เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 05-09-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันเสาร์ที่ 5 กันยายน 2563

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ร่องมรสุมกำลังอ่อนพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ในภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักในระยะนี้

อนึ่ง พายุระดับ 5 (ไต้ฝุ่น) "ไห่เฉิน" บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก มีแนวโน้มเคลื่อนตัวไปทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่นและคาบสมุทรเกาหลี ในช่วงวันที่ 6-7 ก.ย. 63 โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 5 - 10 ก.ย. 63 ร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง

อนึ่ง พายุระดับ 5 (ไต้ฝุ่น) "ไห่เฉิน" บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก มีแนวโน้มเคลื่อนตัวไปทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่นและคาบสมุทรเกาหลี ในช่วงวันที่ 6 - 7 ก.ย. 63 โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 5 - 9 ก.ย. 63 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม






__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 05-09-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


ไฟไหม้เรือน้ำมันนอกชายฝั่งศรีลังกา ตาย 1 กองทัพยันน้ำมันยังไม่รั่ว

เจ้าหน้าที่ยังคงพยายามดับไฟซึ่งลุกไหม้เรือบรรทุกน้ำมัน ที่นอกชายฝั่งของศรีลังกามาตั้งแต่วันพฤหัสบดี ท่ามกลางความกังวลว่าน้ำมันจะรั่วไหล แต่กองทัพยืนยันว่า ตอนนี้ยังไม่มีความเสี่ยง



สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า ในวันศุกร์ที่ 4 ก.ย. 2563 กองทัพเรือของประเทศศรีลังกากับหน่วยยามฝั่งของประเทศอินเดีย ยังคงพยายามดับไฟบนเรือบรรทุกน้ำมัน 'นิว ไดมอนด์' ของบริษัท 'ปอร์โต เอมเพอริออส ชิปปิ้ง อิงค์' ประเทศไลบีเรีย ซึ่งลุกไหม้มาตั้งแต่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

เหตุไฟไหมเกิดขึ้นในขณะที่ นิว ไดมอนด์ กำลังเดินทางนอกชายฝั่งทางตะวันออกของศรีลังกา หลังจากหม้อต้มในห้องเครื่องยนต์หลักของเรือเกิดระเบิด ทำให้ลูกเรือชายฟิลิปปินส์เสียชีวิต 1 ราย และเกิดไฟไหม้อย่างรุนแรงบนเรือที่บรรทุกน้ำมันมาถึง 270,000 ตันลำนี้ โดยลูกเรือที่เหลืออีก 22 คนประกอบด้วยชาวกรีซ 5 คนและฟิลิปปินส์ 17 คน ถูกอพยพออกจากเรือทั้งหมดแล้ว

ในวันศุกร์ เรือบรรทุกน้ำมันลำนี้ถูกลากออกไปในทะเลมากขึ้น ท่ามกลางความกังวลว่าอาจเกิดน้ำมันรั่วครั้งใหญ่อีกครั้งในมหาสมุทรอินเดีย ตามหลักกรณีที่เกาะมอริเชียส อย่างไรก็ตาม โฆษกกองทัพเรือศรีลังกายืนยันว่า ตอนนี้ยังไม่มีความเสี่ยงเกิดน้ำมันรั่วอย่างปัจจุบันทันด่วน แต่หากมันเกิดขึ้น ศรีลังกาก็จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากนานาชาติ

กองทัพเรือระบุด้วยว่า ตอนนี้หน่วยยามฝั่งของอินเดียกำลังสังเกตการณ์รอยแตกยาว 2 เมตรบนลำเรือ ซึ่งอยู่ในจุดที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 10 เมตร



ด้านนาง ธาร์ชานี ลาฮันดาปุระ ประธานสำนักงานป้องกันสิ่งแวดล้อมทางทะเล (MEPA) ของศรีลังกา เตือนว่า หากเกิดเหตุน้ำมันรั่วจากเรือ นิว ไดมอนด์ จะถือเป็นหนึ่งในหายนะทางสิ่งแวดล้อมครั้งใหญ่ที่สุด ไม่เพียงต่อภูมิภาคนี้ แต่ต่อโลกทั้งใบ และ MEPA จะฟ้องร้องบริษัทเจ้าของเรือด้วยหากเกิดเหตุน้ำมันรั่ว

ขณะที่นาย สุดันธา รานาสิงเห หัวหน้าศูนย์จัดการภัยพิบัติของศรีลังการ ออกมาสร้างความมั่นใจว่า สถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ไม่ได้แย่อย่างที่เห็น โดยไฟไม่ได้ลุกลามไปถึงคลังสินค้า และเมื่อดับไฟได้ เรือจะถูกลากออกไปไกลขึ้น ไปยังจุดที่น้ำลึกกว่านี้


https://www.thairath.co.th/news/foreign/1924365

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 05-09-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


ระทึก! ไฟไหม้ 'เรือบรรทุกน้ำมัน' นอกชายฝั่งศรีลังกา ลูกเรือปินส์สูญหาย

เรือรบจากอินเดียและรัสเซียเข้าร่วมปฏิบัติการดับไฟซึ่งลุกไหม้เรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่นอกชายฝั่งตะวันออกของศรีลังกาเมื่อวานนี้ (3 ก.ย.) ขณะที่เบื้องต้นมีรายงานลูกเรือชาวฟิลิปปินส์สูญหาย 1 คน



อินดิกา เดอ ซิลวา โฆษกกองทัพเรือศรีลังกา ระบุว่า เรือนิวไดมอนด์ (New Daimond) ซึ่งบรรทุกน้ำมันดิบ 270,000 ตัน และน้ำมันดีเซลอีก 1,700 ตัน ได้ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือหลังเกิดเหตุเครื่องยนต์ระเบิดเมื่อวานนี้ (3) โดยบนเรือมีลูกเรือชาวฟิลิปปินส์อยู่ 18 คน และชาวกรีซอีก 5 คน

ลูกเรือฟิลิปปินส์ 1 คนยังคงสูญหาย และอีกคนได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่เหลือได้รับการช่วยเหลือจากเรือสินค้าติดธงปานามาลำหนึ่ง

ผู้ช่วยต้นเรือ (third officer) ซึ่งเป็นชาวฟิลิปปินส์มีบาดแผลไฟไหม้สาหัสและถูกนำส่งโรงพยาบาลกัลมูไน ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงโคลัมโบไปทางตะวันออก 360 กิโลเมตร

เดอ ซิลวา บอกกับเอเอฟพีว่า ขณะนี้เรือยามฝั่งอินเดียและเรือรบลำหนึ่งของศรีลังกากำลังเร่งสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลามไปถึงน้ำมันที่เรือลำนี้บรรทุกมาด้วย และก่อนหน้านี้ยังมีเรือต่อต้านเรือดำน้ำสัญชาติรัสเซียอีก 2 ลำ คือ Admiral tributs และ Admiral Vinogradov เข้ามาช่วยอีกแรง ก่อนจะล่าถอยไปเนื่องจากไม่มีศักยภาพพอที่จะช่วยดับไฟได้

เจ้าหน้าที่จัดการภัยพิบัติศรีลังการะบุว่า จากแบบจำลองกระแสน้ำและสภาพอากาศในเวลานี้เชื่อว่าหากมีเชื้อเพลิงรั่วไหลก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชายฝั่งของศรีลังกา



เรือนิวไดมอนด์จัดเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบขนาดใหญ่พิเศษ (VLCC) โดยมีความยาวถึง 330 เมตร และมีขนาดใหญ่กว่าเรือ เอ็มวี วากาชิโอะ (MV Wakashio) ของญี่ปุ่นซึ่งประสบอุบัติเหตุพุ่งเกยแนวปะการังในมอริเชียสเมื่อปลายเดือน ก.ค. จนทำให้มีน้ำมันดิบกว่า 1,000 ตันรั่วไหลลงสู่ท้องทะเล และก่อมลพิษทางสิ่งแวดล้อมครั้งใหญ่


https://mgronline.com/around/detail/9630000090783

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 05-09-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก แนวหน้า


สิ่งมหัศจรรย์! 'กิ้งกือมังกรสีชมพู' หนึ่งเดียวในโลก ณ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน



"ช่วงปลายฝนต้นหนาว" ที่หุบป่าตาด ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน ในพื้นที่อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี มีหนึ่งสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์หายาก ซึ่งพบในประเทศไทยและที่หุบป่าตาดเพียงแห่งเดียวเท่านั้น นั่นก็คือ "กิ้งกือมังกรสีชมพู" ที่จะเผยตัวให้นักท่องเที่ยวได้เห็นเพียงปีละครั้งเท่านั้น

"กิ้งกือมังกรสีชมพู" สิ่งมีชีวิตมหัศจรรย์ ที่ถูกการันตีด้วยการประกาศให้เป็นสุดยอดการค้นพบสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ในอันดับที่ 3 ของโลก จากมหาวิทยาลัยรัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในด้านความสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติเป็นอย่างมาก



ทั้งนี้ ที่ได้ชื่อว่า "กิ้งกือมังกรสีชมพู" นั้น เพราะอยู่ในวงศ์กิ้งกือมังกร (พาราดอกโอโซมาติเดีย) บวกกับสีชมพูสดใส และยังมีลักษณะเด่นด้วยลวดลายและปุ่มหนาคล้ายมังกร เมื่อโตเต็มวัยจะมีลำตัวยาว 7 ซม. มี 20 - 40 ปล้อง ที่สำคัญและต้องระวังสำหรับนักท่องเที่ยวคือ สามารถขับสารพิษประเภทไซยาไนด์ เพื่อป้องกันตัวได้อีกด้วย

การเข้าไปชมกิ้งกือมังกรสีชมพู สามารถชมได้ในช่วงปลายฝนต้นหนาว ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม - พฤศจิกายน ขึ้นอยู่กับความชุ่มชื่นของผืนป่า


ข้อมูลจาก : ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช


https://www.naewna.com/likesara/516265

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #5  
เก่า 05-09-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก สำนักข่าวไทย


ฉลามวาฬโผล่เกาะทะลุ นักท่องเที่ยวสุดฟิน

ประจวบคีรีขันธ์ 4 ก.ย.-ฉลามวาฬตัวใหญ่ โผล่ว่ายน้ำใกล้เรือพานักท่องเที่ยวไปจอดดำน้ำดูปะการัง ที่เกาะทะลุ จ.ประจวบคีรีขันธ์ นักท่องเที่ยวตื่นตาตื่นใจ ลงไปว่ายน้ำถ่ายภาพคู่



ผู้โพสต์เฟซบุ๊ก ชื่อ เผ่าพิพัธ เจริญพักตร์ โพสต์คลิปฉลามวาฬตัวใหญ่ ที่มาว่ายอยู่ใกล้ๆ กับเรือที่นำนักท่องเที่ยวไปจอดดำน้ำดูปะการังใกล้เกาะทะลุ อำเภอบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ช่วงวันหยุดยาววันแรก ทำให้นักท่องเที่ยวตื่นตาตื่นใจที่ได้เห็นและยลโฉมอย่างใกล้ชิด พร้อมถ่ายภาพคู่ที่หาดูได้ยากมาก

นายเผ่าพิพัธ กล่าวว่า ภาพฉลามวาฬที่น่ารัก ดูเป็นมิตร ว่ายน้ำวนรอบเรือของนักท่องเที่ยว ช่วยสร้างกระแส และการรับรู้เกี่ยวกับปัญหาผลกระทบทางธรรมชาติต่อท้องทะเล ทำให้หลายคนเริ่มหันมาสนใจเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรมากขึ้น ไม่เพียงแต่เรื่องการเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบ แต่สำหรับบางคนถึงกับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตหลายๆอย่างเลยทีเดียว การลดการบริโภค ลดขยะ การลดการใช้ทรัพยากรฯ ทุกรูปแบบในชีวิตประจำวันคนละเล็กละน้อย อาจช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงกับโลกได้จริงๆ

ฉลามวาฬเป็นที่รู้จักมากขึ้น ส่วนหนึ่งปัจจุบันกระแสการท่องเที่ยว ดำน้ำ และการอนุรักษ์ทะเลทำให้คนช่วยสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับฉลามวาฬและสัตว์ทะเลหายากอื่นๆ ฉลามวาฬได้รับสมญานามว่า ?ยักษ์ใหญ่ใจดีแห่งท้องทะเล? เป็นสัตว์นำโชคอีกด้วย และปลาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เคลื่อนที่ความเร็วเฉลี่ย 5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มันจะว่ายน้ำไปเรื่อยๆ กินแพลงก์ตอน และปลาตัวเล็กๆ เป็นอาหาร ตลอดช่วงชีวิตหนึ่งๆ ของฉลามวาฬนั้น จะเดินทางกว่า 1 ล้านกิโลเมตร ล่าสุดฉลามวาฬ เตรียมขึ้นทะเบียนเป็นว่าที่สัตว์สงวนของไทย

ทีนี้เรามาดูกันว่าหากไปดำน้ำแล้วเจอฉลามวาฬ ต้องทำอย่างไรบ้าง ลดความเร็วเรือไม่เกิน 2 น็อต หรือไม่เข้าใกล้เกิน 20 เมตร ลดเสียงให้เบาไม่สร้างความเครียดให้ปลา เข้าชมทีละลำเรือ เมื่อปลาไม่เครียดจะว่ายเล่นได้นานขึ้น ไม่สัมผัสสัตว์ เพราะปลาจะบาดเจ็บง่าย หรือได้รับสิ่งแปลกปลอม ถ้าปลาว่ายเข้ามาใกล้ๆให้ลอยตัวนิ่งๆรักษาระยะห่าง การถ่ายภาพต้องไม่ใช้แฟลช ตาของปลาไวต่อแสง ควรถ่ายที่ลำตัวไม่ควรถ่ายหน้าตรง และไม่คุกคามขวางทาง แต่ต้องว่ายตามช้าๆ.


https://tna.mcot.net/region-530556

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #6  
เก่า 05-09-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก PPTV


วางขาแท่นขุดน้ำมันหมดอายุทำปะการังเทียม ที่เกาะพะงัน

ในช่วงปี 2562ถึง 2565 มีแท่นขุดเจาะและผลิตปิโตรเลียมในอ่าวไทยหมดสัมปทานและต้องรื้อถอนออกไปกำจัด ซึ่งงบประมาณในการกำจัดขาแท่นเหล่านี้ค่อนข้างสูง //กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จึงร่วมกับบริษัทเอกชนและนักวิชาการ นำขาแท่นที่หมดอายุการใช้งานมาใช้ทำปะการังเทียม หลังทำการศึกษามาตั้งแต่ปี 2556 แล้วพบว่า ขาแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ประจำการในอ่าวไทยนานหลายปีมีสิ่งมีชีวิตมาเกาะติดและมีปะการังเกิดขึ้นจำนวนมาก



แท่นขุดเจาะน้ำมันที่หมดอายุการใช้งานของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ถูกลากจากอ่าวไทยมาถึงบริเวณเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อเตรียมล้มทำปะการังเทียม ตามโครงการนำร่อง เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล หลังศึกษาความเป็นไปได้มาตั้งแต่ปี 2556และ รับฟังความคิดเห็นคนในพื้นที่ไปตั้งแต่ปี 2561

ขาแท่นที่นำมาล้มทำปะการังเทียมล่าสุด เป็นขาที่ 4 จากเป้าหมายที่จะวางทั้งหมด 7 ขา โดยจะจัดวางในพื้นที่ 0.05 ตารางกิโลเมตร ในความลึกประมาณ40เมตร

ศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศึกษาความเป็นได้มานานหลายปี เกี่ยวกับการนำขาแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ปลดระวางมาทำปะการังเทียม ซึ่งพบว่า วัสดุที่เป็นเหล็กมีความคงทนแข็งแรง และอยู่ในทะเลได้นาน มีสิ่งมีชีวิตจำพวกปะการัง สัตว์น้ำมาเกาะติดจำนวนมาก และเป็นบ้านปลาที่ดี



หลายคนกังวลว่า ขาแท่นขุดเจาะน้ำมันจะมีการปนเปื้อน แต่บริษัทเอกชน ชี้แจงว่า ขั้นตอนการนำขาแท่นมาทำปะการังเทียม จะยกหัวแท่นขุดเจาะออกเพื่อนำไปใช้งานต่อ จากนั้นจะตัดส่วนท่อที่ดูดน้ำมันออกไป เหลือไว้เฉพาะขาแท่นที่เป็นเหล็กกล้าเท่านั้น

โดยปกติขาแท่นขุดน้ำมันที่ถูกปลดระวางจะต้องถูกนำขึ้นฝั่งไปกำจัดโดยไม่ได้นำไปใช้ประโยชน์ต่อ และใช้งบประมาณในการกำจัดต่อขามากถึง 30ล้านบาท

การนำขาแท่นขุดเจาะน้ำมันที่หมดอายุการใช้งานทั้งหมด 7 ขาครั้งนี้ เป็นโครงการนำร่อง ที่ต้องติดตามผลอีก 2 ปี และหากได้ผลที่ดี คณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ อาจจะอนุมัติให้นำขาแท่นที่ปลดระวางมาใช้ประโยชน์ในแง่นี้มากขึ้น


https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8...0%B8%99/132651

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 10:19


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger