เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > ท่องเที่ยวทั่วแผ่นดิน

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #21  
เก่า 14-01-2011
แมลงปอ แมลงปอ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 698
Default

ดีจังค่ะ ได้ทำบุญและได้เที่ยวทีเดียวเลย...ขอบคุณค่ะสำหรับภาพและเรื่องราวน่าประทับใจค่ะ..
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #22  
เก่า 14-01-2011
นาย's Avatar
นาย นาย is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: Jun 2009
ข้อความ: 187
Default

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ สายชล อ่านข้อความ


ทะเลสาบอินเลสวย มหัศจรรย์ โรแมนติก...น่าเที่ยวจริงๆค่ะ...


เห็นนกบินว่อนเหนือทะเลสาบอินเล....ดูเหมือนจะเป็นนกนางนวล ใช่ไหมคะ


ไม่คิดเลยว่าผ้าใยบัว เขาใช้ใยบัวมาทอจริงๆ น่าทึ่งจริงๆค่ะ...

....เป็นนกนางนวลครับพี่น้อย...ก่อนลงเรือเขาจะแจกอาหารถุงให้พวกเรา..เขาบอกว่าเอาให้นกเมื่อถึงช่วงประมาณกลางทะเลสาบ...ตอนแรกก็ไม่ทราบว่านกอะไร...เห็นเรือลำแรกโยนอาหารขึ้นให้นกบนอากาศ..ฝูงนกนางนวลโฉบอาหารบนอากาศและส่วนมากอาหารจะไม่ถึงพื้นน้ำ เป็นภาพที่สวยงามมากครับ(เรือแล่นเร็วเลยถ่ายรูปไม่ทัน)....เขาใช้ใยบัวมาทอจริงๆครับตอนแรกก็งง..แต่ราคาก็แพงกว่าผ้าไหมมาก อยู่ที่ 500 - 1,000 us$ ขึ้นอยู่กับลวดลาย

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย นาย : 14-01-2011 เมื่อ 18:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #23  
เก่า 14-01-2011
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,160
Default



อู้วววว....ทะเลสาบกลางหุบเขา มีนกนางนวลเหมือนๆแถวชายทะเลด้วย

น้องนายเล่าว่านกนางนวลมากินอาหาร ที่โยนขึ้นไปกลางอากาศแล้ว ทำให้คิดถึงนกนางนวลที่อ่าว San Francisco, California และที่ Galveston , Texas ที่นกนางนวลก็น่ารักอย่างนี้เหมือนกันค่ะ

__________________
Saaychol
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #24  
เก่า 14-01-2011
Super_Srinuanray's Avatar
Super_Srinuanray Super_Srinuanray is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Deep Blue Sea
ข้อความ: 1,073
Default

ขอบพระคุณพี่นายค่ะ สวยจริงๆๆ ค่ะ

พี่น้อยขา เลือกช่วงที่หนูมีวันหยุดยาวหน่อย และขอติดไปสักคนได้ไหมค่ะพี่น้อย
__________________
Superb_Sri_Nuan.Ray ณ SOS
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #25  
เก่า 15-01-2011
นาย's Avatar
นาย นาย is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: Jun 2009
ข้อความ: 187
Default

...วันที่ 4 ของการเดินทาง....จาก แฮโฮสู่ มันดาเลย์ -ถวายภัตตาหารเช้าแก่พระภิกษุสงฆ์ 2,500 รูป
....เวลา 0430 เดินทางสู่ วัดยักไข่ ร่วมพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ในพิธีกรรมล้างหน้า พระพักตร์พระมหามัยมุนี ( 1 ใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพม่า)
.....ตำนาน พระมหามัยมุนี มัณฑเลย์

......“พระมหามัยมุนี” หรือ “พระมหาเมี๊ยะมู่นี่” อันมีความหมายว่า “พระผู้เป็นที่เคารพสูงสุด” หรือ “ผู้รู้อันประเสริฐสุด” ซึ่งนับเป็นหนึ่งในห้าแห่ง “เบญจมหาบูชาสถาน” อันมีความสำคัญสูงสุดของประเทศพม่า ตำนานได้กล่าวไว้ว่า สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยพุทธกาล โดยกษัตริย์แห่งเมืองยะไข่ องค์พระทำจากทองสัมฤทธิ์ สูง 12 ฟุต 7 นิ้ว ก่อนสร้าง พระกษัตริย์ผู้สร้างทรงพระสุบินว่า พระพุทธเจ้าเสด็จมาประทานพรให้พระพุทธปฏิมาองค์นี้ เป็นตัวแทนของพระองค์ เพื่อเป็นเครื่องสืบพระศาสนาไปในภายหน้า โดยในอดีต แม้เมืองยะไข่จะถูกโจมตีโดยกษัตริย์ผู้ทรงแสนยานุภาพอย่างไร ก็ไม่อาจที่จะเคลื่อนย้ายองค์พระมหามัยมุนีนี้ออกจากเมืองได้ ต้องมีเหตุให้ขัดข้องทุกครั้งไป

......จนมาถึงรัชสมัยของพระเจ้าปดุง ยกทัพมาตีเมืองยะไข่ได้ และคราวนี้ สามารถอัญเชิญพระมหามัยมุนีออกจากยะไข่ได้ โดยล่องมาตามแม่น้ำอิระวดีมายังเมืองมัณฑเลย์ได้สำเร็จ พระมหามัยมุนีอันศักดิ์สิทธิ์ จึงได้ย้ายมาอยู่ที่เมืองมัณฑเลย์เป็นการถาวรนับแต่นั้นเป็นต้นมา

.....และด้วยความเชื่อว่า พระพุทธมหามัยมุนีนี้ มีชีวิต เพราะด้วยเหตุที่ได้รับประทานพร(บางตำนานก็ว่าเป็น “ลมหายใจ”จากพระพุทธองค์) จึงมีประเพณีล้างพระพักตร์ถวาย โดยทุกเช้า เวลาประมาณตี 4 พระมหาเถระและสัปบุรุษก็จะมากระทำพิธีล้างพระพักตร์ด้วยน้ำอบน้ำหอมผสมแป้งทานาคาอย่างดีพร้อมกับใช้แปรงทองแปรงที่พระโอษฐ์เสมือนหนึ่งแปรงพระทนต์ถวายพระพุทธเจ้า ก่อนใช้ผ้าจากศรัทธาสาธุชนถวายมาเช็ดจนแห้งสนิท พร้อมใช้พัดทองโบกถวายเป็นอันดีเสมือนหนึ่งได้อุปัฏฐากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ยังทรงพระชนมชีพอยู่จริงๆก็ปานกันเลยทีเดียว....

......อนึ่ง องค์พระมหามัยมุนีมีการปิดทองซ้ำแล้วซ้ำอีกจนเป็นรอยย่นตะปุ่มตะป่ำไปทั้งพระองค์ ซึ่งหากเอานิ้วกดลงไป ก็จะรู้สึกได้ถึงความอ่อนนิ่มของทองคำเปลวที่ปิดทับซ้อนกันนับเป็นพันๆหมื่นๆชั้น ตลอดระยะเวลาเนิ่นนานกว่าศตวรรษ ทำให้พระมหามัยมุนีมีอีกพระนามหนึ่งว่า “พระเนื้อนิ่ม” แต่น่าแปลกที่ว่า แม้จะมีการปิดทองซ้ำแล้วซ้ำอีกจนองค์พระใหญ่ขึ้นเพียงใดก็ตาม แต่พระพักตร์ขององค์พระมหามัยมุนีก็ยังแลดูใหญ่ตามองค์พระอย่างน่าอัศจรรย์ ทั้งๆที่ไม่ได้มีการปิดทองที่องค์พระเลยแม้แต่น้อย
รูปขนาดเล็ก
คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name:	DSC00625.jpg
Views:	0
Size:	92.9 KB
ID:	10310   คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name:	DSC00624.jpg
Views:	1
Size:	101.8 KB
ID:	10311   คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name:	DSC00639.jpg
Views:	3
Size:	96.0 KB
ID:	10312   คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name:	DSC00650.jpg
Views:	1
Size:	103.2 KB
ID:	10313  

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย นาย : 20-01-2011 เมื่อ 10:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #26  
เก่า 15-01-2011
นาย's Avatar
นาย นาย is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: Jun 2009
ข้อความ: 187
Default

...ถวายภัตตาหารเช้าแก่พระภิกษุสงฆ์ 160 รูป และหลังจากนั้นร่วมกันถวายจีวรและคอมพิวเตอร์แก่พระภิษุสงฆ์ผู้ทรงพระไตรปิฎก
รูปขนาดเล็ก
คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name:	DSC00661.jpg
Views:	1
Size:	82.5 KB
ID:	10314   คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name:	DSC00695.jpg
Views:	1
Size:	64.5 KB
ID:	10315   คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name:	DSC00711.jpg
Views:	3
Size:	59.0 KB
ID:	10316   คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name:	DSC00723.jpg
Views:	0
Size:	44.9 KB
ID:	10317  

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย นาย : 20-01-2011 เมื่อ 10:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #27  
เก่า 15-01-2011
นาย's Avatar
นาย นาย is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: Jun 2009
ข้อความ: 187
Default

เดินทางมาที่ วัดมาโซหยิ่น..... ถวายภัตตาหารเช้าแก่พระภิกษุสงฆ์ 2,500 รูป (รอบละ 900 รูป )
รูปขนาดเล็ก
คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name:	DSC00741.jpg
Views:	1
Size:	100.5 KB
ID:	10318   คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name:	DSC00767.jpg
Views:	0
Size:	61.5 KB
ID:	10319   คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name:	DSC00756.jpg
Views:	0
Size:	60.9 KB
ID:	10320   คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name:	DSC00777.jpg
Views:	1
Size:	30.3 KB
ID:	10321  

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย นาย : 20-01-2011 เมื่อ 10:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #28  
เก่า 15-01-2011
นาย's Avatar
นาย นาย is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: Jun 2009
ข้อความ: 187
Default

วันที่ 5 ของการเดินทาง ....กลับสู่ย่างกุ้ง..พระธาตุมุเตา...พระธาตุอินทร์แขวน

มหาเจดีย์ชเวมอดอร์ (พระธาตุมุเตา) เจดีย์สูงที่สุดในพม่า สูงถึง 114 เมตร หรือ 374 ฟุต
มหาเจดีย์ชเวมอดอร์ หรือที่เราเรียกกันว่า พระธาตุมุเตา ที่ตั้งตระหง่านโดดเด่นอยู่ใจกลางเมืองหงสาวดี พระเจดีย์องค์นี้ถือว่ามีความโดดเด่นในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นเก่าแก่กว่า 2,000 ปี ภายในบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า และยังเป็น 1 ใน 5 มหาบูชาสถานสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญสูงสุดของชาวพม่า นอกจากนี้มหาเจดีย์ชเวมอดอ ยังเคยผ่านการพังทลายจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่มาแล้วถึง 4 ครั้ง โดยแผ่นดินไหวครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 5 ก.ค. พ.ศ. 2473 ได้ทำให้ปลียอดของเจดีย์องค์นี้หักพังลงมา แต่ว่าด้วยความศรัทธาที่ชาวเมืองมีต่อเจดีย์องค์นี้ พวกเขาได้ทำการสร้างเจดีย์ชเวมอดอขึ้นมาใหม่ในปีพ.ศ.2497 ด้วยความสูงถึง 374 ฟุต (ตอนแรกที่สร้างสูง 70 ฟุต) นับเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในพม่า ส่วนปลียอดที่พังลงมาก็ได้ตั้งไหว้ที่มุมหนึ่งขององค์เจดีย์เพื่อให้ พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้บูชาควบคู่ไปกับเจดีย์องค์ปัจจุบัน
สำหรับความโดดเด่นอีกอย่างหนึ่งของเจดีย์ชเวมอดอก็คือ เป็นเจดีย์ที่มีลักษณะแบบมอญอย่างเด่นชัด คือมีฉัตรแบบเรียบๆและมีองค์ระฆังของเจดีย์มีลักษณะแคบเรียว ภายนอกหุ้มด้วยทองจังโก้ ภายในเป็นอิฐกลวง แตกต่างจากเจดีย์ชเวดากองที่เป็นเจดีย์แบบพม่า(อย่างชัดเจน)
• ส่วนบริเวณรอบๆองค์เจดีย์ก็มีพระพุทธรูปหลายองค์ให้กราบไหว้ มีอาคารสถาปัตยกรรมพม่าผสมตะวันตกให้เดิน นอกจากนี้ที่ด้านหนึ่งของเจดีย์ยังมีพิพิธภัณฑ์เล็กๆเก็บโบราณวัตถุต่างๆให้ ชม
รูปขนาดเล็ก
คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name:	DSC01242.jpg
Views:	1
Size:	48.9 KB
ID:	10322   คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name:	DSC01240.jpg
Views:	0
Size:	68.5 KB
ID:	10323   คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name:	DSC01228.jpg
Views:	2
Size:	64.8 KB
ID:	10324   คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name:	DSC01207.jpg
Views:	0
Size:	77.4 KB
ID:	10325  

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย นาย : 20-01-2011 เมื่อ 10:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #29  
เก่า 15-01-2011
นาย's Avatar
นาย นาย is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: Jun 2009
ข้อความ: 187
Default

....บ่าย...เดินทางต่อไปยัง ..พระธาตุอินทร์แขวน

"พระธาตุอินทร์แขวน" หรือในภาษามอญใช้คำว่า "ไจ้ก์ทิโย" หมายถึง หินรูปหัวฤๅษี ตั้งอยู่ที่เมืองไจก์โถ่ อ.สะเทิม เขตรัฐมอญ ลักษณะเด่นของพระธาตุอินทร์แขวน คือ มีลักษณะเป็นก้อนหินสีทองขนาดใหญ่สูง ๕.๕ เมตร ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงชันอย่างหมิ่นเหม่ เหมือนจะหล่น และท้าทายแรงดึงดูดของโลก โดยไม่ตกลงมาอย่างเหลือเชื่อ
......ตามตำนานเล่าว่า มีฤาษี ๒ ตน เป็นพี่น้องกัน บำเพ็ญเพียรและมีบุญได้ครอบครองพระเกษาขององค์พระพุทธเจ้า ๒ เส้น จึงแบ่งกันองค์ละเส้น ฤาษี ๒ พี่น้องได้แยกกันไปบำเพ็ญเพียรบนยอดเขา ๒ ลูกที่ติดกัน โดยมีกฎที่ว่า เมื่อถึงตอนค่ำของทุกวัน ฤาษีทั้งสองตนต้องส่งสัญญาณไฟจากยอดเขาของตนมายังยอดเขาอีกลูก เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่า ทั้งสองยังมีชีวิตอยู่
....... จนมาวันหนึ่ง ฤาษีผู้พี่ไม่เห็นสัญญาณไฟจากฤาษีผู้น้อง จึงเป็นห่วงและออกเดินทางไปยังยอดเขาที่ฤาษีผู้น้องอยู่
เวลาผ่านไปหลายวัน กว่าจะเดินทางไปถึง และก็พบว่าฤาษีผู้น้องเสียชีวิตแล้ว จึงได้นำพระเกษาของพระพุทธเจ้าเส้นที่อยู่กับน้องมาซ่อนไว้ที่มวยผมของตนเอง และเดินทางกลับไปยังยอดเขาที่ตนเองได้บำเพ็ญเพียร
....... วันหนึ่ง เกิดคิดขึ้นมาได้ว่า ตนเองก็คงจะต้องตายจากไปในวันใดวันหนึ่ง จึงเป็นกังวลว่า จะทำอย่างไรดีกับพระเกษาของพระพุทธเจ้าทั้งสองเส้น ที่อยู่กับตน จึงบำเพ็ญจิตภาวนาไปถึงพระอินทร์ ขอให้พระอินทร์ทรงช่วยหาสถานที่ที่ซึ่งจะสามารถบรรจุพระเกษาของพระพุทธเจ้าไว้ในที่ที่สูงที่สุดเทียบเท่ากับสวรรค์
........ พระอินทร์จึงได้หาก้อนหินจากทะเลลึก และนำมาแขวนไว้บนเขา และดลใจให้ฤาษีได้มาพบเข้า จึงได้นำเอาพระเกษาของพระพุทธเจ้ามาประดิษฐานไว้ที่ก้อนหินนี้ และชาวบ้านก็เรียกต่อกันมาว่า พระธาตุอินทร์แขวน
........ บางตำรากล่าวว่า มีฤาษีติสสะผู้หนึ่งได้รับพระเกศาจากพระพุทธเจ้าที่ได้มอบให้ไว้เป็นตัวแทนพระพุทธองค์ให้ประชาชนสักการะ เมื่อครั้นได้มาแสดงธรรมเทศนา ณ ดินแดนสุวรรณภูมิ ผู้ที่ได้รับมอบพระเกศาต่างก็นำไปบรรจุในสถูปเจดีย์ แต่ว่าฤๅษีติสสะกลับนำไปซ่อนไว้ในมวยผม
........ พอเวลาล่วงเลยถึงคราวที่ฤๅษีติสสะจะต้องละสังขาร โดยมีความตั้งใจจะนำพระเกศาไปบรรจุไว้ในก้อนหินที่มีรูปร่างคล้ายกับศีรษะของตน จึงให้พระอินทร์ช่วยหาก้อนหินที่มีลักษณะเหมือนกับศีรษะ ซึ่งได้มาจากใต้ท้องมหาสมุทร และก็ให้พระอินทร์นำมาวางหรือแขวนไว้บนภูเขาหิน จึงเป็นที่มาของชื่อ พระธาตุอินทร์แขวน
......... เล่ากันว่า ในสมัยก่อน ช่วงสร้างพระธาตุอินแขวนเสร็จใหม่ๆ หินดังกล่าวลอยอยู่กลางอากาศ ขนาดที่ว่า ไก่สามารถเดินลอดใต้ก้อนหินได้ แต่เนื่องจากคนทำบาปกันมาก ก้อนหินจึงหนักลง หนักลง เหลือเพียงนกพิราบที่สามารถลอดได้
......... จากนั้นคนก็ทำบาปมากขึ้นเรื่อยๆ เหลือเพียงนกกระจอกลอดได้ และเส้นด้าย ก่อนที่จะติดพื้นในที่สุด ซึ่งแสดงเป็นภาพไว้ในห้องด้านขวาของทางขึ้น โดยในห้องดังกล่าวมีรูปปั้นเทพต่างๆ ของพม่าไว้ให้ไหว้กัน
......... ส่วนด้านซ้าย จะเห็นรูปปูนปั้นหญิงสาวนอนอยู่ ตามตำนานเล่ากันว่า มีมเหสีของเมืองเมืองหนึ่งในพม่าต้องคำสาปป่วยใกล้ตาย และหนีการถูกจับ ก่อนตายได้ตั้งใจมาไหว้พระธาตุ แต่เมื่อเดินเข้ามาไหว้ปรากฏว่า อาการป่วยใกล้ตายหายอย่างปาฏิหาริย์
......... และได้อธิษฐานต่อว่า หากตนเองมีบุญที่ได้มาสักการะองค์พระธาตุ ขอให้ร่างของนางอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ห้ามมิให้ผู้ใดสามารถเคลื่อนย้ายไปไหนได้ สิ้นคำอธิษฐานเธอก็กลายเป็นหิน
........ ปัจจุบันนี้ชาวพม่า ชาวมอญ รวมทั้งผู้แสวงบูญชาวไทยเชื่อกันว่า สามารถอธิษฐานฝากโรคที่ตนเองมีความเจ็บป่วย เช่น ปวดหัว ให้นำเงินไปวาง และลูบศีรษะของนาง จากนั้นนำมาลูบศีรษะตนเอง แล้วอาการปวดหัวจะหายไป
รูปขนาดเล็ก
คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name:	DSC00893.jpg
Views:	6
Size:	57.7 KB
ID:	10326   คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name:	DSC00926.jpg
Views:	1
Size:	76.8 KB
ID:	10327   คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name:	DSC00946.jpg
Views:	0
Size:	89.2 KB
ID:	10328   คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name:	DSC00977.jpg
Views:	2
Size:	82.4 KB
ID:	10329  

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย นาย : 20-01-2011 เมื่อ 10:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #30  
เก่า 15-01-2011
นาย's Avatar
นาย นาย is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: Jun 2009
ข้อความ: 187
Default

บริเวณพระธาตุอินทร์แขวน.....
รูปขนาดเล็ก
คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name:	DSC01014.jpg
Views:	0
Size:	32.8 KB
ID:	10330   คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name:	DSC01043.jpg
Views:	0
Size:	36.8 KB
ID:	10331   คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name:	DSC01050.jpg
Views:	4
Size:	37.3 KB
ID:	10332   คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name:	DSC01052.jpg
Views:	6
Size:	61.8 KB
ID:	10333  
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 07:53


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger