|
|
|||||||
 |
|
|
Share | คำสั่งเพิ่มเติม | เรียบเรียงคำตอบ |
|
#61
21-06-2009
|
||||
|
||||
เดินกันไป คุยกันไป (พยายามไม่คิดว่าเหนื่อย แต่เสียงก็หายเป็นช่วงๆ)
ก่อนเข้าไป......ฝากกล้องไว้ข้างนอกค๊าบบบบบ(แปลจากภาษาอังกฤษสำเนียงแขกของเจ้าหน้าที่เฝ้าก่อนถึงปากทางเข้าได้ประมาณนี้) ก็เลยเพิ่งทราบว่า.....ห้ามถ่ายรูป เราก็น๊ะ เคารพกติกามหาชนเสมอ ไม่ถ่ายก็ไม่ถ่าย.....ฝากไว้กับพี่ๆที่ไม่เข้าไป เดินเข้าไป สูงขึ้น สูงขึ้น....อยากเรียกว่ามุดมากกว่า เพราะเพดานต่ำมาก บางช่วงแทบคลานเลยทีเดียว บางช่วงชันมาก เขาทำเป็นบันได มีราวไว้ให้ยึดตลอด บรรดาไกด์จำเป็น(จริงๆต้องเรียกมัคคุเทศก์บรรดาศักดิ์ เพราะเป็นพี่ๆ(ที่มี "ๆ" เพราะหลายคน)ในคณะเรานี่แหล่ะ แต่ทำการบ้านมาดี ก็เลยต้องถูกไหว้วานตลอดเลย แถมด้วยการแสดงความคิดเห็นในสิ่งที่ค้นคว้ามาด้วย ยิ่งเพิ่มอรรถรสในการคุย และฟังของพวกเรา)ของเรา เล่าให้ฟังว่า จริงๆแล้วปิรามิดที่ผู้คนเห็นครั้งแรกจะเกลี้ยงๆเกลาไม่มีอะไร เพราะเขาทำแบบไม่มีประตูทางออก เมื่อฝังพระศพแล้วก็ปิดตายกันเลย ตอนที่ผู้ค้นพบคนแรกๆมาหานี่แหล่ะ....เราถือว่าสุดยอด.....ก็มันสงสัยนี่ รู้ได้ไงเนอะว่า ควรจะเจาะตรงไหน ตรงไหนมีบันไดทางขึ้น ฯลฯ แต่ก็น๊ะ...ไม่มีอะไรที่มนุษย์สงสัยแล้วไม่แก้ไขข้อสงสัยของตัวเอง (ถึงแม้ว่าบางครั้งจะยังไม่ชัดเจนก็เถอะ) ก็เลยเป็นอย่างที่เห็นอยู่....ในปัจจุบัน มุดไป มุดมา ก็ไปสุดทางที่ห้องห้องหนึ่ง เป็นห้องสี่เหลี่ยมไม่กว้างมากนัก มีแท่นวางอยู่ที่มุมด้านหนึ่ง โดยมีช่องว่างระหว่างแท่นนั้นกับผนัง (ที่เรียกว่าแท่น เพราะพระศพและของอื่นๆทั้งหมดถูกย้ายออกไปอยู่ที่พิพิธภัณฑ์หมดแล้ว........อากาศในห้องนั้นเย็นเล็กน้อย ไม่น่าเชื่อว่าข้างนอกร้อนมั่กๆ ในนี้กลับเย็น มีช่องรอบๆ ส่องดู(พวกเรามีไฟฉายไปด้วย เพราะเราคุยกันแล้วว่าจะมามุด....) วิเคราะห์โดยพวกเราเอง(สุดท้าย ก็ถามเจ้าหน้าที่ด้วย แต่พวกเราก็เก่งอ๊ะ ทายถูก) น่าจะเอาไว้ระบายอากาศจากในนี้ออกไป สิ่งที่เรารู้สึกมหัศจรรย์มาก คือการเชื่อมหินแต่ละก้อน....เนียนมาก ดูแทบไม่ออก ต้องใช้การสังเกต(ไม่ต้องสังกา)อย่างมาก โชคดีไปกับหมอผ่าตัดหลายคน ก็เลยสังเกตเห็นได้ (555 พูดเล่น จริงๆแล้ว ถ้ามีเวลาดูจริงๆก็น่าจะเห็นแหล่ะ) เขาใช้อะไรมาประสานรอยพวกนี้น๊ะ....นั่นไง ข้อสงสัยเกิดอีกแล้ว และไม่มีคำตอบซ๊ะด้วยสิ แต่เป็นเรื่องแปลก(อาจไม่แปลกสำหรับคนอื่นน๊ะ) หลายคนพอเข้ามา ทำท่าถอนหายใจ หมุนตัวกลับมุดออกเลย บอกว่า ไม่เห็นมีอะไรเลย เสียเวลามุดขึ้นมา สำหรับพวกเรา อยู่ในนั้นมากกว่า 20 นาที ดูแทบทุกซอกเลยทีเดียว 
|
|
#62
21-06-2009
|
||||
|
||||
|
หลังการวิเคราะห์แบบเมามันส์ทั้งหมู่คณะจบลงแล้ว พวกเราก็ยกโขยงกันออกมา......
อึม!!!! สูงเหมือนกันแฮ๊ะ ตอนขึ้นไม่เท่าไหร่ ตอนลงมันเสียวๆดีเหมือนกันนนนน ก่อนไต่ระดับถึงล่างสุดก็ถ่ายรูปเก็บไว้ก่อน......ลมแรงดีจัง
|
|
#69
21-06-2009
|
||||
|
||||
|
คณะของเรา....
ตอนที่ไปเมืองจีนควบม้ากันมาแล้ว......วันนี้ก็เลยเลือก ขี่อูฐ เหอๆๆๆๆๆๆๆๆๆ "ทำไมของพี่...เขาดูสวยสง่า ก้าวย่างค่อยๆทำ แต่ของเราทำไมมันคึกจังว่ะเนี่ย" เป็นคำรำพึงรำพันของพี่ที่ขี่อูฐใกล้ๆเรา เพราะไอ้ตัวที่เรา 2 คนขี่เดินไปด้วยกัน มันชอบเตลิดออกนอกวงตลอดเลย (หรือมันคิดว่าตัวเองเป็นม้าอ๊ะ เพราะมันคอยแต่จะวิ่งตลอดเลย) คำเตือนเลยค๊าบ.....ถ้าใครกลัวความสูง อย่าแม้แต่จะคิดขี่อูฐ เพราะมันสูงเป็น2เท่าของการขี่ม้า ที่สำคัญ การรักษาสมดุลย์.....ยากมาก (ขอบอก) จะลงจะขึ้นแต่ละที หายใจไม่ทั่วท้องเลยเรา แล้วยิ่งอูฐที่คิดว่าตัวเองเป็นม้าแบบของเรากะพี่เรา ก็สนุกแน่ๆเลย อาจมีข่าว....ตกอูฐ5555555 ป.ล.รูปที่เห็น คือ รูปพี่ๆที่ได้ขี่อูฐที่เชื่องสุดๆ จึงดูสวยสง่าแบบเจ้าหญิง เจ้าชาย ส่วนอูฐของเรา.....มีคนบอกว่า สงสัยเป็นพวกนักรบอ๊ะเป่า จะวิ่ง+ไล่กวดชาวบ้านตลอดเลย (ก็ยังดีที่เป็นนักรบ ไม่เป็นคนใช้เนอะ)
|
|
|
|
Linear Mode
