![]() |
|
![]() |
|
Share | คำสั่งเพิ่มเติม | เรียบเรียงคำตอบ |
#81
|
||||
|
||||
![]() เช้าวันใหม่...สองสายตื่นนอนเตรีมตัวจะไปใส่บาตร ตั้งแต่ตีสี่กว่าๆ พออาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ก็ลงไปนั่งดื่มกาแฟที่ระเบียงด้านล่าง เพื่อคอยคุณไสวที่กำลังเตรียมของใส่บาตร และรอแขกคนอื่นๆของบ้านตาหน่วม ที่จะไปใส่บาตรกับเราด้วย ![]() ลมเย็นๆพัดโชยผ่านมา ให้รู้ว่าช่วงเวลานี้เป็นฤดูหนาวของเมืองเชียงคาน...เรานั่งคุยกับคุณไสวและแขกคนอื่นๆที่เริ่มทะยอยมารอเวลาใส่บาตร ![]() เมื่อใกล้เวลาพระมา...เราเดินออกจากบ้านตาหน่วม ที่อยู่ริมน้ำโขง ออกมานั่งบนเสื่อที่คุณไสวนำไปปูไว้ให้นั่งใส่บาตร ที่ริมถนนชายโขง ขณะนั้นยังมืดอยู่เลยค่ะ.. ![]() ของที่คุณไสวเตรียมไว้ให้เราใส่บาตรนั้น มีข้าวเหนียวหนึ่งกระติบเล็กๆ ส้ม 2 ลูก ดอกไม้ 2 ช่อ น้ำ 2 ถ้วย และน้ำเปล่าสำหรับกรวดน้ำ 1 ขันเล็กๆ เมื่อถามว่าทำไมเตรียมของไว้น้อยจัง เพราะเราเคยเห็นภาพพระที่เชียงคาน ออกมาบิณฑบาตกันยาวเหยียด ของแค่นี้คงน้อยไป คุณไสวยิ้มและบอกว่า ที่ซอย 3 นี้ มีพระจากวัดใกล้ๆ ออกบิณฑบาตเพียงสองรูปเท่านั้น ถ้าจะตักบาตรมากๆ ต้องไปแถวซอย 6 จนถึงซอย 20 โน่น... ![]()
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 14-06-2012 เมื่อ 16:58 |
#82
|
||||
|
||||
![]() แห่ะๆ...ถ้าจะให้เดินหอบของหนักๆไปตักบาตรไกลๆ ก็ขอรอตักบาตรพระสองรูปอยู่ตรงนี้ดีกว่าค่ะ คิดแล้วก็นั่งรอพระต่อไป พอแสงเงินแสงทองเริ่มจับขอบฟ้า ผู้คนมากมายก็ออกมาเดินกันอยู่แถวถนน จะมีสักกี่คนที่รอใส่บาตรนะ หรือแค่เพียงมารอถ่ายภาพเท่านั้น.. ![]() พระเดินมาจากซอย 1 แล้วค่ะ...คุณสายน้ำที่ยืนถ่ายภาพอยู่ กระโดดแผล่วมานั่งพับเพียบเตรียมตัวใส่บาตร ที่นี้เราก็เลยไม่มีภาพตอนใส่บาตรให้ดูกัน พระอวยชัยให้พรแล้วนั่นแหล่ะ คุณสายน้ำจึงลุกขึ้นมาถ่ายภาพใหม่ ![]() หลังจากใส่บาตรแล้ว เราก็นำข้าวเหนียวที่เหลือจากการใส่บาตรไว้เล็กน้อย มาปั้นๆแล้วโรยไปแถวริมถนน ตามแบบที่ได้ทำที่หลวงพระบาง เพื่อแบ่งอาหารให้สัมพเวสี แล้วตามด้วยการกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศล ให้กับญาติสนิทมิตรสหายและเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย... อ้าววววว...คุณไสวแปลงกายเป็นเด็กวัด คอยถือเข่งใส่อาหารจากการรับบิณฑบาตของพระไปเสียแล้ว ![]()
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 14-06-2012 เมื่อ 19:14 |
#83
|
||||
|
||||
![]() ตักบาตรเสร็จ รู้สึกจะอิ่มบุญ แต่ไม่ยักจะอิ่มท้อง เราเลยต้องไปหาที่รับประทานอาหารเช้ากัน วันนี้ตั้งใจจะไปทาน "ไข่กระทะ" ที่ "สุวรรณรามา"...โรงภาพยนตร์เก่าแก่ของเมืองเชียงคาน ที่ถูกดัดแปลงมาทำเป็นร้านอาหาร และร้านกาแฟ ![]() ร้านสุวรรณรามา ตั้งอยู่ที่ถนนศรีเชียงคาน ซอย 10 ด้านเดียวกับตลาดสด หาไม่ยากเพราะตั้งอยู่เกือบปากซอย ป้ายหน้าร้านบอกว่าร้านนี้มีของดัง คือไข่กระทะ..กาแฟ...ไอศครีม... ![]() ทั้งหน้าร้านและในร้าน...พยายามรักษาความเป็น "โรงหนังต่างจังหวัด" ไว้ได้อย่างดี จึงเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง นอกเหนือจากความอร่อยของไข่กระทะ จนเป็นร้านดังของเมืองเชียงคาน เช้าขึ้นมา จึงมีผู้คนเข้าแถวไปทานไข่กระทะ และถ่ายภาพกันแน่น จนถึงกับล้นออกมานอกร้าน ![]() โชคดีที่เราไปถึงเช้า จึงมีที่ให้นั่ง และสั่งไข่กระทะและกาแฟได้ก่อนที่คนจะแห่กันมา ระหว่างนั่งคอยอาหารและกาแฟ เราก็เลยกวาดสายตาและกล้องชมการตกแต่งในร้านและนอกร้านแก้เซ็ง ![]() แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 17-06-2012 เมื่อ 16:31 |
#84
|
||||
|
||||
![]() แถวม้านั่งไม้แบบพับได้...ม้วนฟิล์ม...หนังแผ่นหน้าโรง...โปสเตอร์...ทำให้คิดถึงโรงหนังสมัยก่อนได้ดี ![]() จะดูชั้นบนหรือชั้นล่างดีนะ... ![]() ป้ายชื่อร้าน แขวนอยู่คู่กับภาพของ "มิตร ชัยบัญชา" พระเอกดังสมัยสองสายยังเด็ก ![]() ป้ายบอกเวลาเปิดปิด และ รายการอาหาร จะสั่งอะไรก็ต้องมาดูที่ป้ายนี้ แล้วจดใส่กระดาษที่มีให้บนโต๊ะ เดินเอาไปส่งที่คนชงกาแฟเอง จักรยานมีเครื่องที่เห็น เขามีป้ายบอกว่าเหลืออยู่คันเดียวในเชียงคาน ![]()
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 14-06-2012 เมื่อ 21:01 |
#85
|
||||
|
||||
![]() ป้ายโปสเตอร์ที่เขาติดไว้หน้าโรงหนัง เป็นภาพของ "สรพงศ์ ชาตรี" ในเรื่อง "เสือภูเขา" ซึ่งสายชลเคยดูมานานกว่าสามสิบปีแล้ว จนจำไม่ได้ว่าเด็กที่เปลือยกายโชว์อยู่นั้นคือใคร ป่านฉะนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง... ![]() จากสุวรรณรามา มองลึกเข้าไปในซอย ก็เห็นตลาดสดเมืองเชียงคาน ทานอาหารเช้าเสร็จ จะไปเดินซื้อของในตลาดก็สะดวกสบาย ![]() ร้านสุวรรณรามานี้ไม่มีเด็กเสริฟนะคะ จะทานอะไร เราต้องบริการตัวเอง ในเช้าวันนั้น กว่าเราจะถูกเรียกไปรับไข่กระทะ และ กาแฟ มาเป็นอาหารมื้อเช้าได้ เวลาก็ผ่านไปกว่าสามสิบนาที ที่ช้านั้น เป็นเพราะแม่ครัวของร้านมีอยู่คนเดียว คนชงกาแฟกับแคชเชียร์ก็เป็นคนๆเดียวกัน กว่าเราจะได้ทานได้ดื่ม ก็เกิดอาการหน้ามืดตาลาย ไม่ได้ถ่ายภาพอาหารมาให้ดู อาจจะเพราะหิวจัด และระหว่างทาน เราไพล่ไปคิดถึงไข่กระทะกับกาแฟที่ร้าน "ทานตะวัน" เมืองหนองคาย ที่น้องดื้อเคยพาไปทาน ซึ่งอร่อยกว่านี้มากมายนัก... ![]()
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 15-06-2012 เมื่อ 13:02 |
#86
|
||||
|
||||
![]() แม้อาหารเช้าของเราจะไม่อร่อยนัก แต่ก็ทำให้อิ่มท้อง....ที่นี้ ก็ได้เวลาเที่ยวชมเมืองเชียงคานกันต่อแล้วล่ะค่ะ อ่านหนังสือท่องเที่ยวเมืองเชียงคานแล้ว ที่ผ่านมา เรายังไม่ได้ไปชมจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่แถวๆแก่งคุดคู้ เราจึงควบเจ้ากระต่ายขาววิ่งขึ้นไปทางเหนือ มุ่งหน้าสู่แก่งคุดคู้กันอีกครั้ง พอถึงเสาหลักกิโลเมตรอันใหญ่ที่แก่งคุดคู้แล้ว เราก็เลี้ยวซ้ายไปตามถนนเลียบแม่น้ำโขง ผ่านร้านอาหารริมโขงที่เราเคยมานั่งทานไม่นานนัก ก็ถึงจุดที่เราจะมาชมกัน นั่นคือ องค์จำลอง "อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี(ย่าโม)" ของเมืองเชียงคาน ![]() ตัวอนุสาวรีย์จำลอง ตั้งอยู่บนลานปูนกว้างด้านซ้ายของถนนเลียบริมโขง ด้านหน้าของอนุสาวรีย์เป็นรูปปั้นผีตาโขน ![]() เบื้องหลังอนุสาวรีย์ มีพระเจดีย์ประดิษฐานอยู่สามองค์ คือ พระบรมธาตุเจดีย์ศรีกัลยาณิวัฒนามิ่งมงคลสยาม (อยู่ตรงกลาง) พระบรมธาตุเจดีย์ทองศรีเชียงคานจุฬามณี (อยู่ด้านขวา) พระบรมธาตุเจดีย์เงินศรีเชียงคานจุฬามณี (อยู่ด้านซ้าย) ซึ่งทั้งสามเจดีย์ สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ จัดสร้างขึ้นโดย มูลนิธิอุบลรังสีจุฬามณี (โดยอาจารย์ เกรียงไกร ชำนิการโกศล) ![]() ด้านข้างลานอนุสาวรีย์ มีบ้านพักเรือนไม้หน้าตาดูดี ให้เช่าพัก ![]()
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 15-06-2012 เมื่อ 23:15 |
#87
|
||||
|
||||
![]() อีกฟากถนนของที่ตั้งอนุสาวรีย์ย่าโมจำลอง มูลนิธิอุบลรังสีจุฬามณีได้สร้างสวนสาธารณะเพื่อสุขภาพขึ้น โดยตั้งเลาะไปตามริมฝั่งแม่น้ำโขง สิ่งที่น่าสนใจก็คือ รูปปั้น "ผีขนน้ำแห่บั้งไฟ" ![]() ผีขนน้ำ (ไม่ใช่ผีตาโขน) เป็นประเพณีการละเล่นของชาวบ้านนาซ่าว ตำบลนาซ่าว อำเภอเชียงคาน ซึ่งสามารถอ่านรายละเอียดได้ที่นี่ค่ะ http://travel.sanook.com/767374/%E0%...8%B2%E0%B8%A7/ ด้านซ้ายของรูปปั้นผึขนน้ำ เป็นอาคารกังหันลมแบบที่เราเห็น ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ได้ทราบต่อมาว่านั่นคือ "ห้องหุ่นผีตาโขนบก และ ผึขนน้ำ" แต่วันที่เราไป ไม่ได้เปิดให้เข้าชม ![]() ที่ชอบใจมาก คือบ้านทรงไทยซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ติดกับที่ตั้งอนุสาวรีย์แม่ย่าโม ชื่อ บ้านเจ้าคำ ซึ่งสวยงามและน่าพักอาศัยมากค่ะ ภายในบริเวณบ้านเจ้าคำยังมี อาคารห้องสมุดหอศิลป์เฉลิมพระเกียรติ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นห้องสมุดและหอศิลป์ สำหรับเด็กและเยาวชนที่สนใจ บรรจุจัดเก็บเอกสาร หนังสือ ตำราค้นคว้าที่ค่อนข้างจะหาได้ยากในพื้นที่ ภาพประวัติเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯและพระราชวงศ์จักรี และ ห้องเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิ วัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ประดิษฐานพระบรม สารีริกธาตุ ซึ่งได้รับประทานจากสมเด็จพระสังฆราชฯ เพื่อให้ประชาชนผู้สนใจได้สักการบูชา ทั้งหมดทั้งสิ้นนี้ สร้างโดย มูลนิธิอุบลรังสีจุฬามณี.... ![]()
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 17-06-2012 เมื่อ 16:32 |
#88
|
||||
|
||||
![]() เราเดินเล่นและซื้อของ อยู่ที่แก่งคุดคู้อยู่จนบ่ายคล้อย แล้วก็เข้าไปเตร็ดเต็ดเตร่อยู่แถวริมน้ำโขงของเมืองเชียงคาน... ![]() มองจากฝั่งไทย เห็นท่าน้ำของเมืองสานะคาม หรือ ชนะคราม (ชนะสงคราม) ซึ่งเป็นเมืองที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ทางยุทธศาสตร์ สมัยราชอาณาจักรล้านช้าง ซึ่งตามตำนาน บอกว่าเมืองเชียงคามของไทย ก็เคยตั้งอยู่ที่บริเวณเมืองนี้ ก่อนจะอพยพโยกย้าย ข้ามมาอยู่ฝั่งไทย ตัวเมืองสานะคามจริงๆแล้ว ไม่ได้อยู่ตรงข้ามเมืองเชียงคามซะเลยทีเดียว แต่อยู่ห่างจากบริเวณท่าน้ำที่เห็น ลงไปทางใต้ราว 2-3 กิโลเมตร หรือแถวๆภูเขาที่เห็นในภาพ...
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 18-06-2012 เมื่อ 11:55 |
#89
|
||||
|
||||
![]() พอตกตอนเย็นก็กลับไปนั่งเล่นบนห้องพัก ที่บ้านตาหน่วม ได้ทันเห็นนกกระยางบินจากฝั่งลาว กลับมานอนฝั่งไทยพอดี ![]() เวลาที่เชียงคานเดินช้าจริงๆค่ะ....เรานั่งเล่น นั่งคุยกันไปเรื่อยๆ จนถึงยามเย็นย่ำสนธยา แล้วก็พากันไปหาอะไรอร่อยๆ เดินไปทานไปอยู่ที่ถนนคนเดินชายโขง.... ![]()
__________________
Saaychol |
#90
|
||||
|
||||
![]() ภูเรือ เช้าวันใหม่...เราตื่นกันแต่เช้ามืด (อีกแล้ว) เพราะวันนี้เราจะไปเที่ยวกันไกลหน่อยค่ะ คือเราจะใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 201 สายเชียงคาน-เลย แล้วแยกไปเที่ยวภูเรือ โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 203 ส่วนขากลับ เราจะแวะเข้าไปเยี่ยมภูหลวงสักหน่อย แล้วค่อยขับรถวนกลับเชียงคานเป็นวงกลม โดยใช้เส้นทางภูหลวง-ท่าลี่ ซึ่งจะเลาะเรื่อยไปตามลำน้ำเหืองต่อกับลำน้ำโขง จนกลับถึงเชียงคาน ![]() ทางหลวง 201 เป็นถนนไฮเวย์ 4 เลนส์ ทำให้การเดินทางระยะทาง 40 กว่ากิโลเมตร จนถึงทางแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 203 เป็นไปอย่างสะดวกสบายและรวดเร็ว เมื่อเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 203 ซึ่งแม้จะเป็นถนนสองเลนส์ที่รถวิ่งสวนกัน แต่ถนนก็ดีมากและสวยมาก เพียง 50 กิโลเมตร เราก็ถึงทางแยกเข้าภูเรือ เลี้ยวไปตามทางคดๆโค้งๆ ที่สองข้างทางเป็นรีสอร์ตสวยๆราว 3 กิโลเมตร เราก็ถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ของที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูเรือ...
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 30-06-2012 เมื่อ 16:56 |
![]() |
|
|