#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่ลงปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้แล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคกลางและภาคตะวันออกในวันนี้ ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้เข้ามา ปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงเกิดขึ้นเป็นบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่แปรปรวนนี้ไว้ด้วย สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้เริ่มมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้น กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 17 - 21 ก.พ. 64 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่งเกิดขึ้นในระยะแรก หลังจากนั้นอากาศจะหนาวเย็นลงกับมีลมแรง โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร หลังจากนั้นในวันที่ 22 ก.พ. 64 บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้จะมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาบางพื้นที่ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลงและคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 17 - 18 ก.พ. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองที่จะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 19 - 21 ก.พ. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
ยืนยัน! มุกยักษ์สีส้มในหอยกระโจงโดงเหลืองที่แหลมฉบัง เป็นของแท้ 100% ศูนย์ข่าวศรีราชา - ยืนยันแล้ว! มุกยักษ์สีส้มขนาดใหญ่ที่หนุ่มผู้โชคดีชาวเพชรบูรณ์พบในหอยกระโจงโดงเหลือง จากสะพานปลาแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เป็น "มุกเมโล" แท้ 100% น้ำหนักกว่า 65.57 กะรัต จากกรณีที่หนุ่มเพชรบูรณ์ วัย 40 ปี ซึ่งมีอาชีพขับรถหัวลากในเขตแหลมฉบัง จ.ชลบุรี พบเม็ดมุกยักษ์สีส้มที่มีลักษณะคล้าย "มุกเมโล" ซึ่งเป็นมุกหายากและคาดว่าน่าจะเป็นมุกชนิดเดียวกันกับที่เป็นข่าวโด่งดังเมื่อไม่นานนี้ หลังได้ไปหาซื้อหอยกระโจงโดงขนาดใหญ่จากสะพานปลาแหลมฉบัง มาต้มกินกับครอบครัว แต่กลับโชคดีพบเม็ดมุกอยู่ภายในตัวหอยที่ถูกต้มจนสุก กระทั่งได้นำมุกดังกล่าวไปให้ผู้เชี่ยวชาญในกรุงเทพมหานคร ได้ตรวจสอบว่าเป็นมุกหายากจริงหรือไม่นั้น ล่าสุด วันนี้ (16 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายมลเทียร จันสุข หนุ่มเพชรบูรณ์ผู้โชคดี ว่า หลังจากตนเองและ น.ส.วาสนา แสงจันทร์ ภรรยาได้นำเม็ดมุกที่เจอในหอยกระโจงโดงเหลืองที่ซื้อมาจาก นางสุมาลี ฮวดเฮง อายุ 56 ปี แม่ค้าขายอาหารทะเลสด "เรือเฮงวารี" บริเวณสะพานปลาแหลมฉบัง ไปเข้ารับการตรวจที่สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์กรมหาชน) สำนักงานใหญ่ เขตบางรัก กรุงเทพฯ ผลปรากฏว่ามุกที่นำไปตรวจสอบเป็น "มุกเมโล" หายากของแท้ 100% ที่เกิดจากธรรมชาติในหอยและถือเป็นมุกหายาก โดยมีน้ำหนัก 65.57 กะรัต และทางศูนย์ฯ ได้ออกใบรับรองเพื่อเป็นการยืนยันเป็นที่เรียบร้อย ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าหลังได้รับผลการตรวจยืนยันที่ชัดเจนแล้ว นายมลเทียร และครอบครัวได้นำ "มุกเมโล" ไปเก็บรักษาไว้ที่ธนาคารเพื่อความปลอดภัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมบอกว่า หากมีผู้สนใจที่จะครอบครองสามารถติดต่อเพื่อตกลงราคากันได้ เนื่องจากทราบมาว่ามุกที่ตนเองและภรรยาได้มาครอบครองมีราคาสูงถึงหลักล้านบาท "รู้สึกดีใจเหมือนถูกรางวัลใหญ่จากสลากกินแบ่งรัฐบาลเลยทีเดียว และหากขายได้ราคาดีตามที่พอจะรู้มาก็จะนำเงินที่ได้ไปใช้หนี้สินให้หมด ไม่ว่าจะเป็นค่างวดรถยนต์กระบะ หลังจากนั้น คงขับรถหัวลากอีกสักพักก่อนจะกลับไปใช้ชีวิตบั้นปลายกับครอบครัวที่บ้านเกิด" นายมลเทียร กล่าว https://mgronline.com/local/detail/9640000015263
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก มติชน
ฟักตัวแล้ว ลูกเต่ากระ แม่ศรีสุดา อุทยานแห่งชาติอ่าวสยาม วันที่ 16 กุมภาพันธ์ นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก นายภัทร อินทรไพโรจน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติอ่าวสยาม (เตรียมการ) ว่า เมื่อเวลาประมาณ 06.54 น. เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติอ่าวสยาม (เตรียมการ) ร่วมกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิฟื้นฟูทรัพยากร ทะเลสยาม เฝ้าสังเกตการณ์การฟักไข่ของเต่ากระ รังที่ 5 (รังสุดท้ายของปี 63) ซึ่งเป็นไข่ของ "แม่ศรีสุดา" หมายเลขไมโครชิพ 933076400530527 จำนวนไข่ทั้งหมด 105 ฟอง มีระยะเวลาการฟักตัว 72 วัน (6 ธ.ค. 63 ? 16 ก.พ. 64) สำหรับไข่เต่าทั้งหมด ได้ฟักเป็นตัว ทั้งหมด 50 ตัว คิดเป็น 48 % และไม่ฟักเป็นตัว (ตาย) ด้วยสาเหตุอื่น จำนวน 55 ฟอง คิดเป็น 52 % สำหรับ ลูกเต่ากระ จำนวน 50 ตัว นั้น เจ้าเจ้าหน้าที่มูลนิธิฟื้นฟูทรัพยากร ทะเลสยาม จะเป็นผู้ดูแลในการอนุบาลฯ เพื่อปล่อยคืนสู่ธรรมชาติต่อไป สรุปการขึ้นวางไข่ของแม่เต่ากระ (แม่ศรีสุดา) ตั้งแต่เดือนกันยายน 2563 ถึงกุมภาพันธ์ 2564 นั้น มีการขึ้นวางไข่ ทั้งหมด 5 รัง รวม 792 ฟอง โดยมีไข่ที่ฟักเป็นตัว ทั้งหมด 558 ตัว คิดเป็น 70 % และไข่ที่ไม่ฟักเป็นตัว (ตาย) ด้วยสาเหตุอื่น ทั้งหมด 234 ฟอง คิดเป็น 30 % ทั้งนี้รวมระยะเวลาในการฟักตัวของไข่ เฉลี่ย 66 วัน https://www.matichon.co.th/local/qua...e/news_2582112 ********************************************************************************************************************************************************* ปลาตายปริศนาเกลื่อนหาดในชิลี หวั่นเป็นเพราะ Climate Change ปลาตายปริศนาเกลื่อนหาดในชิลี หวั่นเป็นเพราะ Climate Change สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่าที่ประเทศชิลี เกิดเหตุปรากฏการณ์ผิดปกติ โดยพบปลาทะเลถูกคลื่นซัดขึ้นมาเกยตื้นบนชายหาดเป็นจำนวนมาก เหตุการดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และยังคงมีปลาถูกคลื่นซัดขึ้นมาเกยตื้นบริเวณชายหาดฮอร์โคเนส ในภูมิภาคบิโอบิโอ ตอนใต้ของชิลีอย่างต่อเนื่อง โดยนอกจากปลาแล้วยังมีสัตว์น้ำประเภทต่างๆเช่นปูที่ถูกซัดขึ้นมาเกยตื้นด้วย ท่ามกลางความกังวลว่าอาจเป็นผลจากวิกฤตการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกหรือไม่ รายงานระบุว่า รัฐบาลกำลังเข้าตรวจสอบหาสาเหตุของปลาเกยตื้นเป็นจำนวนมากดังกล่าว โดยคาดว่าอาจเกิดจากแบคทีเรียบางชนิดที่ทำให้อ็อกซิเจนในน้ำลดต่ำลง https://www.matichon.co.th/foreign/news_2581688
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|