#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤษภาคม 2563
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป หย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนโดยทั่วไปและมีอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่ ในขณะที่มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับลมตะวันออกยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนบางแห่งในระยะนี้ อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณหัวเกาะสุมาตรา มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นและจะเคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวเบงกอลตอนบนในช่วงวันที่ 8-11 พฤษภาคม 2563 ซึ่งจะส่งผลทำให้คลื่นลมในทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนถึงร้อนจัด กับมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 28-30 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-40 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 7 - 9 พ.ค. 63 หย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ประกอบกับลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดนำความชื้นเข้าปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน ส่งผลทำให้มีบริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น ส่วนในช่วงวันที่ 10-12 พ.ค. 63 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ทำให้บริเวณดังกล่าวจะเกิดพายุฤดูร้อนขึ้น โดยจะมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณหัวเกาะสุมาตราจะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 7 ? 9 พ.ค. 63 และมีแนวโน้มเคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวเบงกอลตอนบน ส่งผลทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 10-12 พ.ค. 63 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก รวมทั้งฟ้าผ่าไว้ด้วย ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองในช่วงวันที่ 7 ? 9 พ.ค. 63
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
"นายกตุ้ย" พ้อบางแสนผ่อนปรนเปิดถนนเลียบหาดวันเดียวขยะเพียบ ชี้เป็นที่คนไร้จิตสำนึก นายณรงค์ชัย นายกเทศมนตรีเมืองแสนสุข โพสต์ภาพขยะเกลื่อนหาดบางแสน ซึ่งเกิดจากการเปิดถนนเลียบชายหาดได้เพียงวันเดียวจากมาตรการผ่อนปรน จวกนิสัยคนไม่เปลี่ยน ย้ำต้นทางของขยะคือคนไร้สำนึก ชี้หากพบผู้ประกอบการไม่ใส่ใจกฎระเบียบพร้อมเพิ่มโทษปรับ เมื่อวันที่ 5 พ.ค. เพจเฟซบุ๊ก "ณรงค์ชัย (ตุ้ย) คุณปลื้ม" หรือนายณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศมนตรีเมืองแสนสุข จ.ชลบุรี โพสต์ภาพขยะเกลื่อนหาดบางแสน ระบุเนื้อหาว่า ?นิสัยที่ไม่เคยเปลี่ยนของคนหลายๆ คน ที่ปากบอกว่าคิดถึงบางแสน และอยากเห็นบางแสนที่สะอาด โล่ง ปราศจาก ร่ม เตียงผ้าใบ และพ่อค้าแม่ค้า ชายหาด ตัวพ่อค้าแม่ค้าหลายๆ ราย ก็ไม่ใส่ใจทิ้งข้าวของค้างไว้ที่ชายหาดไม่เก็บกลับบ้าน มักง่าย ที่อื่นๆ เขาทะเลงาม สิ่งแวดล้อมฟื้นตัวดี แต่บางแสนบ้านเรา พอเปิดถนนได้วันเดียว ขยะริมทาง แถมขยะจากทะเลเกยตื้นก็กลับมารวมตัวกันเช่นเคย เพราะคนไม่เคยใส่ใจ และมีจิตสำนึกรักสิ่งแวดล้อมจริงจังซะที นอกจากนี้ สายไฟระโยงระยางพาดไปมาไม่เป็นระเบียบก็มากมาย แบบไม่ทันสังเกตมาก่อน ต่อให้บางแสนโล่งโปร่งก็ไม่ได้ช่วยสักเท่าไหร่ หากคนเรายังไร้จิตสำนึกเช่นนี้ จะให้สวยใสไร้ขยะคงต้องปิดถนนห้ามเข้าชายหาดเหมือนเดิม และคงต้องปิดแม่น้ำลำคลองที่พัดขยะลงทะเลไปด้วย ซึ่งไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ยั่งยืนเลย ต้นทางของขยะคือคนไร้สำนึกนี่เอง สำหรับผู้ประกอบการชายหาดบางราย ทั้งๆ ที่อบรม และมีกฎระเบียบหลายๆ รายให้ปฏิบัติ ก็ไม่ใส่ใจ พอเข้มงวด พอลงโทษ ก็บ่น ก็ด่า ไอ้ของที่วางไว้ ผมขอช่วยเก็บไปทิ้งนะ หากบ่นจะขอปรับด้วยถือว่าแถมใหได้เวลาจัดระเบียบชายหาดใหม่อีกรอบ สร้างสมดุล การท่องเที่ยว การประกอบอาชีพ สิ่งแวดล้อม สู้ต่อไปนะบางแสน ต้องขอโทษที่ทำหน้าที่ได้ยังไม่ดีพอครับ จะพยามทำให้ดีขึ้น ขยะในรูปผมถ่ายมาเพียงเล็กน้อยนะครับของจริงมีอีกมาก เจ้าหน้าที่ก็ก้มหน้าก้มตาเก็บต่อไป? https://mgronline.com/onlinesection/.../9630000047145
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก คม ชัด ลึก
ตื่นตา "ฝูงโลมาปากขวด" กว่า 50 ตัว ว่ายน้ำเล่นรอบหมู่เกาะสิมิลัน เจ้าหน้าที่ลาดตระเวน พบฝูงโลมาปากขวดกว่า 50 ตัว ว่ายน้ำเล่นรอบหมู่เกาะสิมิ?ลัน จ.พังงา ในช่วงปิดการท่องเที่ยวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ โควิด-19 เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2563? นายทัศเนศวร์ เพชรคง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิ?ลัน? จังหวัดพังงา เปิดเผยว่า? เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ ชุดปฏิบัติการ 4 ได้ออกปฏิบัติการลาดตระเวน ตามภารกิจของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช พื้นที่รับผิดชอบ ในช่วงปิดการท่องเที่ยวทางทะเลเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 เส้นทางการลาดตระเวนช่วงหมู่เกาะสิมิลัน (เกาะ 8) ถึง เกาะหูยง (เกาะ 1) ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ได้พบฝูงโลมาปากขวด ประมาณ 50 ตัว บริเวณทางทิศตะวันตก ของเกาะปายัง (เกาะ 2) ประมาณ 1.5 กิโลเมตร ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ถ่ายภาพไว้ โดยฝูงโลมาปากขวดที่พบมีจำนวนประมาณ 50 ตัว จากการตรวจพบของชุดปฏิบัติการที่ 4 ซึ่งเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม?ที่ผ่านมา ได้พบฝูงโลมาจำนวนประมาณ 100 ตัว ที่บริเวณใกล้เกาะบอน? ขณะที่ชุดปฏิบัติการที่ 1 ก็พบฝูงโลมาที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 40 กิโลเมตร ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นโลมาฝูงเดียวกันหรือไม่ https://www.komchadluek.net/news/hot...mpaign=hotclip
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#4
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก PPTV
ธรรมชาติฟื้นตัว ทะเลกระบี่ฟื้นตัวเกือบสมบูรณ์ ทะเลกระบี่ฟื้นตัวเกือบสมบูรณ์ หลังสำรวจพบปะการังฟื้นตัวดีขึ้นมากหลังประกาศปิดเกาะนานเกือบ 4 ปี ห้ามทำกิจกรรมท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ฝ่ายศึกษาวิจัย อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ติดตั้งกล้องบันทึกภาพใต้น้ำ ขณะสำรวจแนวปะการัง บริเวณเกาะยูง ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ ที่ระดับความลึกประมาณ 3 เมตร ในระยะเวลา 2 นาที มี ฉลามหูดำ ว่ายน้ำหากิน อยู่ที่บริเวณดังกล่าว 3 ตัว และจากการสำรวจ พบปะการังปกคลุมพื้นที่ประมาณร้อยละ 70 ส่วนใหญ่ เป็น ปะการังเขากวาง วัยอ่อนเจริญเติบโตต่อเนื่อง มีสภาพสมบูรณ์ ปะการังโคโลนี เก่าที่เจริญเติบโตเพิ่มขึ้น ไม่พบปะการังมีการฟอกขาว รวมถึง ปลาสลิดหินลายบั้ง หอยมือเสือ และเม่นหนามยาว และปลาชนิดต่างๆ อาศัยหากิน ตามปะการังเป็นจำนวนมาก ระบบนิเวศน์ เริ่มฟื้นตัวจนใกล้เข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งเป็นผลมาจากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ประกาศปิดเมื่อกลางปี 2558 ห้ามนักท่องเที่ยวเข้าไปทำกิจกรรมด้านการท่องเที่ยว เพื่อต้องการฟื้นฟูแนวปะการัง มาเป็นระยะเวลา กว่า 4 ปี เพื่อฟื้นฟูแนวปะการัง ที่ได้รับความเสียหายจากกิจกรรมการท่องเที่ยว นายวรพจน์ ล้อมลิ้ม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา พบว่า แนวปะการังบริเวณดังกล่าว ได้รับความเสียหาย เป็นวงกว้าง จากภาวะน้ำทะเลร้อนขึ้น ส่งผลให้แนวปะการัง มีการฟอกขาว รวมถึงการเข้าไปทำกิจกรรมของนักท่องเที่ยว เป็นจำนวนมาก กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จึงได้ประกาศปิดเกาะยูง เพื่อฟื้นฟูทะเลกระบี่ให้กลับคืนมา โดยหลังจากนี้จะยังคงปิดเกาะยูงต่อไป เพื่อให้สิ่งแวดล้อมกลับสู่สภาพเดิมมากที่สุด https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8...0%B8%99/124880
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|