เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 17-02-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่ลงปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้แล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคกลางและภาคตะวันออกในวันนี้ ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้เข้ามา ปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงเกิดขึ้นเป็นบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่แปรปรวนนี้ไว้ด้วย สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้เริ่มมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้น


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 17 - 21 ก.พ. 64 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่งเกิดขึ้นในระยะแรก หลังจากนั้นอากาศจะหนาวเย็นลงกับมีลมแรง โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

หลังจากนั้นในวันที่ 22 ก.พ. 64 บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้จะมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาบางพื้นที่ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลงและคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 17 - 18 ก.พ. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองที่จะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 19 - 21 ก.พ. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ









__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 17-02-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


ยืนยัน! มุกยักษ์สีส้มในหอยกระโจงโดงเหลืองที่แหลมฉบัง เป็นของแท้ 100%



ศูนย์ข่าวศรีราชา - ยืนยันแล้ว! มุกยักษ์สีส้มขนาดใหญ่ที่หนุ่มผู้โชคดีชาวเพชรบูรณ์พบในหอยกระโจงโดงเหลือง จากสะพานปลาแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เป็น "มุกเมโล" แท้ 100% น้ำหนักกว่า 65.57 กะรัต

จากกรณีที่หนุ่มเพชรบูรณ์ วัย 40 ปี ซึ่งมีอาชีพขับรถหัวลากในเขตแหลมฉบัง จ.ชลบุรี พบเม็ดมุกยักษ์สีส้มที่มีลักษณะคล้าย "มุกเมโล" ซึ่งเป็นมุกหายากและคาดว่าน่าจะเป็นมุกชนิดเดียวกันกับที่เป็นข่าวโด่งดังเมื่อไม่นานนี้ หลังได้ไปหาซื้อหอยกระโจงโดงขนาดใหญ่จากสะพานปลาแหลมฉบัง มาต้มกินกับครอบครัว แต่กลับโชคดีพบเม็ดมุกอยู่ภายในตัวหอยที่ถูกต้มจนสุก

กระทั่งได้นำมุกดังกล่าวไปให้ผู้เชี่ยวชาญในกรุงเทพมหานคร ได้ตรวจสอบว่าเป็นมุกหายากจริงหรือไม่นั้น



ล่าสุด วันนี้ (16 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายมลเทียร จันสุข หนุ่มเพชรบูรณ์ผู้โชคดี ว่า หลังจากตนเองและ น.ส.วาสนา แสงจันทร์ ภรรยาได้นำเม็ดมุกที่เจอในหอยกระโจงโดงเหลืองที่ซื้อมาจาก นางสุมาลี ฮวดเฮง อายุ 56 ปี แม่ค้าขายอาหารทะเลสด "เรือเฮงวารี" บริเวณสะพานปลาแหลมฉบัง ไปเข้ารับการตรวจที่สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์กรมหาชน) สำนักงานใหญ่ เขตบางรัก กรุงเทพฯ

ผลปรากฏว่ามุกที่นำไปตรวจสอบเป็น "มุกเมโล" หายากของแท้ 100% ที่เกิดจากธรรมชาติในหอยและถือเป็นมุกหายาก โดยมีน้ำหนัก 65.57 กะรัต และทางศูนย์ฯ ได้ออกใบรับรองเพื่อเป็นการยืนยันเป็นที่เรียบร้อย

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าหลังได้รับผลการตรวจยืนยันที่ชัดเจนแล้ว นายมลเทียร และครอบครัวได้นำ "มุกเมโล" ไปเก็บรักษาไว้ที่ธนาคารเพื่อความปลอดภัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

พร้อมบอกว่า หากมีผู้สนใจที่จะครอบครองสามารถติดต่อเพื่อตกลงราคากันได้ เนื่องจากทราบมาว่ามุกที่ตนเองและภรรยาได้มาครอบครองมีราคาสูงถึงหลักล้านบาท

"รู้สึกดีใจเหมือนถูกรางวัลใหญ่จากสลากกินแบ่งรัฐบาลเลยทีเดียว และหากขายได้ราคาดีตามที่พอจะรู้มาก็จะนำเงินที่ได้ไปใช้หนี้สินให้หมด ไม่ว่าจะเป็นค่างวดรถยนต์กระบะ หลังจากนั้น คงขับรถหัวลากอีกสักพักก่อนจะกลับไปใช้ชีวิตบั้นปลายกับครอบครัวที่บ้านเกิด" นายมลเทียร กล่าว


https://mgronline.com/local/detail/9640000015263

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 17-02-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก มติชน


ฟักตัวแล้ว ลูกเต่ากระ แม่ศรีสุดา อุทยานแห่งชาติอ่าวสยาม



วันที่ 16 กุมภาพันธ์ นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก นายภัทร อินทรไพโรจน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติอ่าวสยาม (เตรียมการ) ว่า เมื่อเวลาประมาณ 06.54 น. เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติอ่าวสยาม (เตรียมการ) ร่วมกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิฟื้นฟูทรัพยากร ทะเลสยาม เฝ้าสังเกตการณ์การฟักไข่ของเต่ากระ รังที่ 5 (รังสุดท้ายของปี 63) ซึ่งเป็นไข่ของ "แม่ศรีสุดา" หมายเลขไมโครชิพ 933076400530527 จำนวนไข่ทั้งหมด 105 ฟอง มีระยะเวลาการฟักตัว 72 วัน (6 ธ.ค. 63 ? 16 ก.พ. 64)

สำหรับไข่เต่าทั้งหมด ได้ฟักเป็นตัว ทั้งหมด 50 ตัว คิดเป็น 48 % และไม่ฟักเป็นตัว (ตาย) ด้วยสาเหตุอื่น จำนวน 55 ฟอง คิดเป็น 52 %



สำหรับ ลูกเต่ากระ จำนวน 50 ตัว นั้น เจ้าเจ้าหน้าที่มูลนิธิฟื้นฟูทรัพยากร ทะเลสยาม จะเป็นผู้ดูแลในการอนุบาลฯ เพื่อปล่อยคืนสู่ธรรมชาติต่อไป

สรุปการขึ้นวางไข่ของแม่เต่ากระ (แม่ศรีสุดา) ตั้งแต่เดือนกันยายน 2563 ถึงกุมภาพันธ์ 2564 นั้น มีการขึ้นวางไข่ ทั้งหมด 5 รัง รวม 792 ฟอง โดยมีไข่ที่ฟักเป็นตัว ทั้งหมด 558 ตัว คิดเป็น 70 % และไข่ที่ไม่ฟักเป็นตัว (ตาย) ด้วยสาเหตุอื่น ทั้งหมด 234 ฟอง คิดเป็น 30 % ทั้งนี้รวมระยะเวลาในการฟักตัวของไข่ เฉลี่ย 66 วัน


https://www.matichon.co.th/local/qua...e/news_2582112


*********************************************************************************************************************************************************


ปลาตายปริศนาเกลื่อนหาดในชิลี หวั่นเป็นเพราะ Climate Change



ปลาตายปริศนาเกลื่อนหาดในชิลี หวั่นเป็นเพราะ Climate Change
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่าที่ประเทศชิลี เกิดเหตุปรากฏการณ์ผิดปกติ โดยพบปลาทะเลถูกคลื่นซัดขึ้นมาเกยตื้นบนชายหาดเป็นจำนวนมาก

เหตุการดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และยังคงมีปลาถูกคลื่นซัดขึ้นมาเกยตื้นบริเวณชายหาดฮอร์โคเนส ในภูมิภาคบิโอบิโอ ตอนใต้ของชิลีอย่างต่อเนื่อง โดยนอกจากปลาแล้วยังมีสัตว์น้ำประเภทต่างๆเช่นปูที่ถูกซัดขึ้นมาเกยตื้นด้วย ท่ามกลางความกังวลว่าอาจเป็นผลจากวิกฤตการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกหรือไม่



รายงานระบุว่า รัฐบาลกำลังเข้าตรวจสอบหาสาเหตุของปลาเกยตื้นเป็นจำนวนมากดังกล่าว โดยคาดว่าอาจเกิดจากแบคทีเรียบางชนิดที่ทำให้อ็อกซิเจนในน้ำลดต่ำลง


https://www.matichon.co.th/foreign/news_2581688

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 01:56


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger