#61
|
||||
|
||||
ขอบคุณจ้ะ น้องเด็กน้อย....วันนี้คงเขียนได้อีกสักหน้าสองหน้าค่ะ...
__________________
Saaychol |
#62
|
||||
|
||||
จากสะพานรถไฟก๊กเต๊ก....รถไฟวิ่งต่อไปจนถึงเมืองสีป้อ (Hsipaw) ระหว่างทาง เราเห็นถนนสาย NH 3 ที่เริ่มต้นจากมัณฑะเลย์ ผ่าน พิน อูล วิน มุ่งสู่ปลายทางที่จีน ทอดขนานไปกับทางรถไฟ ที่มุ่งหน้าสู่ชายแดนประชิดติดจีนเช่นกัน เที่ยงเศษๆ..รถไฟก็ถึงสถานีสีป้อ รวมเวลาที่เรานั่งมาบนรถไฟราว 4 ชั่วโมงเศษ บอกได้เลยค่ะว่าไม่เบื่อเลย เพราะมีอะไรให้ดูตลอดทาง และไม่มีทางจะง่วง เพราะนั่งรถไฟขบวนนี้ เหมือนได้ขี่ม้าพยศอย่างไงอย่างงั้น ที่หลังสถานีรถไฟ รถบัสของเรามาจอดคอยอยู่แล้ว เสียดายที่ไม่ได้เที่ยวเมืองสีป้อ เพียงแต่แวะทานข้าวเที่ยงแบบชาวฉานเต็มรูปแบบ ของดีที่นี่เป็นน้ำพริกฉานหรือไทยใหญ่ ที่ทำด้วยถั่วเน่า ทานกับผักสด มีไข่เจียว ไก่ทอด หมูสามชั้นเหมือนหมูฮ้อง และแกงถ้วยเล็กๆ คล้ายๆกับแกงฮังเล อร่อยทุกอย่างเลยค่ะ
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 21-11-2014 เมื่อ 12:35 |
#63
|
||||
|
||||
ร้านอาหารใหญ่ที่เราทานอาหารกลางวันกันนั้น ด้านข้างทำเป็นลานจอดพักรถบรรทุกใหญ่ๆจากเมืองจีน ที่มีทั้งที่ให้น้ำรถบรรทุก และห้องอาบน้ำคน คล้ายๆกับปั๊มน้ำมันที่เราได้เคยเห็นในจีน แสดงว่าจากนี้เรา เราจะได้เห็นรถบรรทุกจีนมากมายไปตลอดเส้นทาง จนถึง พินอูล วิน อย่างแน่นอน รถบัสแล่นย้อนกลับไปทางพินอูลวิน ช่วงที่รถลงเขาจากยอดเขาผ่านไปทางหุบเขาโกล์ทวิน Goal Twin เราเห็นทางที่พับไปพับมา ซึ่งทางรถไฟที่เรานั่งไปก็แล่นลงเขาเพื่อข้ามสะพานก๊กเตีกในลักษณะนี้เช่นกัน
__________________
Saaychol |
#64
|
||||
|
||||
Peik Chin Myaung Grotto (Maha Nadamu) รถวิ่งลงเขามาได้ไม่นาน... ก็จอดให้เราได้ลงไปเที่ยวถ้ำที่มีสายน้ำไหลผ่าน ที่ชื่อ Peik Chin Myaung Grotto ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวที่ดึงดูดใจให้คนไปเยี่ยมเยือนกันมาก โดยเฉพาะชาวพม่าที่มีศรัทธาในพุทธศาสนา เราต้องเดินลงจากรถแล้วข้ามสะพานแขวน ที่ทอดผ่านลำธารที่มีน้ำตกเล็กๆไหลผ่าน เห็นแล้วสบายตาสบายใจมากค่ะ....
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 21-11-2014 เมื่อ 17:22 |
#65
|
||||
|
||||
เราเดินผ่านประตูพญานาคเข้าไปในบริเวณที่เป็นสวนป่า ไปตามทางที่ทอดยาวสูงขึ้นไปสู่ด้านใน ลำแสงพระอาทิตย์ที่สาดส่องผ่านแมกไม้หนาทีบที่ขึ้นอยู่ในบริเวณนั้น ดูสวยงามและทำให้ขลังดีค่ะ ด้านขวาของเราเป็นธารน้ำใหญ่ ที่ทอดยาวมาจากด้านบน ลัดลั่นเป็นลานน้ำตกที่ไหลลงสู่เบื้องล่าง มีการนำท่อพีวีซีสีฟ้าอ๋อยมาทำเป็นน้ำพุ ดูแล้วขัดตาชอบกล พอเลยขึ้นไปเป็นธารน้ำใสไหลรินลงเนินหินเป็นชั้นๆ ค่อยดูสวยงามเป็นธรรมชาติและน่าดูหน่อยค่ะ
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 21-11-2014 เมื่อ 20:48 |
#66
|
||||
|
||||
ก่อนจะเดินขึ้นไปในบริเวณถ้ำ Peik Chin Myaung เราต้องถอดรองเท้าฝากไว้ที่ศาลา ที่ทำช่องใส่รองเท้าพร้อมฝาปิด (ไม่มีกุญแจ) ความที่พื้นเปียกชื้นและมีกรวดทรายเกลื่อนกลาดอยู่ พอถอดรองเท้าเดิน สายชลก็รู้สึกคันๆเท้าชอบกล กว่าจะชินได้ก็อีกนานพอควรทีเดียว ริมลำธารด้านซ้ายมือก่อนถึงบันไดขึ้นปากถ้ำ เราได้เห็นรูปปูนปั้นพระพุทธองค์ที่เสด็จออกบิณฑบาตโปรดสัตว์ มีพระสาวกเดินตามอีก 14 รูป ที่พื้นมีผู้หญิงนั่งไหว้อยู่ เป็นภาพปูนปั้นที่ดูงดงาม ให้อารมณ์ที่สงบสันติมากค่ะ... เราเริ่มเดินขึ้นบันไดที่ทอดขึ้นไปสู่ปากถ้ำที่ดูกว้างขวางโอ่โถง สิ่งแรกที่เห็นสะดุดตาเมื่อเข้าไปยืนในถ้ำก็คือ พระพุทธรูปงดงามมากมายที่ประทับเรียงรายอยู่ทั้งริมผนังถ้ำ และซอกหลืบที่มี กลางโถงถ้ำมีแอ่งน้ำที่น้ำตื้นๆแต่ใสแจ๋ว มองเห็นตัวปลา (และท่อน้ำที่วางอยู่ก้นสระ) น้ำจากอ่างนี้ไหลทอดตัวลงไปสู่ปากถ้ำและลานน้ำตกเบื้องล่าง ถ้ำแห่งนี้ยังเป็นถ้ำเป็น คือยังมีหินงอกหินย้อยเกิดขึ้นตลอดเวลา และมีน้ำหยดมาจากเพดานถ้ำ นอกเหนือจากธารน้ำที่ไหลผ่านถ้ำชั่วนาตาปี มีความเชื่อว่า น้ำที่ผุดขึ้นมาจากตาน้ำในถ้ำนี้ เป็นน้ำที่บริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์ จึงมีคนนำใส่ขวดไปไว้เพื่อบูชา และดื่มกินเพื่อรักษาโรค
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 04-12-2014 เมื่อ 12:47 |
#67
|
||||
|
||||
ถ้ำ Peik Chin Myaung เป็นถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ อยู่ห่างจาก พิน อูล วิน ไปทางเหนือ ราว 23 กม. ผู้ที่เข้ามาพัฒนาถ้ำธารลอดแห่งนี้เป็นชาวเนปาล ในปี พ.ศ. 2533 รัฐบาลพม่าจึงเข้ามาร่วมพัฒนาต่อ เพื่อให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ชื่อถ้ำ Peik Chin (น้องอุ๋ยบอกว่าเป็น "ต้นชะพลู") มาจากต้นไม้ชื่อนี้ ที่ขึ้นอยู่ที่ปากถ้านั่นเอง
ปากถ้ำกว้างราว 6 เมตร มีเนื้อที่ราว 45 เอเคอร์ (114 ไร่) ลึกราว 600 เมตร มีอายุราว 230-310 ล้านปี มีธารน้ำไหลลัดเลาะอยู่ในถ้ำตลอดเวลา การไปสร้างพระ เจดีย์และสถูปในถ้ำ เป็นศรัทธาของผู้คนที่นับถือศาสนาพุทธ ที่ชอบมาบนบานขอให้สมปรารถนา แล้วก็แก้บนด้วยการสร้างพระมาประดิษฐานในถ้ำ หรือไม่ก็สร้างเจดีย์หรือสถูป จนแน่นไปทั้งถ้ำ ที่สำคัญมีเจดีย์ชเวดากองจำลอง และพระมหามัยมุนีแห่งมัณฑะเลย์จำลอง ประดิษฐานอยู่ในถ้ำด้วย รวมๆแล้วมีพระหลายร้อยองค์อยู่ในถ้ำนี้ จึงมีคนเรียกถ้ำแห่งนี้อีกชื่อหนึ่งว่า ถ้ำมหานาธมุ (Maha Nadamu)
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 04-12-2014 เมื่อ 12:46 |
#68
|
||||
|
||||
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 21-11-2014 เมื่อ 16:19 |
#69
|
||||
|
||||
__________________
Saaychol |
#70
|
||||
|
||||
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 21-11-2014 เมื่อ 17:49 |
|
|