่าเวลาก็ผ่านไปกว่าชั่วโมง...

เป็นชั่วโมงทองที่ทุกคนล้วนบอกว่า "สนุกและมีความสุขมากกกก...."

แม้แต่ "ป้าจ้อย" ที่กลัวน้ำแทบแย่ นั่งตัวแข็งมาตลอดช่วงแรก พอช่วงหลังก็เริ่มหายกลัว และกระโดดลงมาเล่นน้ำกับเพื่อนฝูงและหลานๆอย่างสบายใจหายกลัว....






ฝนตกหนักตอนเดินทางกลับไปชุมพร แต่พอถึงคาบาน่าฝนก็หยุดตก

ทุกคนรีบขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วรีบลงมาพบกันที่ห้องโถง เพื่อเตรียมตัวไปศาลกรมหลวงชุมพรฯ ที่หาดทรายรี

ที่ต้องรีบเพราะตอนนั้นสี่โมงเย็นแล้ว และคนขับรถตู้ให้เราไปล่องแพที่พะโต๊ะบอกว่า ศาลจะปิดตอนหกโมงเย็น...






ระหว่างทาง...ฝนเริ่มโปรยปรายลงมาและหนักขึ้นๆทุกทีๆ จนกลายเป็นพายุอ่อนๆ ที่มีเมฆดำมืดห้อยย้อยลงมา จนเกือบเอื้อมมือแตะถึง ที่น่าสยองก็คือ เมฆบางส่วนย้อยลงมาเป็นกรวยคล้ายกับลมทอร์นาโด...

แต่ด้วยศรัทธาแก่กล้าของป้าๆทั้งหลาย ซึ่งต่างพูดยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า " อย่างไรก็จะไปถวายสักการะพระรูปกรมหลวงชุมพรฯ...." ต่างคนก็ต่างไม่หนี วิ่งถือร่มฝ่าฝนเข้าไปถวายสักการะในศาลฯ สมดังเจตนารมณ์ที่อัดแน่นด้วยศรัทธาอันแก่กล้า...

เท่านั้นยังไม่พอ ป้าๆกับลุงยังฝ่าฝนและลมแรงขนาดตัวปลิว เข้าไปเดินชมในพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ด้านหลังศาลอย่างสบายใจอีก ทั้งนี้ก็เพราะศาลนั้นกว่าจะปิดทำการตั้งสองทุ่ม ไม่ใช่หกโมงเย็นสักหน่อย....!!!!!

สารรูปของแต่ละคนนั้นดูไม่จืดเพราะเปียกมะล่อกมะแล่ก และหัวหูกระเจิงเพราะถูกลมแรงที่โหมกระหน่ำ

กว่าจะไปถึงร้านอาหาร "ลุย" ทุกคนก็เปียกแฉะตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่ด้วยความหิวและความสดอร่อยๆของอาหารทะเล ทำให้แต่ละคนลืมตัวกลัวหวัด นั่งรับประทานอาหารที่สั่งมาจนล้นโต๊ะ (แต่เฉลี่ยค่าอาหารแล้วเสียคนละร้อยกว่าบาท)หมดเกลี้ยงทุกจาน






ไม่ต้องสงสัยเลยค่ะ.....ป้าๆทั้งหลายกับลุงจ๋อมนั้นพอกลับถึงคาบาน่าก็หมดเรี่ยวหมดแรง อาบน้ำเสร็จก็ขึ้นเตียงหลับผล่อยไป

แต่ต้น..ต๊อบ..บิง ยังไม่หมดแรง ฉุดลุงนาราไปส่องหาปูลมต่อจนดึก

รุ่งเช้า...เด็กๆบังคับป้าหมูให้ไปลงทะเลด้วยตั้งแต่หกโมงเช้า กว่าจะขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวได้ ป้าหมูต้องบังคับด้วยเสียงเข้ม...

ลุงนาราซึ่งมีสภาพเหมือนซอมบี้ หน้าตาร่วงโรย ขอบตาเขียวคล้ำ แล้วก็เดินระโหยโรยแรงมาบอกเพื่อนๆว่า เดี๋ยวจะขอแยกตัว..ไม่ตามไปเที่ยวที่ประจวบฯด้วยแล้ว (และก็คงจะนึกต่อในใจว่า กลัวถูกบังคับให้ไปจับปูลมที่อ่าวมะนาวอีก.....ตายแน่ตู....)

หลังอาหารเช้า....ทุกคนร่ำลา "ป้าโจ้" และ "อาวริสร" เจ้าบ้านของคาบาน่า แล้วก้ขับรถมุ่งหน้าสู่จังหวัดประจวบฯ ทันที

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 11-07-2011 เมื่อ 13:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #16  
เก่า 11-07-2011
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default



ก่อนถึงตัวเมืองประจวบคีรีขันธ์...รถตู้ที่ลุงจ๋อมขับวิ่งเข้าคลองวาฬ เพื่อเยี่ยมชม "ศูนย์วิจัยและพัฒนาสัตว์น้ำชายฝั่ง ประจวบคีรีขันธ์"

ที่นั่น "ป้าจินตนา...ป้ากาญจน์..และอาตั้ม" คอยอยู่แล้ว แผ่นป้ายที่บรรยายถึงที่ไปที่มาของ "หอยมือเสือ" ทำไว้อย่างดี มีภาพหอยมือเสือตั้งแต่แรกเกิด จนโตติดประกอบคำบรรยายด้วย แต่อาตั้มก็ไม่ต้องให้ทุกคนอ่านจนเหนื่อย โดยได้อธิบายเพิ่มเติมแบบเข้าใจได้ง่ายๆ เห็นภาพทะลุปรุโปร่ง






ป้าๆและอาๆที่คลองวาฬ มีเปลือกหอยมือเสือของจริงมาวางโชว์ด้วย เปลือกใหญ่ที่สุดนั้นมีขนาดที่ต๊อบลงไปนั่งได้สบายๆ

อาตั้มเล่าว่า หอยมือเสือพันธุใหญ่ๆอย่างนี้ ในเมืองไทยหาดูไม่ได้แล้ว ต้องไปหาดูแถวต่างประเทศ เปลือกหอยนี้ก็ไปยึดมาจากหัวหิน คนขายถูกจับและปรับเป็นเงินหลายบาท เพราะหอยมือเสือเป็นสัตว์คุ้มครองของไทย ใครมีไว้ในครอบครองไม่ว่ายังเป็นๆอยู่ เปลือก หรือซาก ก็จะถูกจับ...ถูกจำคุก... ถูกปรับ...หรือทั้งจำทั้งปรับ

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #17  
เก่า 11-07-2011
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default



จากนั้นป้าจินก็พาไปดูบ่อเลี้ยงหอยมือเสือ

โอ้โฮ....หอยมือเสือสวยๆนอนยิ้มหวานอยู่เต็มก้นบ่อ ที่มีอยู่หลายสิบบ่อ






หอยมือเสืออันดามันสีฟ้าสวยสดใสเป็นส่วนมาก ในขณะที่หอยฯอ่าวไทยมีสีเขียวๆ น้ำตาลๆ แต่ลวดลายงามอย่างกับผ้าบาติก

หอยที่อยู่กันอย่างแออัดจะตัวเล็กลีบ ในขณะที่หอยที่อายุเท่ากัน แต่ถูกจับแยกให้อยู่ห่างๆกันจะตัวโตกว่ามาก

ป้าจินเล่าว่า หอยมือเสือของที่นี่มีกว่าแสนตัว หากโตและแข็งแรงแล้วก็จะนำไปปล่อยในทะเล หอยมือเสือจะได้แพร่ลูกแพร่หลานเต็มท้องทะเลไทย เหมือนในอดีตที่ผ่านมา






ป้าจินพาไปดู "คุณเฮเลน" ที่กินดาวมงกุฎหนามหมดไปหนึ่งตัวใหญ่ๆแล้วก็นอนหงายตีลังกา ปากชี้ฟ้าอย่างสบายอารมณ์

ที่ศูนย์ฯยังมีการทดลองเลี้ยงหอยชนิดต่างๆเช่นหอยเชลล์ หอยชักตีน หอยทราย หอยเป๋าฮื๊อ ฯลฯ หากการเพาะเลี้ยงได้ผลดี ทางการก็จะส่งเสริมให้ประชาชนได้เพาะเลี้ยงสัตว์เหล่านี้ในเชิงพาณิชย์ต่อไป

ป้าจินปิดท้ายด้วยการพาไปดูปลาฉลามเสือดาวชื่อเจ้า "Sharky" ที่ทางศูนย์นำมาอนุบาลในบ่อใหญ่และลึก เพราะบาดเจ็บจากการติดอวน ต้น...ต๊อบ และป้าๆทั้งหลายที่ไม่เคยเห็นฉลาม ก็ตื่นเต้นที่ได้เห็นฉลามอย่างใกล้ชิด แถม Sharky ยังใจดีพ่นน้ำรดหน้าให้คลายร้อนอีกด้วย

ทุกคนมีความสุขที่ได้มาเยือนศูนย์วิจัยฯแห่งนี้ ทุกคนขอบคุณป้าจินและคณะ ก่อนที่จะลาจากกันเป็นการชั่วคราว จนกว่าจะได้พบกันอีกในโอกาสหน้า

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 11-07-2011 เมื่อ 13:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #18  
เก่า 11-07-2011
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default



การเที่ยวครั้งนี้จบลงอย่างสนุกสนานและเต็มเปี่ยมด้วยความสุข...

ความสัมพันธ์ฉันเพื่อนที่มีมานานกว่า 30 ปี และเริ่มเลือนลางเกือบจางห่างหายไป กลับมาสดใสและสดชื่นรื่นรมย์อีกครั้ง โดยใช้การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และเด็กเล็กๆ ที่พร้อมจะเติบโตเป็นพลเมืองดีของโลกมาเป็นตัวเชื่อมโยง

สายชลหวังอย่างเต็มเปี่ยมว่า เพื่อนๆและลูกๆหลานๆของเพื่อนเหล่านี้ จะช่วยเป็นกระบอกเสียงให้แก่เรา ในการโฆษณาบอกกล่าวต่อๆไปว่า

"เมืองไทยยังน่าอยู่น่าอาศัย และยังมีของดีๆมากมายให้ดูให้เที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งทะเลของบ้านเรา.....เราควรจะรัก....เราควรจะหวงไว้และอย่างน้อยๆควรคงสภาพที่ดีเข่นนี้ไว้ตราบชั่วนิรันดร....."

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 11-07-2011 เมื่อ 13:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #19  
เก่า 11-07-2011
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default


แรงจูงใจที่ทำให้ผมไปดึงเรื่อง "หนูไปชุมพร" มาโพสต์อีกครั้ง เป็นเพราะความคิดถึงเด็กๆทั้ง 2 คน .... ต้นและต๊อบ

ทราบมาจากป้าหมูของเด็กๆว่า เมื่อปีที่ผ่านมา ต๊อบ ติด 1 ใน 50 ของ AF7 แต่ไปไม่ถึงตัวจริง 12 คน ..... และได้มาทราบจากป้าหมูเมื่อ 3 อาทิตย์ที่ผ่านมาว่า ต้น ติด 1 ใน 24 ของ AF8 ...

เป็นเหตุให้ลุงจ๋อมและป้าน้อย ที่เบื่อหน่ายกับความไม่เป็นสับปะรดของการคัดเลือกและรูปแบบของรายการ AF7 เป็นอย่างมาก ต้องกลับมาติดตามดู AF8 อีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้กำลังใจหลาน

ต้น...ดช.ธนษิต จตุรภุช อายุ 13 ปี ครั้งที่ไปชุมพรด้วยกัน กับ ต้น V9 นายธนษิต จตุรภุช วัย 21 ปี ในบ้าน AF8 นั้นต่างกันมาก ..... เด็กชายหัวเกรียน ท่าทางขี้อาย พูดน้อยในวันนั้น กลายเป็น ชายหนุ่มรูปหล่อ เสียงดี เต็มเปี่ยมไปด้วยความสามารถด้านร้องเพลง ในวันนี้

ลุงและป้าขอให้ต้นทำให้ดีที่สุด เรียนรู้ให้ได้มากที่สุด และไปให้ถึงฝันให้ได้ไกลที่สุด ..... จะคอยเป็นกำลังใจให้ครับ







__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 11-07-2011 เมื่อ 13:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #20  
เก่า 11-07-2011
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,160
Default


เห็นความสามารถของน้องต้นในการร้องเพลงแล้ว...อึ้ง...ทึ่ง...มากๆ

ไม่เชียร์น้องต้น....ก็ไม่รู้จะเชียร์ใครแล้วค่ะ....


มีรวม audition AF8 V9 ต้น ธนษิต จตุรภช มาฝากให้ฟังเล่นๆค่ะ...




ประวัติคร่าวๆของน้องต้นค่ะ...

ชื่อ.........ธนษิต จตุรภุช Thanasit Chaturapush
สูง........ 175 หนัก 65
อายุ...... 21 ปี
จบมัธยมจากโรงเรียน..... สามเสนวิทยาลัย English Program
เรียนอยู่.....คณะวารสาร อินเตอร์ ม.ธรรมศาสตร์
เป็นสมาชิกชุมนุม..... TU FOLKSONG

เคยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่อเมริกากับโครงการ AFS

__________________
Saaychol

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 11-09-2011 เมื่อ 10:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:58


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger