#21
|
||||
|
||||
ที่เด็ดคือมี อ่าง jaguzzi บนดาดฟ้า
|
#22
|
||||
|
||||
เรือที่เราโดยสารไปตลอดทริปจะมีสองลำ ลำใหญ่เป็นที่นอนหลับพักผ่อนและกินข้าว ส่วนลำเล็กเรียกว่า Dhoniไว้เป็นที่เก็บอุปกรณ์ดำน้ำทุกอย่าง พอจะออกไปดำน้ำแต่ละครั้ง ก็มาลงเรือลำนี้กัน
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย koy : 17-08-2010 เมื่อ 14:36 |
#23
|
||||
|
||||
กล้วยสองเครือแขวนอยู่ท้ายเรือ liveaboard ทุกลำ ใครหิวก็เด็ดไปกินได้ตลอดเวลา สังเกตว่าเรือลำอื่นกล้วยจะถูกเด็ดหมดในวันท้ายๆ แต่ลำของพวกเรา เหลือบานเบอะ
|
#24
|
||||
|
||||
อาหารการกินบนเรือ ไม่ค่อยถูกปากนักดำน้ำจากไทยนัก เพราะออกรสชาติฝรั่ง จืด ยังดีที่พวกเราพกพาบรรดาน้ำพริกและเครื่องปรุงรสมาเพียบ ..............และแล้วก็มาถึงไฮไลท์ของการเดินทางครั้งนี้ พวกเรากระเหี้ยนกระหือรือไปตามล่าหาฝูงแมนต้าร่อนถลากินแพลงตั้น จุดหมายปลายทางเพื่อการนี้คือเกาะเล็กเล้ก เน้นว่าเล็กมากชื่อ Hanifaru ซึ่งอยู่ในหมู่ Baa Atoll ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงมาเล่ (ภาพประกอบจาก http://travel.newarchaeology.com/map...ve_islands.php)
|
#25
|
||||
|
||||
ใช้เวลาเดินทางด้วยเรือจากมาเล่ประมาณแปดชั่วโมง ที่Hanifaru มีแอ่งลากูน โดยในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงพฤศจิกายนซึ่งเป็นหน้าฝน จะเป็นช่วงเวลาที่อิทธิพลจากกระแสน้ำขึ้นน้ำลง กระแสลม กระแสคลื่น ช่วยดึงดูดให้แพลงตั้นเข้าไปกระจุกตัวกันหนาแน่นในลากูนแห่งนี้ แน่นอนเมื่อมีลาภปากเข้ามาติดกับ ไม่มีวันที่บรรดาแมนต้าหรือกระเบนราหูจะปล่อยให้ผ่านเลยไป พวกเขาแห่กันเข้ามารุมสวาปามแพลงตั้นกันอย่างเมามัน
ระหว่างนั่งเรือไปยังจุดดำน้ำ ก็มีแมนต้าโผล่เหนือผิวน้ำมาเรียกน้ำย่อย แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย koy : 17-08-2010 เมื่อ 14:37 |
#26
|
||||
|
||||
พอถึงจุดถีบตก เอ๊ย จุดดำน้ำ ไม่มีใครอิดออด เพราะเห็นนักดำน้ำของเรือลำอื่นลอยล่องกัน บ้างก็ดำผิวน้ำดูแมนต้า พวกเรารีบถลาพุ่งลงสู่ใต้น้ำ ภาพที่เห็นข้างล่างสุดแสนจะตะลึงงัน แมนต้าหลายสิบตัวบินโฉบผ่านพวกเราไปในระยะประชิด เสียดายที่แสงแดดน้อยมาก และน้ำค่อนข้างขุ่น ภาพที่ออกมาจึงไม่สดใสเท่าที่ควร แต่ลีดเดอร์ก็บอกว่า ต้องทำใจ เพราะถ้าน้ำใส ก็แสดงว่าแพลงตั้นน้อย
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย koy : 27-08-2010 เมื่อ 09:39 |
#27
|
||||
|
||||
ระยะห่างระหว่างเรากับแมนต้าก็เอื้อมมือสัมผัสถึง แต่ก็ไม่ได้ทำ เพราะลีดเดอร์ชาวมัลดีฟส์ย้ำนักย้ำหนาว่า ดูแต่ตามืออย่าต้อง ถ้าเห็นใครสัมผัสแมนต้า ก็จะให้ขึ้นเรือทันที ด้วยเกียรติของลูกเสือ ภาพที่เห็นนี้ไม่ได้ใช้ซูมแต่อย่างใด
นักวิทยาศาสตร์เรียกปรากฎการณ์แมนต้ารุมกินโต๊ะแพลงตั้นว่า Cyclone Feeding ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่น่าพิศวง ได้เห็นของจริงก็ต้องยอมรับว่ามันน่าตะลึงงันจริงๆ แมนต้าร่อนมาดูดกินแพลงตั้นกันอย่างเมามัน Hanifaru เริ่มเป็นที่รู้จักเมื่อช่วงหน้าฝนปี 2552 นี่เอง ไม่นานเท่าไหร่ แต่ก็มีนักดำน้ำจากทั่วโลกแห่กันมาชมปรากฎการณ์แมนต้าบ้ากินกันเป็นจำนวนมาก ตอนที่เราลงไปก็มีนักท่องเที่ยวนับร้อย รัฐบาลมัลดีฟส์ก็ประกาศให้ที่แห่งนี้เป็นสถานที่คุ้มครองทางทะเล แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย koy : 27-08-2010 เมื่อ 09:40 |
#28
|
||||
|
||||
หลากหลายลีลา
|
#29
|
||||
|
||||
นับเป็นการพานพบแมนต้าอย่างใกล้ชิดและเยอะที่สุดในชีวิตของการดำน้ำ ได้เห็นลีลาอันพลิ้วไหวในการเคลื่อนตัว โฉบบินเหมือนนก ร่อนไปมาเหมือนจานบิน ช่างเป็นเพื่อนร่วมโลกที่มีท่วงท่าสวยงามซะจริงๆ
photo credit:ปิ่นใจ วรรณพฤกษ์ |
#30
|
||||
|
||||
พอลงไปข้างล่าง ต่างคนก็ตัวใครตัวมัน คว้ากล้องถ่าย ถ่าย ถ่าย บางคนก็ว่ายน้ำตามแมนต้าอย่างใกล้ชิด มีพี่หมอหญิงจากรพ.วิชัยยุทธใส่ขาสั้นดำน้ำ โดนปีกแมนต้าเฉี่ยวเลือดออกมาซิบๆ ได้แผลเป็นเป็นที่ระลึก
|
|
|