เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 02-04-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันศุกร์ที่ 2 เมษายน 2564

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงยังคงปกคลุมบริเวณทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตกระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 3 เมษายน 2564

สำหรับความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนหลายพื้นที่และมีอากาศร้อนจัดบางแห่ง ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงไว้ด้วย

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 3 - 6 เมษายน 2564 ประเทศไทยจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงมีฟ้าผ่าเกิดขึ้น (ตามรายละเอียดประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทย ฉบับที่ 3 (59/2564) )


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีฝนบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 27-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 1 ? 2 เม.ย. 64 ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันจะมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 3 - 7 เม.ย. 64 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับจะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกเป็นบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่า โดยจะเริ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคอื่นๆจะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป ส่วนภาคใต้ลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 2 ? 3 เม.ย. 64 ภาคใต้ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากไว้ด้วย ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ส่วนในช่วงวันที่ 3 - 7 เม.ย. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนจะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย




*********************************************************************************************************************************************************



ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทย (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 3 - 6 เมษายน 2564)" ฉบับที่ 3 ลงวันที่ 02 เมษายน 2564

ในช่วงวันที่ 3 - 6 เมษายน 2564 ประเทศไทยจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงมีฟ้าผ่าเกิดขึ้น โดยจะเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกก่อน ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ตอนบน จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงที่จะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย โดยจะมีผลกระทบดังนี้


วันที่ 3 เมษายน 2564

ภาคเหนือ: จังหวัดน่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหารกาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา ชัยภูมิ ขอนแก่น และมหาสารคาม

ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี และสิงห์บุรี

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด


ในช่วงวันที่ 4 - 6 เมษายน 2564

ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร กำแพงเชร และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองบัวลำภู หนองคาย อุดรธานี บึงกาฬ สกลนคร มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา และบุรีรัมย์

ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา

สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และนครปฐม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์

ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนเข้ามาปกคลุมบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดต่อเนื่องกันหลายวัน

อนึ่ง ในวันที่ 2 เมษายน 2564 หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงยังคงปกคลุมบริเวณทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตกระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 3 เมษายน 2564












__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 02-04-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


ฟิลิปปินส์โวย พบสิ่งปลูกสร้างผิดกฎหมาย บนเกาะพิพาทในทะเลจีนใต้

ฟิลิปปินส์ไม่พอใจอย่างหนัก หลังเจอสิ่งปลูกสร้างปริศนาที่กลุ่มแนวปะการังในทะเลจีนใต้ ระบุเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่ไม่ชี้เป้าว่าเป็นฝีมือใคร



สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า กองทัพของประเทศฟิลิปปินส์ออกแถลงการณ์ในวันพฤหัสบดีที่ 1 เม.ย. 2564 ระบุว่า พวกเขาพบสิ่งปลูกสร้างผิดกฎหมายที่ "ยูเนียน แบงก์" (Union Bank) ซึ่งเป็นกลุ่มแนวปะการังในทะเลจีนใต้ และอยู่ใกล้กับจุดที่ฟิลิปปินส์ระบุว่า พบเรือของกองทัพจีนเดินทางผ่านในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

สิ่งปลูกสร้างดังกล่าวถูกพบระหว่างการออกลาดตระเวนทางทะเลของกองทัพฟิลิปปินส์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยที่ฟิลิปปินส์ไม่ได้ระบุตำแหน่งที่พบที่แน่ชัด และไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่าใครเป็นผู้สร้างสิ่งปลูกสร้างเหล่านี้ บอกเพียงว่าการมีอยู่ของสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ

"สิ่งปลูกสร้างเหล่านี้เป็นสิ่งผิดกฎหมาย" พลโท ซิริลิโต โซเบชานา เสนาธิการกองทัพฟิลิปปินส์ระบุในแถลงการณ์ "อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล (Law of the Sea) มอบสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวอย่างไม่อาจโต้แย้งเหนือพื้นที่ดังกล่าวแก่ฟิลิปปินส์ การก่อสร้างเหล่านี้และกิจกรรมอื่นๆ ไม่ว่าจะเกี่ยวกับเศรษฐกิจหรือไม่ เป็นการสร้างความเสียหายต่อความสงบ, ความเรียบร้อย และความมั่นคงในน่านน้ำของเรา"

ทั้งนี้ ในกลุ่มแนวปะการัง ยูเนียน แบงก์ มีแนวปะการังหนึ่งชื่อว่า 'วิตซัน รีฟ' หรือชาวฟิลิปปินส์เรียกว่า 'จูเลียน เฟลิเป รีฟ' เป็นพื้นที่พิพาทที่แดนตากาล็อกแย่งสิทธิ์ความเป็นเจ้าของกับจีน โดยในปัจจุบันแนวปะการังนี้ถูกยอมรับเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษของฟิลิปปินส์ และในปี 2559 ศาลสหประชาชาติเคยปฏิเสธคำกล่าวอ้างของจีน ที่อ้างเป็นเจ้าของพื้นที่เกือบทั้งหมดในทะเลจีนใต้ แม้ว่าจีนจะไม่ยอมรับคำตัดสินก็ตาม

วิตซัน รีฟ ยังเป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะสแปรตลี โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จีนเคยถมแนวปะการังหลายแห่งในหมู่เกาะแห่งนี้เพื่อสร้างเกาะเทียม รวมทั้งแนวปะการัง มิสชีฟ ที่อยู่ใกล้เคียงกันด้วย


https://www.thairath.co.th/news/foreign/2061885

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 02-04-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


กรมประมงประกาศปิดทะเลอันดามัน 3 เดือน คุ้มครองปลามีไข่

กระบี่ - คุ้มครองปลามีไข่ กรมประมงประกาศปิดทะเลอันดามัน คืนความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรประมง ประจำปี 2564 ดีเดย์ 1 เมษายน-30 มิถุนายน 2564



เวลา 09.30 น.วันนี้ (1 เม.ย.) ที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลกระบี่ นายเกียรติศักดิ์ เกษมพันธุ์กุล รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดกระบี่ เป็นประธานในพิธีประกาศปิดทะเลอันดามัน 3 เดือน และปล่อยเรือตรวจการณ์ออกลาดตระเวนกวดขันการทำประมงผิดกฎหมาย ตามมาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำในฤดูสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อนฝั่งทะเลอันดามันประจำปี 2564 ในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ และตรัง ระหว่างวันที่ 1 เมษายน-30 มิถุนายน 2564 ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญในการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำให้มีความยั่งยืนที่กรมประมงได้มีการประกาศใช้มาอย่างยาวนานกว่า 36 ปี (เริ่มใช้ตั้งแต่ พ.ศ.2528) โดยมีการปรับปรุงมาตรการเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะของทรัพยากรสัตว์น้ำ สิ่งแวดล้อม อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

โดยจากผลการศึกษาทางวิชาการยืนยันว่า มาตรการปิดอ่าวฝั่งทะเลอันดามันในปี 2563 ในช่วงเวลาเดียวกันที่ผ่านมา พบสัตว์น้ำชนิดที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่มีความสมบูรณ์สูงและพบสัตว์น้ำวัยอ่อนมีความชุกชุมและแพร่กระจายหนาแน่น โดยเฉพาะเดือนพฤษภาคมที่มีความหนาแน่นสัตว์น้ำสูงสุด (690 ตัว/10 ตร.ม.) และยังพบสัตว์น้ำ วัยอ่อนขนาดเล็กมากขึ้นด้วย

จากสถิติผลจับสัตว์น้ำทั้งหมดจากฝั่งทะเลอันดามัน สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 207,236 ตันใน ปี 2560 เป็น 290,035 ตันใน ปี 2563 และจากการติดตามเครื่องมือประมงพื้นบ้านที่อนุญาตให้ทำประมงในพื้นที่มาตรการฯ ได้ เช่น อวนกุ้ง และอวนปู พบว่ามีการจับสัตว์น้ำขึ้นมาใช้ประโยชน์ในขนาดที่เหมาะสม สำหรับการปิดอ่าวดังกล่าวจะครอบคลุมพื้นที่ 5,000 ตารางกิโลเมตร ในพื้นที่บางส่วนของจังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ และตรัง ตั้งแต่ปลายแหลมพันวา อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ถึงปลายแหลมหยงสตาร์ อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ตามประกาศ

นอกจากนี้ ยังกำหนดชนิดของเครื่องมือประมง วิธีการทำการประมง และเงื่อนไขที่สามารถทำการประมงในช่วงประกาศใช้มาตรการฯ ดังนี้

1.เครื่องมืออวนลากแผ่นตะเฆ่ ที่ใช้ประกอบเรือกลที่มีขนาดความยาวไม่เกิน 14 เมตร และต้องทำการประมงในเวลากลางคืนนอกเขตทะเลชายฝั่ง

2.เครื่องมืออวนล้อมจับปลากะตัก ทำการประมงเฉพาะในเวลากลางวัน และต้องทำการประมงนอกเขตทะเลชายฝั่ง

3.เครื่องมืออวนติดตาปลาที่มีขนาดช่องตาอวน ตั้งแต่ 4.7 เซนติเมตรขึ้นไป มีความยาวอวน ไม่เกิน 2,500 เมตร ต่อเรือประมง 1 ลำ ทำการประมงในเขตทะเลชายฝั่ง และเครื่องมืออวนติดตาปลาที่มีช่องตาอวนตั้งแต่ 4.7 เซนติเมตรขึ้นไป มีความยาวอวนเกิน 2,500 เมตร ต่อเรือประมง 1 ลำ ทำการประมงนอกเขตทะเลชายฝั่ง

4.เครื่องมืออวนปู อวนลอยกุ้ง อวนหมึก

5.เครื่องมืออวนครอบ อวนช้อน หรืออวนยกหมึก ที่ใช้ประกอบกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (เครื่องปั่นไฟ) ทำการประมงนอกเขตทะเลชายฝั่ง

6.ลอบปูที่มีขนาดตาอวนโดยรอบตั้งแต่ 2.5 นิ้วขึ้นไป ใช้ทำการประมงไม่เกิน 300 ลูก ต่อเรือประมง 1 ลำ ทำการประมงในเขตทะเลชายฝั่ง และลอบปูที่มีขนาดช่องตาท้องลอบตั้งแต่ 2.5 นิ้วขึ้นไป ทำการประมงนอกเขตทะเลชายฝั่ง

7.ลอบหมึกทุกชนิด

8.ซั้งทุกชนิดที่ใช้ประกอบทำการประมงพื้นบ้านในเขตทะเลชายฝั่ง

9.คราดหอยที่ใช้ประกอบเรือกลที่มีขนาดความยาวไม่เกิน 18 เมตร มีความกว้างของปากคราดไม่เกิน 3.5 เมตร ช่องซี่คราดไม่น้อยกว่า 1.2 เซนติเมตร และจำนวนของเครื่องมือคราดหอยต้องไม่เกิน 3 อัน (หน่วย) ต่อเรือกล 1 ลำ

ที่ทำการประมงนอกเขตทะเลชายฝั่ง โดยต้องปฏิบัติตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดเครื่องมือทำการประมง รูปแบบ และพื้นที่ทำการประมงของเครื่องมือคราดหอยที่ห้ามใช้ทำการประมงในที่จับสัตว์น้ำ พ.ศ. 2560 ลงวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ.2560 10.อวนรุนเคย

โดยต้องปฏิบัติตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ออกตามความในมาตรา 68 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 11.จั่น ยอ แร้ว สวิง แห เบ็ด สับปะนก ขอ ลอบ ฉมวก แผงยกปูจักจั่น 12.เครื่องมืออื่นใดที่ไม่ใช้ประกอบเรือกลขณะทำการประมง 13.การใช้เรือประมงที่มีขนาดต่ำกว่า 10 ตันกรอส ที่ใช้เครื่องยนต์มีกำลังแรงม้าไม่ถึง 280 แรงม้า ประกอบเครื่องมือทำการประมงอื่นใด โดยเครื่องมือที่ใช้ประกอบต้องไม่เป็นเครื่องมือประมงพาณิชย์ ตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดให้การใช้เรือประมงทุกขนาดประกอบเครื่องมือทำการประมงบางประเภทเป็นประมงพาณิชย์ พ.ศ.2560 ลงวันที่ 15 ธันวาคม 2560 และต้องไม่เป็นเครื่องอวนครอบ อวนช้อน หรืออวนยกปลากะตัก ที่ใช้ประกอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (เครื่องปั่นไฟ) และต้องไม่เป็นเครื่องมือที่ถูกห้ามตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดเครื่องมือทำการประมง วิธีการทำการประมงและพื้นที่ทำการประมงที่ห้ามใช้ทำการประมงในที่จับสัตว์น้ำเขตทะเลชายฝั่ง พ.ศ.2560 ลงวันที่ 9 พฤศจิกายน 2560


https://mgronline.com/south/detail/9640000031171

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 02-04-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ThaiPBS


"เขาตะปู" แลนด์มาร์กพังงาเสี่ยงถล่ม ลงสำรวจ เม.ย.-พ.ค.นี้

ครั้งแรก! กรมทรัพยากรธรณี เตรียมเข้าสำรวจความเสี่ยงเขาตะปู หรือเกาะเจมบอนส์ จ.พังงา แหล่งท่องเที่ยวดังเสี่ยงถล่ม ชี้ต้องการหาคำตอบอัตราเร่งจากการกัดเซาะ และโครงสร้างธรณีวิทยาเดือน เม.ย.-พ.ค.นี้ ห่วงซ้ำรอยเกาะทะลุ จ.กระบี่ที่เพิ่งถล่ม ต.ค.63



วันนี้ (1 เม.ย.2564) นายมนตรี เหลืองอิงคะสุต รองอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ กรณีการเตรียมเข้าสำรวจข้อมูลทางธรณีวิทยาเขาตะปู หรือเกาะเจมบอนส์ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะพังงา จ.พังงา ว่า หลังเกิดเหตุการณ์หินถล่มเกาะหินปูนทางภาคใต้ ทั้งในฝั่งอ่าวไทย และอันดามันหลายจุด ทำให้นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) สั่งการให้กรมทรัพยากรธรณีติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเกาะแก่งส่วนใหญ่ในภาคใต้เป็นเขาหินปูน ซึ่งเป็นหินตะกอนเนื้อประสาน จึงผุกร่อนง่าย

ประกอบกับเขาหินปูนในทะเลมีเรื่องการกัดเซาะคลื่นเป็นปัจจัยสำคัญอาจจะผุสลายง่ายนอกจากนี้มีการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกสูง ทำให้หินแตกเยอะ และอิทธิพลทางใต้มีรอยเลื่อนขนาดใหญ่คือรอยเลื่อนระนอง และคลองมะรุ่ย ซึ่งการเคลื่อนตัวส่งผลให้หินมีรอยแตก จึงมีรอยแตกเยอะ

"ช่วงปลายปีหลังจากมีมรสุมเข้า หินปูนแถวภาคใต้แตกเยอะ และบริเวณรอยแตกรับน้ำหนักไมไหว และพังถล่มลงมา จึงเสี่ยงภัยดินถล่มเพราะมีประชาชน นักท่องเที่ยวเข้าไปท่องเที่ยว"


ลงสำรวจความเสี่ยงถล่มเขาตะปู ช่วงเม.ย-พ.ค.นี้

รองอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี กล่าวว่า โดยหนึ่งในพื้นที่เป้าหมายสำคัญคือ เขาตะปู หรือเกาะเจมบอนส์ ซึ่งเป็นแลนมาร์กของการท่องเที่ยวยอดนิยม ซึ่งพบว่าตัวเขาตะปู จะมีขนาดใหญ่ แต่ฐานรากที่อยู่ในทะเลจะกิ่วลง พบมีโอกาสได้รับผลกระทบสูงที่อาจจะถล่มลงมาได้ ที่ผ่านมายังไม่มีการศึกษาลงลึกในรายละเอียด ดังนั้นกรมทรัพยากรธรณี จะร่วมกับนักวิชาการลงพื้นที่สำรวจในช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.นี้ ซึ่งเป็นช่วงปิดการท่องเที่ยวช่วงมรสุมของภาคใต้ เพื่อให้ธรรมชาติฟื้นฟู

"เขาตะปู มีความชันเป็นหน้าผาสูง ส่วนฐานรากที่ติดกับน้ำทะเล ถูกกัดกร่อนโดยคลื่นลม ถือเป็นจุดเสี่ยงภัยดินถล่ม อาจมีผลกระทบต่อชีวิตประชาชนและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศ "

นายมนตรี กล่าวว่า ถือเป็นครั้งแรกที่เตรียมเข้าไปสำรวจและศึกษาเขาตะปูอย่างเป็นทางการ โดยจะดูโครงสร้างรอยแตกรอยแยก และศึกษาอัตราเร่งการกัดกร่อนว่าใช้เวลานานแค่ไหน โดยจะใช้ข้อมูลปัจจัยน้ำทะเลกัดเซาะ เช่น หากกัดเซาะเฉลี่ย 1-2 เซนติเมตรต่อปี ก็จะคำนวณเรื่องการรับน้ำหนักของฐานรากของเขาตะปูว่ารับน้ำหนักสูงสุดเท่าไหร่ รวมทั้งจะเข้าเก็บหินปูนมาทดสอบทางธรณีวิทยาด้วย

"จะเข้าเก็บข้อมูลพื้นฐาน เพื่อจะมีคำตอบกับทางสาธารณะเรื่องปัจจัยเสี่ยงถล่ม
เพื่อวางแผนการท่องเที่ยวในอนาคต ซึ่งตอนนี้ยังคงบอกว่าเป็นการเฝ้าระวังและเป็นห่วง แต่ยังไม่ถึงขั้นห้ามการท่องเที่ยว เพราะตัวเขาตะปูอยู่ในทะเล ส่วนนักท่องเที่ยวถ่ายรูปอยู่บนบกไมได้เข้าไปใกล้"

เมื่อถามว่าความเสี่ยงของเขาพิงกันในบริเวณใกล้กัน รองธิบดีกรมทรัพยากรธรณี กล่าวว่า เขาพิงกันไม่น่าห่วง เพราะตัวเขาอีกฝั่งหนึ่งพัง และมาเกยกันอยู่ ต่างกับกรณีที่เกาะทะลุ ที่ถล่มลงมาต้องกันพื้นที่เพราะยังยังไม่รู้ว่ามีการเคลื่อนตัวอีกหรือไม่


ภาพ:กรมทรัพยากรธรณี


ที่ไหนเคยเกิดเหตุเขาหินปูนถล่มบ้าง?

ในช่วงปี 2563-2564 พบการพังถล่มของเขาหินปูนในหลายพื้นที่อุทยานแห่งชาติทางทะเล จากอิทธิของพายุ การผุกร่อน เช่น วันที่ 19 ก.ย.2563 พายุโนอึลสร้างความเสียหาย "หินปูน" เกาะหินแตกถล่มลงในทะเลเป็นบริเวณกว้าง ร้อยละ 15-20 ของพื้นที่เกาะ? เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง จ.สุราษฎร์ธานี ได้แจ้งเตือนประชาชนห้ามเข้าใกล้พื้นที่ การตรวจสอบคาดว่า เกิดการเคลื่อนตัวของชั้นหินและชั้นดินที่ถูกกัดเซาะจากสถานการณ์ฝนตกหนักและคลื่นลมแรง

วันที่ 18 ต.ค.2563 หินขนาดใหญ่พังถล่มลงมาบริเวณเกาะทะลุ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ ห่างจากฝั่งตะวันตกของเกาะไก่ ประมาณ 1 กิโลเมตร โดยหินที่ถล่มลงมาแตกเป็น 2 ก้อน น้ำหนักประมาณ 30,000-50,000 ตัน หลังเกิดคลื่นลมแรง

วันที่ 21 ก.พ.2564 เกิดเหตุหินถล่มบริเวณปราสาทหินพันยอด เกาะเขาใหญ่ ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา จ.สตูล จนต้องปิดแหล่งท่องเที่ยวบริเวณดังกล่าวเป็นการชั่วคราว


https://news.thaipbs.or.th/content/302971

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 11:51


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger