#71
|
||||
|
||||
จากที่เดินไปเรียบๆ พื้นถ้ำเริ่มจะยกสูงขึ้น สายชลแหงนมองขึ้นไป บันไดยังไม่สูงมาก และพระพุทธรูปที่หันพระปฤษฎางค์(หลัง)ชนกันสี่องค์ ก็ทำให้มีแรงปีนขึ้นไปจนได้ องค์พระจตุรทิศงามมากค่ะ ถัดขึ้นไปเป็นลานกว้าง เจดีย์ที่เลียนแบบพระมหาเจดีย์ชเวดากอง องค์สีทองเหลืองอร่าม ตั้งตะหง่านอยู่... ด้านขวาของเจดีย์ เป็นที่ตั้งของพระมหามัยมุนีแห่งมัณฑะเลย์จำลอง ที่ทำได้เหมือนจริงมาก...มีผู้คนไปกราบไหว้บูชากันมากมาย
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 21-11-2014 เมื่อ 18:06 |
#72
|
||||
|
||||
เราได้แต่ยืนไหว้พระมหามยมุนีจำลอง แล้วก็เดินต่อขึ้นไปที่ชั้นบนสุดของถ้ำ ที่มีบันไดสูงชันให้ป้ายปีนขึ้นไป แต่พอเห็นทางแคบๆและผู้คนที่ยัดเยียดเบียนกันขึ้นไป และคำพูดของอาจารย์ปอที่เดินสวนลงมาที่ว่า ข้างบนแน่นมากและไม่ค่อยมีอากาศหายใจ เราก็เลยถอยลงมาข้างล่าง และเดินกลับออกไปปากถ้ำ....ไปได้แค่นี้ ก็มีความสุขอิ่มเอิบใจแล้วค่ะ
__________________
Saaychol |
#73
|
||||
|
||||
ออกจากถ้ำพระแล้ว เราเดินไปรับรองเท้า แล้วก็เดินไปล้างเท้าที่เริ่มคันยิบๆที่ริมลำธาร มีคนทำเหมือนเราอีกหลายคน บางคนไม่ใช่แค่ล้างเท้า แต่ลงไปเดินเล่น หรือไม่ก็ลงเล่นน้ำกันเป็นที่สนุกสนาน...โชคดีที่หินแถวลำธารเป็นหินปูนที่สากและไม่ลื่น หนุ่มๆสาวๆจึงเดินเล่นในลำธารกันได้สบายๆ น้ำที่ใสสะอาดและเย็นสบาย ทำให้เราอยากจะนั่งแช่น้ำอยู่อย่างนั้นนานๆ...
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 21-11-2014 เมื่อ 20:59 |
#74
|
||||
|
||||
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 21-11-2014 เมื่อ 21:00 |
#75
|
||||
|
||||
มหาเจดีย์ อันทูกันธา (Maha Ant Htoo Kan Thar Pagoda)
ใกล้จะถึงพิน อูล วิน...สองข้างทางสวยงามมาก มีบ้านและร้านอาหารสวยๆปลูกเรียงรายอยู่ริมถนนด้านหน้าผา ที่มองไปเห็นไร่นาเขียนชอุ่มผืนใหญ่ ที่อยู่บนพื้นที่ราบเชิงเขา บนยอดเขาข้างหน้า เราเห็นองค์เจดีย์สีทองสะท้อนแสงอาทิตย์ยามเย็น ดูงามจับตา น้องอาร์ตบอกว่า นั่นคือ เจดีย์อันทูกันธา (Maha Ant Htoo Kan Thar Pagoda) ที่ศักดิ์สิทธิ์ มีเรื่องเล่าว่า พระหินอ่อน 3 องค์ ที่ได้รับการแกะสลักอย่างสวยงามที่มัณฑะเลย์ ได้ถูกเคลื่อนย้ายไปจีน แต่เมื่อมาถึงยอดเขาแห่งนี้ พระองค์หนึ่งได้ตกลงมาที่พื้น แต่ไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด คนขับรถและชาวบ้านแถวนั้นได้พยายามยกพระองค์นั้นกลับขึ้นรถ แต่ทำอย่างไรๆก็ไม่สามารถยกพระขึ้นรถได้ คนขับรถเลยทิ้งพระองค์นั้นไว้ข้างทาง ต่อมามีพระภิกษุสงฆ์ที่จำวัดอยู่ที่หมู่บ้านนั้น ทราบเรื่อง จึงได้สวดภาวนาอยู่ใกล้ๆองค์พระอยู่ 7 วัน เมื่อครบกำหนดก็ลองให้ชาวบ้านช่วยกันยกองค์พระพุทธรูปขึ้นมาจากข้างถนน ปรากฏว่าสามารถยกพระพุทธรูปขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย เมื่อเห็นเช่นนั้น พระภิกษุจึงให้ตั้งองค์พระไว้ที่เดิม เพราะแน่ใจว่าพระพุทธรูปคงประสงค์จะอยู่ประจำที่นี่ ต่อมาชาวบ้านจึงช่วยกันสร้างเจดีย์ครอบองค์พระไว้
__________________
Saaychol |
#76
|
||||
|
||||
วันนั้น....กว่าเราจะเดินทางผ่าน พิน อูล วิน กลับไปถึงมัณฑะเลย์ ทานข้าวหมกเนื้อ และเข้านอนที่โรงแรม Gold Star ได้ เวลาก็ผ่านไปเกือบเที่ยงคืน วันรุ่งขึ้น เราจะต้องตื่นแต่เช้ามืด เพื่อเตรียมตัวเดินทางไปเมืองตองยีค่ะ
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 21-11-2014 เมื่อ 22:57 |
#77
|
||||
|
||||
วันที่ 3...มัณฑะเล - เจาท์เซ - อองปาน - ตองยี
เราตื่นกันตั้งแต่ตีสอง.... อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ แล้วลงไปเช็คเอาท์ออกจากโรงแรม เพื่อมุ่งหน้าไปเมืองตองยี (Taunggyi) เมืองหลวงของรัฐฉาน โดยเริ่มจากการใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ล่องไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของมัณฑะเลย์ ทานข้าวเช้าที่ เมืองเจาท์เซ (Kyaukse) ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่อง "ระบำช้าง" ที่ใช้คนสองคนแต่งตัวเป็นช้างแล้วมาเต้นระบำให้คนชม ในช่วงเทศการในเดือนตุลาคมของทุกปี จากนั้น รถจะวิ่งแยกจากทางหลวงหมายเลข 1 เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 411 ซึ่งเป็นทางเล็กๆขึ้นไปบนเขาสูงๆต่ำ แต่วิวทิวทัศน์สวยงามมาก และไม่ค่อยมีรถวิ่งเลย จนเรารู้สึกเสียวๆว่า ถ้ารถเสียหรือเกิดอุบัติเหตุ จะมีใครผ่านมาช่วยเราไหม
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 22-11-2014 เมื่อ 01:14 |
#78
|
||||
|
||||
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 22-11-2014 เมื่อ 01:28 |
#79
|
||||
|
||||
__________________
Saaychol |
#80
|
||||
|
||||
__________________
Saaychol |
|
|