เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > ท่องเที่ยวทั่วแผ่นดิน

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #31  
เก่า 02-05-2012
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,160
Default



รวมมิตร..










__________________
Saaychol

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 07-05-2012 เมื่อ 06:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #32  
เก่า 02-05-2012
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,160
Default





“ปริศนาธรรม” มีข้อคิดดีๆค่ะ...







__________________
Saaychol

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 07-05-2012 เมื่อ 06:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #33  
เก่า 02-05-2012
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,160
Default


เราเดินออกจากศาลาแก้วกู่ ด้วยความรู้สึกที่ดีกว่าตอนก่อนเดินเข้าไปมาก เราได้ประจักษ์แก่ใจตัวเองว่า ความอลังการทั้งหลายที่เราได้เห็นนั้น เกิดจากความศรัทธาในศาสนาของคนๆหนึ่ง ที่หวังจะให้ศาสนาคงอยู่ และเป็นเครื่องเตือนจิตใจ สอนสั่งให้คนหมั่นสร้างสมความดีตลอดชั่วชีวิตแห่งตน...



__________________
Saaychol

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 07-05-2012 เมื่อ 06:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #34  
เก่า 02-05-2012
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,160
Default


บ่ายคล้อย...ถึงเวลาที่น้องดื้อจะต้องไปดำน้ำทำงาน ในถังน้ำใหญ่ท่ามกลางฝูงปลาของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำหนองคาย

เราย้อนกลับไปส่งน้องดื้อขึ้นรถที่จอดไว้ที่รีสอร์ต และนัดหมายทานข้าวเย็นกันให้อร่อย ก่อนที่น้องดื้อจะขับรถไปทำงานที่แสนสนุก...ร้อนๆอย่างนี้น่าอิจฉาน้องดื้อจริงๆนะคะ...

ยังพอมีเวลาเหลือก่อนจะมืด...สองสายบึ่งรถ ออกไปทางเมืองอุดรธานี แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนสายเล็กๆ เพื่อมุ่งหน้าสู่ "วัดพระธาตุบังพวน"



__________________
Saaychol

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 05-01-2021 เมื่อ 20:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #35  
เก่า 02-05-2012
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,160
Default



พระธาตุบังพวน เป็นพระธาตุเจดีย์ที่เก่าแก่และสำคัญยิ่งของจังหวัดหนองคาย และเป็นพระธาตุที่สำคัญองค์หนึ่งของภาคอีสาน ประดิษฐานอยู่ ณ บ้านพระธาตุบังพวน ตำบลพระธาตุบังพวน อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย




ตามตำนานอุรังคธาตุกล่าวว่า พระยาสุวรรณภิงคาร เจ้าเมืองหนองหาน สกลนคร พระยาคำแดง เจ้าเมืองหนองหารน้อย อุดรธานี พระยาจุลณี พรหมทัต เจ้าเมืองจุลณี (ลาวเหนือ) พระยาอินทปัตนคร เจ้าเมืองอินทปัตนนนคร (เขมร) และ พระยานันทเสน เจ้าเมืองศรีโคตรบูรณ์หลวง (ตรงข้ามนครพนม) ได้ร่วมกันอุปถัมภ์ พระมหากัสสเถระ พร้อมด้วยพระอรหันต์ อีก 500 องค์ ทำการก่อสร้างพระธาตุพนม แล้วเสร็จ และได้บรรลุพระอรหันต์ด้วยกันทั้งหมด




ต่อมาได้เดินทางไปสู่แดนพุทธภูมิ เพื่อไปอัญเชิญ พระบรมสารีริกธาตุ ของพระพุทธเจ้า 45 พระองค์ นำมาประดิษฐานไว้ ณ สถานที่ 4 แห่งคือ บริเวณเมืองหนองคาย และเมืองเวียงจันทน์ หนึ่งในสี่แห่งนั้น คือพระธาตุบังพวน ซึ่งได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ มาพักที่ร่มไม้ปาแป้ง (ไม้โพธิ) ณ ภูเขาหลวง อันเป็นที่ตั้งพระเจดีย์ พระธาตุบังพวนปัจจุบัน




จากการสำรวจทางโบราณคดีพบว่า พระธาตุบังพวนได้มีการก่อสร้างสืบเนื่องกันมาสามสมัย คือ ฐานเดิมสร้างด้วยศิลาแลง ชั้นที่สองสร้างด้วยอิฐครอบชั้นแรก และต่อมาได้มีการก่อสร้างให้มีขนาดสูงใหญ่ขึ้น จากจารึกที่ฐานพระพุทธรูปที่ขุดได้ 4 องค์ ในจำนวนทั้งหมด 6 องค์ ระบุศักราชที่สร้างไว้ ซึ่งตรงกับ พ.ศ. 2118 พ.ศ. 2150 พ.ศ. 2158 และ พ.ศ. 2167 และข้อความในจารึกเมื่อ พ.ศ. 2167 มีประวัติในการสร้าง โดยได้กล่าวถึงพระเจ้าโพธิสาลราช ซึ่งเป็นกษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านช้าง มีราชธานีอยู่ที่นครเชียงทอง ซึ่งก็ตรงกับรูปแบบการก่อสร้างโบราณสถาน ในบริเวณวัดพระธาตุบังพวน ที่แสดงถึงอิทธิพลของอาณาจักรล้านช้าง




พระธาตุบังพวน ซึ่งสร้างมาตั้งแต่สมัยอาณาจักรล้านช้าง และ ได้มีการบูรณะปฏิสังขรณ์ในสมัยต่อมา แต่ไม่ต่อเนื่องนัก ในระยะหลังจึงทรุดโทรมมาก และได้พังทะลายลงมา เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2513 กรมศิลปากรจึงได้ดำเนินการบูรณขึ้นใหม่ โดยก่อคอนกรีตเสริมฐานเดิม ซึ่งที่ฐานล่างเป็นศิลาแลง ต่อมาเป็นฐานทักษิณ 3 ชั้น บัวคว่ำ 2 ชั้น ต่อด้วยปรางค์สี่เหลี่ยมบัวปากระฆัง บัวสายรัด 3 ชั้น รับดวงปลีบัวตูม แล้วตั้งฉัตร 5 ชั้น ฐานล่างรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส กว้างด้านละประมาณสิบเจ็ดเมตร สูงถึงยอดฉัตรประมาณสามสิบสี่เมตร


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมทั้ง สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอทั้งสองพระองค์ ได้เสด็จพระราชดำเนินมาเป็นองค์ประธาน และร่วมยกฉัตรสู่ยอดพระธาตุบังพวน เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2521


ขอบคุณข้อมูลจาก...http://www1.mod.go.th/heritage/religion/pratat/bung.htm
__________________
Saaychol

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 12-07-2012 เมื่อ 11:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #36  
เก่า 02-05-2012
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,160
Default

ซากโบราณสถานที่อยู่ภายในบริเวณวัด ซึ่งกล่าวกันว่า เป็นซาก "สัตตสถาน" ที่ยังมีครบถ้วนทั้งเจ็ดองค์ และมีแผนที่ตั้งเหมือนกันกับที่พุทธคยา....











__________________
Saaychol

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 26-06-2012 เมื่อ 00:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #37  
เก่า 02-05-2012
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,160
Default






โบสถ์ใหม่ยังสร้างไม่เสร็จ...พระพุทธรูป จึงอยู่บริเวณซากโบสถ์เดิม มีหลังคามุงกันแดดกันฝนไว้..มีศาสนิกชนครอบครัวหนึ่ง นั่งสนทนาธรรมกับพระสงฆ์อยู่นาน ไม่มีท่าทีจะลากลับ...








พระพุทธรูป..รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม และเทพเจ้าจีน ที่แตกหักเสียหาย ถูกนำมาวางไว้...



__________________
Saaychol

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 12-07-2012 เมื่อ 11:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #38  
เก่า 02-05-2012
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,160
Default



เราจากวัดพระธาตุบังพวนมา เมื่อใกล้ยามย่ำสนธยาเต็มทีแล้ว...วันนี้ นับเป็นวันที่สุขใจวันหนึ่งของเราค่ะ..



__________________
Saaychol

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 26-06-2012 เมื่อ 00:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #39  
เก่า 02-05-2012
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,160
Default


ออกจากวัดพระธาตุบังพวน..น้องดื้อก็โทรมาบอกว่า จองเรือล่องแม่น้ำโขงให้แล้ว แต่ไม่ทานข้าวเย็นบนเรือ เพราะอาหารไม่อร่อยเลย

เรารีบบึงรถไปที่ท่าเรือ แต่กว่าจะถึงก็ช้าไปเกือบครึ่งชั่วโมง..โชคดีที่เรือยังจอดคอยที่เรือนแพซึ่งเป็นร้านอาหาร อย่างไรก็ตาม พอลงเรือได้ พนักงานเรือก็พยายามคะยั้นคะยอ ให้เรารับประทานอาหารเย็นในเรือนแพ หลังจากเรือที่พาล่องแม่น้ำโขงเข้าเทียบท่า ซึ่งเราก็ยังไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ

พระอาทิตย์ยังไม่ตกดิน แต่เมฆฝนที่มืดครึ้มทะมึนเต็มท้องฟ้านั้น ทำให้สลัวมัวซัว เห็นเพียงแสงจางๆ ทางฝั่งตะวันตก ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองเวียงจันทร์ หรือเวียนเทียน ของลาว...





เมฆท้องแก่ซะขนาดนี้ แถมยังมีลมพัดมาฉิวๆ....แล้วนี่ฝนจะตกไหมหนอ...


__________________
Saaychol

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 26-06-2012 เมื่อ 00:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #40  
เก่า 02-05-2012
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,160
Default



ท้องฟ้าครึ้มๆ...ไม่ทำให้เราสะทกสะท้าน เรานั่งเรือชมวิวเมืองหนองคายและเมืองเวียงจันทน์กันต่อไป อย่างไม่สะทกสะท้าน..





จู่ๆเมฆฝนก็ถูกลมพัดไปทางเหนือซะไกล เรือแล่นต้านน้ำล่องใต้ไปจนถึงสะพานมิตรภาพไทย-ลาว...แล้วก็วนกลับมา ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงก็กลับมาถึงแพริมน้ำใหม่




น้องดื้อบอกว่า จริงๆเรือควรจะวิ่งเลยไปถึงพระธาตุกลางน้ำ แล้วค่อยวนกลับมาที่แพ เข้าใจว่าเป็นเพราะเราทำให้เรือออกช้า ก็เลยทำให้กัปตันแก้เผ็ด ด้วยการไม่ยอมล่องเรือต่อ


เราก็เลยแก้เผ็ดบ้าง...โดยเดินลงจากเรือได้ ก็เดินดิ่งขึ้นฝั่ง ไปหาอาหารอร่อยๆบนฝั่งทานแทน เสียดายค่ะ อาหารอร่อยมาก และเราก็หิวมาก จึงทานอาหารเพลินซะจนลืมถ่ายภาพ...
__________________
Saaychol

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 26-06-2012 เมื่อ 00:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 04:53


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger