สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพุธที่ 28 ธันวาคม 2565

[สายน้ำ]

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นยังคงปกคลุมประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีอากาศเย็นถึงหนาว ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น รวมถึงระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้นเนื่องสภาพอากาศแห้งในระยะนี้ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังอ่อน โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังไว้ด้วย

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 28-30 ธ.ค. 65 คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจะเคลื่อนเข้าปกคลุมตอนบนของภาคเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นบางแห่ง ในขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นระลอกใหม่ได้แผ่ลงมาถึงประเทศจีนตอนใต้แล้ว และจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยในวันที่ 29 ธ.ค. 65 ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 19-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 27 ? 28 ธ.ค. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นยังคงปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า สำหรับบริเวณอ่าวไทยตอนบนและห่างฝั่งทะเลอันดามัน ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร อ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 29 ธ.ค. 65 ? 2 ม.ค. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาว โดยอุณหภูมิจะลดลง 2 - 4 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 2-3 เมตร
อนึ่งในช่วงวันที่ 28 - 30 ธ.ค

อนึ่งในช่วงวันที่ 28 - 30 ธ.ค. คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกในระดับบนจะเคลื่อนผ่านตอนบนของภาคเหนือ ทำให้ภาคเหนือตอนบนมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งเกิดขึ้นได้


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น และระวังภัยที่เกิดจากลมแรงและอากาศแห้ง สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง ตลอดช่วง

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด


พบซาก "โลมาอิรวดี" ติดตะขอเบ็ด ปีนี้ตายแล้ว 11 ตัว วอนคุมเข้ม-หวั่นสูญพันธุ์



พบซาก "โลมาอิรวดี" ? ซินหัว รายงานจากแถลงการณ์ขององค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) ประจำกัมพูชา ถึงเหตุสลดกรณีพบซาก "โลมาอิรวดี" หรือ "โลมาแม่น้ำโขง" สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ขั้นวิกฤต ติดตะขอเบ็ดราวจนตายในจังหวัดกระแจะ ทางตะวันออกเฉียงเหนือ และถือเป็นโลมาอิรวดีตัวที่ 11 ที่ตายในกัมพูชาในปีนี้

ผลการตรวจสอบซากโลมาอิรวดีโดยทีมวิจัยของสำนักบริหารประมงกระแจะ และองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล พบว่าโลมาที่ตายเป็นโลมาเพศเมียโตเต็มวัย ความยาว 196 เซนติเมตร น้ำหนัก 93 กิโลกรัม และมีอายุระหว่าง 7-10 ปี ถูกพบซากเมื่อวันเสาร์ที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา

ทีมวิจัยยืนยันว่ามีร่องรอยตะขอเบ็ดราวพันรอบตัว หาง ครีบ และเป็นโลมาสุขภาพดีตัวที่ 3 ที่ตายในรอบ 7 วัน บ่งชี้สถานการณ์การรักษาพันธุ์โลมาอิรวดีที่น่าวิตกมากขึ้น และมีความจำเป็นเร่งด่วนในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดในพื้นที่ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่ของโลมา

รายงานระบุว่ามีโลมาอิรวดี 29 ตัวที่ตายในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายแสง เตี๊ยก ผู้อำนวยการองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากลในกัมพูชา กล่าวเรียกร้องให้เพิ่มการลาดตระเวน ทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อปกป้องโลมาที่เหลือจากการถูกฆ่าโดยการทำประมงผิดกฎหมายในพื้นที่อนุรักษ์

"กิจกรรมประมงผิดกฎหมายที่เพิ่มขึ้นในช่วงไม่นานนี้ในพื้นที่อนุรักษ์โลมาจะทำให้โลมาอิรวดีในกัมพูชาสูญพันธุ์ หากไม่มีการดำเนินการเพื่อยุติกิจกรรมเหล่านี้ในทันที" นายแสงกล่าว

ทั้งนี้ โลมาอิรวดีถูกขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งมีชีวิตใกล้สูญพันธุ์ขั้นวิกฤตในบัญชีแดงของสหภาพระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) ตั้งแต่ปี 2547 อาศัยอยู่ตามช่องทางหลักของแม่น้ำโขงที่มีความยาว 190 กิโลเมตร ในจังหวัดกระแจะและจังหวัดสตึงแตรง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกัมพูชา


https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7433564