สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอาทิตย์ที่ 28 พฤษภาคม 2566

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์


"เจ้าท่า" เร่งตรวจสอบคราบน้ำมันบริเวณชายหาดพัทยา



"เจ้าท่า" ลงพื้นที่ตรวจสอบคราบน้ำมันบริเวณชายหาดพัทยา เร่งทำความสะอาด ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สั่งสืบสวนแหล่งที่มา พร้อมดำเนินตามกฏหมายอย่างเคร่งครัด

ฝ่ายประชาสัมพันธ์?กรมเจ้าท่า?(จท.)?แจ้งว่า?ตามที่สื่อออนไลน์เผยแพร่ข่าวพบคราบน้ำมัน?บริเวณชายหาดจอมเทียนระหว่างซอยจอมเทียน?8?และ?9?ต.หนองปรือ?อ.บางละมุง?จ.ชลบุรี?ระยะทางประมาณ?250?เมตร?เมื่อวันที่?26?พ.ค.66?นั้น?สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพัทยา?ได้รับแจ้งประสานงานจากเทศกิจเมืองพัทยาตามกรณีดังกล่าว?จึงลงพื้นที่ตรวจสอบทันที?จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบกลุ่มก้อนของวัตถุสีดำกระจายอยู่บริเวณพื้นที่ชายหาดโดยรอบ?และพบคราบน้ำมันเป็นแผ่นฟิล์มลอยอยู่ในทะเลใกล้ชายฝั่งบางส่วน?

จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่เทศกิจเมืองพัทยา?ตรวจพบถุงสีดำลอยมาติดอยู่บนชายหาด?ภายในถุงมีลักษณะเป็นก้อนน้ำมันหรือน้ำมันเครื่อง?เจ้าหน้าที่จึงจัดเก็บไว้เป็นหลักฐาน?และตรวจสอบในพื้นที่บริเวณใกล้เคียง?ทั้งอ่าวพัทยาอ่าวนาจอมเทียนด้านทิศเหนือ?และอ่าวนาจอมเทียนด้านทิศใต้?ซึ่งยังไม่พบคราบน้ำมันแพร่กระจายในพื้นที่ดังกล่าวแต่เป็นเพียงการพบคราบน้ำมันเฉพาะจุด?

สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพัทยา?ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้อง?เพื่อดำเนินการพิสูจน์ให้แน่ชัดว่าเป็นวัตถุหรือสารเคมีประเภทใด?เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน?พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมายในส่วนที่เกี่ยวข้องพร้อมนี้?ได้บูรณาการกับหน่วยงานท้องถิ่น?(เมืองพัทยา)?เพื่อจัดเก็บ?ทำความสะอาดคราบวัตถุดังกล่าวให้หมดจากพื้นที่ชายหาดและในทะเลโดยเร็ว?เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม


https://www.dailynews.co.th/news/2376569/

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก ไทยโพสต์


ฉลามแน่นอ่าวมาหยา! ดร.ธรณ์ เผยช่วงพีกเที่ยววันละ 2-3 พันคน ลงน้ำแค่เข่าไม่มีปัญหารุกล้ำ



27 พ.ค.2566 - เฟซบุ๊ก "Thon Thamrongnawasawat" ของ ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม และอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ภาพฉลามในอ่าวมาหยา พร้อมระบุว่า เช้าวันเสาร์ พาเพื่อนธรณ์มาอัปเดตเรื่องฉลามอ่าวมาหยาอีกสักครั้ง หลังเปิดการท่องเที่ยว คนมาอ่าวมาหยา แต่เราจำกัดจำนวนคนและย้ายทางเข้าไปด้านหลัง ฉลามจึงยังคงอยู่ในอ่าวมาหยา

ในช่วงพีคท่องเที่ยวที่ผ่านมา มีคนไปมาหยาวันละ 2-3 พันคน แต่เมื่อคนลงน้ำได้แค่เข่า ฉลามกับคนจึงอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ไม่เคยมีปัญหาใดๆ แต่เรือที่เยอะขึ้นจากการท่องเที่ยวฟื้นตัว จอดเรียงรายกันอยู่ปากอ่าว ทำให้ฉลามที่เข้ามาในอ่าวลดลงเมื่อเทียบกับสมัยโควิด

อย่างไรก็ตาม ยังมีฉลามอยู่ในอ่าวหลายสิบตัว ขึ้นกับช่วงเวลา เพราะฉลามจะว่ายเข้าว่ายออกเป็นระยะ

ฉลามยังเข้ามาใกล้ฝั่ง ถ้าเป็นตัวใหญ่มักเข้ามาในช่วงเช้าตรู่หรือเย็นๆ ที่ไม่ค่อยมีคน หรือแล้วแต่จังหวะที่บอกได้ยาก ถ้าเป็นลูกฉลาม ยังเข้ามาตลอด นักท่องเที่ยวไปแล้วเจอประจำ จนกลายเป็นจุดขายของอ่าวมาหยา

เมื่อเข้าสู่ช่วงมรสุม นักท่องเที่ยวน้อยลง อ่าวมาหยามีเวลาหยุดพัก เป็นช่วงคืนทะเลให้คุณฉลาม การศึกษาฉลามมาหยาดำเนินต่อเนื่องมาร่วมปี เพื่อหาทางนำข้อมูลมาเรียนรู้เพื่อเข้าใจพวกเธอให้มากขึ้น ก่อนจะหาทางอนุรักษ์ต่อไป

ปัจจุบันโครงการนี้ถือเป็นหนึ่งเดียวในไทยที่ศึกษาพฤติกรรมฉลามจริงจัง เป็นงานร่วมกันระหว่างกรมอุทยานกับนักวิจัยอาสาสมัครหลายท่าน

ต้นเดือนมิ.ย. จะมีประชุมที่ปรึกษาอุทยาน ผมจะพยายามหาทางสนับสนุนโครงการให้ดำเนินต่อไป เพราะเรายังต้องการข้อมูลอีกเยอะเพื่อดูแลพวกเธอ

การปกป้องอ่าวมาหยาให้ฉลาม ทำให้มีรายงานการพบฉลามครีบดำตามจุดต่างๆ รอบเกาะพีพีมากกว่าที่อื่นๆ ในทะเลไทยโดยเฉลี่ย

เป้าหมายจึงยกระดับจากการรักษาฉลามให้อยู่คู่มาหยา กลายเป็นการทำให้มาหยาเป็นไข่แดง เพิ่มจำนวนฉลามในพื้นที่ใกล้เคียงให้มากที่สุด ให้มีความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติดั้งเดิม เพราะเรามั่นใจว่า เมื่อราชากลับคืนสู่บัลลังก์

เมื่อนั้นทะเลจะงดงาม? ทุกท่านที่ทุ่มเทเพื่อทะเลอันเป็นที่รัก


https://www.thaipost.net/general-news/386277/

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก Nation TV


ตื่นตา น้ำทะเลลดฮวบ "สุสานเรือประมง" โผล่ที่อ่าวแสมสาร



ตื่นตา อ่าวแสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังน้ำทะเลลดฮวบ ระยะทางยาวหลายร้อยเมตร สุสานเรือประมงใต้ทะเลโผล่ กลายเป็นจุดถ่ายรูป และดำน้ำของเหล่านักท่องเที่ยว

27 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าว เปิดเผยภาพสวยงามที่ผุดขึ้นจากใต้ท้องทะเล บริเวณอ่าวแสมสาร ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ภายหลังเกิดปรากฏการณ์น้ำลง เป็นระยะทางยาวหลายร้อยเมตร ทำให้มองเห็นสิ่งที่อยู่บนผืนทรายใต้ท้องทะเลแห่งนี้อย่างชัดเจน

ซึ่งช่วงน้ำลด บริเวณจุดชมวิวหน้าหาดสีทอง ห่างจากชายฝั่งออกไปในทะเลราว 300 เมตร จนมองเห็นสุสานเรือใต้ทะเล ที่ผุดซากเรือประมงขนาดใหญ่ ตั้งตระหง่านอยู่บนผืนทราย และจมอยู่ใต้ทะเลหลายลำ มาเป็นเวลานานนับปี ทำให้ที่แห่งนี้เปรียบเสมือนบ้านปลา เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเลจำนวนมาก ตลอดจน เป็นจุดถ่ายรูป และดำน้ำของเหล่านักท่องเที่ยว อีกด้วย


https://www.nationtv.tv/lifestyle/travel/378917476