|
|
Share | คำสั่งเพิ่มเติม | เรียบเรียงคำตอบ |
#61
|
||||
|
||||
วัดศรีพนมมาศ
วัดศรีพนมมาศ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "วัดโท่ง" ดูจะเป็นวัดเดียวที่อยู่ลึกเข้าไปจากถนนใหญ่ ไม่เหมือนวัดอื่นๆที่เราไปมาแล้วซึ่งหาง่ายไป่ง่าย เมื่ออ่านประวัติดูจึงทราบว่า เดิมนั้นที่ตั้งวัดเคยเป็นป่าช้ามาก่อน เมื่อแรกสร้าง ในปี 2497 นั้น พระมหาบุญหนัก สิริปุณโญ ผู้เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ก็ได้สร้างกำแพงล้อมรอบที่วัดทั้งหมดซึ่งมีอยู่ 75 ไร่ (เป็นที่ป่าช้าเสีย 20 ไร่) เมื่อเราไปถึงวัดนั้น เป็นช่วงเย็น ภายในบริเวณวัด สงบเงียบไร้ผู้คน ไม้ใหญ่ขึ้นร่มครึ้มทั่วบริเวณ ทำให้เกิดความวิเวกวังเวงดีแท้... ประตูกำแพงแก้วและประตูโบสถ์ปิดสนิท เราจึงได้แต่ไหว้พระ แล้วก็ด้อมๆมองๆอยู่นอกเขตโบสถ์ แหงนขึ้นไปมองหน้าบันของโบสถ์ เป็นภาพเทพพนมสีทองอร่าม
__________________
Saaychol |
#62
|
||||
|
||||
กำแพงแก้วของโบสถ์ มีปูนปั้นเป็นรูปเศียรพรหมสี่หน้า..พระโอษฐ์ยิ้มละไม ผนังกำแพง เป็นภาพยักษ์แบกราวกำแพง ดูท่าจะไม่หนักมากนัก..ยักษ์ตนซ้ายนั้น กล้ามอกใหญ่ หรือจะเป็นยักษ์เพศเมีย ก็ไม่แน่ใจค่ะ
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 09-06-2012 เมื่อ 18:04 |
#63
|
||||
|
||||
ใกล้ประตูด้านหน้าของวัด เป็นที่ตั้งของ เจดีย์ศรีพนมมาศ ที่เริ่มสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2550 เมื่อเราไปที่วัดเมื่อปลายปี 2554 เจดีย์ก็ยังสร้างไม่สำเร็จ เพราะยังขาดปัจจัย ที่ตั้งงบในการสร้างไว้ประมาณ 9- 10 ล้านบาท
เจดีย์ศรีพนมมาศหากสร้างเสร็จแล้ว จะมี 2 ชั้น ชั้นที่ 1 ใช้เป็นที่อบรมปฏิบัติกรรมฐานได้จัดเป็นที่ประชุมของคณะสงฆ์ ศาสนพิธีต่าง ๆ ที่สำคัญ ชั้นที่ 2 จัดเก็บพระไตรปิฎก รูปเหมือน ครูบาอาจารย์ เช่น หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น เป็นต้น และอัฐบริขารที่สำคัญ
__________________
Saaychol |
#64
|
||||
|
||||
วัดภูช้างน้อย ก่อนพระอาทิตย์ใกล้จะอัสดง เราไปไหว้พระวัดที่ 9 สำหรับวันนี้ หากได้ไปเยี่ยมเยือนเมืองเชียงคาน ถ้าไม่ได้ไปวัดนี้ จะถือว้าไปไม่ถึงเมืองเชียงคานะคะ วัดที่ว่านี้ คือ "วัดภูช้างน้อย" นั่นเอง วัดภูช้างน้อย ตั้งอยู่ต้นถนนหลวงสาย 201 (เชียงคาน-เลย) เมื่อออกจากเมืองเชียงคาน แล้วล่องใต้เข้ามาบนถนนสายนี้ แล้วมองไปทางด้านขวามือ เราจะเห็นภูเขาลูกเล็กๆ (ที่ชาวบ้านเห็นเป็นรูปลูกช้างหมอบ) บนยอดเขา มีพระพุทธรูปนั่งขนาดใหญ่ประดิษฐานอยู่ เห็นอยู่อย่างนี้ แต่กว่าเราจะหาทางเข้าวัดแห้งนี้ได้ ต้องขับรถวนไปวนมาอยู่สองสามรอบ และเมื่อเลี้ยวเข้าไปแล้ว เรายังต้องขับรถเข้าไปตามทางของวัดอยู่อีกกว่าสิบนาที กว่าจะถึงเชิงภูช้างน้อย ตอนแรกก็ว่าจะเดินขึ้นบันไดนาค จากเชิงเขาไปยังยอดเขา แต่พอเห็นบันไดกว่าร้อยขั้นที่สูงชันขึ้นไป เราก็เปลี่ยนใจ กลับไปนั่งรถ และขับขึ้นยอดเขาดีกว่า... ดีใจที่เราคิดถูกแล้วค่ะ เพราะถนนที่จะขึ้นไปยอดดอยนั้น เป็นถนนปูนซีเมนต์อย่างดี แต่ถึงกระนั้น กว่าาเราจะพารถขึ้นไปถึงยอดเขาที่สูงชันได้ ก็ใช้เวลาพอควรทีเดียว ขึ้นไปก็หายเหนื่อย...เพราะภาพพระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่บนยอดภูนั้น ช่างงดงามเหลือเกิน...
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 18-06-2012 เมื่อ 16:22 |
#65
|
||||
|
||||
ตามประวัติของวัดบอกเพียงว่า...วัดภูช้างน้อยเป็นวัดป่า ซึ่งชาวเชียงคานได้สร้างขึ้น พระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่บนยอดภู เรียกกันว่า "พระใหญ่" พระใหญ่ประดิษฐานบนฐาน ซึ่งภายในบรรจุพระพุทธรูปไว้ ให้กราบไหว้บูชา
__________________
Saaychol |
#66
|
||||
|
||||
ที่ลานด้านซ้ายของพระใหญ่ เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูป ซึ่งไม่ปรากฎรายละเอียดว่าเป็นพระอะไร แต่เห็นได้ว่าเป็นพระธุดงค์ กำลังก้าวเดินไปข้างหน้า.. ถัดไปเป็นบันไดทางลงจากยอดภู เห็นหางพญานาค ที่หัวอยู่ที่เชิงบันไดเชิงภู... บนยอดภูช้างน้อยนี้ จัดเป็นจุดชมวิวเมืองเชียงคาน ในยามเย็นที่สวยงาม ถ้าไม่มีหมอกลงจัด หากมองไปด้านเหนือ จะเห็นภูทอก และเทือกเขาทั้งในฝั่งไทยและลาว หากมองไปทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือ จะมองเห็นตัวเมืองเชียงคาน และเมืองในลาว โดยมีลำน้ำโขงขวางกั้นไว้ได้ชัดเจน
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 12-06-2012 เมื่อ 13:51 |
#67
|
||||
|
||||
ได้เวลากลับเข้าเมืองเชียงคาน....เจ้ากระต่ายขาว รอเราอยู่แล้วค่ะ กว่าเราจะลงจากภูช้างน้อยถึงตัวเมือง ตะวันก็คงจะใกล้จะชิงพลบเต็มที สองวันที่ผ่านมา...เราได้ไปไหว้พระในเชียงคลานรวม 11 วัด รู้สึกมีความสุขมากๆค่ะ..
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 12-06-2012 เมื่อ 16:07 |
#68
|
||||
|
||||
ถนนชายโขง จากวัดภูช้างน้อย เราขับรถกลับไปที่บ้านตาหน่วม เข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาเสร็จ ก็ออกมาเดินเล่นที่ถนนชายโขง แหล่งเดินเล่นยามราตรี อันเป็นที่นิยมของเหล่านักเดินทางท่องเที่ยว แดดร่มลมตก แต่ยังไม่มืดเท่าไร คนเลยยังไม่ค่อยมากนัก เดินได้สบายหน่อยค่ะ บ้านในถนนสายนี้ ล้วนเป็นบ้านไม้ที่ชาวบ้านและนายทุนจากเมืองอื่น ช่วยกันอนุรักษ์ไว้ เพื่อให้เป็นสัญลักษณ์ของเมืองเชียงคาน ที่มีอายุยืนยาวมาหลายร้อยปี
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 12-06-2012 เมื่อ 20:43 |
#69
|
||||
|
||||
อาหารปิ้งๆย่างๆ และขนมพื้นบ้าน ออกมาวางขายมากมาย.. น่าทานทั้งนั้น... เดินดูไป มีอะไรน่าซื้อไปทานบ้าง... ได้กุ้งฝอยนึ่งใส่กะทงใบตอง เดินไปทานไป แม้ว่าจะ "เลยวัย" จะทำอย่างนี้ เหมือนชื่อโฮมสเตย์ข้างหลังนั่น
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 13-06-2012 เมื่อ 15:21 |
#70
|
||||
|
||||
บ้านไม้แถวที่ดูเก่าๆรูปทรงโบราณแต่สะอาดสะอ้าน ด้านล่างทำเป็นร้านขายของ หรือห้องรับรอง ส่วนด้านบน เปิดเป็นห้องพักให้นักท่องเที่ยวได้เช่า ซึ่งมีอยู่มากมายให้เลือกพัก... ของที่มีขาย ส่วนใหญ่เป็นพวกของที่ระลึก เสื้อผ้า โปสการ์ด... ได้แต่เดินดูๆไปก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาเดินใหม่อีกรอบ แล้วค่อยซื้อของที่ถูกใจค่ะ เรือนแถวไม้สามชั้น มีให้เห็นไม่มากนัก ส่วนมากจะเป็นโรงแรม ไม่ใช่โฮมสเตย์อย่างที่ชาวบ้านทำกันเอง
__________________
Saaychol |
|
|